รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 197 เรื่องในอดีตไม่สามารถย้อนกลับไปได้

สิ่งที่พ่อมู่กับแม่มู่พูดเมื่อกี้ก็ไม่ได้โกหก ตอนนั้นที่พวกเขาขับรถชนคุณป้าจี้หลิงชวน ตอนนั้นไม่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวตระกูลจี้ที่หนีออกมา ถ้าตอนนั้นพวกเขารู้ให้ความกล้าขนาดไหนพวกเขาก็คงไม่กล้าชนเธอหรอก
พอชนคุณป้าจี้หลิงชวนเสีย แล้วเป็นข่าวใหญ่ พวกเขาถึงรู้ว่าพวกเขาชนลูกสาวตระกูลจี้
เพราะฉะนั้นตอนนั้นพ่อมู่จึงสั่งแม่มู่ห้ามบอกเรื่องมู่ซีซีเด็ดขาด! ไม่งั้นสักวันคงสืบมาถึงตัวพวกเขาสองคน!
สีหน้านายหญิงจี้เข้มขรึมแล้วจ้องพ่อมู่กับแม่มู่ไว้ ความโกรธบนใบหน้าไม่ลดลงเลย พร้อมพูดอย่างเยือกเย็นว่า “บอกมา! ฉันอยากฟังเหตุการณ์ทั้งหมดตอนนั้น!”
พ่อมู่กับแม่มู่สบตากัน แม่มู่เงยหน้ามองนายหญิงจี้แล้วตอบว่า “งั้นฉันพูดแล้วกัน……”
แม่มู่พูดแล้วเหมือนนึกอะไรออก ขอบตาจึงแดง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
แม่มู่จมอยู่กับความทรงจำ แล้วเอ่ยพูดว่า “เรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ สิบเก้าปีก่อน ตอนที่เราสองคนท้องลูกคนที่สอง ตอนนั้นบริษัทที่เราเปิดเริ่มมีกำไรแล้ว เพราะฉะนั้นเราสองคนจึงตั้งตารอลูกคนนี้มาก”
“ตั้งครรภ์มาสิบเดือน พอคลอดลูกแล้ว เราค่อยรู้ว่าเด็กคนนั้นมีโรคหัวใจที่อันตรายมากแล้วก็โรคกำเริบอื่นๆอีก รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลไปหนึ่งเดือนกว่าๆ สถานการณ์ของลูกก็หนักขึ้นเรื่อยๆ”
“คุณหมอบอกเราว่าถ้าอยากช่วยชีวิตเด็ก ต้องรีบทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ตอนนั้นเราอยากรักษาเด็กไว้ แต่ว่าจะหาหัวใจที่เหมาะสมมาเปลี่ยนได้ยากมาก แล้วตอนนั้นฉันก็ได้ยินมาโดยบังเอิญว่ามีเด็กผู้หญิงที่เกิดวันเดียวกันเวลาเดียวกันกับลูกสาวของฉัน ไม่เพียงแค่นั้น กรุ๊ปเลือดของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกับของลูกสาวของฉันเป๊ะเลย! แล้วหัวใจของเด็กผู้หญิงคนนั้นก็แข็งแรงมากด้วย!”
ขณะพูดแม่มู่ก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม ร้องไปด้วยแล้วพูดต่อว่า “ตอนนั้นเราเห็นว่าคนที่ดูแลเด็กผู้หญิงคนนั้นมีแค่ผู้หญิงคนเดียว แล้วดูไม่เหมือนคนรวย เราอยากช่วยลูกสาวตัวเองเกินไป ก็เลยมีความคิดไม่ดีๆ……ตอนนั้นในโรงพยาบาลไม่มีกล้องวงจรเหมือนตอนนี้ พอฉันปรึกษากับสามีเสร็จแล้ว คืนนั้นฉันจะเป็นคนที่ไปขโมยเด็กคนนั้นมา แล้วสามีฉันก็ขับรถรอเราที่ประตูหลังโรงพยาบาล”
“ผู้หญิงที่ดูแลเด็กหลับไปแล้ว ฉันเลยขโมยเด็กได้สำเร็จ แต่ใครจะรู้ว่าฉันเพิ่งอุ้มเด็กไปที่ประตูหลังโรงพยาบาล ผู้หญิงคนนั้นที่นอนอยู่กลับตื่นแล้ววิ่งตามมา ฉันเลยรีบวิ่งแล้วพาเด็กขึ้นรถไป ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ตะโกนวิ่งตามหลังเรา ฉันกับสามีกลัวมาก……กลัวว่าเสียงของเขาจะทำให้คนอื่นสนใจ ตอนนั้นใจร้อน สามีฉันก็เลยขับรถไปชนผู้หญิงคนนั้น……”
ขณะพูดแม่มู่ร้องไห้แล้วปิดปากตัวเองพร้อมพูดเสียงสั่นอีกว่า “สามีฉันไม่ได้ตั้งใจจะชนเขา เราแค่ไม่อยากให้เขาตะโกนเสียงดังขนาดนั้น……เราคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะชนเขาจนตาย……”
แม่มู่นึกย้อนถึงเรื่องเมื่อสิบเก้าปีก่อน “เราชนเขาแล้วเรากลัวมาก เลยรีบขับรถหนีออกไปจากเมืองนั้น เราเลยขับรถมาที่เมืองหรง”
“ทีแรกเราติดต่อหมอให้ทำการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้ลูกสาวไว้แล้ว แต่คิดไม่ถึงจริงๆ เพราะเราขับรถหนีมาที่เมืองหรงทั้งคืน ระหว่างทางลูกสาวฉันรอไม่ไหวแล้ว”
“เพิ่งส่งถึงโรงพยาบาลลูกสาวฉันก็จากไปแล้ว……น่าตลกจริงๆ เราคิดหาทุกวิถีทางแย่งลูกคนอื่นมาอยากผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจให้ลูกสาวตัวเอง แต่ไม่ทันผ่าตัดลูกสาวฉันก็ตายไปแล้ว!”
“ลูกสาวของเราตายไปแล้ว เด็กที่ขโมยมาก็ไร้ประโยชน์……ตอนนั้นฉันกับสามีอยากเอาเด็กไปทิ้งที่หน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่วันนั้นเราเห็นข่าวที่คุณหนูตระกูลจี้โดนรถชนจนตาย แล้วทางตำรวจก็ตามหาเจ้าของรถแล้วก็เด็กทารกผู้หญิง เราค่อยรู้ว่าคืนนั้นคนที่เราชนจนตายเป็นลูกสาวตระกูลจี้ ตอนนั้นเรากลัวมาก ถ้าเอาเด็กผู้หญิงไปทิ้งที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ถ้าสืบไม่แน่อาจจะสืบมาถึงตัวพวกเรา เราทำอะไรไม่ได้เลยต้องปิดเรื่องนี้ไว้ แอบเอาศพของลูกสาวไปฝั่งที่บ้านเกิด แล้วเลี้ยงเด็กผู้หญิงที่ขโมยมาแทนลูกสาวตัวเองเพื่อหลอกสายตาคนอื่น”
“แล้วเด็กผู้หญิงที่ขโมยมาก็คือมู่ซีซี……”
ตอนที่แม่มู่พูดประโยคนี้จบ มู่ซีซีที่ฟังอยู่ข้างๆน้ำตาก็ไหลเต็มหน้าแล้ว
ถึงแม่มู่กับพ่อมู่ไม่เคยสนใจเธอเลย แต่มู่ซีซีไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะไม่ใช่ลูกของแม่มู่กับพ่อมู่
ที่แท้ที่แม่มู่กับพ่อมู่ไม่ดีกับเธอมาโดยตลอด แล้วที่แม่มู่ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อมู่อวี๋เฟย เพราะว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อมู่กับแม่มู่!
เธอเป็นแค่เครื่องมือที่ทั้งสองสามีภรรยาขโมยมาเพื่อช่วยลูกสาวตัวเอง ในสายตาพวกเขา เธอไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นแค่หัวใจดวงหนึ่งที่สามารถช่วยลูกสาวของพวกเขาได้!
แล้วพ่อแม่ที่เธอคิดกลับเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่แท้ๆของเธอแทน!
เหอะ สวรรค์กำลังเล่นตลกกับมู่ซีซีเหรอ!
นายหญิงจี้ข้างๆที่ได้ยินสิ่งที่แม่มู่พูดแล้ว โกรธจนอารมณ์ขึ้น จากนั้นจึงตบโต๊ะเสียงดัง นายหญิงที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีไม่พูดคำหยาบอยู่แล้ว แต่สายตากลับแดงเพราะความโกรธกำลังเอ่อล้นออกมา
พวกเขาทำแบบนี้ได้ยังไง เพื่อช่วยลูกสาวตัวเองแต่กลับชนลูกสาวท่านตาย แถมยังแย่งหลานสาวของท่านไปอีก!
จี้หลิงชวนข้างๆเห็นคุณย่าตัวเองโกรธจนพูดอะไรไม่ออก จึงรีบลูบหลังปลอบใจท่าน กลัวว่าเดี๋ยวท่านอารมณ์ขึ้นจะเป็นอะไรไป จากนั้นจึงพูดกับแม่บ้านจางว่า “แม่บ้านจาง! รีบโทรเรียกคุณหมอส่วนตัวมา!!!”
แม่บ้านจางได้ยินจี้หลิงชวนสั่งจึงรีบไปโทรศัพท์ทันที
ตอนนี้เรื่องชัดเจนแล้ว จี้หลิงชวนมองทั้งสองสามีภรรยาที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างเยือกเย็น แล้วสั่งบอดี้การ์ดอย่างเลือดเย็นว่า “เอาหลักฐานไป แล้วส่งตัวสองคนนี้ไปที่โรงพัก!”
สุดท้ายมีแต่เสียงโอดครวญขอร้องอ้อนวอนของสองสามีภรรยาที่โดนบอดี้การ์ดลากตัวไปที่โรงพัก
จี้หลิงชวนโทรศัพท์ไปที่โรงพักด้วยตัวเอง ความจริงเมื่อสิบเก้าปีก่อนที่คุณป้าเกิดเรื่องก็เป็นคดีแล้ว ตอนนี้ฆาตกรทั้งสองสามีภรรยามู่ถูกจับแล้ว แถมยังจงใจฆ่ากับเข้าข่ายลักพาตัวเด็กทารกอีก!
เพราะอารมณ์นายหญิงขึ้น ตอนที่ส่งตัวสองสามีภรรยาไปที่โรงพักแล้วจึงเป็นลมทันที ยังโชคดีจี้หลิงชวนให้โทรเรียกคุณหมอมาแล้วจึงรีบช่วยเหลือนายหญิงทันที

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ

ความบ้าเพียงชั่วข้ามคืน เธอสูญเสียร่างกาย เขาสูญเสียหัวใจ เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ทันใดนั้นเขาก็กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าพี่เขยของเธอ! เธอวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก เขากดทุกย่างก้าวไว้ และทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา! จากที่คิดว่าเขารับเธอยิ่งกว่าชีวิต เและคิดว่าการได้พบกับเขาเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตของเธอ ความจริงก็ถูกเปิดเผย ปรากฎว่าตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลายเป็นตัวตลกที่น่าสงสารที่สุด! จี้หลิงชวน ฉันหวังว่าฉันจะไม่ต้องพบคุณอีกในชีวิตนี้! —— มู่ซีซี

Comment

Options

not work with dark mode
Reset