สถานที่จัดประชุมมีคนมามากมายแล้ว ที่นั่งของวรกัญญาอยู่ที่ด้านหน้า ด้านข้างของเธอมีชุติภาส มีอุไรภัสร์ของยืนนานกรุ๊ป แล้วก็ทศพรของนวลอ่อนกรุ๊ป ส่วนคนอื่นๆก็ไม่ได้รู้จักมากมาย วรกัญญาทักทายเพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันกี่คนนั้น แล้วนั่งลงไปหยิบโน้ตบุ๊กออกมา เตรียมบันทึกการประชุม
ช่วงระยะกี่ปีนี้โจนส์กรุ๊ปไม่ได้ร่วมงานใดๆกับยืนนานกรุ๊ปเลย ดังนั้นวรกัญญาจึงไม่รู้จักอุไรภัสร์ แต่อุไรภัสร์กำลังมองวรกัญญาที่ไม่ได้สนใจตนเองเลย เขาค่อนข้างใจฝ่อ ถึงยังไงแม่ของตนเองก็ขับรถชนพ่อของวรกัญญาตาย ในใจของเขารู้สึกผิดมาก
ด้านขวาของวรกัญญายังคงว่างอยู่ เธอกำลังมองชื่อของประวีร์ที่เขียนอยู่ด้านบน
ประวีร์มักจะมาถึงตอนที่กำลังจะประชุมแล้ว วันนี้เขาเพิ่งลงเครื่องก็มาที่ประชุมทันที
การประชุมในวันนี้เป็นการวางแผนโครงการปฏิรูปปัญหาภายในพื้นที่ป่าเขา
สภาพแวดล้อมของป่าเขานั้นงดงามมาก เพียงแต่ถนนหนทางเสื่อมโทรมสุดๆ บวกกับการคมนาคมที่ไม่สะดวก คนที่อาศัยอยู่ด้านในแม้แต่โทรทัศน์ก็ยังไม่เคยได้เห็น แทบจะไม่ต่างจากสมัยก่อนเลยจริงๆ
ต้องการสร้างความสุขให้คนในนั้น ให้คนพวกนั้นห่างไกลความยากลำบาก ดังนั้นเทศบาลจึงเรียกประชุมการประชุมในครั้งนี้ ให้คนที่มีเงินทุนและมีความสามารถบางส่วนมาให้คำแนะนำ
“ประธานประวีร์ ท่าทางวันนี้คุณจะยุ่งมาก เพิ่งลงเครื่องมาใช่ไหมคะ?” วรกัญญาทักทายประวีร์
“ครับ ผมเพิ่งลงเครื่องแล้วก็รีบมาเลย ยังดีที่ไม่สาย” การประชุมในจังหวัดถ้ามาสายคงจะดูไม่ดีนัก
ประวีร์หยิบโน้ตบุ๊กของตนเองออกมาเริ่มเตรียมบันทึกการประชุม
ธีรเมทก็เห็นวรกัญญาจากที่ไกลๆแล้ว ห้าปีแล้วที่ผู้หญิงคนนี้ไม่ปรากฏตัวออกมา แต่แค่ปรากฏตัวก็ดึงดูดสายตาได้ในทันที เธอสวยขึ้นเรื่อยๆ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมสั้นๆเหมือนจะเหมาะสมกับเธอมากเลย!
เพียงแต่ทำไมเธอถึงนั่งอยู่ที่ด้านหน้า โดยที่ด้านซ้ายคือชุติภาส ด้านขวาคือประวีร์ ซึ่งทั้งคู่ต่างก็เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในพระนคร นี่เกิดอะไรขึ้นกับวรกัญญา?
วรกัญญารู้สึกเหมือนมีคนกำลังมองตนเองจากด้านหลัง เธอจึงหันกลับไปดู ก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังจ้องมองตนเองอยู่ ผู้ชายคนนั้นถือว่าหน้าตาค่อนข้างหล่อเหลา แต่ทว่าสายตาราวกับมีดที่อยากจะแทงเข้าไปในหลังของเธอ
ธีรเมทเห็นวรกัญญาหันกลับมามองตนเอง แต่กลับไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไร ไม่มีความรัก หรือแม้แต่ความเกลียดชัง สายตานั้นเรียบเฉยมาก เหมือนไม่ได้รู้จักกับตนเองเลย
ธีรเมทอ้าๆปาก แต่ว่าต้องประชุมแล้ว เขาจึงไม่ได้เรียกวรกัญญา
บนเวทีประธานบรรดาผู้นำทยอยๆกันเข้ามานั่งแล้ว คนด้านล่างเวทีก็มากันครบแล้ว เริ่มเตรียมประชุมอย่างจริงจัง
การประชุมเริ่มขึ้น พิธีกรพูดเล็กน้อย แล้วโยนหัวข้อหลักในการประชุมไปให้ผู้นำ ผู้นำพูดไปไม่กี่ประโยค ก็แนะนำตัวผู้ที่มาใหม่กับทุกคน
“ตอนนี้กระผมขอแนะนำเพื่อนใหม่ของพวกเรา แล้วก็เป็นเพื่อนของบริษัทต่างประเทศแห่งหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ด้วย คุณฟิลลิปและภรรยาของเขา ทุกคนยินดีต้อนรับครับ” นายกเทศมนตรีพูดจบก็ปรบมือนำขึ้นมา
บริษัทนี้วรกัญญาเคยได้ยินมาก่อน เป็นบริษัทมหาชนจำกัดแห่งหนึ่งของอเมริกา แล้วก็เป็นบริษัทที่แข็งแกร่งมาก ได้ยินว่าประธานคนนั้นอายุมากแล้ว ครั้งนี้คิดยังไงถึงมาที่พระนครล่ะ
ด้วยเสียงปรบมือของทุกคน คุณฟิลลิปที่ผมขาวโพลนคล้องแขนภรรยาของเขาเดินเข้ามาในที่ประชุม คนมากมายต่างก็อ้าปากค้าง อายุของคุณฟิลลิปคงจะเยอะแล้วสินะ คาดว่าน่าจะหกสิบกว่าแล้ว
แต่ภรรยาที่อยู่ข้างกายเขากลับยังสาวมาก ดูแล้วน่าจะประมาณสามสิบปี หน้าตาสวยใช้ได้เลย
อุไรภัสร์ก็อ้าปากค้าง คนมากมายที่นั่งอยู่ล้วนแต่อ้าปากค้างไปตามๆกัน มีแค่วรกัญญาเท่านั้นที่สงบนิ่ง เนื่องจากเธอไม่รู้จักคนคนนั้น
ภรรยาของฟิลลิปก็คือคนเดียวกับธินิดาที่หายตัวไปห้าปีแล้ว
ธินิดาดัดผมหยิกทั้งหัว เธอแต่งหน้าเข้มๆ ปกปิดความใสซื่อที่เป็นเคล้าเดิมของเธออย่างมิดชิด มีแต่กลิ่นที่หวังผลประโยชน์อยู่ทั่วทั้งตัว
ฟิลลิปพูดภาษาจีนไม่ได้ การกล่าวคำปราศรัยตลอดการประชุมธินิดาจึงต้องแปลให้เขาฟัง ฟิลลิปคงจะรักภรรยาของตนเองมาก เอาแต่มองเธอยิ้มอยู่ตลอด รู้สึกว่าตนเองได้เจอของล้ำค่าเข้าแล้ว
ธินิดากวาดสายตาไปรอบๆที่ประชุม เธอคิดว่าจะได้เจอชลธีคนที่ตนเองอยากใช้ชีวิตด้วยกัน แต่กลับได้เจอชุติภาส แล้วก็มุกดาผู้หญิงที่หายตัวไปคนนั้น
นี่เกิดอะไรขึ้น? แต่ไม่เป็นไร เธอมีเวลามากพอที่จะค่อยๆรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
ตอนที่ธินิดาเห็นประวีร์ ยังรู้สึกใจเต้น ตอนที่เห็นอุไรภัสร์ เธอก็ค่อนข้างแสบจมูก แต่ไม่เป็นไร พี่คะ น้องสาวพี่กลับมาแล้วนะ
คุณฟิลลิปกล่าวจบแล้ว เสียงปรบมือที่อบอุ่นก็ดังขึ้น แต่ทว่าก็เป็นแค่การให้เกียรติ คนมากมายไม่มีโอกาสที่จะได้ร่วมงานกับคุณฟิลลิป ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่จะได้รู้จักกันเล็กน้อย
ฟิลลิปกล่าวจบแล้ว เขาก็นั่งอยู่บนเวทีในตำแหน่งที่สงวนเอาไว้ ธินิดานั่งอยู่ข้างๆเขา เธอกำลังมองวรกัญญาอยู่ ส่วนวรกัญญากำลังศึกษาปัญหาการลงทุนอยู่กับประวีร์ จึงไม่ได้สังเกตเห็นธินิดา
การประชุมจบลงแล้ว คุณฟิลลิปอยากพบประธานคนใหม่ของโจนส์กรุ๊ปสักหน่อย เขากับโจนส์กรุ๊ปเป็นเพื่อนเก่ากัน สำหรับเพื่อนของตนเองที่ยกบริษัทให้ประธานคนใหม่เขายังคงแปลกใจมาก คนคนนี้จะเป็นยังไงนะ?
“ฮัลโหล คุณผู้หญิงขอเวลาสักครู่นะครับ” ฟิลลิปได้ยินว่าหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างหน้าก็คือประธานคนใหม่ของโจนส์กรุ๊ป เขาจึงเร่งฝีเท้าตามวรกัญญาขึ้นมา
“คุณฟิลลิปคุณมาหาฉันเหรอคะ?” วรกัญญาหยุดฝีเท้าลง ประวีร์ก็หยุดลงด้วย เขายืนอยู่ข้างๆวรกัญญา คอยคุ้มครองเธอ
“ใช่ ใช่ ได้ยินว่าคุณเป็นประธานคนใหม่ของโจนส์กรุ๊ป ผมอยากเห็นว่าคุณเป็นคนยังไง คุณชื่อวรกัญญาใช่ไหม?” คุณฟิลลิปพูดภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว เขาค่อนข้างกังวล กลัวว่าวรกัญญาจะฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้ภรรยาของเขาไม่ได้เดินมาด้วยกัน
“ใช่ค่ะ ฉันคือวรกัญญา งั้นคุณฟิลลิปเจอฉันแล้วคิดว่าเป็นคนยังไงคะ รู้สึกว่าฉันมีสามเศียรหกกรหรือเปล่า?” วรกัญญาก็ใช้ภาษาอังกฤษพูดกับคุณฟิลลิป
ฟิลลิปคิดไม่ถึงว่าภาษาอังกฤษของวรกัญญาจะพูดได้อย่างคล่องแคล่วเช่นนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้เธอ
“ประธานวรกัญญา คุณพูดภาษาอังกฤษได้ดีมากจริงๆ เก่งเหมือนโจนส์พ่อของคุณเลย แต่ทว่าแม่ของคุณยังพูดภาษาอื่นได้อีกมาก คุณพูดได้เหมือนเธอไหม?” คุณฟิลลิปสนใจในตัววรกัญญามาก
“เทียบกับแม่ไม่ได้หรอกค่ะ แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ฉันจะเทียบกับเธอไม่ได้ แต่ฉันก็เป็นผู้หญิงที่ไม่เลวเหมือนกัน” ตอนที่วรกัญญาพูดทั้งยกคุณนายเจนนี่แม่ของเธอให้สูงส่ง ทั้งไม่ได้ด้อยคุณค่าในตัวของเธอเอง พูดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“ฮ่าๆๆ ประธานวรกัญญา ผมชอบบุคลิกของคุณมากๆ เป็นผู้หญิงที่ไม่เลวเลย เหมือนแม่ของคุณจริงๆ” คุณฟิลลิปชื่นชมวรกัญญาอย่างยิ่ง