อันซย่าซย่าเมินเฉยต่อความเป็นไปได้ที่ว่าเธอกำลังเดินเข้าสู่กับดักของเซิ่งอี่เจ๋อ เธอถึงกับโทรศัพท์ไปหาซูเสี่ยวมั่วอย่างมีความสุขพลางบอก “ฉันจะกลับบ้านกับเซิ่งอี่เจ๋อด้วยรถคันหรู! ฮ่าๆ ไม่ต้องอิจฉานะ! บาย!”
เสียงคำรามของซูเสี่ยวมั่วดังมาจากอีกฝั่ง “อะไรยะ เธอนี่เป็นคนไร้หัวใจจริงๆ เลยนะ เห็นผู้ชายของตัวเองดีกว่าเพื่อนงั้นเหรอ!”
อันซย่าซย่าตอบโต้ “เขาไม่ใช่ผู้ชายของฉันนะ เราแค่เพื่อนกัน–” ก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบประโยค เซิ่งอี่เจ๋อก็แย่งโทรศัพท์มาจากมือเธอ และพูดอะไรบางอย่างกับซูเสี่ยวมั่วก่อนจะตัดสายทิ้งไปเฉยๆ
อันซย่าซย่าอ้าปากค้างมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น
“เอ่อ…นั่นมันโทรศัพท์ฉันใช่ไหม” เธอถามอย่างลังเล
“ก็ใช่น่ะสิ” เซิ่งอี่เจ๋อตอบพร้อมรอยยิ้มในดวงตา “แต่เพราะว่าเธอเป็นแอนตี้แฟน ฉันเลยจะยึดโทรศัพท์เธอเอาไว้ ไม่อย่างนั้นจะเอาอะไรมารับประกันได้ว่าเธอจะไม่ว่าร้ายฉันในโลกออนไลน์อีก”
“ช่วยมีศรัทธาในตัวฉันบ้างสิ! ฉันสัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก!” อันซย่าซย่ากล่าวพลางวิ่งเหยาะๆ ตามหลังเขา
เซิ่งอี่เจ๋อเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ดูมีท่าทางเบิกบานใจเป็นที่สุด
ผู้ชายของอันซย่าซย่า ก็เป็นคำเรียกที่น่าฟังดีนะ
หญิงสาวก้าวขึ้นรถด้วยขาสั้นๆ ของเธอและบ่นว่าเขาเรื่องสิทธิ์ในการใช้โทรศัพท์ของเธอไปตลอดทางกลับบ้าน
ในที่สุดเซิ่งอี่เจ๋อก็โยนโทรศัพท์คืนให้เธอเมื่อถึงบ้านครอบครัวอันแล้ว หญิงสาวรับมันไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง ถลึงตาใส่เขาแล้วก็เดินกระแทกกระทั้นขึ้นชั้นบนไป
ภายในรถ คนขับถอนหายใจด้วยความแปลกใจ “นายน้อยครับ ผมเห็นว่านายน้อยชอบพอคุณหนูอันมากเลยใช่ไหมครับ ผมไม่เคยเห็นนายน้อยคุยกับผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน…” และจากสิ่งที่เขาเห็นในกระจกมองหลังก็คือ สายตานายน้อยของเขาติดตามคุณอันไปอยู่ตลอดเวลา!
“ลุงหวัง ลุงไม่คิดว่าลุงพูดมากเกินไปหน่อยเหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นๆ คุณคนขับรถสงบปากคำทันทีและไม่กล้าพูดต่ออีก
แต่ก็ว่าเถอะนะ… เขาไม่ควรเรียนนายใหญ่เรื่องนี้หรอกหรือ
สุดสัปดาห์นั้น
อันซย่าซย่ายังนอนหลับอย่างมีความสุขก่อนจะถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงโทรศัพท์
พอหยิบมันขึ้นดู ก็เห็นชื่อคนโทร.เข้ากะพริบวาบๆ เซิ่งกวางเผือกจอมปีศาจ
นั่นเป็นชื่อเล่นใหม่ที่เธอเพิ่งตั้งให้เซิ่งอี่เจ๋อเมื่อไม่นานมานี้เอง
หญิงสาวกดรับสายพลางร้องโอดโอย “อะไร”
“’ ตำนานเทพอมตะตกสวรรค์’ จะมีการถ่ายภาพบนเวทีวันนี้ และหรงเช่อก็จะไปด้วย” เซิ่งอี่เจ๋อกล่าวตรงประเด็นและเกลี้ยกล่อมเธอได้สำเร็จ
“อา! ฉันลุกเดี๋ยวนี้เลย! เซิ่งอี่เจ๋อ! เอ้ย ฉันหมายถึง บอสอี่เจ๋อ ท่านอี่เจ๋อ กรุณารอฉันด้วยค่ะ!”
เซิ่งอี่เจ๋อแอบซ่อนรอยยิ้มบนใบหน้า จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดแล้วรออันซย่าซย่าที่ชั้นล่าง
หลังจากขึ้นรถตู้แล้ว อันซย่าซย่าก็ได้พบกับรอยยิ้มสภาพของเหอจยาอวี๋เป็นคนแรก จากนั้นก็เห็นฉือหยวนเฟิงกับรอยคล้ำที่ใต้ตาขณะที่พูดไปหาวไป “ซย่าซย่า ถึงแล้วปลุกฉันด้วยนะ ขอนอนต่ออีกหน่อย เมื่อคืนนี้เล่นเกมทั้งคืนเลย”
“ได้!” อันซย่าซย่าอ่อนระทวยไปกับใบหน้าน่ารักหล่อเหลาของเขา
เซิ่งอี่เจ๋อหรี่ตาลงและกวาดสายตาไม่พอใจใส่ฉือหยวนเฟิง
แม้จะหลับอยู่แต่ฉือหยวนเฟิงก็รู้สึกสั่นสะท้าน
ในไม่ช้ารถตู้ก็มาถึงสตูดิโอถ่ายภาพ
อันซย่าซย่าช่วยถือของกระจุกกระจิกเดินตามหลังทั้งสามไปอย่างใกล้ชิด
ทั้งหมดเพิ่งเดินมาถึงทางเข้าเมื่อร่างหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างสง่างามเข้ามาหาพวกเขา ชายคนนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าเซิ่งอี่เจ๋อพร้อมด้วยรอยยิ้ม “ไม่เจอกันนานเลยนะ”
หรงเช่อ! หรงเช่อตัวจริงเสียงจริง!
หัวใจสีชมพูดวงน้อยๆ กำลังโบยบินออกมาจากดวงตาของอันซย่าซย่า สาบานเลยว่าเธอพร้อมจะกระโดดเข้าใส่เขาที่นั่นเดี๋ยวนั้นเลย!
“อี่เจ๋อ ไปกันเถอะ” เหอจยาอวี๋ขมวดคิ้วพลางสะกิดเซิ่งอี่เจ๋อ
“รอเดี๋ยวก่อนสิ หรงเช่อของเราควรเป็นฝ่ายเข้าไปก่อน ใช่ไหม” อยู่ๆ ผู้จัดการของหรงเช่อก็พูดขึ้นมา แล้วบรรยากาศตรงนั้นก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปเพราะคำพูดเหล่านั้น