รักเธอยิ่งกว่าชีวา คะนึงหาเธอจนเป็นนิจ – ตอนที่ 195 ความจริง？？？

มู่อวี๋เฟยเพิ่งยื่นเอกสารในมือออกไป ในชั่วพริบตาเดียว จู่ ๆ เอกสารในมือของมู่อวี๋เฟยก็ถูกแย่งไป
มู่อวี๋เฟยเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ และพบกับแววตาที่เยือกเย็นของจี้หลิงชวน
เมื่อดวงตาทั้งสี่ประสานกัน มู่อวี๋เฟยก็รู้สึกว่าเย็นวาบที่ด้านหลัง มู่อวี๋เฟยหวาดกลัวจนถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
ในเวลาต่อมา เสียงที่เย็นชาและไร้ความปรานีของจี้หลิงชวนก็ดังขึ้น：“เอาคนบ้าคนนี้ออกไป！！！”
เมื่อจี้หลิงชวนพูดจบ บอดี้การ์ดทั้งสองคนก็มาพาตัวมู่อวี๋เฟยออกไปในทันที ยังไม่ทันได้ก้าวออกไป เสียงของนายหญิงจี้ก็ดังขึ้น：“ช้าก่อน！”
ในขณะที่พูดนายหญิงจี้ก็มองไปที่เอกสารที่จี้หลิงชวนแย่งไปและพูดว่า：“หลิงชวน ส่งเอกสารนั่นมาให้ย่า”
จี้หลิงชวนจ้องมองไปที่นายหญิงจี้ด้วยสายตาที่เย็นชา นี่เป็นครั้งแรกที่จี้หลิงชวนมองย่าของตัวเองด้วยสายตาที่แข็งกร้าวอย่างนี้ เมื่อจี้หลิงชวนอยู่ต่อหน้าย่าของตัวเอง เขาจะเป็นคนที่อ่อนโยนและเป็นมิตรมาโดยตลอด
จี้หลิงชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่นายหญิงจี้และพูดว่า：“คุณย่า มู่อวี๋เฟยไม่ใช่คนดี สิ่งที่เธอพูดไม่สามารถเชื่อถือได้！”
“หลิงชวน ย่ายังไม่แก่จนเลอะเลือน แยกแยะด้วยตัวเองได้！” ในขณะที่พูดนายหญิงจี้ก็มองไปที่เอกสารที่อยู่ในมือของจี้หลิงชวน เธอพูดซ้ำอีกรอบว่า：“หลิงชวน เอาเอกสารมาให้ย่า！！！”
จี้หลิงชวนมองไปที่ย่าที่มีความแน่วแน่และกลัวว่าย่าจะหงุดหงิด ดังนั้นจี้หลิงชวนจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยื่นเอกสารในมือออกไป
คุณหญิงจี้อ่านเอกสารทั้งหมดอย่างละเอียดทีละบรรทัด สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ในตอนท้ายเธอดูเหมือนจะนึกถึงเรื่องบางอย่างที่ทำให้เสียใจ ดวงตาของเธอเปียกชื้น และมือที่ถือเอกสารอยู่ก็สั่น สีหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นและมองไปที่มู่ซีซีที่ยืนอยู่กลางเวที
เมื่อจี้หลิงชวนเห็นสีหน้าท่าทางที่ย่าของตัวเองมองมู่ซีซีแล้ว หัวใจของเขาก็สั่นไหวและขมวดคิ้วแน่น
ในเวลาต่อมา นายหญิงจี้ก็รีบกล่าวขอโทษทุกคนว่า：“ขอบคุณมากที่ทุกท่านมาที่นี่ในวันนี้ แต่วันนี้คงต้องสิ้นสุดเพียงเท่านี้ งานแต่งงานนี้ได้ถูกยกเลิกแล้ว”
นายหญิงจี้ประกาศออกไปโดยตรง ลู่เฉิงฮ่าว เวินจิ่ง และซูอวี่โม่ที่อยู่ข้างหลังจี้หลิงชวนมองไปที่สีหน้าที่มืดมนของจี้หลิงชวน และหันไปมองมู่ซีซี เจ้าสาวที่ยังคงยืนอยู่บนเวทีอย่างทำอะไรไม่ถูก และสุดท้ายก็มองไปที่สีที่เย็นชาของคุณย่าจี้
อืม เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ซับซ้อนมาก！
หลังจากที่นายหญิงจี้ประกาศไปเมื่อสักครู่ เธอก็ให้บอดี้การ์ดพาตัวมู่อวี๋เฟยไป และเรียก ให้จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีขึ้นไปบนรถและจากไป
ลู่เฉิงฮ่าว เวินจิ่ง และซูอวี่โม่จัดการกับเรื่องที่เหลือ
ลั่วเสี่ยวชิงที่ยังคงสวมชุดเพื่อนเจ้าสาวมองดูมู่ซีซีที่ถูกพาขึ้นรถด้วยความงุนงง หลังจากนั้นก็ได้สติกลับมา และไม่เข้าใจว่าทำไมงานแต่งงานที่ดี จู่ ๆ พี่สาวของมู่ซีซีก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วบอกว่ามู่ซีซีเป็นลูกพี่ลูกน้องของจี้หลิงชวน พวกเขาจะแต่งงานกันไม่ได้แล้วก็เกิดความวุ่นวายขึ้น
นายหญิงจี้พาคนสองสามคนตรงกลับไปที่บ้านหลักของตระกูลจี้
มู่อวี๋เฟยยังคงยืนถูกบอดี้การ์ดทั้งสองคนประกบซ้ายขวา และยืนอยู่ตรงหน้านายหญิงจี้
นายหญิงจี้จ้องมองไปที่มู่ซีซีที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่รักใครเอ็นดูอยู่นาน มู่ซีซียังไม่มีเวลาได้เปลี่ยนชุดแต่งงานออก เนื่องจากคอเสื้อของชุดแต่งงานเป็นลูกไม้ เมื่อนายหญิงจี้มองอย่างละเอียดก็เห็นสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกที่มู่ซีซีใส่ติดตัวไว้ตลอด
สีหน้าของนายหญิงจี้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เธอยังคงมีบางอย่างที่ไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกนี้ หินก้อนใหญ่ที่แขวนอยู่ในใจของนายหญิงจี้ก็ร่วงหล่นลงมา นายหญิงจี้จ้องมองไปที่มู่ซีซีแล้วน้ำตาแห่งความตื้นตันใจก็ซึมออกมา จากนั้นก็โบกมือเรียก：“ซีซี เธอเข้ามาใกล้ ๆ หน่อยได้ไหม？เธอให้ฉันดูสร้อยคอที่เธอสวมที่อยู่หน่อยได้ไหม？”
เมื่อได้ยินที่นายหญิงจี้พูด มู่ซีซีก็เหลือบมองสร้อยคอที่ตัวเองสวมอยู่โดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็หันไปมองนายหญิงจี้ และเมื่อเห็นน้ำตาที่ซึมออกมาของนายหญิงจี้ มู่ซีซีก็ใจอ่อน เธอเดินไปข้างหน้านายหญิงจี้ แล้วถอดสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกที่ตัวเองสวมอยู่ที่คอยื่นให้นายหญิงจี้
นายหญิงจี้ยื่นมือออกไปหยิบสร้อยคอรูปดาวห้าแฉกที่มู่ซีซียื่นมาให้และตรวจสอบจี้ของสร้อยคอดูอย่างละเอียด นายหญิงจี้น้ำตาซึมและอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลออกมา
มือที่ถือสร้อยคอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาจ้องไปที่มู่ซีซี และพูดพึมพำกับตัวเองว่า：“นี่เป็นสร้อยคอของเยว่เอ๋อร์ ตอนที่เยว่เอ๋อร์อายุสิบแปด ฉันมอบให้เป็นของขวัญกับเธอด้วยตัวเอง！”
สร้อยคอนี้นายหญิงจี้สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมอบให้ลูกสาวของตัวเอง ดังนั้นจึงมีอักษรย่อชื่อป้าของจี้หลิงชวนที่อยู่บนสร้อยคอ
ในตอนแรกที่นายหญิงจี้รับสร้อยคอนี้มา เธอก็เห็นอักษรย่อที่คุ้นเคยอยู่ใต้จี้ ดังนั้นเธอจึงมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่ามู่ซีซีเป็นหลานสาวของเธอที่หายตัวไปเมื่อหลายปีก่อน
นายหญิงจี้มองไปที่มู่ซีซีอย่างตื้นตันใจและพูดต่อว่า：“ซีซี เธอจำได้ไหมว่าได้สร้อยคอนี้มาได้ยังไง？”
มู่ซีซีมองไปที่นายหญิงจี้อย่างจริงใจและส่ายหัว：“หนูจำไม่ได้ค่ะ……หนูรู้แค่ว่าหนูสวมสร้อยคอนี้มาตั้งแต่เด็ก”
นายหญิงจี้พยักหน้าซ้ำ ๆ แล้วจับมือของมู่ซีซีอย่างตื้นตันใจและต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่จู่ ๆ จี้หลิงชวนก็ก้าวเข้ามาอย่างเงียบ ๆ และเข้ามาคั่นกลางระหว่างย่าของตัวเองกับมู่ซีซี เขาหันไปมองย่าของตัวเองด้วยสายตาที่นิ่งสงบ：“คุณย่า คุณย่าใจเย็น ๆ ก่อนนะครับ ในตอนนี้ไม่สามารถตัดสินได้เพียงแค่คำพูดของมู่อวี๋เฟย ความถูกต้องของหลักฐานที่เธอพูดมายังคงต้องได้รับการพิจารณา”
เมื่อได้ฟังที่จี้หลิงชวนพูด สีหน้าของนายหญิงจี้ก็ต่อย ๆ สงบลง สายตาของเธอยังคงมองไปที่มู่ซีซีด้วยความรักใคร่เอ็นดู และรีบสั่งแม่บ้านจางที่อยู่ข้าง ๆ ว่า：“แม่บ้านจาง รีบไปรินชาร้อนมาให้คุณหนูสักแก้วสิ ”
เมื่อแม่บ้านจางได้ยินอย่างนั้นก็รีบรินน้ำแล้วยื่นให้มู่ซีซีด้วยความเคารพ มู่ซีซีรับไว้อย่างมีมารยาทและกล่าวขอบคุณนายหญิงจี้
มู่อวี๋เฟยที่อยู่ข้าง ๆ เห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างนายหญิงจี้กับมู่ซีซีแล้ว แววตาของความอิจฉาริษยาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ และความรู้สึกอิจฉาก็วนเวียนอยู่ในใจตลอดเวลา！
ทำไมชีวิตของมู่ซีซีถึงได้ดีขนาดนี้？！ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม้ว่าเธอจะไม่แต่งงานกับจี้หลิงชวน นายหญิงจี้ก็โปรดปรานมู่ซีซี！！！
เธอเกลียดมาก เกลียดมากจริง ๆ ！
นี่เป็นสาเหตุที่ในตอนแรกมู่อวี๋เฟยลังเลที่จะเปิดเผยสรุปผลการสืบ หลังจากที่ได้อ่านสรุปผลการสืบทั้งหมดแล้ว
ถ้าหากไม่เปิดเผยออกไปก็ทำได้เพียงมองดูจี้หลิงชวนกับมู่ซีซีแต่งงานกัน แต่ถ้าหากเปิดเผยออกมาแล้ว จี้หลิงชวนกับมู่ซีซีก็จะไม่แต่งงานกัน แต่ไม่ใช่เพียงแค่มู่ซีซีจะไม่ได้อยู่กับจี้หลิงชวนแล้ว แต่เธออาจจะได้ใช้ชีวิตอยู่เหมือนเจ้าหญิง！