ตอนที่ 18 เมื่องานศพจบ ทั้งเมืองจะนองเลือด.
ที่กลางสี่แยก…
เลือดกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง เปลวไฟลุกโชนขึ้นสู่ท้องฟ้า
เฉินซ้งเหิงค่อยๆปัดฝุ่นออกจากเสื้อสูทของเขา วินาทีก่อน เขาฆ่าคนอย่างป่าเถื่อน… วินาทีต่อมาเขากลับมาอยู่ในรูปลักษณ์ของสุภาพบุรุษที่สง่างามอีกครั้ง
เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด จากนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาชิวอี้เหลิน
“เร็วกว่าที่คิดไว้ยี่สิบวินาที…” เฉินซ้งเหิงยกข้อมือขึ้นเหลือบมองไปที่นาฬิกาโอเมก้าที่ข้อมือแล้วพิมพำ
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินกลายเป็นสับสน เธอจ้องมองไปที่ชายตรงหน้าอย่างว่างเปล่า… จากนั้นเธอก็นึกถึงคำพูดของเขาก่อนหน้านี้ ‘รออยู่นี่ก่อน ไม่กี่นาทีมันก็จบแล้ว‘
เขาจับเวลาในการลงมือด้วยงั้นเหรอ?! เขาใช้เวลาเพียงสองนาทีในการจัดการกับนักฆ่าเหล่านี้!
ชิวอี้เหลินมองเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ…
“พวกเขาเป็นคนของตระกูลหวงเหรอ…?” ชิวอี้เหลินมองไปที่ซากศพรอบๆแล้วถามออกมาเบาๆ
ศพในชุดสีน้ำตาลหลายศพนอนกองอยู่ที่พื้น พวกเขาคือทีมปฏิบัติการของตระกูลหวง
“ใช่” เฉินซ้งเหิงค่อยๆพ่นควันออกมาอย่างสงบ
ร่องรอยของความซับซ้อนปรากฏขึ้นในดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลิน… ครั้งนี้ตระกูลหวงจงใจโจมตีอย่างเปิดเผยราวกับว่าเป็นการส่งคำเตือน
หลังจากนี้เกมล่าของจริงกำลังจะเริ่มขึ้น!
ชิวอี้เหลินถอนสายตาที่ซับซ้อนออกจากเฉินซ้งเหิงแล้วจัดระเบียบกับชุดที่ยุ่งเหยิงของเธอ จากนั้นก็พูดกับทีมบอดี้การ์ดว่า “พวกคุณอยู่จัดการศพที่นี่ให้เรียบร้อย แล้วให้คนส่วนหนึ่งไปส่งฉันที่บริษัท”
ชิวอี้เหลินเป็นประธานบริษัทหญิงที่ฉลาด เธอสามารถสงบจิตใจลงได้อย่างรวดเร็ว
เหล่าบอดี้การ์ดเริ่มทำการปิดล้อมและเคลียร์ที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
บอดี้การ์ดคนหนึ่งก้าวไปที่รถอย่างรวดเร็ว จากนั้นรถ Mercedes-Benz ที่อยู่ไม่ไกลก็ขับมาด้านหน้า
เฉินซ้งเหิงและชิวอี้เหลินเดินเข้าไปไปในรถ Mercedes-Benz และขับออกไปอย่างรวดเร็ว
……
ที่คฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลหวง
ดวงตาของหวงเจิ้งหมิงปิดลง เขายืนอยู่หน้าห้องโถงบรรพบุรุษขณะที่เอามือไพล่หลัง
“รายงานหัวหน้าตระกูล! การลอบสังหารล้มเหลวครับ ผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดที่ถูกส่งไปไม่มีใครรอดกลับมาได้แม้แต่คนเดียว…” ชายคนหนึ่งรีบเข้ามารายงาน!
ห้องโถงบรรพบุรุษกลายเป็นเงียบสงัด
จู่ๆหวงเจิ้งหมิงก็ลืมตาขึ้น เจตนาฆ่าที่ไม่สิ้นสุดของเขาพุ่งพล่านออกมาไม่หยุด!
“ปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่อีกสักสองสามวัน… สุดท้ายยังไงพวกมันก็ต้องตายอยู่ดี” เสียงของหวงเจิ้งหมิงแหบแห้งพร้อมกับกลิ่นอายที่น่ากลัว “ตระกูลหวงของฉันปกครองเซี่ยงไฮ้มาเป็นร้อยปี… ครั้งหนึ่งตระกูลจิ้วเคยตั้งตนเป็นศัตรูกับตระกูลหวงของเรา ในครั้งนั้นหวงจินหลงบรรพบุรุษของเราได้เข่นฆ่าสังหารตระกูลจิ้วจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว”
“สั่งปิดเมืองเซี่ยงไฮ้ทั้งหมดทันที… จากนั้นให้เรียกลูกหลานของตระกูลหวงทั้งหมดมาประชุมเดี๋ยวนี้!” ทันใดนั้นเสียงของหวงเจิ้งหมิงก็รุนแรงมากขึ้น “เมื่อลูกชายของฉันถูกฝัง ทั้งเมืองก็จะต้องถูกล้างด้วยเลือด!”
……
ที่อาคารบริษัทชิวฉี
มาถึงที่บริษัทแล้ว แต่อารมณ์ของชิวอี้เหลินก็ยังคงสับสนอยู่
เธอยืนอยู่ตรงหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดานบนชั้นเก้าสิบเก้า จ้องมองออกไปที่เมืองด้วยสายตาที่งดงาม
ท้องฟ้านอกหน้าต่างมืดครึ้ม.. เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศที่อธิบายไม่ได้
หนึ่งชั่วโมงก่อนถูกโจมตี เปลือกตาขวาของเธอนั้นกระตุกอย่างต่อเนื่อง… ราวกับว่าเป็นลางบอกเหตุ
ตระกูลหวงนั้นสั่งฆ่าคนอย่างโจ่งแจ้งโดยไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย
สิ่งนี้หมายถึงอะไร?
นี่หมายถึงตระกูลหวงนั้นไม่เคยเกรงกลัวต่อกฎหมายของเมืองนี้เลยยังไงล่ะ!
แม้แต่กฎหมายก็ไม่สามารถควบคุมพวกเขาได้ ตระกูลหวงน่ากลัวขนาดไหนกันแน่!?
และตอนนี้การแก้แค้นของตระกูลหวงก็กำลังจะมาถึง…
ตระกูลยักษ์ใหญ่ในที่มีอายุมาเป็นร้อยปี มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่าพวกเขามีพลังอะไรซ่อนอยู่!
เรื่องราวของหวงจินหลงหัวหน้าแก๊งฉิงเมื่อร้อยปีก่อนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ…
และความน่ากลัวนั้นก็ยังคงสืบทอดมาจนถึงรุ่นปัจจุบันนี้ มันเป็นความน่ากลัวที่มิอาจจะจินตนาการได้!
การแก้แค้นของยักษ์ร้อยปี ชิวฉีกรุ๊ปของเธอจะทนได้อย่างไร?
ชิวอี้เหลินหยิบโทรศัพท์มือถือ Huawei ขึ้นมาถือไว้ในมือ เธอพยายามฝืนใจตัวเองเพื่อที่จะกดโทรออกหลายครั้ง แต่สุดท้ายเธอก็วางมันลง
หมายเลขโทรศัพท์อีกด้านหนึ่งที่เธอต้องการจะโทรออกคือคนที่อาจจะช่วยให้เธอหลุดพ้นออกจากสถานการณ์นี้ได้
แต่มันก็เป็นเพียงแค่การหลบหนีออกไปเท่านั้น
เธอไม่สามารถหนีออกจากเซี่ยงไฮ้ไปคนเดียวได้ เพราะถ้าเธอหนีไปคนเดียว…
แล้วคนข้างหลังเธอจะเป็นอย่างไร?
ทั้งพ่อทั้งแม่และน้องสาวของเธอ
อีกทั้งยังมีพนักงานของชิวฉีกรุ๊ปอีกหลายหมื่นคน
หลังจากคิดอยู่นาน ในที่สุดชิวอี้เหลินก็เก็บโทรศัพท์กลับคืนใส่กระเป๋า
ดวงตาที่สวยงามของเธอจ้องมองไปบนท้องฟ้าอันห่างไกลด้วยสายตาซับซ้อน…
ความขุ่นเคืองกับตระกูลหวงในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ต่อให้เฉินซ้งเหิงไม่ได้ฆ่าหวงซู่หยาง… แต่ด้วยนิสัยและตัวตนของหวงซู่หยาง ในไม่ช้าก็เร็วเขาก็จะต้องโจมตีชิวฉีกรุ๊ปของเธออย่างแน่นอน!
การที่เฉินซ้งเหิงฆ่าหวงซู่หยางมันก็เป็นเพียงแค่การเร่งให้ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วขึ้นเท่านั้น..
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เธอก็เหลืออยู่เพียงทางเลือกเดียว คือต้องตอบโต้กลับ!
ทุกปัญหามีทางแก้เสมอ
ร่องรอยของความดื้อรั้นฉายออกมาจากดวงตาของชิวอี้เหลิน
……
ในตอนเย็น แสงของดวงอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าจนย้อมท้องฟ้าทั้งหมดให้กลายเป็นสีทอง
หลังเลิกงาน
รถ Mercedes-Benz กันกระสุนห้าคัน เรียงแถวเป็นขบวนส่งชิวอี้เหลินไปยังคฤหาสน์ตระกูลชิว
หลังจากถูกซุ่มโจมตีในตอนเช้า… ชิวอี้เหลินก็ระวังตัวมากขึ้น เธอเพิ่มจำนวนของหน่วยบอดี้การ์ดและเสริมการป้องกันของพาหนะให้ดีมากขึ้น
ทีมบอดี้การ์ดในคฤหาสน์ของตระกูลชิวทุกคนเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นสองเท่า
สถานะความปลอดภัยทั้งหมดถูกปรับเป็นระดับสีแดง
ภัยคุกคามจากตระกูลหวงทำให้ชตากรรมของตระกูลชิวถูกแขวนไว้อยู่บนเส้นด้าย ชิวอี้เหลินจึงต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างรอบคอบ
ภายนอกคฤหาสน์ หน่วยบอดี้การ์ดตื่นตัวขั้นสูงสุด
แต่ด้านในคฤหาสน์ในตอนนี้กลับดูสงบสุขราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
โต๊ะอาหารเต็มไปด้วยจานอาหารที่สวยงามถูกจัดเรียงอย่างน่ารับประทาน
อาหารเย็นวันนี้ปรุงโดยหลัวเซียงหนานแม่ของชิวอี้เหลิน
เฉินซ้งเหิงซึ่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ฝั่งตรงข้ามก็ถูกหลัวเซียงหนานแม่ของเธอเรียกให้มาทานอาหารเย็นด้วยกัน
ที่โต๊ะอาหาร ชิวชวงเซี่ยน้องสาวของชิวอี้เหลินนั่งอยู่อย่างสงบ ชิวอี้เหลินดูเป็นผู้ใหญ่ที่เซ็กซี่ ส่วนน้องสาวของเธอนั้นตรงกันข้าม เธอดูร่าเริงและสดใส
พี่สาวน้องสาวคู่นี้ สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความงดงามที่น่าหลงใหล
แต่อย่างไรก็ตามเฉินซ้งเหิงนั้นกลับไม่ได้สนใจในทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่จิบไวน์แดงและชิมรสชาติของอาหารราวกับว่าเขานั้นไม่ได้สนใจในสตรี
ชิวหวยไห่ผู้เป็นพ่อนั่งอยู่หัวโต๊ะอาหาร เขาทานอาหารค่ำมื้อนี้ด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน ในฐานะประธานใหญ่ของชิวฉีกรุ๊ปเขาจะไม่รู้เรื่องการลอบสังหารอี้เหลินลูกสาวของเขาได้อย่างไร? แต่…เขาทำได้แค่เพียงซ่อนมันเอาไว้ไม่สามารถบอกภรรยาและลูกสาวคนเล็กให้รู้ได้ เขาไม่ต้องการให้ทั้งสองต้องเป็นกังวล
หลังจากกินปีกไก่ย่างแล้ว ชิวชวงเซี่ยก็เงยหน้าขึ้นมองพ่อของเธอและถามขึ้นว่า “พ่อคะ… หนูได้ยินมาว่าหวงซู่หยางลูกชายคนโตของตระกูลหวงถูกฆ่า เป็นเรื่องจริงเหรอคะ? แล้วใครเป็นคนฆ่าเขางั้นเหรอ?”
เรื่องนายน้อยหวงรถูกสังหารนั้นทำให้เมืองเซี่ยงไฮ้ทั้งเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย ชิวชวงเซี่ยเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาด้วยเหมือนกัน มันจึงเป็นธรรมดาที่เธอจะอยากรู้อยากเห็น
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเงียบลงทันที
ดวงตาที่สวยงามของชิวอี้เหลินซับซ้อน เธอพูดอะไรไม่ออก
ข่าวเรื่องที่หวงซู่หยางถูกสังหารได้แพร่กระจายไปทั่วเซี่ยงไฮ้จนสร้างความฮือฮาไปทั้งเมือง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผู้คนไม่รู้คือ… ตัวตนของผู้ลงมือสังหาร
บางทีอาจเป็นเพราะตระกูลหวงพยายามปกปิดข่าวเอาไว้จึงทำให้ไม่มีใครรู้
ดังนั้นคนเกือบทั้งเมืองจึงคาดเดาเรื่องนี้กันอย่างเมามันว่าแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ที่หาญกล้าท้าทายตระกูลหวง
ดวงตาของชิวหวยไห่ผู้เป็นพ่อหรี่ลงและพูดว่า “เรื่องนี้เด็กอย่างลูกไม่จำเป็นต้องรู้ แค่ตั้งใจเรียนให้หนักก็พอ อย่าสนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง!”
ชิวชวงเซี่ยรู้สึกหวาดกลัวกับคำพูดที่รุนแรงของพ่อของเธอ เธอจึงไม่กล้าถามอะไรไปมากกว่านี้ เธอทำเพียงก้มหน้าทานข้าวต่ออย่างเงียบๆ..
เฉินซ้งเหิงผู้เป็นตัวต้นเรื่องของเรื่องราวทั้งหมด ตอนนี้กำลังนั่งทานอาหารอย่างสบายอารมรณ์พร้อมกับเพลิดเพลินกับไวน์แดงในมือโดยไม่สนใจอะไร
……
ในค่ำคืนที่มืดมิดที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยแสงดาว
เมืองเซี่ยงไฮ้ค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะเงียบสงบ
แต่ความจริงแล้วทั่วทั้งเมืองกำลังตกอยู่ในการปิดล้อมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเซี่ยงไฮ้!
ในช่วงกลางดึก รถเก๋ง Volkswagen สีดำกำลังแล่นไปตามท้องถนนในเมือง สมาชิกของตระกูลหวงจำนวนนับไม่ถ้วนถูกส่งไปยังท่าเรือ สนามบิน ทางหลวงในเมืองและทางหลวงออกต่างจังหวัดทุกสาย… ทุกพื้นที่ถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์!
ในคฤหาสน์เก่าแก่ของตระกูลหวง ที่หน้าห้องโถงบรรพบุรุษ
มีโลงศพไม้สีดำขนาดมหึมาตั้งอยู่ด้านหน้า! ศพของลูกชายคนโตหวงซู่หยางนอนอยู่ในโลง
หัวหน้าตระกูลหวง หวงเจิ้งหมิงในชุดคลุมสีขาวยืนอยู่หน้าโรงศพ เขาค่อยๆจุดธูปสามดอกไหว้ร่างของลูกชายของเขา
“งานศพของซู่หยางจะถูกจัดขึ้นในอีกสองวัน!” เสียงของหวงเจิ้งหมิงสงบและเย็นชาราวกับพยายามระงับความแค้นเอาไว้
ที่ด้านหน้าของศาลบรรพบุรุษ สาวกทั้งหมดของตระกูลหวงจำนวนนับไม่ถ้วนสวมชุดป่านสีขาว… ทุกคนต่างก็เข้าร่วมประเพณีโค่วโถวเพื่อเป็นการอำลาลูกชายของผู้นำตระกูล
ทุกคนต่างก็รู้อยู่ในใจว่า…
หลังจบงานศพ มันก็จะเป็นงานสังหารหมู่สุดนองเลือดต่อทันที…!