รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 588 ความในใจ

บทที่ 588 ความในใจ
ฉินหลั่งเข็นรถเข็นพาหลินเส้าโสตรงไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวแต่วัดยังคงมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติเสมอ
ในระหว่างทางหลินเส้าโสเอ่ยถามขึ้นเสียงเบา “ฉินหลั่ง ที่บ้านแกยังมีคนอื่นหรือเปล่า?”
“หา? พ่อแม่ของผมอาศัยอยู่ แล้วก็มีคุณปู่ที่สุขภาพแข็งแรงด้วย” ฉินหลั่งพูดพร้อมกับคิดถึงบ้านเกิดของตัวเอง
ฉินหลั่งพูดพร้อมกับยิ้ม “ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเพิ่งจะได้เจอพวกท่านอยู่เลย แม่ยังแนะนำให้ผมรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยแต่น่าเสียดายที่ผมมีเจ้าของแล้ว”
“ใช่แล้ว กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงแกจนโตมันไม่ใช่เรื่องง่าย”
หลินเส้าโสพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ไว้วันหลังแกจะต้องแนะนำให้ฉันรู้จัก ฉันจะขอบคุณพวกเขาที่อบรมเลี้ยงดูแกจนเป็น…….หมอที่ยอดเยี่ยมแบบนี้”
ฉินหลั่งพยักหน้า “ได้ รอให้พวกท่านมาเย็นจีน ผมจะพาพวกท่านมาเยี่ยมอาหลินเอง”
“ไม่ ฉันต่างหากที่สมควรไปเยี่ยมพวกเขา”
หลินเส้าโสโบกมือหลังจากนั้นก็เปลี่ยนบทสนทนา “ได้ยินมาว่าแกรู้เกี่ยวกับวรยุทธด้วย?”
ฉินหลั่งไม่ได้ปิดบัง “อืม คงจะถือว่าเข้าใจมั้ง”
“เวลาเอ่ยถึงแม่แก แกดูมีความสุขขนาดนี้ต้องเป็นลูกกตัญญูแน่นอน”
หลินเส้าโสรู้สึกชื่นชมหลังจากนั้นก็จับหลังมือถือฉินหลั่ง “พ่อแม่ของแกไม่เคยเล่าเรื่องเกี่ยวกับตอนแกเป็นเด็กเหรอ?”
“หา? ตอนเป็นเด็ก จำไม่ได้แล้ว”
ในแววตาของฉินหลั่งปรากฏให้เห็นความโดดเดี่ยว “ผมจำอะไรไม่ได้เลย พ่อแม่ของผมก็เป็นคนยุ่งมากจำเรื่องราวในอดีตไม่ค่อยได้หรอก”
“เห้อ พูดถึงก็ถูก มีพ่อแม่คนไหนบ้างที่มักจะเล่าเรื่องในอดีตของลูกให้ฟังอยู่บ่อยๆ ฉันเข้าใจ พ่อแม่ของแกรักแกหรือเปล่า?”
“รักสิ จะไม่รักได้ยังไง” ฉินหลั่งรู้สึกแปลกใจ หลินเส้าโสยังคงสติเลอะเลือนถามคำถามที่แปลกประหลาด
“เห้อ ใช่แล้ว จะไม่รักได้ยังไงเนาะ……”
ในขณะที่พูดหลินเส้าโสเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยมองดูต้นไม้ที่เรียงรายอยู่ตามถนนข้างทาง
“แล้วถ้าสมมุติว่าแกมีพ่อแม่บุญธรรมกับพ่อแม่แท้ๆ แกจะสนิทกลับฝั่งไหนมากกว่ากัน ฉันหมายถึงหลังจากที่แกได้รู้จักพ่อแม่แท้ๆของแก” หลินเส้าโสพูดออกมาด้วยความยากลำบากและในแววตาเผยให้เห็นความกระตือรือร้น
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเส้าโส ฉินหลั่งรู้สึกอึ้งเล็กน้อยหลังจากนั้นก็ยิ้ม “คงจะแล้วแต่โชคชะตาละมั้ง ถ้าหากมีพ่อแม่สองคนจริง งั้นผมคงจะเลือกพ่อแม่บุญธรรมดีที่สุด เพื่อพ่อแม่บุญธรรมผมอาจจะไม่พบหน้าพ่อแม่ที่แท้จริงก็ได้ ผมจะไม่มีวันทำให้พ่อแม่บุญธรรมของผมต้องเสียใจ”
หลังจากที่พูดจบฉินหลั่งก็มองไปข้างหน้าเช่นกัน
เงียบ เงียบมาก เงียบถึงขีดสุด
เงียบจนไม่เห็นแม้แต่เงาของตน ไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงเสียงลมพัดต้นไม้ที่ดังกรอบแกรบและยังมีจิตสังหารที่เย็นชายแผ่กระจายไปทั่ว
ฉินหลั่งสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันตราย เขายกระดับความระมัดระวังถึงขีดสุด
หลินเส้าโสยิ้มเล็กน้อย “ก็แค่พวกต่ำช้า”
“วูบ…..” หลังจากที่พูดจบหลินเส้าโสยกแขนขึ้นพร้อมกับมีใบมีดพุ่งออกจากแขนเสื้อของเขา
ใบมีดพุ่งตรงเข้าไปในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลไปทางขวาของเขา
ตูม!
หลังจากที่พุ่มหญ้าถูกระเบิดจนเปิดทางด้านในมีเงาของคนคนหนึ่งกำลังกระโดดก้าวถอยหลังอย่างเร่งรีบและรวดเร็ว
เพียงแต่ว่าถึงแม้เขาจะเร็วแต่ใบมีดเร็วกว่า เสียงดังฉึกพุ่งตรงเข้าใส่ลำคอทันที
มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมหน้ากากล้มลงกับพื้นโดยที่ในมือกำเข็มดอกแพร์พายุฝนสองลูก
“วูบ…..” หลินเส้าโสไม่ได้หยุดมือขวาของเขายังคงเคลื่อนไหว
แสงประกายคมมีดปรากฏขึ้นกลางอากาศ
ทันใดนั้นต้นไม้อยู่ที่อยู่ข้างหน้าก็สั่นไหวสักพักแล้วมีชายคนหนึ่งสวมชุดสีเทาตกลงมาสู่พื้น
อาวุธลับเงียบลง
สีหน้าของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปในทันที พยายามบังคับให้ตัวเองเอี้ยวตัวหลบ
“พู่!”
เขาพยายามหลบสุดชีวิตแต่มันก็สายเกินไปครึ่งก้าว ใบมีดแทงทะลุลำคอของเขา
ชายวัยกลางคนล้มลงกับพื้น
ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
หลินเส้าโสยังคงโบกมือต่อ ใบมีดสองเล่มกลายเป็นสี่เล่มพุ่งไปตามที่ทางพื้นที่อยู่ข้างหน้าสี่จุด
แทงทะลุเข้าไปในพื้นดินสามส่วน
ทันใดนั้น
“อ่า…..” เสียงกรีดร้องสี่สายดังขึ้นพร้อมกัน ในขณะเดียวกันบนพื้นก็นองไปด้วยเลือด
หลังจากนั้นนักฆ่าทั้งสี่คนก็พุ่งตัวออกจากใต้พื้นดิน ดิ้นรนอยู่สักพักหลังจากนั้นก็สูญเสียสติสัมปชัญญะ
“แกเป็นใคร?”
วินาทีต่อมาในพุ่มไม้มีชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับในมือถือดาบที่โค้งงอ
เขาดูทั้งอับอายและทั้งโกรธ วันนี้มาเพื่อตั้งใจจะลอบโจมตีฉินหลั่งแต่ปรากฏว่ายังไม่ทันได้ลงมือก็ตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เขาจ้องมองหลินเส้าโสแล้วพูดตะคอก “แก่กล้าเป็นศัตรูกับพวกเรา……”
เสียงของเขาหยุดลงในทันทีเพราะกลางหน้าหว่างคิ้วของเขามีดาบเล่มหนึ่งปรากฏขึ้น
เลือดสีแดงสดไหลออกมา! ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย รูม่านตาของชายวัยกลางคนร่างอ้วนหดเล็กลงทันทีและในใจเต็มไปด้วยความตกใจ “พวกแก?”
“พวกแกเป็นใคร?”
“แล้วพวกแกล่ะเป็นตัวอะไร?”
ความเหยียดหยามปรากฏขึ้นในแววตาของหลินเส้าโส จอมยุทธเลือดเย็นที่สังหารคนอย่างไร้ความรู้สึกคนนั้นกลับมาอีกแล้ว
หลินเส้าโสพยักหน้าเล็กน้อยหลังจากนั้นพูดกับคนนั้นว่า “ไปบอกนายท่านของพวกแก ไม่ว่าพวกแกจะเป็นใครก่อนพระอาทิตย์ตกดินใครที่เป็นศัตรูกับฉินหลั่งตัดมือของตัวเองหนึ่งข้าง”
“ไม่อย่างนั้นฉันจะบุกเข้าไปที่รังหมาของพวกแกเพื่อขอคำอธิบายด้วยตัวเอง”
หลังจากที่พูดจบมือขวาของเขาก็ดันดาบแทงทะลุหว่างคิ้วของชายร่างอ้วน…….
ฆ่าคนแล้วยังต้องการคำอธิบายจากอีกฝ่าย……..
ชายร่างอ้วนวัยกลางคนล้มลงกับพื้น แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เดิมทีเขาอยากจะหัวเราะเยาะความบ้าของหลินเส้าโส แต่ลางสังหรณ์ที่เลวร้ายบอกเขาว่าหลินเส้าโสไม่ได้ล้อเล่น
ใบหน้าของฉินหลั่งก็ดูประหลาดใจเช่นกัน ความแข็งแกร่งของหลินเส้าโสเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
เขาคิดไม่ถึงว่าศพเดินได้เมื่ออาทิตย์ก่อนตอนนี้กลับสามารถใช้มือเดียวสังหารนักฆ่าที่มีวรยุทธไม่ธรรมดาได้อย่างง่ายดาย
จอมยุทธอันดับสองสำนักหมิงเมื่อยี่สิบปีก่อน ฉินหลั่งนึกถึงคำพูดของหลู่เหม่ยเฉินที่ตอนแรกเขาไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลินเส้าโสจะไม่ธรรมดาจริงๆ
หลังจากที่ชายร่างอ้วนวัยกลางคนตายจนหมด ภัยคุกคามที่อยู่ในพุ่มไม้หายไปจนหมด ยังมีปลาอีกสองสามตัวที่หลุดออกมาจากอวนแต่ไม่กล้าขยับ
แม้แต่ชายร่างอ้วนวัยกลางคนก็ถูกฆ่าในพริบตา แล้วพวกเขาจะเอาอะไรไปสู้กับหลินเส้าโส?
ฉินหลั่งยังคงดันรถเข็นพาหลินเส้าโสเดินตรงไปข้างหน้า
หลังจากที่ร่างของทั้งสองหายไป ในพุ่มไม้ก็ปรากฏคนอีกกลุ่มหนึ่งและมีสีหน้าที่เคร่งขรึม พวกเขาจัดการศพพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร……
ผู้หญิงสวมหน้ากากคนหนึ่งพูดใส่โทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่เคารพ “หัวหน้าแผนกเมิ่งภารกิจล้มเหลว พวกอู๋โกวถูกสังหารแล้ว”
ปลายสายไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ “แล้วทำไมเธอถึงยังมีชีวิต?”
ผู้หญิงที่สวมหน้ากากพูดเสียงทุ้มต่ำ “ฝ่ายตรงข้ามเปิดฉากโจมตีสังหารคนไปกว่าครึ่งก่อน ที่ไม่ได้สังหารพวกเราเพราะจะให้พวกเราไปรายงานคุณ”
“ฉินหลั่งคนนี้……อยู่เหนือความคาดหมายของฉันไปเยอะ หรือว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ถอนหายใจแล้วเปลี่ยนบทสนทนา “ฉินหลั่งสั่งให้พวกเธอมาพูดอะไร?”
“คนที่สังหารพวกอู๋โกวไม่ใช่ฉินหลั่งแต่เป็นคนพิการของสำนักหมิงหลินเส้าโส แต่ว่าความแข็งแกร่งของเขาน่าจะฟื้นฟูกลับมาแล้ว”
ผู้หญิงที่สวมหน้ากากลังเลแล้วพูด “เขาสั่งให้เรามาบอกว่าใครที่เป็นศัตรูกับฉินหลั่งก็ให้ตัดแขนของตัวเองหนึ่งข้าง ไม่อย่างนั้นเขาจะบุกไปที่รังหมา”
“อะไรนะ?”
ทันใดนั้นน้ำเสียงในโทรศัพท์ก็เสียงดังขึ้นทันที “บ้ามาก……”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงปฏิกิริยา
……
“ฉินหลั่ง ได้ยินมาว่าแกรับช่วงร้านยาปุ่นฉ่าวต่อจากนี้ท่านวี่?”
ในขณะที่นักฆ่ากำลังรายงาน หลินเส้าโสกำลังเช็ดทำความสะอาดอาวุธลับของตัวเองพร้อมกับพูดคุยกับฉินหลั่งต่อ “ธุรกิจดีหรือเปล่า?”
“อาหลิน ผมพึ่งจะรับช่วงต่อยังไม่ได้เปิดบิลแรกเลย เดิมทีผมไม่ได้คิดจะเป็นหมอ ทักษะการแพทย์ของสำนักเราถูกคิดค้นขึ้นเพื่อมีไว้ช่วยเหลือตัวเอง ไม่เคยมีการสืบทอดแนวคิดที่ใช้ช่วยเหลือคนมาก่อน”
“พูดอย่างตรงไปตรงมาก็คือเป็นแค่อีกทางเลือกหนึ่ง คุณดูผมเหมือนหมอหรือเปล่าล่ะ? วันแรกที่ผมไปร้านยาปุ่นฉ่าว หมอแปดคนและยังมีคนอื่นอีกสามกว่าคนกลัวจนหนีไปหมด” ฉินหลั่งพูดพร้อมกับยิ้ม

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset