ในเวลานั้นหลิ่วเหมยอู่เดินมาแถวนี้พร้อมกับเซียงซั่น เมื่อเงยหน้ามองแล้วเห็นเฉินเสียนอยู่ที่ศาลานางจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะก้าวเข้าไปดีไหม ทว่ายังมีความกล้าพอที่จะไม่หันหลังกลับ
เหตุผลที่มีบอกหลิ่วเหมยอู่ว่านางไม่ควรปะทะกับเฉินเสียนตรงๆ
ทว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่หลิ่วเหมยอู่โปรดปรานแต่ตอนนี้กลับถูกเฉินเสียนยึดครองไป หากนางยอมถอยไปตอนนี้ ต่อไปนางจะต้องทนเฉินเสียนตลอดไปเลยหรือเปล่า
โชคดีที่ฉินหรูเหลียงห่วงใยเอาใจใส่หลิ่วเหมยอู่ ถ้าหลิ่วเหมยอู่เกิดมีปัญหา เฉินเสียนเองก็จะต้องมีปัญหาเช่นกัน
เมื่อคิดได้อย่างนี้หลิ่วเหมยอู่ก็รู้สึกสงบลง
นางเดินเข้าไปในศาลาช้าๆ และทักว่า “องค์หญิงก็มาชมดอกซิ่งเหมือนกันหรือเพคะ”
เฉินเสียนหรี่ตามองหลิ่วเหมยอู่อย่างพินิจพิเคราะห์ตั้งแต่หัวจรดเท้า เธอเคาะนิ้วที่เปลือยเปล่าลงบนโต๊ะอย่างสบายอกสบายใจก่อนจะกล่าวว่า “ข้ามาที่นี่ไม่ได้เหรอ”
หลิ่วเหมยอู่เพียงแค่ยิ้ม ยังไม่ทันกล่าวอะไรเซียงซั่นที่อยู่ข้างๆ ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ที่นี่คือที่ที่นายหญิงชอบมา นายหญิงชอบดอกซิ่ง แล้วป่าดอกซิ่งแห่งนี้ท่านแม่ทัพก็ปลูกขึ้นเพื่อนายหญิง หากองค์หญิงชอบชมดอกซิ่งจริงๆ ที่อื่นก็ยังมีให้ชม นายหญิงชอบความสงบ จึงอยากนั่งที่นี่แต่เพียงลำพัง”
หลิ่วเหมยอู่ตำหนิอย่างอ่อนหวานว่า “อย่าไร้มารยาทกับองค์หญิง” พูดจบก็นั่งลงตรงข้ามกับเฉินเสียน “ถ้าองค์หญิงชอบก็ย่อมมาได้อยู่แล้วเพคะ”
เซียงซั่นช่วยจัดวางกู่เจิงให้หลิ่วเหมยอู่ หลังจากนั้นไม่นานเสียงอันพลิ้วไหวของกู่เจิงก็ดังขึ้น
เสียงกู่เจิงฟังไพเราะเสนาะหูชวนให้เคลิบเคลิ้ม
เมื่อบรรเลงเพลงจบลง หลิ่วเหมยอู่จึงถอนหายใจเบาๆ เหงื่อออกเล็กน้อย “องค์หญิงคงจะหัวเราะเยาะ”
“เจ้าเล่นได้ดี ไม่แปลกใจที่ฉินหรูเหลียงจะชอบมันมาก”
ขณะนั้นเอง มีสาวใช้คนหนึ่งเดินมาที่นี่พร้อมกับถือของบางอย่างในมือ
เซียงซั่นเห็นแล้วก็ยิ้มทันที “นายหญิง นั่นคงเป็นรังนกที่โรงครัวตุ๋นเสร็จแล้ว บ่าวจะนำมาให้นะเจ้าคะ”
รังนกถ้วยหนึ่งพร้อมกับอาหารว่างอย่างดีถูกนำมาวางลงบนโต๊ะ กลิ่นหอมชวนรับประทาน
หลิ่วเหมยอู่ขยับช้อน เมื่อเห็นเฉินเสียนมองนางตาไม่กะพริบ นางจึงยิ้มและถามว่า “มีอะไรผิดปกติหรือเพคะองค์หญิง”
เฉินเสียนเหลือบมองรังนกและยิ้มจางๆ “นี่คือของที่เหลียนชิงโจวส่งมาให้ใช่หรือไม่”
หลิ่วเหมยอู่ชะงักไปนิดหนึ่ง
เซียงซั่นจึงกล่าวว่า “หมอบอกว่าร่างกายขององค์หญิงไม่เหมาะจะกินของเหล่านี้ จะทิ้งไว้เฉยๆ ก็เสียเปล่า ครั้งก่อนองค์หญิงให้นายหญิงดื่มยาหม้อนั่นเข้าไป ทำให้นายหญิงอ่อนเพลียอยู่หลายวัน ท่านแม่ทัพสงสารที่ร่างกายของนายหญิงอ่อนแอ จึงมอบของเหล่านี้ไว้ให้นายหญิงบำรุงร่างกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรแล้ว”
หลิ่วเหมยอู่เอ่ยอย่างอ่อนหวานว่า “ของเหล่านี้เดิมทีเตรียมไว้สำหรับองค์หญิง แต่ท่านแม่ทัพยืนกรานว่าหม่อมฉันต้องกินเพื่อบำรุงทุกวัน ร่างกายจะได้กลับมาแข็งแรงโดยเร็ว”
เฉินเสียนแย้มยิ้มมุมปากและกล่าวว่า “ข้าเห็นว่าผิวหน้าของเจ้าดูผุดผ่อง ช่างเป็นการบำรุงที่ถูกจุดจริงๆ”
หลิ่วเหมยอู่กินของเหล่านั้นอย่างพอใจอยู่สองสามคำก่อนจะกล่าวว่า “องค์หญิงคงไม่โกรธหม่อมฉันใช่ไหมเพคะ”
เฉินเสียนตอบว่า “ข้าโกรธไปก็ไม่มีประโยชน์ มันไม่ดีต่อร่างกายข้า เจ้าค่อยๆ ใช้มันเถอะ ระวังอย่าบำรุงมากเกินไปจนให้โทษแทนเสียละ”
เฉินเสียนสะบัดแขนเสื้อและลุกขึ้นเดินผ่านหลิ่วเหมยอู่ไป หลังจากนั้นเธอจึงเดินชมดอกซิ่งไปอย่างเบิกบานใจตลอดทางที่กลับไปยังสวนสระวสันตฤดู
ด้วยตำแหน่งแม่ทัพ ฉินหรูเหลียงจึงต้องออกไปว่าราชการในตอนเช้าสามวันติดต่อกัน เฉินเสียนจับเวลาและเลือกสถานที่ที่หลิ่วเหมยอู่จะพบเธอได้ตลอดเวลา
หลิ่วเหมยอู่ไม่เชื่อว่าเฉินเสียนจะไม่โกรธเลยเมื่อเห็นนางกินอาหารบำรุงกำลังหายากซึ่งมีคนมอบให้นางต่อหน้าเช่นนี้
ทุกๆ ครั้งหลิ่วเหมยอู่กินอย่างมีความสุขเต็มที่
เฉินเสียนคิดว่าเกือบจะถึงเวลาแล้ว
ผลสุดท้ายก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากในเรือนของหลิ่วเหมยอู่
เมื่อเช้านี้นางยังสบายดีอยู่ ตอนบ่ายก็เพียงแค่ดื่มชาหญ้าปักกิ่ง แต่ผ่านไปยังไม่ทันไรหลิ่วเหมยอู่ก็เริ่มมีเลือดกำเดาไหลทั้งยังทำให้มันหยุดไม่ได้
ฉินหรูเหลียงเพิ่งกลับมาจากข้างนอกพอรู้ก็ตกอกตกใจ พร้อมกับที่สั่งคนให้ไปตามหมอเขาก็รีบเข้าไปหาหลิ่วเหมยอู่ในเรือน
ขณะนั้นเฉินเสียนกำลังนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง ในมือประคองถ้วยชาไว้ บนตักมีหนังสือวางไว้เล่มหนึ่ง
เห็นได้ว่าเฉินเสียนรู้สึกสบายใจและปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในยุคโบราณเช่นนี้ได้ดีมาก ก่อนหน้านี้ตอนเป็นดาราเธอยุ่งจนไม่มีเวลา แต่ในที่สุดตอนนี้ก็มีเวลาพักผ่อนอย่างสุขสบาย
เธอกำลังอ่านหนังสืออย่างสบายใจและไม่ได้ขมวดคิ้วเลยแม้แต่น้อยเมื่อได้ยินนางจ้าวพูดถึงเรื่องเหล่านี้
ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่เธอคิด
แน่นอนว่านางจ้าวรู้ว่านี่คือผลที่เกิดขึ้นจากหูจี้
หูจี้มีฤทธิ์ให้ความร้อน ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เฉินเสียนแอบใส่ลงไปในอาหารบำรุงกำลังของหลิ่วเหมยอู่ตลอดสองสามวันที่ผ่านมา คงเป็นเรื่องแปลกถ้าเลือดกำเดาของหลิ่วเหมยอู่จะหยุดได้ง่ายๆ!
หูจี้ที่เข้าไปในปากของหลิ่วเหมยอู่ย่อมถูกย่อยไปแล้ว แม้ว่าหมอหลวงจะมาวินิจฉัยเอง อย่างดีก็แค่วินิจฉัยว่าหลิ่วเหมยอู่กินของบำรุงมากเกินไป ธาตุไฟจึงแตก
ไม่มีอะไรนอกเหนือจากนี้
แม่บ้านจ้าวยังคงเอ่ยอย่างเป็นกังวลว่า “สองสามวันมานี้องค์หญิงทรงพบกับนายหญิงน้อยตลอด ถ้าหากว่านายหญิงน้อยยืนกรานว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับองค์หญิง องค์หญิงคิดไว้หรือยังเพคะว่าจะทำเช่นไร”