“ประธานวรกัญญา มีคุณผู้หญิงไฮโซคนหนึ่งมาขอพบคุณค่ะ บอกว่าเป็นเพื่อนเก่าคุณ คุณจะพบไหมคะ?” เลขาผลักประตูเข้ามาในห้องทำงานประธาน ถามวรกัญญา
“เพื่อนเก่า? ฉันมีเพื่อนเก่าที่พระนครด้วยเหรอ? แต่ว่าพูดขนาดนี้ ก็พบหน่อยแล้วกัน เชิญเธอเข้ามา” วรกัญญาสนใจผู้ที่มาเยี่ยมเยียนใช้ได้เลย คนคนนี้เป็นใครกันนะ? ทำไมถึงบอกว่าเป็นเพื่อนเก่าของตนเองล่ะ
นีรชาก้าวเข้ามาในห้องทำงานของวรกัญญาด้วยฝีเท้าที่นุ่มนวล ตอนที่เธอได้เห็นวรกัญญาในครั้งแรก เธออยากจะร้องไห้ แต่ก็อยากยิ้ม ทำให้ท่าทีของเธอดูเก้ๆกังๆ
“ประธานวรกัญญา” นีรชาโดนลูกสาวของตนเองเตือนเอาไว้ ว่าไม่ควรตีสนิทกับมุกดา ถ้าเป็นอย่างนั้นจะทำให้เธอตกใจได้ เพราะเธอสูญเสียความทรงจำ จำอะไรไม่ได้เลย ถ้าให้ความสนใจจนเกินไป เธอจะรับไม่ไหว
“ค่ะ คุณผู้หญิง คุณเป็นเพื่อนเก่าของฉันเหรอคะ?” วรกัญญาวางปากกากับเอกสารในมือลง เธอเดินเข้าไป เชิญให้นีรชานั่งลงไปบนโซฟาด้วยกัน
“ใช่ค่ะ ฉันเป็นเพื่อนเก่าของคุณ เพียงแค่ตอนนี้คุณลุงจจะไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ฉันจะให้คุณดูของที่เหมือนกัน” นีรชาหยิบชาดอกไม้ชนิดหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าของตนเอง ชาดอกไม้นั้นเธอเป็นคนทำเอง
“ชาดอกไม้หลากชนิด? คุณผู้หญิงก็ศึกษาเกี่ยวกับใบชาเหรอคะ?” วรกัญญาชื่นชอบใบชามาก ตอนนี้คุณผู้หญิงที่มาหาก็ชอบใบชาเหมือนกับตนเองเลย เธอจึงถูกใจขึ้นมาทันที
“ใช่ค่ะ ฉันถึงบอกไงว่าเราเป็นเพื่อนเก่ากัน ฉันกับประธานวรกัญญาอาจจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่าเดิมก็ได้” นีรชามั่นใจในการกระทำของตนเองมาก เนื่องจากเธอรู้ว่าวรกัญญาชอบอะไร
“โอ๊ะ คุณผู้หญิงชักน่าสนใจแล้วนะคะ แต่ฉันอยากทราบว่าคุณผู้หญิงมาพบฉันยังมีเรื่องอะไรอีกไหมคะ? คงไม่ได้แค่มาคุยกับฉันเรื่องใบชาสินะคะ?” วรกัญญาต้องรู้อยู่แล้วว่านีรชาไม่ได้มาพบตนเองเพื่อคุยเรื่องใบชา
“ฮ่าๆๆ ประธานวรกัญญาหลักแหลมจริงๆนะคะ ฉันชื่อนีรชา คุณไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงหรอกค่ะ เรียกฉันว่าน้าบัวก็พอ ที่ฉันมามีเรื่องอยากขอร้องคุณจริงๆนั่นแหละค่ะ” นีรชาก็ไม่เกรงใจอีกแล้ว เธอมีเรื่องที่ต้องการพบวรกัญญา
“อ้อ เรื่องอะไรคะ? คุณว่ามาเลยค่ะ” วรกัญญาชอบคุณนายท่านนี้มาก น้ำเสียงการพูดการจาก็อ่อนโยน
“งั้นฉันจะพูดตรงๆเลยนะคะ ประธานวรกัญญาชลธีผู้ช่วยของคุณเป็นลูกชายของฉันค่ะ” นีรชาพูดเข้าประเด็น
“ค่ะ เขาเป็นลูกชายของคุณ งั้นความหมายของคุณผู้หญิงคือต้องการพาลูกชายกลับไปหรือต้องการให้ฉันดูแลเขาล่ะคะ?” แค่ได้ยินว่าคนคนนี้เป็นแม่ของชลธี วรกัญญาก็ไม่ชอบแล้ว เธอไม่ชอบชลธีคนนี้อยู่แล้วด้วย
“ไม่ใช่ทั้งคู่ค่ะ ที่ฉันมาก็แค่ไม่อยากให้ประธานวรกัญญาเกรงใจ ถ้าชลธีมีตรงไหนที่ไม่ถูกต้อง คุณอยากจัดการยังไงก็ได้ อยากต่อว่าก็ต่อว่าได้เลยค่ะ” นีรชาพูดขึ้น
วรกัญญาแค่ได้ยินก็อยากจะหัวเราะ นี่เป็นแม่แท้ๆของชลธีงั้นเหรอ? ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเป็นแค่แม่เลี้ยงล่ะ ให้คนอื่นจัดการ ต่อว่าลูกของตนเอง
“คุณผู้หญิง ความหมายของคุณแปลกมากเลยนะคะ แต่ชลธีเป็นพนักงานของฉัน ฉันจะปฏิบัติกับเขาอย่างยุติธรรมค่ะ ถ้าเขาทำผิด ฉันต้องอบรมเขาแน่นอนค่ะ” วรกัญญารู้สึกว่านีรชาเป็นแม่ที่แปลกมากๆคนหนึ่ง
“งั้นก็ขอบคุณนะคะ ประธานวรกัญญา ลูกชายของฉันอยู่ที่นี่ต้องรบกวนคุณแล้ว ชาดอกไม้นี้ฉันเป็นคนทำเอง ฉันไม่มีอะไรดีๆจะมอบให้คุณ แค่คุณไม่รังเกียจก็ดีใจแล้วค่ะ” นีรชาหยิบชาดอกไม้ห่อใหญ่ออกมา วางไว้บนโต๊ะน้ำชาของวรกัญญา ในทันทีทั้งห้องก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ
“ฉันชอบสิ่งนี้มากค่ะ ขอบคุณนะคะคุณผู้หญิง” วรกัญญามองชาดอกไม้ห่อใหญ่ ไม่ต้องบอกเลยว่าเธอดีใจขนาดไหน ตอนที่เพิ่งคลอดอักลี่ เธอกลับยังมีเวลาทำชาดอกไม้ของตนเอง แต่ต่อมาหลังจากที่พ่อให้ตนเองไปจัดการแก้ปัญหาอุตสาหกรรมที่ฝรั่งเศส เธอก็ไม่มีเวลาไปจุกจิกกับเรื่องดอกไม้ใบหญ้าพวกนั้นอีกเลย ดังนั้นหลังจากที่เธอเห็นนีรชามอบชาดอกไม้ให้ตนเอง จึงดีใจเป็นพิเศษ
“งั้นฉันไปก่อนนะคะ ธุระของฉันจัดการเสร็จแล้ว” นีรชาแค่อยากเจอวรกัญญาแล้วให้ชาดอกไม้ที่ทำเองแก่เธอเท่านั้น
“คุณผู้หญิง รอสักครู่ค่ะ ฉันก็มีของอยากให้คุณ” วรกัญญาให้นีรชารอตนเองครู่หนึ่ง เธอก็มีของที่อยากจะมอบให้
นีรชารู้ว่าถึงมุกจะความจำเสื่อม แต่นิสัยของเธอกลับไม่เปลี่ยนแปลง
วรกัญญาไปที่ห้องพักของตนเอง หยิบกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมา เธอเอาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจำนวนหนึ่งกลับมาจากฝรั่งเศสด้วย จึงถือโอกาสมอบให้นีรชาซะเลย
“ขอบคุณนะคะ เราอาจจะได้เป็นเพื่อนสนิทกัน” นีรชาพูดกับวรกัญญาก่อนจะออกไป
“ค่ะ ฉันก็มั่นใจ คุณผู้หญิง ฉันจะทำตามที่คุณบอก ฉันจะเข้มงวดกับชลธีค่ะ” วรกัญญารับปาก นีรชาที่กำลังจะออกไป
นีรชาถือของที่วรกัญญาให้ตนเองเดินออกไปอย่างเบิกบานใจ เธอขึ้นรถแล้ว จึงโทรไปหาชลธี
“ชล แม่เพิ่งไปเจอมุกมา” นีรชากำลังรายงานชลธี
“แม่ ไปเจอมุกเหรอครับ? ทำไมถึงไปพบเธอ ตอนนี้เธอความจำเสื่อมนะครับ ไม่ควรได้รับการกระตุ้น”
แค่ชลธีได้ยินว่านีรชาไปพบวรกัญญา เขาก็ร้อนรนทันที เขากำลังค่อยๆพยายามเข้าใกล้วรกัญญา จึงไม่อยากโดนแม่ทำลาย
“แม่โง่ขนาดนั้นเลยเหรอ? น้องสาวแกสารภาพกับแม่แล้ว แล้วยังกำชับแม่บางเรื่องด้วย แม่รู้หน่า แต่ว่าตอนนี้แกทำบุญให้มากๆเถอะ แม่ให้เธอเข้มงวดกับแกมากๆ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆ แม่ให้เธอลงไม้ลงมือ ต่อว่าแกได้เลย แกก็ค่อยๆอดทนไปนะ พอดีกว่า แม่ไม่พูดแล้ว แม่จะกลับแล้ว” นีรชาพูดจบ ตนเองก็หัวเราะไม่หยุด อาจจะเป็นทีของพ่อแม่ที่ต้องทำให้ลูกบาดเจ็บ และคงไม่มีใครร้ายกาจไปว่านีรชาคนอย่างเธอแล้ว
แค่ชลธีได้ยินคำพูดของแม่ เขาก็พูดไม่ออก ถ้าพระเจ้าให้โอกาสแก่เขาครั้งหนึ่ง ที่เขาสามารถเลือกได้ เขายังจะเลือกนีรชาเป็นแม่ของตนเองอีกไหมนะ?
หลังจากรับโทรศัพท์แล้ว ชลธีจึงหาข้ออ้างไปที่ห้องทำงานของวรกัญญา เขาเอาดอกไม้ที่เพิ่งซื้อมาเสียบเข้าไปในแจกันที่อยู่ในห้องทำงานของวรกัญญา
เขากวาดสายตาไปรอบๆ ก็ไม่เห็นว่าวรกัญญาเอาชาดอกไม้ที่แม่ให้มาไปวางไว้ตรงไหน แสดงว่าต้องวางไว้ในห้องพักผ่อนแน่ๆ นั่นเป็นความเคยชินของวรกัญญา ของที่ชอบมักจะวางไว้ในห้องพักผ่อน ของที่ไม่ชอบก็จะวางไว้สะเปะสะปะตามใจ
นี่ก็ชัดเจนว่า วรกัญญายังชอบของที่แม่ให้มากๆ
“ชลธี เมื่อกี้แม่คุณมาน่ะ” วรกัญญาเห็นชลธีกำลังช่วยตนเองจัดดอกไม้ใส่แจกันอยู่ จึงอยากจะพูดอะไรหน่อย อยากขอบคุณเขาบ้าง
“อ้อ แม่ผมมาเหรอ? เธอไม่ได้สร้างความลำบากให้คุณใช่ไหม?” ชลธีถามขึ้นอย่างระมัดระวัง
“ไม่มี เธอดีมากๆ ฉันคิดว่าฉันกับเธอจะกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ แต่ความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเพราะแม่ของคุณ ฉันจะเข้มงวดกับคุณ แล้วนี่ก็เป็นข้อเรียกร้องที่แม่ของคุณเสนอแนะด้วย” ในใจของวรกัญญาอยากจะหัวเราะ
“ครับ ในครอบครัวผมแม่เป็นคนตัดสินใจทุกอย่างอยู่แล้ว งั้นก็ทำตามความหมายของแม่ผมนั่นแหละครับ” ชลธีเข้าใจแล้ว นั่นเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งของแม่ ที่ให้ตนเองได้อยู่ข้างกายของวรกัญญามากขึ้นระยะหนึ่ง