จงเหยียนซีนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน
“ลงมาเถอะ ผมอุ้มคุณไม่ไหวหรอกนะ”กู้เสียนพูดติดตลก
เธอเหล่มองเขาแล้วก้มตัวเดินลงจากรถ กู้เสียนลากเธอเข้าไปในร้านอาหาร
“สองคน”หลังจากที่เข้าไปกู้เสียนก็พูดกับพนักงานขึ้น
“เชิญด้านใน”พนักงานต้อนรับทำท่าผายมือเพื่อเป็นการเชื้อเชิญ
จงเหยียนซีไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เธอดูอ่อนล้าและอิดโรยมากกู้เสียนใช้ข้อศอกสะกิดเธอ”ทำตัวให้มีชีวิตชีวาหน่อย”
“อะไร. .”เธอยังไม่ทันพูดจบก็เห็นเจียงม่หานนั่งอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนว่าเขากำลังเจรจาเรื่องธุรกิจกับใครบางคนอยู่ พอรู้สึกเหมือนว่ามี
คนกำลังมองตัวเองอยู่ เขาก็มองตรงมา
จงเหยียนซีรีบยืนตัวตรงพร้อมกับส่งยิ้มทักทาย”ประธานเจียง”
เขาพยักหน้าลงพลางเหลือบมองกู้เสียนอยู่พักหนึ่ง
กู้เสียนวางมาดสุขุมแล้วดึงจงเหยี่ยนซีไปนั่งที่โต๊ะ
“เอาอาหารที่อร่อยๆของที่นี่มาเสิร์ฟให้หมด”กู้เสียน ทำหน้าใหญ่ใจโต
จงเหยียนซี…”
นี่มันสถานการณ์อะไรเนี่ย?
ทำไมเขาทำตัวแปลกไป?
พนักงานอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วรีบพยักหน้ารับ”ครับ พวกเราจะมาเสิร์ฟให้อย่างรวดเร็วเลยครับ”
“ทำตัวให้ใกล้ชิดกับผมหน่อยสิ”กู้เสียนเข้ามาใกล้
จงเหยียนซีเอนตัวถอยไปข้างหลัง”ฉันไม่สนใจเด็กน้อย”
กู้เสียนขมวดคิ้วขึ้น”คุณน่ะสิเด็กน้อย”
จงเหยียนซีไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรจึงกระซิบถามขึ้น”นายกินยาผิดมาเหรอ? ”
“สามีเก่าของคุณอยู่ตรงนั้นไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้ผมเห็นสายตาที่เขามองผมดูไม่ค่อยเป็นมิตรก็เลยอยากจะกระตุ้นให้เขาโกรธ เพราะงั้น
คุณทำตัวให้ใกล้ชิดกับผมหน่อย”
จงเหยียนซีมองเขาเหมือนคนโง่ จากนั้นก็เอ่ยพูดออกไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ”ตอนนี้ตัวตนของฉันไม่ใช่ภรรยาเก่าของเขา”
กู้เสียน “……”
พนักงานยกอาหารมาเสิร์ฟ ไม่นานบนโต๊ะก็เต็มไปด้วยอาหาร
จงเหยียนซี”……”
กู้เสียนเอ่ยขึ้น”คุณจ่ายนะ”
จงเหยียนซี”……”
“ถึงคุณจะตกอับคุณก็มีเงินมากกว่าผมอยู่ดี”กู้เสียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
จงเหยียนซี่”……”
“ช่วยผมหน่อยสิ หั่นสต๊กนื้อวัวในจานให้ผมเป็นชิ้นๆแล้วป้อนผม”กู้เสียนเอามือท้าวคางไว้
“นายบ้าไปแล้วเหรอ? หรือว่านิ้วมือหักไปแล้ว? ”
“สามีเก่าของคุณกำลังมองพวกเราอยู่”กู้เสียนยิ้ม
จงเหยียนซีกวาดสายตามองไปทางด้านนั้น ซึ่งก็เห็นจริงๆว่าเจียงโม่หานกำลังมองมาทางนี้
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้สนใจกู้เสียน เธอก้มหน้ากัมตาทานอาหาร ถือซะว่าวันนี้จิตใจเขาไม่ปกติ
พอกู้เสียนเห็นเธอไม่สะทกสะท้าน เขาลั่งเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจู่ๆก็ตะโกนออกมา”ที่รัก ระวังลวกปากด้วยนะ! ”
จงเหยียนซี…..
จากนั้นก็มีหลายๆคนมองมาทางนี้เป็นสายตาเดียวกัน
จงเหยียนซีเอามือกุมหน้าผาก เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีเดี๋ยวนี้เลย
วันนี้สมองเขาต้องผิดปกติไปแล้วแน่ๆ
เมื่อเจียงโม่หานเจรจาคุยเรื่องงานกับคนที่มาทานอาหารด้วยกันเสร็จก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
กู้เสียนเคี้ยวอาหารเสียงดังแจ๊บๆออกมา
เมื่อทานอาหารเสร็จกู้เสียนก็ไปจ่ายเงิน ทว่าจงเหยียนซีแย่งไว้”ฉันจ่ายเอง”
“ผมแค่ล้อเล่นเพื่อหวังว่าคุณจะมีความสุขขึ้นมานิดหน่อยเฉยๆ แต่ว่าคุณกลับกินเรียบเลยนะเนี่ย”เขาหยิบบัตรออกมาวางบนหน้า
เคาน์เตอร์”ผมจะให้ผู้หญิงเลี้ยงผมได้ยังไง? ”
“พวกเราเป็นเพื่อนกัน”จงเหยียนซีพูดขึ้น
หลังจากที่รูดบัตรเสร็จ กู้เสียนก็เก็บบัตรเข้ามาใส่ในกระเป๋าสตางค์”ไปกันเถอะ”
ทั้งสองเดินออกมาด้วยกัน”อารมณ์ดีขึ้นรึยัง? ”
จงเหยียนซียิ้มออกมา”ดีขึ้นมากแล้ว”
“ถ้างั้นขึ้นรถ ผมไปส่งคุณเอง”กู้เสียนเปิดประตูรถออก
จงเหยียนซีไม่ขึ้นไป”นายกลับไปเถอะ เดี๋ยวฉันเรียกรถกลับคนเดียวได้”
กู้เสียนดันเธอเข้าไปในรถ”ดึกป่านนี้ผมจะวางใจให้คุณกลับบ้านคนเดียวได้ยังไง?”
จงเหยียนซีเหลือบมองเขา”ทำไมต้องเบ่งอำนาจขนาดนี้ด้วย? ”
“เบ่งอำนาจมากกว่าสามีเก่าของคุณรึเปล่า? ”
จงเหยียนซี”…..”
“ถ้านายทำแบบนี้อีก เราเลิกเป็นเพื่อนกัน”เธอทำหน้าขรึม
เธอไม่ชอบให้คนรอบข้างพูดถึงเรื่องในอดีตบ่อยๆ โดยเฉพาะเขา!
“ผมผิดไปแล้ว ผมนี่มันปากพล่อยจริงๆเลย ครั้งหน้าจะไม่พูดอีกแล้วเด็ดขาด”เสียนยิ้มแล้วขึ้นมานั่งประจำฝั่งคนขับ
เธอไม่อยากให้กู้เสียนพูดชื่อเจียงโม่หานขึ้นมาให้เธอได้ยินอีก”ถ้ามีครั้งหน้าล่ะก็ พวกเราตัดเพื่อนกันทันที”
“โกรธจริงเหรอเนี่ย? “กู้เสียนเหล่มองเธออย่างระมัดระวัง
จงเหยียนซีจ้องเขาเขม็ง”แล้วนายคิดว่าไงล่ะ? ”
กู้เสียนสตารท์รถแล้วเอ่ยขึ้น”เข้าใจแล้วครับ”
“ยังจะไปดื่มอยู่อีกไหม? “กู้เสียนถาม
“กู้เสียนทำไมนายถึงได้น่ารำคาญขนาดนี้เนี่ย? “จงเหยียนซีพูดออกมา”ตั้งใจขับรถไป”จากนั้นเธอก็หลับตาลงแกล้งทำเป็นหลับ
กู้เสียนรู้ว่าเธอไม่อยากคุยจึงไม่รบกวนเธออีก
ไม่นานรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูโรงแรม จงเหยี่ยนซีลงจากรถไป กู้เสียนลดกระจกรถลง”ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนไหม? ”
เขาถามออกไปด้วยท่าจริงจัง เนื่องจากวันนี้จงเหยียนซีดูอารมณ์ไม่ค่อยดี เขากลัวว่าเธอจะเศร้าเมื่ออยู่คนเดียวแล้วก็ไม่มีใครมาปลอบ
เธอสักคน
“ฉันไม่เป็นไร”จงเหยียนซียิ้มออกมา เธอจัดการอารมณ์ตัวเองได้แล้ว
เธอยืนอยู่ข้างถนน ไม่ได้เข้าไปในโรงแรมทันที แต่กลับพูดกับกู้เสียนออกไป”นายไปเถอะ ฉันจะยืนส่งนายตรงนี้”
กู้เสียนจึงขับรถออกไป
จงเหยียนซีมองส่งเขาจนลับสายตา ขณะที่หันหลังเดินเข้ารงแรมก็เห็นว่ามีใครกำลังเฝ้ามองเธออยู่ตรงข้างหลังแปลงดอกไม้ด้านหลัง
โรงแรม เมื่อเธอหันไปดูคนๆนั้นก็หลบลงไปด้านหลังแปลงดอกไม้
แววตาของเธอสุขุมลงอย่างรวดเร็ว หรือว่าหลิงเวยจะลงมือแล้ว?
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมากดส่งข้อความให้ลี่เฉิงเจี๋ยแล้วถามว่าเขาจัดการเสร็จรึยัง อีกฝ่ายส่งข้อความตอบกลับมาอย่าง
รวดเร็ว (จัดการเรียบร้อยแล้ว)
เมื่ออ่านข้อความจบ เธอก็ก็บโทรศัพท์ลงแล้วเดินตรงไปที่ซูเปอร์มาร์ก็ตฝั่งตรงข้าม เธอจงใจเผื่อเวลาให้คนที่ต้องการจับตัวเธอมี
โอกาส
ขณะที่เธอซื้อน้ำออกมาขวดหนึ่ง ตรงหน้าก็มีชายสองคนเดินเข้ามาประกบข้างกายแล้วพูดกระซิบขึ้น”พวกเราเป็นคนของพี่เจี่ย พี่เจี่ย
บอกพวกเราไว้แล้ว ตอนนี้คุณไปกับพวกเราเถอะ”
ชายทั้งสองจับเธอขึ้นรถไป
รถแล่นไปในทางเปลี่ยว ไม่นานรถก็แล่นมาถึงบริเวณชานเมือง มีบ้านที่ถูกไฟไหม้จนเกลี้ยงอยู่หลังหนึ่ง ซึ่งแทบจะดูไม่ออกเลยว่าสภาพ
เดิมเป็นยังไง
จงเหยียนซีมองออกไปนอกหน้าต่างรถ สถานที่แห่งนี้ดูเหมือน……