รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 700 ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล

บทที่ 700 ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
สมบัติของตระกูลป่ายมีเท่าไหร่ ก็พอๆกับอำนาจ รวมกันแล้วมากกว่าห้าพันล้าน จางฉีเซินค่อยๆครอบครอง ค่อยๆแทะเล็มตระกูลป่าย สุดท้ายถูกบังคับให้ส่งมอบทรัพย์สิน
ตระกูลป่ายโดนบีบบังคับอย่างจำใจ จ้างเหว่ยฝ่าเทียนในราคาสูง เพื่อฟ้องร้องคดีให้ตน
เหว่ยฝ่าเทียนเห็นค่าตอบแทนเยอะ บวกกับทนการกระทำเลวๆของจางฉีเซินไม่ได้ จึงช่วยเอาสมบัติตระกูลป่ายกลับมาอย่างสุดความสามารถ
เพราะสิทธิ์ในการครอบครองทรัพย์สินชัดเจน สมบัติเป็นของตระกูลป่ายอย่างไม่ต้องสงสัย เขาจึงเอาอสังหาริมทรัพย์พันล้านกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเช่นนี้ สมบัติที่ผ่านคำตัดสินของศาล จางฉีเซินอยากยึดเอาไปก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว จางฉีเซินจึงโกรธแต้นเหว่ยฝ่าเทียนมาก ส่งคนมาติดสินบนเหว่ยฝ่าเทียนหลายครั้ง แต่เหว่ยฝ่าเทียนปฏิเสธไปหมด สุดท้ายจางฉีเซินโกรธจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ ลักพาตัวเหว่ยฝ่าเทียนและครอบครัวของเขา
“หมอเทพฉิน ได้โปรดคิดหาวิธี ช่วยผมช่วยลูกเมียด้วย”เหว่ยฝ่าเทียนมองฉินหลั่งพลางวิงวอน“ขอแค่คุณช่วยพวกเขากลับมาได้ชาตินี้ผมซาบซึ้งบุญคุณ ชาติหน้ายอมเป็นวัวเป็นม้า”
เหว่ยฝ่าเทียนมีเส้นสายกว้างขวางมาก แต่หลังลูกเมียตนถูกลักพาตัว เขาขอให้เพื่อช่วยหลายครั้ง แต่ไม่มีใครยอมช่วยเลย โดยปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
ความหวังเดียวของเขาตอนนี้คือฉินหลั่ง ฉินหลั่งมีฝีมือ ทักษะทางการแพทย์สูง แถมยังตอบรับคำวิงวอนของเขา ดังนั้นเขาจึงคาดหวังไว้มาก
ฉินหลั่งไม่ใช่คนธรรมดาๆแน่
“ไม่ต้องห่วง คนในครอบครัวคุณไม่เป็นอะไรแน่”ฉินหลั่งเรียบเฉย จากนั้นเหยียบคันเร่งตรงไปยังตระกูลจาง
ตอนบ่าย5โมงครึ่ง ฉินหลั่งและเหว่ยฝ่าเทียนมาถึงสวนตระกูลจาง
“ใคร？”
ฉินหลั่งและเหว่ยฝ่าเทียนยังไม่ถึงประตู ก็มีชายกำยำสวมชุดสีดำ4คนเดินออกมา
ตุ๊บ！ฉินหลั่งไม่อยากเสียเวลา รีบเดินเข้าไป ชนชายกำยำ4คนกระเด็นออกไป กลิ้งอยู่7-8รอบถึงจะหยุด เลือกกระอักออกจากปาก
ประตูถูกชายกำยำทั้ง4ชนจนเปิดออก ฉินหลั่งกำลังจะเข้าไป ก็มีชายกำยำ3คนตะโกนขึ้น“ใคร？！”
ฉินหลั่งถีบอีกฝ่ายกระเด็นออกไป เสียงกระดูกหักดังโป๊ะๆๆ สภาพอนาถจนทนดูไม่ได้
ฉินหลั่งก้าวข้ามร่างพวกเขาโดยไม่มองแม้แต่น้อย ตามด้วยเหว่ยฝ่าเทียนที่มีสีหน้าหวาดกลัว
เหว่ยฝ่าเทียนตกตะลึงมาก คิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะเก่งกาจขนาดนี้ คล่องแคล่วกว่าการต่อสู้ที่บ่อน้ำเมื่อครู่อีก เขารู้สึกว่าครั้งนี้เจอผู้สูงศักดิ์เข้าจริงๆแล้วล่ะ ลูกเมียมีทางรอดแล้ว
“ศัตรูบุก！”
พอถึงบ้านตระกูลจาง ทีมลาดตระเวนของตระกูลจางก็ตกใจทันที แล้วเป่านกหวีด เสียงนกหวีดเสียงดังสนั่น จากนั้นทีมลาดตระเวนออกมาพร้อมอาวุธ วิ่งไปทางด้านฉินหลั่ง
“ตุ้บๆๆ！”
ฉินหลั่งลงมือก่อนเพื่อประหยัดเวลา เขาฆ่าอย่างดุเดือด คนเหล่านี้ล้วนฝีมือดี แต่สำหรับฉินหลั่งนี่เป็นเหมือนหุ่นไล่กา ที่พยายามต่อต้านกองหนึ่งก็แค่นั้น
คนอื่นจะชักปืนออกมายิง แต่โดนฉินหลั่งทำเอาวุ่นวายไปหมด กระทั่งปืนก็โดนบิดเป็นเกลียว
ไม่นานนัก ผู้คุ้มกันของตระกูลจางยิ่งมาเยอะขึ้นๆ แต่โดนฉินหลั่งซัดน่วมไป30กว่าคนเพียงชั่วพริบตา
ไม่นานนัก ฉินหลั่งกับเหว่ยฝ่าเทียนก็มาอยู่ตรงหน้าอาคารหลักตระกูลจาง
หน้าสระว่ายน้ำทรงกลมขนาด300ตารางเมตร
ผู้คุ้มกัน50กว่าคนของตระกูลจางเข้ามาล้อม ในมือมีทั้งดาบและปืน ท่าทางดุดัน
“แม่ง แกกล้ามาพาลที่นี่ ไม่ดูหน่อยเหรอว่ามันที่ไหน？！อยากตายงั้นเหรอ？”
“ตระกูลจางของเย็นจีน คิดจะบุกก็บุกเข้ามาได้เหรอ วันนี้พวกแกต้องตาย！”
“เด็กน้อยอวดดี ความตายอยู่ตรงหน้าแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
ทั้ง50กว่าคนส่งเสียงโห่ร้อง อยากฆ่าฉินหลั่งให้ตาย ฉินหลั่งกำแหงขนาดดี บ่งบอกได้ว่าผู้คุ้มกันพวกนี้ไร้ประโยชน์แค่ไหน จึงเป็นที่ฮือฮา
แม้ในใจเหว่ยฝ่าเทียนจะเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่เมื่อเห็นศัตรูล้อมแน่นหนาแบบนี้ คนเลวโฉดชั่ว ตาก็กระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
ขณะเดียวกัน เขาก็ชื่นชมความสงบของฉินหลั่ง ไม่ผันแปรแม้แต่น้อย กลับกันคือผ่อนคลายมาก ดูถูกมากๆ
ที่ฉินหลั่งดูถูกก็มีเหตุผล หมาที่ชอบเห่ามันไม่กัด เห็นท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟันของพวกเขา ฉินหลั่งรู้สึกตลกมาก
ส่วนเหว่ยฝ่าเทียนไม่คิดว่าฉินหลั่งจะเป็นธรรมขนาดนี้ เดิมทีคิดว่าตระกูลจางเป็นสถานที่สำคัญ ฉินหลั่งคงเจรจาผ่านเส้นสายตระกูลจาง แต่คิดไม่ถึงแค่ใช้ฝีมือการต่อสู้ ก็เข้ามาในแกนกลางสำคัญของตระกูลจางได้
เหว่ยฝ่าเทียนเคยเป็นหนุ่ม มีความเลือดร้อนบ้าง เคยบูชาฮีโร่ที่ฆ่าศัตรูเพียงลำพัง วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะได้เจอ เขากระตือรือร้นขึ้นมาทันที คิดว่าตายเป็นเพื่อนฉินหลั่ง วันนี้ไม่ถือว่าโง่ คุ้มค่าแล้ว
“อย่าไร้สาระ？เห่าเสร็จรึยัง？”ฉินหลั่งเดินไปยังเก้าอี้ข้างสระว่ายน้ำช้าๆ แล้วนั่งลงพลางหยิบซิการ์ขึ้นมา จากนั้นจุดฟังสูบไปสองที
ในควันจางๆ สีหน้าฉินหลั่งเฉยชาเหมือนกัน ลึกซึ้งคาดเดายาก ท่าทางเหมือนลูกพี่ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด ทำเอาผู้คุ้มกันพวกนี้งุนงง มองฉินหลั่งอย่างอึ้งๆ
“เรียกคนดูแลของที่นี่ออกมา ย้ำว่าคนที่ใหญ่ที่สุด ผมจะให้เวลาพวกคุณ……”
ทุกคนยิ่งงงเข้าไปอีก ใครกัน จัดการตระกูลจางซะราบคาบ ตอนนี้ยังสั่งให้บอดี้การ์ดของตระกูลจางวิ่งไปเรียกเจ้านาย？
“สารเลว！แกเป็นใคร？”ผู้ชายในชุดสูทเดินออกมาจากกลุ่มคน พลางชี้หน้าฉินหลั่งตะโกนเสียงดัง สีหน้าน่ากลัว
พูดไม่ทันจบฉินหลั่งก็โจมตี ควันบนซิการ์ลอยละล่องไปยังชายชุดสูท ชายชุดสูทยังไม่ทันตั้งตัว ตาก็โดนควันจู่โจม เห็นแค่ควันในอากาศ เข้าตาฝ่ายตรงข้ามดั่งกระสุน ชายชุดสูทหน้าถอดสี จากนั้นรีบปิดตา
เสียงร้อง เสียงร้องอย่างน่าเวทนา น่าอนาถกว่าฆ่าหมูอีก ชายชุดสูทกลิ้งไปมากับพื้น จากนั้นตาข้างหนึ่งก็เลือนลาง ดูจากสภาพนั้นเห็นได้ชัดว่ามองอะไรไม่เห็นแล้ว
แค่เขม่าควัน เณ็วดังกระสุน แค่พริบตาก็ทำลายดวงตาชายชุดสูท ไม่มีใครทำได้จริงๆ
ชายชุดสูททั้งตกตะลึง โกรธแค้น และทำอะไรไม่ถูก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าฉินหลั่งจะยเก่งขนาดนี้
เขาไม่ใช่คนไม่มีชื่อเสียง แต่คือจางเวิ่นต้าว นักศิลปะการต่อสู้ระดับสูงของตระกูลจาง พลังภายในระดับกลาง นึกไม่ถึงจะถูกฉินหลั่งจัดการแค่ทีเดียวก็เดี้ยงแล้ว
แม้จางเวิ่นต้าวไม่ได้เตรียมตัวป้องกัน แต่ควันยิงทำร้ายตาคนได้ ศิลปะการต่อสู้ของอีกฝ่ายอัศจรรย์จริงๆ
ฉินหลั่งสูบซิการ์ต่อ ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งที่3ที่เขาสูบ แต่ไม่มีอาการสำลักสักนิด ดูเหมือนลูกพี่ใหญ่จริงๆ
“บอกให้คนดูแลของตระกูลจางออกมา ผมเรียกคุณเหรอ？”ฉินหลั่งเอาซิการ์จี้จางเวิ่นต้าว
ขณะนั้นเอง มีชายชราชุดคลุมสีดำเกินมาจากไกลๆ เดินผ่านทุกคนไป แล้วมายืนตรงหน้าฉินหลั่งอย่างมีระเบียบ
เหว่ยฝ่าเทียนตกใจ คนคนนี้คือคนที่ทำร้ายบอดี้การ์ด แล้วจับตัวลูกเมียของตนไปเมื่อวาน
“ฉัน เซิ่งโส่ว ผู้อาวุโสสำนักในของตระกูลจางเซิ่งโส่ว”
ชายชราชุดดำมองฉินหลั่งอย่างเยือกเย็น ท่าทางน่ากลัว
“น้องชายฝีมือไม่ธรรมดา ฉันเห็นเป็นประจักษ์ แต่ตระกูลจางไม่ใช่จะรังแกได้ง่ายๆ หึๆ……”
จู่ๆเสียงเซิ่งโส่วก็ชะงักไป เพราะมีกริชปักคอเขา
คมมีดแทงทะลุผิวหนังเซิ่งโส่ว เลือดไหลอาบ แค่ดันไปด้านหน้า เซิ่งโส่วก็กลายเป็นมือผีแล้ว
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ？เรียกคนดูแลของพวกคุณมา！”ฉินหลั่งพูดเย็นชา“คนดูแล สภาพคุณแบบนี้เป็นคนดูแลได้งั้นเหรอ？”
สีหน้าเซิ่งโส่วดูไม่ได้ สายตาตื่นตระหนกและโกรธ แต่แฝงไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย
ถ้ารู้ว่าเขาพลังภายในระดับสูง ก็ระดับเดียวกับส้งซื่อหยูน การออกคำสั่งในกองทัพไม่มีปัญหาแน่นอน แต่แค่กระบวนท่าเดียวฉินหลั่งก็ล็อคคออีกฝ่ายได้แล้ว เหมือนปีศาจร้ายอย่างคาดไม่ถึง
เซิ่งโส่วกลายเป็นเชลยของฉินหลั่ง อย่างไม่มีพลังต่อต้าน สามารถถูกเหยียดหยามได้ตามใจ
“พูด”ฉินหลั่งดันกริชเข้าไปอีก เลือกจากคอเซิ่งโส่ว ไหลไปถึงหน้าออกตามแนวผ้า เซิ่งโส่วได้กลิ่นความตายแล้ว เขารู้หากทรยศแม้แต่น้อย ก็จะตายทันที
เซิ่งโส่วตอบอย่างตรงๆ“ไม่ได้！”
ฉึบ！
ฉินหลั่งตัดแขนเซิ่งโส่วจนกระเด็นออกไปอย่างง่ายดาย เซิ่งโส่วอดกลั้น กดฟันทนความเจ็บปวดแล้วถอยออกไป เขาที่มีสีหน้าน่ากลัว ยิ่งใหญ่เมื่อครู่ ตอนนี้ไม่กล้าอวดดีอีกแล้ว ปิดปากไม่กล้าพูดอะไร
ทุกคนอึ้ง มองภาพตรงหน้าอย่างตกใจ เสียวกระดูกสันหลังวาบ คนคนนี้พลังแกร่งกล้ามาก แกร่งกล้าจนไม่อยากจะเชื่อ
“ฮ่าๆๆ……”
ขณะนั้นเองหญิงชราคนหนึ่งก็ส่งเสียงแปลกๆออกมา ปรากฏตัวบนยอดตึกจากไกลๆ เหาะลงมาจากด้านบนราวค้างคาวดำ
“พ่อหนุ่ม คุณเก่งและกล้าหาญมาก แต่เย็นจีนอันกว้างใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่เด็กรุ่นหลังอย่างคุณจะนึกออก”
“อ่านสถานการณ์ออก……”
ฉึบ！
ฉินหลั่งปากริชในมือออกไป ปาไปยังตำแหน่งที่มาของเสียง
“อ้าก！”
ภายใต้เสียงกรีดร้อง หญิงชราชุดดำกุมไหล่พลางล้มลงกับพื้น ไม่มีทางโต้ตอบแม้แต่น้อย
กระอักเลือดออกมา สายตาตกตะลึงและสิ้นหวัง
เหตุการณ์นี้ ทำเอาจางเวิ่นต้าวและเซิ่งโส่วหน้าซีดเผือด
พวกเขาจึงรู้ได้ว่า ประเมินฉินหลั่งต่ำไปเอามากๆ
หญิงชราชุดดำมีฉายาว่าค้างคาว เป็นเครื่องเซ่นไหว้ของตระกูลจาง พลังภายในยอดเก่งกาจ แต่สกัดมีดของฉินหลั่งไม่ได้
“ใครเป็นคนดูแลพูดออกมา”
“ส่วนคนอื่นหุบปาก”ฉินหลั่งพูดอย่างเย็นชา เสียงลากยาว เป็นคำพูดไม่น่าฟังแต่ชัดเจน เสียงก้องกังวานไกล จนเข้ามาในใจ
ทุกคนเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าส่งเสียง ตอนนี้ตระกูลจางกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นนี้ แต่กลับไม่กล้าส่งเสียง ทุกคนต่างรู้สึกไม่เป็นธรรม โกรธ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ความยิ่งใหญ่ของฉินหลั่ง ถึงระดับขัดต่อสวรรค์แล้ว พวกเขาไม่กล้าบุ่มบ่าม
“ฉันจางหย่าร่อ เป็นคุณหนูคนโตของตระกูลจาง ขอกล่าวทักทายน้องชาย”
ขณะนั้นเองก็มีเสียงน่าลุ่มหลงดังขึ้น จากนั้นผู้หญิงในชุดสีม่วงก็ปรากฏตัวตรงหน้าฉินหลั่ง มีบอดี้การ์ดติดตามด้วย2-3คน
ผู้หญิงคนนี้อายุ20กว่าๆ รูปร่างดี ใบหน้าขาวผ่องและงดงาม ยิ้มอย่างสดใส จนเห็นฟันขาวราวกับหยก ให้ความรู้สึกใกล้ชิดสบาย ๆมากๆ