เฉินเสียนโค้งมุมริมฝีปากแล้วพูดอย่างขบขัน “ฉินหรูเหลียง ซุปนี้คือท่านเป็นคนนำมา ท่านโกรธอะไร?”
ฉินหรูเหลียงพูดทีละคำ “ใน ซุป นี้ ข้า ได้ ใส่ หลีหลู เมื่อวาน ข้านำมา ไม่เพียงแค่โสม ด้านล่างของโสม ยังมีหลีหลู”
แววตาเฉินเสียนได้เข้มขึ้น แล้วเลิกคิ้วพูดว่า “หลีหลูหรือ ก็ไม่ใช่สมุนไพรบำรุงร่างกายรึ ตุ๋นอยู่ในซุปได้บำรุงร่างกายไง”
“ท่านไม่ใช่รู้การแพทย์หรอกหรือ ท่านจะไม่รู้รึว่าหลีหลูตุ๋นเข้ารวมกันกับโสมในซุป มันจะเกิดผลอะไรขึ้น?”
“ผลอะไร?”เฉินเสียนถาม
ฉินหรูเหลียงเม้มปากแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เมื่อวานข้ากลับมาจากวังหลวง แล้วข้าไปร้านยาและถามถึงโสมกับหลีหลูรวมกัน จะไม่ช่วยบำรุงแล้วยังจะเป็นพิษอีกต่างหาก ถึงแม้ว่าพิษนี้ไม่ได้คร่าชีวิตขึ้นทันที แต่สามารถทำลายอวัยวะภายในของคนได้ จะทำลายจนกว่าอวัยวะภายในจะหมดแรงและตายในที่สุด”
เฉินเสียนได้ฟังไม่ได้แปลกใจ เพียงแค่พูดว่า “องค์จักรพรรดิต้องการให้ท่านวางพิษคร่าชีวิตข้า?”
“ไม่ใช่วางพิษคร่าชีวิตท่าน แต่ทำให้ท่านป่วยตาย”ฉินหรูเหลียงพูด “เพียงแค่ให้ท่านป่วยตายในจวนแม่ทัพ เรื่องต่างๆ ก็จะคลี่คลาย!”
เฉินเสียนมองดูฉินหรูเหลียง นิ้วเคาะไปที่โต๊ะ พูดว่า “แล้วทำไมทันไม่ทำตาม นี้ไม่ใช่ท่านกำลังขัดต่อคำสั่งหรือ? ไม่อยากเป็นแม่ทัพใหญ่แล้ว? ไม่ต้องการอนาคตที่สดใสของท่านแล้วรึ?”
เฉินเสียนเลิกคิ้วพูดต่อ “ทำไมข้าถึงไม่ตื่นตัว? ท่านกำลังโทษข้าที่ไม่ระวังท่านอยู่หรือเปล่า? หากข้าอยากจะระวังท่าน ท่านจะดีใจใช่หรือไม่?”
ฉินหรูเหลียงกลั้นหายใจไว้ที่หน้าอก และรู้สึกอึดอัดมาก
ตอนนี้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ควรให้เฉินเสียนต้องระวังกับตัวเองหรือไม่ต้องระวัง ดูเหมือนจะระวังตัวกับเขา ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้คนรู้สึกน่ายินดีนัก
เฉินเสียนรู้สึกขบขันเล็กน้อย “เมื่อวานเพิ่งนำโสมกลับมา และวันนี้ได้นำตุ๋นซุปส่งมาที่นี่ โสมขององค์จักรพรรดิ ข้ากล้ากิน? ข้าไม่ได้ตั้งใจจะดื่มซุปไก่ของท่านตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แม้จะดื่มเข้าไปก็ไม่ได้ตั้งใจจะกลืนลงไป พูดไป ข้าแต่คิดว่าแม้เผลอไปจิบไปแค่คำเดียว ก็ไม่อาจจะคร่าชีวิตของข้าไปทันที มิอย่างนั้นข้าคงต้องตายหลังจากดื่มซุปโสมที่จักรพรรดิให้มา การแพร่กระจายออกไปสู่โลกภายนอกนั้นมันจะไม่แปลกเกินไปหรอกหรือ?”
ฉินหรูเหลียงได้อึ้งอีกครั้ง อารมณ์โกรธเมื่อครู่ยังไม่หาย และอารมณ์โกรธตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว
จริงๆ แล้ว เฉินเสียนยังคงมีความระแวดระวังต่อเขา ยิ่งทำให้เขาไม่สบายใจ
ฉินหรูเหลียงพูด “ดังนั้น ท่านทำเช่นนี้เพียงเพื่อที่จะหยั่งเซิงข้า?”
“ก็ไม่ใช่แค่หยั่งเซิงท่านทั้งหมด เพียงเพื่อเป็นบันไดให้ท่านได้หลีกเลี่ยงความลำบากใจด้วย”
เฉินเสียนพูดว่า “เมื่อครู่นี้หากท่านไม่ห้ามข้าไม่ให้ดื่มซุปนั้น ท่านไม่ต้องพูดให้ชัดเจน ข้าเองก็รู้จุดยืนของท่านอย่างแน่ชัดแล้ว ท่านข้ามีการยืนหยัดของตัวเอง และซุปไก่ชามหนึ่งถือเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับข้าในอดีตที่ผ่านมา”
ฉินหรูเหลียงยิ่งโกรธมาก ได้เข้าใกล้เฉินเสียนโดยไม่คาดคิด และมือได้ไปดึงกระโปรงของนาง เมื่ออวี้เยี่ยนเห็นสถานการณ์เช่นนั้นต้องการที่จะเข้ามาช่วย แต่เฉินเสียนยกมือขึ้นห้ามไว้
ฉินหรูเหลียงมองดูใบหน้าของนางอย่างใกล้ชิดและพูดว่า “ท่านหยั่งเซิงข้าแล้ว และยังต้องการตัดขาดกับข้า? ท่านคือภรรยาของข้า ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่หนึ่งวัน หนึ่งวันที่นี้ยังเป็นจวนของท่าน! ท่านคิดว่าข้าอยากจะวางยาพิษท่านเหรอ ตอนแรกก็ไม่อยากทำเช่นนี้ ถ้าไม่คิดว่าคนในครัวอาจจะมีคนมาคอยสอดแนม แล้วข้าจะไม่ใส่หลีหลูลงไปก็ไม่ได้!
เฉินเสียนตะลึง “เฮ้ ท่านจะโกรธขนาดนี้ทำไม? จะดื่มซุปไก่พิษนั้นคือข้า ตอนนี้พูดออกมาเข้าใจแล้วก็ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่รึ ท่านป้อนซุปไก่พิษให้ข้า แล้วข้าหยั่งเซิงท่าน นี่ก็ยุติธรรมแล้ว”
ฉินหรูเหลียงจ้องมองนางอย่างแผ่วเบาและพูดว่า “ตำแหน่งแม่ทัพคืออะไร และมีอนาคตที่สวยงามอะไรนั้น แม้ว่าจะขัดต่อราชโองการ ข้าก็ยอมรับแล้ว ในอดีตเป็นข้าที่ตาบอด เป็นข้าสารเลว ข้าเชื่อเพียงแค่ที่ตาของข้ามองเห็น แต่ข้าก็อยากจะพยายามทำให้ดีที่สุด กาลเวลาและความเสียใจที่ข้าได้พลาดไปในชีวิตของท่านนั้น ต้องตามหากลับมา”
เฉินเสียนเบิกตาจ้องมอง นางเห็นความมุ่งมั่นดังกล่าวในสายตาของฉินหรูเหลียง
แม้แต่ตัวนางเองก็ยังแปลกใจเล็กน้อย
แต่ขณะที่นางประหลาดใจ สายตาของฉินหรูเหลียงก็ย้ายลง และก็ตกลงมาบนริมฝีปากที่สวยงาม
ครู่ต่อมา ฉินหรูเหลียงจับไปที่ไหล่ของนาง ก้มศีรษะลงและประกบที่ริมฝีปากของนาง
เป็นท่าทางของพลังการกวาดล้างกองทัพ และความแข็งแกร่งหยุดภูเขา ทันใดนั้นก็ได้เขย่าสติของเฉินเสียนกลับมา
เฉินเสียนถึงได้ตกใจมาก มือของฉินหรูเหลียงไม่รู้ว่ามีพลังเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด
ในช่วงวันนี้เจ้าคนนี้ซ่อนอารมณ์ได้ดีมาก โดยไม่เปิดเผยเบาะแสอะไรแม้แต่น้อย
ตอนนี้เจ้าคนนี้ไม่ได้ใช้มือของเขาบนเส้นทางที่ถูกต้อง แต่จริงๆ แล้วใช้มือเหล่านั้นเพื่อกักขังนาง และบังคับจูบนาง!
คิดๆ แล้วคงโกรธมากจริงๆ!
เฉินเสียนกัดฟัน ไม่ว่าฉินหรูเหลียงจะพยายามแค่ไหน ก็เข้าไปไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เขายอมถอยเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด และในขณะที่รอโอกาสนั้น เขาก็จูบริมฝีปากของเฉินเสียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เขายากที่จะควบคุมตัวเอง แล้วหยุดไม่ได้
ปรากฏว่าริมฝีปากนุ่มๆ ของนาง และลมหายใจของนางช่างมีเสน่ห์
มันเป็นรสชาติที่ฉินหรูเหลียงไม่เคยลิ้มรสมาก่อน มันเหมือนกับผลไม้บนต้นไม้ ผ่านความนิยมนั้นไปแล้วและรู้สึกกระหายจนทนไม่ไหว เมื่อสอยออกมาชิมจริงๆ ถึงได้รู้ว่าช่างน่าประทับใจที่สุด
สิ่งที่เฉินเสียนมอบให้เขาก็คือความรู้สึกแบบนี้
นางดิ้นจนปิ่นปักที่จอนผมได้กระจัดกระจาย แต่ก็ไม่กล้าเปิดปากพูดและด่าเขา และเมื่อจ้องมองฉินหรูเหลียงเขาก็ทำเป็นมองไม่เห็น
ต่อมาในขณะที่ฉินหรูเหลียงจดจ่ออยู่ที่ริมฝีปากของนาง นางได้ยกเข่าขึ้นและผลักใต้ท้องของเขาอย่างไร้ความปรานี
ให้ตายสิ ดูสิว่าข้าจะทำให้เจ้าเป็นอัมพาตครึ่งซีกได้หรือไม่!
เป็นผลคือฉินหรูเหลียงได้ถอยห่างออกไป หลีกเลี่ยงอันตราย เฉินเสียนมีโอกาส จึงผลักฉินหรูเหลียงออกไปแล้วตบบนใบหน้าของเขาหนึ่งที
ฉินหรูเหลียงจับไปที่ใบหน้าของเขา ดูเฉินเสียนบีบแขนเสื้อและถูริมฝีปาก ชี้ไปที่เขาอย่างโกรธจัดและพูดว่า “ฉินหรูเหลียง หากเจ้ากล้าก่อเรื่องอีกครั้ง ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ฉินหรูเหลียงไม่ได้โกรธ แต่กลับหัวเราะขึ้น
เขาอยากขโมยของกิน จึงหัวเราะอย่างมีความสุขทั้งสดใสและหล่อเหลา
ทันใดนั้น ดูเหมือนหวนกลับไปในอดีต ใต้ต้นแอปริคอท แสงแดดส่องลงผ่านใบไม้มาบนตัวเขา และเขายังคงเป็นชายหนุ่มที่มีคิ้วเข้มและตาโตพร้อมรอยยิ้มในดวงตาของเขา
“เจ้าเป็นอย่างนี้ยังมีหน้าหัวเราะ!” เฉินเสียนหยิบชามเปล่าบนโต๊ะแล้วทุบไปที่ฉินหรูเหลียง
ฉินหรูเหลียงหลบทัน และชามเปล่าถูกโยนผ่านหน้าเขาออกไปแตกที่นอกประตู และแตกเป็นเสี่ยงๆ บนขั้นบันไดนอกประตู เสียงใสๆ และไพเราะ
ฉินหรูเหลียงเลียริมฝีปากของเขา เหมือนรสชาติยังคงติดค้างอยู่ที่ปาก แล้วพูดว่า “หากข้าจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ข้าได้จูบท่าน แม้ว่าท่านไม่ให้ความร่วมมือ มันเป็นความรู้สึกที่ที่ดีที่สุด”
เฉินเสียนทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจและโกรธ พูดขึ้นว่า “แต่ข้ารู้สึกเหมือนถูกหมูดันมา”
ฉินหรูเหลียงพูด “เฉินเสียน ความหวานของวันนี้ ก็เพียงพอแล้วที่ข้าจะฝ่าฟันขวากหนามเพื่อท่านได้ไม่เสียใจและจะไม่เสียใจภายหลัง”
หลังจากที่พูดจบ เขาไม่พักอยู่ที่นี่นาน จึงหันหลังออกจากจวนสวนสระวสันตฤดู
เฉินเสียนมึนงงเล็กน้อย จากนั้นฟื้นสติกลับมาอย่างรวดเร็ว และพูดกับด้านหลังของฉินหรูเหลียงอย่างชัดเจนว่า “ฉินหรูเหลียง เจ้าฟังให้ดี ข้าไม่ได้รักเจ้า”