บทที่ 625 เย้นนีสอบได้ลำดับที่หนึ่ง
ฉินหลั่งหยุดความคิดนี้ไว้ชั่วคราว จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องโถงเพื่อสอบถามสถานที่สอบ
ที่นี่เป็นห้องประชุมที่ใหญ่โตมากสามารถจุคนได้ถึงสองสามพันคนทีเดียว
ห้องประชุมจัดวางโต๊ะเก้าอี้ไว้พันกว่าชุด ข้างบนวางด้วยกระดาษดินสอที่เหมือนกัน รอบด้านยังมีกล้องวงจรปิดหลายสิบตัว
ฉินหลั่งกวาดสายตาไปรอบ ก็พบว่าจำนวนพันกว่าคนที่เข้าสอบ กำลังหาที่นั่งสอบของตัวเอง
ฉินหลั่งวนหาหนึ่งรอบ ก็เจอที่นั่งของตัวเองอย่างรวดเร็ว เลขที่ 705
ที่ทำให้เขาคาดคิดไม่ถึงก็คือ เย้นนีพวกเขาก็นั่งอยู่ข้างหน้าเขาพอดี
ทำให้เย้นนีพวกเขาส่ายหัวอีกครั้ง ยิ่งเชื่อมั่นว่าที่ฉินหลั่งมาสอบก็เพราะว่ามาจีบเย้นนีแน่นอน
“ฉินหลั่ง แล้วยังบอกว่าไม่ใช่ทำเพื่อฉัน?”
เย้นนีหันหลังมามองฉินหลั่งแล้วพูดล้อเล่นว่า “ไม่งั้นที่นั่งทำไมถึงได้อยู่ใกล้กันขนาดนี้? คงเสียเงินไปไม่น้อยสิ?”
ฉินหลั่งพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ผมมาสอบจริงๆ”
“ฮ่าๆ สอบหรือ คุณรู้จักแพทย์แผนจีนไหมคะ?”
เย็นนี้พูดอย่างเสียไม่ได้ว่า “สอบข้อเขียนคราวนี้ มีข้อสอบ100ข้อ 150 คะแนน ถ้าคุณสอบได้ 50 คะแนน ฉันก็จะให้โอกาสคุณจีบฉัน ไม่เช่นนั้นแล้วก็ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้”
“กล้าพนันหรือเปล่า?”
พวกกลุ่มเพื่อนสาวก็หันมายิ้มแล้วมองไปยังฉินหลั่ง
ฉินหลั่งขมวดคิ้ว “ไร้สาระ”
“ทุกคนโปรดเงียบสักครู่ กรุณาปิดมือถือ แล้วเอาหนังสือมาวางไว้ข้างหน้า เตรียมตัวสอบได้”
ในเวลานั้นเอง บนเวทีก็ปรากฏชายหนุ่มวัยกลางคน เขาถือไมโครโฟนแจ้งเตือนทุกคนให้อยู่ในความสงบ
“เวลาสอบทั้งหมด 3 ชั่วโมง ผู้เข้าสอบจำนวน 1, 200 คน คะแนนจะนับเรียงจากมากไปหาน้อย”
“100 คนแรก เข้ารอบไปสอบระดับจังหวัด”
“เวลาสอบห้ามคุยกัน ห้ามทุจริต ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์ในการสอบ และห้ามลงสมัครสอบภายใน 5 ปี เข้าชื่อในบัญชีดำทุจริต”
“การคุมสอบ การตรวจข้อสอบ เป็นหน้าที่รับผิดชอบของสมาชิกสมาคมแพทย์แผนจีน
“ผู้ตรวจสอบยาพวกเขารับผิดชอบการคุมสอบ การตรวจข้อสอบ การแจกข้อสอบ และประกาศผลการสอบ”
“ท่านประธานหวังรับผิดชอบในการเดินตรวจตราครั้งนี้ รับผิดชอบการตรวจซ้ำ การรับรอง รับเรื่องร้องเรียนต่างๆ”
หลังจากการประกาศของชายวัยกลางคน ชายหญิงจำนวน 10 กว่าคนก็ลุกขึ้นแสดงตัว ต่างก็ทักทายผู้เข้าสอบ
หนึ่งในนั้นมีผู้สูงวัยรูปร่างสูงใหญ่เป็นที่โดดเด่น รูปร่างแข็งแรงบึกบึน แสดงถึงอำนาจบารมี ประธานสาขาสมาคมแพทย์แผนจีนเย็นจีน หวางเสินหนง
ในห้องสอบจำนวนพันกว่าคนก็สงบเงียบลง ต่างนั่งอยู่ที่นั่งสอบของตัวเองเพื่อรอการทำข้อสอบ
เย้นนีก็ไม่ได้มาวอแวกับฉินหลั่ง นั่งบนเก้าอี้กระดกขาทั้งสองข้างขึ้น แล้วเริ่มทำข้อสอบ
ฉินหลั่งก็สงบอารมณ์ตัวเอง หยิบดินสอขึ้นมา
หวางเสินหนงพวกเขาก็ออกไปจากสนามสอบในไม่ช้า แต่ว่าก็ยังเหลืออยู่ 5-6 คน
พวกเขาเอามือไขว้หลังแล้วเดินสำรวจโดยรอบ แน่นอนต้องเป็นคณะกรรมการที่รับผิดชอบการสอบครั้งนี้
ทันใดนั้น มีสายตาจดจ้องมายังฉินหลั่ง
ฉินหลั่งเงยหน้าขึ้นตามความรู้สึกของจิตใต้สำนึก
สายตาของทั้งสองฝ่ายประสานกัน
อู๋เสี่ยวฮุย!
ฉินหลั่งยังไงก็นึกไม่ถึงว่า จะมาเจอกับอู๋เสี่ยวฮุยในสถานที่สอบเช่นนี้
ตอนนั้นที่สวนสนุกไอ้หมอนี่ไม่ได้รักษาหลู่เหม่ยเฉินให้หาย หลังจากถูกพ่อบ้านหลิ่วไล่ออกจากสำนักงานแล้ว ฉินหลั่งคิดว่าเขาคงจะไม่มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าตัวเองอีกแล้ว กลายเป็นส่วนประกอบเล็กน้อยของประสบการณ์ชีวิตไปแล้ว
ผลสุดท้าย อู๋เสี่ยวฮุยกลับกลายเป็นหนึ่งในผู้รับผิดชอบในการสอบครั้งนี้
ฉินหลั่งแอบบ่นในใจว่าโลกใบนี้มันช่างแคบเหลือเกิน เขาสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นบนใบหน้าของอู๋เสี่ยวฮุย ยังมีสายตาที่เย็นชาแฝงไปด้วยเล่ห์กลอยู่ภายใน
แต่ว่าฉินหลั่งก็ไม่ได้ไปสนใจมากนัก สำหรับเขาแล้วอู๋เสี่ยวฮุยไม่สามารถที่จะก่อกวนอะไรได้อีก
“โปรดเงียบ เริ่มสอบได้แล้ว”
กระดาษข้อสอบถูกแจกอย่างรวดเร็ว ขัอสอบมี 100 ข้อ มีเรื่องที่เกี่ยวกับวิธีการตรวจโรค ประเภทยาจีน การออกใบสั่งยา และอื่นๆอีกมากมาย
ในหนึ่งพันกว่าคนคัดเลือกเหลือ100คน ดูเหมือนจำนวนคนที่เลือกไม่น้อย แต่ก็เป็นสิบต่อหนึ่ง ดังนั้นข้อสอบจึงมีความยากมากทีเดียว
เมื่อเย้นนีพวกเธอรับกระดาษข้อสอบแล้วก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ฉินหลั่งอ่านดูคร่าวๆ แต่ก็ไม่ตื่นเต้นอะไร หยิบดินสอขึ้นมาก็เริ่มเขียนข้อสอบ
สำหรับคนที่เคยศึกษาคัมภีร์การปรุงยามาแล้ว ก็มีความมั่นใจเกี่ยวกับเรื่องการรักษาทางยาอย่างมาก
คณะกรรมการคุมสอบหลายคนดูรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าปกติ นอกจากในห้องประชุมใหญ่มีกล้องตรวจสอบที่เพียงพอแล้ว อีกอย่างหนึ่งก็คือข้อสอบมีความยากมาก จะทุจริตการสอบก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าทำไม่ดีอาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดทำข้อสอบที่ตอบถูกต้องกลายเป็นตอบผิดไปได้
ดังนั้นพวกเขาเดินตรวจดูสองรอบแล้ว ก็หยิบดินสอขึ้นมาลองทำข้อสอบปรนัยและเติมคำในช่องว่าง ดูว่าตัวเองสามารถสอบได้กี่คะแนน……..
อู๋เสี่ยวฮุยก็ลองทำข้อสอบด้วยเหมือนกัน
เวลาสามชั่วโมงในการทำข้อสอบ ฉินหลั่งไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ทำเสร็จแล้ว ส่วนใหญ่เวลาก็ใช้ไปในหัวข้อบรรยายทฤษฎี
เมื่อทำเสร็จแล้ว ฉินหลั่งก็ตรวจทานหนึ่งรอบ จากนั้นก็นำข้อสอบไปส่งให้กรรมการคุมสอบ
ใช้เวลาไม่มากไม่น้อย พอดีหนึ่งชั่วโมงเต็ม
ทุกคนในห้องสอบเห็นแล้วก็ตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนส่งข้อสอบก่อนเวลาในประวัติการสอบมา
เย้นนีพวกเธอมองดูข้อสอบตัวเองเพิ่งจะทำได้ครึ่งหนึ่งเท่านั้น แล้วมองดูการจากไปอย่างเท่ๆของฉินหลั่ง สีหน้าแสดงถึงความไม่แยแส
ไม่ต้องสงสัย เป็นเพราะฉินหลั่งทำข้อสอบไม่ได้ ฉะนั้นจึงรีบส่งกระดาษข้อสอบจะได้จบเรื่องไป
อีกอย่างหากส่งข้อสอบก่อนเวลา ก็จงใจที่จะดึงดูดความสนใจจากเย้นนีได้
เย้นนีรู้สึกผิดหวังมาก “ลูกเล่นแบบนี้ ปัญญาอ่อนเกินไป”
“ปัญญาอ่อน! เสียดายค่าสมัครสอบ”
อู๋เสี่ยวฮุยสีหน้าแสดงถึงความแดกดัน นึกว่าฉินหลั่งคงเห็นว่าตัวเองรับผิดชอบในการสอบ รู้ว่าตัวเองสอบไม่ผ่านแน่ จึงส่งกระดาษเปล่าแล้วรีบออกไป
เขาหยิบเอาข้อสอบของฉินหลั่ง เตรียมที่จะส่งไปให้แผนกตรวจข้อสอบ
ขณะเดียวกัน เขาก็กวาดสายตามองไป
ไม่ดูก็จะดีกว่า แต่พอดูแล้ว เขาก็ยิ่งตกใจชะงักไปเลย
นี่ไม่ใช่กระดาษข้อสอบเปล่า แต่เป็นกระดาษข้อสอบที่ทำเสร็จไว้หมดแล้ว
ที่ทำให้เขาตกใจมากก็คือ คำตอบข้างหน้าเหมือนกับของที่ตัวเองทำไว้ทุกอย่าง
นอกจากคำตอบบางข้อที่มีปัญหา หลังจากผ่านการตรวจสอบแล้ว คำตอบของฉินหลั่งก็ยังถูกต้อง……….
อู๋เสี่ยวฮุยสีหน้าแตกตื่น
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร……..”
ประสิทธิภาพการทำงานของสมาคมแพทย์แผนจีนสูงมาก ไม่เพียงแต่จัดวางกำลังคนคุมสอบที่เพียงพอแล้ว ยังเตรียมสมาชิกจำนวนมากสำหรับการตรวจข้อสอบ
ดังนั้นสอบเสร็จตอนเช้า ตอนบ่ายก็รู้ผลการสอบแล้ว
5นาฬิกา5นาที บนเวทีห้องประชุม อู๋เสี่ยวฮุยกับผู้รับผิดชอบบางส่วนนำเอากระดาษข้อสอบที่ผ่านการสแกนแล้ว แจกคืนให้กับเจ้าของทีละใบ
สีหน้าของทุกคนก็ดูตื่นเต้นไปตามคะแนนที่ประกาศ
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของเย้นนีและพวกแล้ว ฉินหลั่งกลับดูสงบนิ่งเหลือเกิน
200 กว่าคนแรกล้วนได้คะแนนเจ็ดแปดสิบคะแนน พวกอยู่ลำดับที่หลายร้อย ก็ไม่ต้องสงสัยที่จะต้องถูกคัดออก
ทำให้บรรยากาศเพิ่มความกดดันมากขึ้น
“หลิวจิง สอบได้107 คะแนน อยู่ลำดับที่ 97”
ทั่วทั้งห้องก็ส่งเสียงโห่ร้อง ถึงแม้คะแนนไม่น่าฟัง แต่ลำดับที่ก็ติดเข้ารอบสอบระดับจังหวัดได้
หลิวจิงคนที่ถูกขานชื่อก็ส่งเสียงโห่ร้อง
“ ป๋ายวั่งเหนียน สอบได้คะแนน 113 คะแนน อยู่ลำดับที่ 78”
“หยางฝูจง สอบได้คะแนน 108 คะแนน อยู่ลำดับที่ 93”
คนที่ได้คะแนนดีก็ถูกขานชื่อออกมา ในห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้อง ทำให้แรงกดดันลดน้อยลงมา
“เย้นนี สอบได้คะแนน 130 คะแนน ได้ลำดับที่ 1”
คะแนนที่ประกาศออกมานี้ ทำให้ตกตะลึงกันไปทั่วทั้งห้อง คะแนนนี้ทำให้คนจำนวนมากแทบจะลมจับ ต่างมองไปทางเย้นนี
คนส่วนใหญ่ก็จะแอบชื่นชมในใจว่าเพียบพร้อมทั้งความงามและความฉลาด
เย้นนีเดินออกไปรับผลสอบด้วยท่าทางหยิ่งผยอง แล้วจงใจหันไปเหลือบมองฉินหลั่ง ด้วยสายตาที่เหยียดหยามอย่างบอกไม่ถูก
เหมือนกำลังจะพูดว่า เธอและฉินหลั่งอยู่กันคนละโลก
แจกกระดาษผลสอบไปหนึ่งชั่วโมงก็แจกหมอแล้ว ทุกคนก็ได้รับกระดาษผลสอบ ยกเว้นแต่ฉินหลั่งที่ยังไม่ได้รับ
ไม่ต้องรอให้เย้นนีพวกเขาพูดเยาะเย้ยถากถาง ฉินหลั่งก็รีบลุกขึ้นมาพูดว่า
“ท่านกรรมการสอบครับ ผมยังไม่ได้รับกระดาษข้อสอบคืนเลยครับ”
ไม่มีกระดาษข้อสอบ?
สายตาจำนวนมากมายหันมามองอย่างทันควัน
เย้นนีส่งเสียงหัวเราะ
“สงสัยคะแนนจะต่ำเกินไป กรรมการสอบคงอายที่จะออกมาแจก เพื่อรักษาหน้าคุณไงล่ะ”
“คุณยังจะกล้ามาขอกระดาษข้อสอบคืนอีก ไม่กลัวขายหน้าหรืออย่างไร?”
กลุ่มเพื่อนสาวและผู้เข้าสอบที่อยู่ใกล้เคียงส่งเสียงหัวเราะออกมา
อู๋เสี่ยวฮุยดูเหมือนรู้อยู่ก่อนแล้วว่าฉินหลั่งต้องถามแน่ จึงตอบด้วยสีหน้าเย็นชา
“ฉินหลั่ง ที่ไม่แจกคืนกระดาษข้อสอบให้คุณ คุณก็น่าจะรู้ดีอยู่แก่ใจไม่ใช่หรือ? ”
ฉินหลั่งตอบยังไม่เกรงใจ “ในใจผมไม่รู้อะไรหรอกครับ ผมรู้แต่ว่าผมไม่มีกระดาษข้อสอบ แล้วก็ไม่รู้ว่าได้คะแนนเท่าไหร่”
“ที่ไม่แจกคืนกระดาษข้อสอบให้คุณ เป็นเพราะว่าทางแผนกจัดสอบรู้สึกว่าคุณทุจริตในการสอบ”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 625 เย้นนีสอบได้ลำดับที่หนึ่ง
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment