“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่รู้ เมื่อคืนที่เจ้าส่งชาหวานมา เมื่ออวี้เยี่ยนออกจากสวนถูกยาให้ล้ม ทำไมเจ้าไม่พูด ทำไมถึงเอาแม่นมซุยกับอวี้เยี่ยนย้ายกลับไปที่ห้อง จากนั้นค่อยเรียกให้ฉินหรูเหลียงมานี้?”
แม่บ้านจ้าวกัดฟันปฏิเสธ
เฉินเสียนพูดอย่างเย็นชา “เอ้อร์เหนียง ไปค้นที่ห้องนาง”
แม่บ้านจ้าวจู่ๆ ก็ตื่นตระหนก
เมื่อก่อนนางไม่ค่อยทำเรื่องแบบนั้น และจะเตรียมตัวล่วงหน้าได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ นางถูกแม่นมซุยขังไว้ และนางไม่มีโอกาสที่จะทำลายหลักฐานได้
แม่นมซุยไปค้นในห้องของแม่บ้านจ้าวอย่างรีบเร่ง ไม่นานก็ค้นเจอยาสองขวดออกมา ในนั้นยังมียากล่อมประสาทกับยาเพิ่มความต้องการที่ยังใช้ไม่หมด
เฉินเสียนกางขวดยาสีแดงและสีน้ำเงินต่อหน้าต่อตาของแม่บ้านจ้าวและพูดว่า “แม่บ้านจ้าว นี่อะไร?”
“องค์หญิง บ่าว…….”
“ใครให้ยานี้กับเจ้า?”เฉินเสียนจ้องมองไปที่ใบหน้าของแม่บ้านจ้าว ถาม “เจ้าบอกความจริงกับข้า เป็นเหมยอู่หรือว่าเซียงซั่น?”
แม่บ้านจ้าวส่ายหน้าต่อเนื่อง “ไม่มีใคร…..เป็นบ่าวที่ทำผิด…….”
“เหมยอู่คงทำใจไม่ได้ที่จะต้องส่งฉินหรูเหลียงมาให้ข้าถึงเตียง เป็นเซียงซั่นใช่หรือไม่?”
แม่บ้านจ้าวยังคงส่ายหน้า
เฉินเสียนพูด “หากเจ้าสารภาพออกมา ข้าจะปล่อยเจ้าไปอีกครั้ง หากไม่สารภาพ อย่าโทษข้าที่ข้าลงโทษเจ้าที่ได้วางยาพิษแก่เจ้านาย”
ถึงสุดท้ายแม่บ้านจ้าว ก็ไม่ได้รับสารภาพ
แม่บ้านจ้าวยอมที่จะตาย เพราะได้รับปากกับเซียงซั่นแล้วจะไม่พูดก็จะไม่พูดออกไปอย่างแน่นอน
เซียงซั่นก็เป็นภรรยาของท่านแม่ทัพ แม่บ้านจ้าวคิดว่าที่นางทำไปเช่นนั้นเป็นเพราะหวังดีกับท่านแม่ทัพ สุดท้ายเรื่องราวได้เล็ดลอดออกมาแล้ว จะเอามาอีกทำไมล่ะ
แม่บ้านจ้าวยังวางใจให้เซียงซั่นปรนนิบัติฉินหรูเหลียง และเพื่อในอนาคตจะได้กำเนิดทายาทให้กับจวนแม่ทัพ
เฉินเสียนจ้องไปที่ดวงตาของแม่บ้านจ้าว และยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าไม่พูด ข้าก็รู้ว่าเป็นใคร”
จากนั้นแม่บ้านจ้าวก็ถูกนำตัวไปหาพ่อบ้าน หลักฐานเป็นที่แน่ชัด และขอให้พ่อบ้านจัดการตามกฎในบ้าน
ยึดตามกฎในบ้าน แม่บ้านจ้าวทำเรื่องเช่นนี้ขึ้น และถูกโบยอย่างโหดเหี้ยมก่อนที่จะถูกขับออกจากจวน นั้นเป็นปกติ
พ่อบ้านได้อ้อนวอนขอความเมตตาให้กับแม่บ้านจ้าวว่า “องค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ แม่บ้านจ้าวเคยปรนนิบัติท่านฮูหยินมาก่อน เมื่อขับไล่ออกไปแล้วไม่มีที่พึ่งก็น่าสงสารนะพ่ะย่ะค่ะ บ่าวผู้นี้ขอให้องค์หญิงเห็นแก่ที่แม่บ้านจ้าวได้ปรนนิบัติรับใช้อย่างเต็มที่มาโดยตลอด โปรดไว้ชีวิตนางสักครั้งเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของเฉินเสียนไม่เปลี่ยน และพูด “ก็เพราะว่านางพยายามเต็มที่ เกือบทำให้ข้าแท้งมาตั้งสองครั้ง ข้าก็ไม่ได้คิดบัญชีกับนาง ครั้งนี้เกือบจะทำให้ท่านชายต้องตาย เอาอันไหนออกมา นางก็โทษตายเท่านั้น!”
เธอมองไปที่พ่อบ้านแล้วพูดอีกครั้ง “วันนี้เพียงแค่ขับนางออกไปจากจวน ดูเหมือนว่าคำขอร้องของพวกเจ้าไม่รู้สึกว่าข้าก็ได้เมตตาให้แล้ว?”
ในที่สุดเมื่อพ่อบ้านหันหลังจากไป เฉินเสียนก็เปลี่ยนใจ “ไม่ขับไล่นางออกจากจวนก็ได้ แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าให้ข้าเห็นหน้านางอีกต่อไป ที่จะถูกโบยก็อย่าให้ขาดหายไปแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าข้ารู้พวกเจ้ากล้าที่จะเมตตานาง ครั้งต่อไปข้าต้องขับไล่นางออกไป”
พ่อบ้านดีใจมากและตอบว่า “องค์หญิงวางใจได้พ่ะย่ะค่ะ บ่าวจะบังคับใช้กฎอย่างเป็นกลาง และไม่กล้าที่จะเล่นพรรคเล่นพวก!”
แม่บ้านจ้าวถูกโบยอย่างโหดเหี้ยม องค์หญิงเลี่ยงผลที่นางจะถูกไล่ออกจากจวน แต่นางก็สามารถยืนหยัดได้ไม่ว่าจะโหดเหี้ยมแค่ไหน
เมื่อเริ่มเจ็บขึ้นมา แม่บ้านจ้าวก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา ทั้งร้องไห้และบอกขอโทษเฉินเสียน
ตลอดทั้งบ่าย เซียงซั่นอยู่ในความวิตกกังวลมาก
เมื่อได้ยินสาวใช้บอกว่าแม่บ้านจ้าวถูกโบยอย่างสาหัส เซียงซั่นก็อดที่จะตัวสั่นไม่ได้
จะหลีกเลี่ยงก็ไม่ได้ ในที่สุดเฉินเสียนก็ได้มาถึงจวน และได้มาที่สวนเซียนเสวี่ยด้วยตัวเอง
เซียงซั่นเห็นเธอแล้ว รีบคุกเข่าด้วยสีหน้าซีดขาว
เฉินเสียนมองไปที่นาง พูดขึ้นว่า “เซียงซั่น เจ้ากลัวมากรึ?”
“ข้า ข้าน้อยเมื่อคืนแค่ไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้นสติจึงมึนงงบ้าง……”
เฉินเสียนเลิกคิ้วพูด “ก็ใช่ เมื่อคืนแม่ทัพฉินอยู่ที่สวนสระวสันตฤดูไม่อาจจะมาดูแลเจ้าได้ ถึงได้มาถามเจ้าถึงที่นี้”
เธอมองดูรอยฟกช้ำใต้ชุดกระโปรงของเซียงซั่น และถามว่า “รสชาติเป็นอย่างไร?”
เซียงซั่นกัดริมฝีปากเงียบ
“แม่บ้านจ้าวถูกลงโทษที่หน้าศาล เจ้ารู้หรือไม่?” เฉินเสียนเหลือบมองนางเล็กน้อย และถามอีกครั้ง
เซียงซั่นข่มอารมณ์ลงและพูดว่า “ข้าน้อยได้ยินมาบ้าง แต่แม่บ้านจ้าวเคยภักดีต่อองค์หญิง ครั้งนี้ไม่รู้ว่านางก่อเรื่องอะไร จึงถูกลงโทษรุนแรงเช่นนี้”
“เจ้าไม่รู้จริงๆ?”
“ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ เพคะ……”
“แม่บ้านจ้าวได้สารภาพทั้งหมดแล้ว”เฉินเสียนพูดค่อยๆ
เซียงซั่นตกใจ ความตื่นตระหนกทั้งหมดเอ่อล้นออกมา พูด “แต่ว่า……ข้าน้อยได้ยินว่าแม่บ้านจ้าวแบกรับความผิดทั้งหมดด้วยตัวนางเอง ไม่ทราบว่านาง……ได้สารภาพอะไรบ้าง?”
เฉินเสียนโค้งริมฝีปากและพูดว่า “เจ้าบอกว่าไม่รู้ว่าความผิดของแม่บ้านจ้าวไม่ใช่รึ แต่รู้ได้อย่างไรว่านางได้แบกรับทั้งหมดด้วยตัวเอง?”
เซียงซั่นถึงเข้าใจ แท้จริงแล้วแม่บ้านจ้าวไม่ได้สารภาพอะไรเลย แต่เฉินเสียนได้ทดสอบนางเท่านั้น
หากว่าแม่บ้านจ้าวสารภาพ แล้วจะไม่ได้โดนลงโทษแค่คนเดียว เธอก็ต้องถูกจับไปลงโทษด้วยกันแล้ว
เซียงซั่นฝืนยิ้ม “ข้าน้อยให้สาวใช้ไปฟังข่าวมาถึงได้รู้ ข้าน้อยรู้สึกเสียดายที่แม่บ้านจ้าวเป็นคนที่จริงใจและทุ่มเทกับงาน จะมาเป็นภัยกับองค์หญิงได้อย่างไร บางทีนางอาจจะสับสน องค์หญิงขับไล่นางออกไปก็จะสูญเสียบุคคลที่มีความสามารถรอบตัวไปนะเพคะ?”
เฉินเสียนโน้มตัวเข้ามาใกล้นางเล็กน้อย จ้องตรงเข้าไปในดวงตาของนาง และทันใดนั้นก็ยกมือขึ้นบีบคางของนางและยกขึ้นอย่างแรง
เซียงซั่นสูดหายใจเข้าลึกๆ
เฉินเสียนพูดอย่างเฉยเมย “คนรอบข้างทำผิดยังเป็นเช่นนี้ ถ้าคนอื่นทำผิด เจ้าคิดว่าข้าจะเมตตารึ?”
เฉินเสียนหรี่ตาลง “ข้าให้โอกาสอีกครั้ง บอกตามความจริง ยานั่นคือเจ้าให้นางใช่หรือไม่?”
เซียงซั่นปฏิเสธ “ข้าน้อยไม่รู้จริงๆ ว่าองค์หญิงกำลังพูดถึงยาอะไร……..”
“ยังจำคำพูดตอนที่ข้ารับปากช่วยเจ้าได้หรือไม่?”
เซียงซั่นสีหน้าซีดเผือด “ข้าน้อยสาบานต่อหน้าองค์หญิง จะไม่มีวันเป็นศัตรูกับองค์หญิง…….”
เฉินเสียนปล่อยมือจากนาง
เซียงซั่นคลานอยู่ที่พื้นและหายใจหอบ
เฉินเสียนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา พูดต่อว่า “แม่บ้านจ้าวจริงใจกับแม่ทัพ นางขยันและซื่อสัตย์ในหน้าที่การงาน ถึงยังไม่รู้จักใช้วิธีที่เลวร้ายนั้นได้ ถ้าข้ารู้ว่าใครแอบสอนนางอยู่ข้างหลัง เจ้าคงรู้ผลที่จะตามมา
เจ้าคิดว่าเรื่องนี้จัดการอย่างไร ไม่ใช่ข้าที่ทำร้ายแม่บ้านจ้าว แต่เป็นคนที่แม่บ้านจ้าวต้องการจะปกป้อง มันไม่ง่ายเลยที่จะเอาคนคนนี้ออกไป?
ยานั่นข้าจะตรวจสอบต่อไป และหากได้รับจากห้องยาที่จวน ก็จะมีลงบันทึกไว้ ข้าคิดว่านางคงไม่โง่เขลาขนาดที่จะไปเอายาที่ห้องยา และที่ห้องยาก็ไม่มียาที่สามารถทำเรื่องเลวร้ายนั้นได้ ดังนั้นจะต้องซื้อยานี้จากภายนอกแน่นอน”
เซียงซั่นยังไม่มีการแสดงออกแต่อย่างไร ส่วนสาวใช้ที่อยู่ข้างๆ นางก็เริ่มตัวสั่น
เฉินเสียนเหลือบมองนางแล้วพูดว่า “ไม่ว่าจะเป็นใครเข้าออกจวนแม่ทัพ ก็มีการลงบันทึกไว้เช่นกัน ข้าจะค้นไปทีละที่ ข้าไม่เชื่อว่าจะหาไม่เจอ เซียงซั่น เจ้าตั้งหน้าตั้งตาอธิษฐานรอเถอะ ทางที่ดีเรื่องนี้อย่ามีความเกี่ยวพันกับเจ้า”
พูดจบ เฉินเสียนได้พาอวี้เยี่ยนเดินออกไป
เซียงซั่นที่อยู่ในเรือนมองส่งแผ่นหลังของเฉินเสียน แต่จิตใจของนางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ได้อกสั่นขวัญหายไปหมด ถามว่า “นายหญิง ตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะ? หากองค์หญิงรู้เรื่องนี้เข้า ท่านก็คงจะไม่ปล่อยเราไว้แน่………”