รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 624 เวทมนตร์แปลงร่างของเย้นนี

บทที่ 624 เวทมนตร์แปลงร่างของเย้นนี
ฉินหลั่งถอนหายใจแล้วพูดว่า “แต่ว่านายก็อย่ากังวลใจมาก ท่านเหลียนพวกเขาน่าจะควบคุมสถานการณ์ของอาการป่วยได้อยู่”
“พวกเขาใช้วิธีการรักษาตัวให้ดีขึ้นก่อน แล้วใช้แผ่นการรักษาด้วยวิธีดึงกระดูกก็มาถูกทางแล้ว”
“ก่อนอื่นต้องรักษาแผลที่เหลือให้หายดีก่อน ให้ร่างกายของสู้ส้งหุ้ยเฉียวดีขึ้น แล้วการผ่าตัดก็จะมีความเสี่ยงน้อยลง”
เขาพูดปลอบส้งฉางซิงว่า “พวกนายก็ให้คู่เคอช่วยเหลือสิ คณะมือผ่าตัดระดับสุดยอดที่เขาดูแลอยู่ก็มีประสบการณ์ชั้นเลิศทั้งนั้น”
“พี่ชายฉันก็กำลังติดต่อคู่เคออยู่”
ส้งฉางซิงเก็บความรู้สึกที่อึดอัดไว้ “แต่ว่าเจ้าหมอนั่นก็วิ่งไปซีเหมิงแล้ว ได้ข่าวว่าได้รับรางวัลเหรียญพิเศษของอัศวินด้วย”
“ช่วงนี้เขามีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว มีผลงานที่โดดเด่น อาจความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นประธานสมาคมรักษาระหว่างประเทศคนต่อไปก็ได้นะ”
เขาพูดกระเซ้าว่า “น้องฉิน พยายามหน่อยนะ ลูกศิษย์นายตอนนี้ชื่อเสียงโด่งดังล้ำหน้านายไปแล้วนะ”
ฉินหลั่งตอบด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ คราวนี้ถ้วยเปี่ยนเชวี่ย ฉันดังเป็นพลุแตกแน่”
“ดีแล้วล่ะ น้องฉิน ไม่รบกวนนายไปสอบแล้วนะ”
ส้งฉางซิงมองดูเวลา แล้วเตรียมจะยุติการสนทนา “อีกอย่างฉันก็จะต้องไปจัดการเรื่องงานขยะกองโตของบ้านตระกูลหยางอีก”
“ตระกูลหยางมีโรงงานผลิตยาขนาดใหญ่ ได้ค้นพบยาชนิดใหม่เป็นยาทารักษาบาดแผลเรียกว่ายาปายตระกูลหยาง ประสิทธิภาพสูงถึง 5 ดาวเลยทีเดียว สามารถใช้ห้ามเลือดและสมานแผลได้รวดเร็วมาก”
“ไม่ถึงหนึ่งเดือนก็สามารถตีตลาดได้สูงถึงเจ็ดส่วน”
“ไอ้เลวหยางจ้างกั๋วก็ใจดำเหลือเกิน สินค้าทุกงวดไม่ขายราคาตามปกติ แต่ใช้วิธีประมูลสดโดยตรงหน้าโรงงาน คนที่เสนอให้ราคาสูงก็จะเป็นคนได้สินค้าไป”
“ใช้วิธีนี้แล้ว ไม่เพียงแต่ทำให้หยางจ้างกั๋วได้กำไรมหาศาลแล้ว แต่ยังทำให้ตัวแทนจำหน่ายก็ทะเลาะกันเพื่อแย่งสินค้ากันทุกวัน”
“ไม่กี่วันมานี้ก็มีคนได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนแล้ว เกิดเป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลเลวร้ายขึ้น
“ถ้าวันนี้ฉันไม่จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นล่ะก็ คาดว่าพรุ่งนี้เบื้องบนก็คงจัดการฉันแน่นอน”
ส้งฉางซิงพูดอย่างรวดเร็วจนจบ สุดท้ายอวยพรว่า “น้องฉิน ขอให้ทุกอย่างราบรื่นนะครับ”
เมื่อวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉินหลั่งก็ไม่ได้รีบขับรถออกไป ได้แต่ทำตาหรี่แล้วครุ่นคิด
ยาปายตระกูลหยาง?
ยาทารักษาแผล?
หยางจ้างกั๋วคนนี้ ดูเหมือนว่าจะรู้เรื่องการรักษาด้วยยาจีนด้วย
เขาจดจำชื่อสองสามตัวนี้ ในสมองก็เกิดความคิดบ้าบิ่นแล่นออกมา
จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปให้หลงเย้น เพื่อให้เธอช่วยหาข้อมูลของยาปายตระกูลหยางทั้งหมด
เรื่องคดีของเมิ่งหมิงหมิง ฉินหลั่งแน่ใจว่าจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับหยางจ้านกั๋วแน่นอน จึงควรที่จะให้เขาได้รับผลกรรมบ้าง
หลังจากส่งข้อความไปแล้ว ฉินหลั่งจึงเหยียบคันเร่ง ขับรถยังอาคารแพทย์แผนจีนที่ห่างออกไปอีกสิบกว่ากิโลเมตร
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉินหลั่งก็ปรากฏตัวอยู่หน้าอาคารแพทย์แผนจีน
ยังไม่ถึงแปดโมงครึ่ง ที่จอดรถก็เกือบจะเต็มหมดแล้ว มองไปทั่วก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย มีจำนวนไม่น้อยที่มาเข้าสอบแข่งขัน
ฉินหลั่งกวาดสายตาไปทั่ว สังเกตเห็นว่าอย่างน้อยต้องมีหนึ่งพันคนที่ลงสอบแข่งขัน แอบนึกในใจว่าถ้วยเปี่ยนเชวี่ยนี้มีอิทธิพลส่งผลไม่น้อยเลยทีเดียว
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ฉินหลั่งหรือ?”
ฉินหลั่งเดินเข้าไปหน้าประตูอาคารแพทย์แผนจีน ได้ยินน้ำเสียงประหลาดใจแว่วมาจากด้านข้าง ตามมาด้วยกลิ่นน้ำหอมโชยมา
เขาหันหน้าไปมองก็เห็นหญิงสาวหลายคน เดินเข้ามาใกล้ตัวเองด้วยรอยยิ้มมีเลศนัย
คนที่เดินอยู่ข้างหน้าสุด หน้าตาดูดี แต่งกายด้วยเสื้อสีน้ำตาลไว้ในกระโปรงดำ ในตัวก็มีกลิ่นน้ำหอมจางๆโชยออกมา
ฉินหลั่งรู้สึกว่าเธอหน้าคุ้น “คุณคือ….”
“เป็นอย่างไรบ้างคะ? จำฉันไม่ได้หรือคะ?”
หญิงสาวในกระโปรงดำยิ้มมุมปากเล็กน้อย แสดงสีหน้าดีใจ “ฉันคือเย้นนีไงคะ”
“เย้นนีหรือ?”
ฉินหลั่งได้ยินก็ตกใจ จากนั้นก็ตบหัวเบาๆ “เปลี่ยนแปลงไปมากเลยนะ”
ฉินหลั่งยื่นมือออกไป “นานแล้วไม่ได้เจอกัน ดูคุณเปลี่ยนเป็นสวยขึ้นนะ”
เมื่อก่อนเย้นนีเคยวางยาพิษ แต่เขาก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเธอ เพราะยังไงก็ถูกคนหลอกลวง เย้นนีก็รู้สึกสำนึกผิดเหมือนกัน จึงเกิดความละอายใจเมื่อเห็นเขากับจงยู่
“อันที่จริงแล้ว คุณก็จำฉันได้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมคะ?”
นึกไม่ถึงว่าเย้นนีไม่ได้ยื่นมือมาจับมือฉินหลั่ง เพียงแต่มองดูเขาแล้วส่ายหัว
“เพียงแต่แกล้งทำเป็นว่าเจอกันโดยบังเอิญใช่ไหมคะ?”
“ฮ่าย เวลาก็ผ่านไปนานแล้วนะ คุณก็ยังหาฉันเจอจนได้ ทำเพื่ออะไรกัน……”
นายท่านเอ๊ย!
อะไรคือบังเอิญ!
อะไรคือหาคุณจนเจอ!
อย่ามาดราม่าได้ไหม?
ฉินหลั่งมองดูเหมือนจิตตกว้าวุ่น
นี่มันก็อะไรกับอะไรฉันก็แค่มาสอบแข่งขัน
เย้นนีสะบัดผมเบาๆ แล้วจ้องมองฉินหลั่งด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย
“ฉินหลั่ง คุณชอบฉันมาโดยตลอดเลยใช่ไหมคะ ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ แต่ว่าตอนหลังฉันเข้าใจแล้ว คุณไม่ควรที่จะบ้าระห่ำถึงเพียงนี้เลย”
“ฉันคอยหลบหน้าคุณมาตลอด แต่ว่า ดูเหมือนคุณจะคอยติดตามร่องรอยของฉันมาโดยตลอดเลย”
“ฉินหลั่ง ฉันควรจะพูดยังไงกับคุณดีนะ”
อยู่ต่อหน้าเพื่อนสาวที่ยืนตกตะลึงอยู่ เย้นนีก็ยังคงหลงชื่นชมตัวเองต่อไป
“ฉินหลั่ง ฉันขอพูดอีกครั้ง แล้วก็เป็นครั้งสุดท้าย พวกเราคงเป็นไปไม่ได้หรอก”
เธอยักไหล่ “คุณก็ควรจะตายใจได้แล้วนะ อย่ามาเสียเวลากับตัวฉันเลย”
เพื่อนสาวที่มาด้วยก็ชื่นชมเย้นนีตอนนั้นที่สวยงามสะดุดตา จึงมองดูฉินหลั่งที่หน้าตาธรรมดาด้วยสายตาเหยียดหยาม
ขี้เหร่และยากจนแบบนี้ ยังมีหน้ามาจีบสาวสวยและรวยอย่างเย้นนีหรือ?
เย้นนีเคาะรองเท้าส้นสูงเบาๆ เดินไปข้างหน้า แล้วกะพริบดวงตาที่สวยงามทั้งสอง “ฉินหลั่ง ชาตินี้เราคงเป็นได้แค่เพื่อนดีไหมคะ?”
“เย้นนี คุณคิดมากไปแล้ว”
ฉินหลั่งจึงแสดงใบอนุมัติสอบให้ดู “ผมมาสอบข้อเขียนภาคทฤษฎีถ้วยเปี่ยนเชวี่ย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว”
“ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณจะมาปรากฏตัวที่นี่”
เขาใช้นิ้วชี้ไปที่ห้องโถง “นอกจากนี้ ผมก็ขอพูดอีกครั้งเหมือนกัน ผมไม่มีความรู้สึกอะไรกับคุณเลย และไม่เคยชอบคุณด้วย”
“หรือว่าคุณไม่รู้สึกว่าความคิดของคุณแปลกประหลาด อีกทั้งมีความผิดปกติทางความคิดด้านมโนภาพหรือเปล่าครับ?”
ฉินหลั่งรู้สึกว่า จิตใจเย้นนีคงจะไม่ค่อยปกติแล้วหรือ? ทำไมถึงได้พูดจาโกหกซึ่งหน้าเช่นนี้?
มองดูใบอนุมัติเข้าสอบ เย้นนีพวกเธอรู้สึกตกใจ ดูเหมือนนึกไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะมาสอบแข่งขัน แต่ว่าเย้นนีก็เก็บความเขินไว้อย่างรวดเร็ว ยิ้มแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่เคยชอบฉันเลยหรือ ฉันไม่เชื่อ ฉันสู้จงยู่ไม่ได้จริงๆหรือ? ฮ่าๆ เธอมีอะไรดี? ไม่ได้ใส่ใจฉันเลยจริงหรือ แล้วทำไมยังลืมฉันไม่ลง ไม่เพียงแต่รู้ว่าวันนี้ฉันจะต้องมาสอบแข่งขัน แล้วยังดันทุรังมาสอบสนามสอบเดียวกันกับฉันอีก?”
“คุณเป็นนักเรียนสายวิศวกรรมปลายแถว เดินทางไกลแสนไกลมาสอบแข่งขันด้านการแพทย์ที่เย็นจีน นี่เป็นความคิดของคนปกติหรือ?”
“แล้วยังบอกว่าไม่ใช่ทำเพื่อฉันอีก?”
“ได้แล้ว ยอมรับมาเลยค่ะ หน้าบางขนาดนี้ คุณคงจีบหญิงไม่ได้แน่นอน!”
เย้นนีอมยิ้ม ดูเหมือนว่ามองทะลุไปถึงภายในจิตใจของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งยิ่งรู้สึกอึดอัดมาก เย้นนีคนนี้ เขาเคยเห็นแก่หน้าจงยู่จึงไม่เอาเรื่องเธอ อีกอย่างเรื่องก็ผ่านมานานแล้ว เขาก็ให้อภัยอย่างที่สุดแล้ว แต่ว่าอีกฝ่ายก็ยังออกมาหาเรื่องป้ายสี ที่หาว่ามาเพื่อเธอโดยเฉพาะ ตอนนั้นเย้นนีใช้อุบายเจ้าเล่ห์อย่างไรที่มาตามจีบตัวเองเธอจำไม่ได้แล้วหรือ?
อีกอย่างคือ เย้นนีเรียนสายร้องเพลงเต้นรำ แล้วมาสอบแข่งขันการแพทย์แผนจีนได้อย่างไรกัน นี่ต่างหากที่ไม่ใช่ความคิดของคนปกติ​! เขากลับมีความรู้สึกว่า เย้นนีต่างหากที่จงใจที่จะมาหาเขา !
“เพียงแต่ว่า ไม่ว่าคุณจะพยายามอย่างไร ทุ่มเทความคิดจนหมดสิ้นแล้ว คุณก็ไม่อาจที่จะได้ตัวฉันหรอกค่ะ”
“ตอนนี้ฉันเป็นหมอในคณะแพทย์แผนจีนที่โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน แต่คุณกลับไม่มีอะไรเลยสักอย่าง พวกเราเหมือนอยู่กันคนละโลก”
“พี่น้องคะ พวกเราเข้าไปสอบกันเถอะ”
เย้นนีโบกมือเบาๆ แล้วพาพวกเพื่อนสาวเข้าไปในห้องโถง
ฉินหลั่งยื่นฉงน กฎระเบียบของโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนเขาก็รู้ดี แต่เย้นนีเปลี่ยนจากสายศิลปะกลางคัน มาเป็นหมอแผนจีนได้อย่างไร? นี่มันไม่ใช่เวทมนตร์แล้วมันคืออะไร?!
ที่น่าเบื่อกว่านั้นก็คือ ฉินหลั่งอ้าปากค้างมองดูหลังเย้นนีที่เดินจากไป ยังไงก็นึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองก็แค่มาสอบแข่งขัน
ยังทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นพวกหลงรักหญิงตามจีบไม่เลิก…….
เย้นนีคนนี้รู้จักพื้นเพความหลังของตัวเอง ฉินเทียนยังเคยสั่งสอนเธอ ฉินหลั่งรู้สึกว่า เรียกตัวเองว่าเป็นหมอจีนอย่างเย้นนีดูเหมือนแปลกประหลาดมากอย่างบอกไม่ถูก
อาจจะเป็นอาการของโรคทางจิตชนิดหนึ่ง ถึงแม้ดูเหมือนสดใสมาก ปกติมาก