บทที่ 538 สถานการณ์กลับตาลปัตร
บนกำแพงเมืองจีนที่สุดลูกหูลูกตา
ฉินหลั่งกระทืบเท้าอย่างแรง เอามือกอดอก ราวกำลังรวมพลังในอากาศนั้นไม่มีที่สิ้นสุด แม้กระทั่งพลังอันมหาศาลรอบๆ ล้วนออกมาจากมือของเขา
“กระบี่และร่างกายรวมตัวกัน!”
สายตาเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งรวมเป็นจุดเดียว ปรมาจารย์ล้วนรู้สึกถึงพลังอันมหาศาล ระหว่างสวรรค์และโลกได้อยู่ลางๆ ศิลปะการต่อสู้มากมายที่สร้างขึ้นโดยปรมาจารย์ ไม่ได้มีไว้สำหรับคนธรรมดา แต่สำหรับผู้มีพลังที่สามารถปลุกเรกิของสวรรค์และโลกได้
ไม่ว่าจะเป็นมือเมฆ หรือวิชากระบี่เขียนจีของเสี่ยวฉวน เพียงสัมผัสกับปรมาจารย์ระดับที่บรรลุถึง ถึงจะแสดงออกมา แม้แต่ลมปราณคุ้มกายนักศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆ ก็ยังไม่สามารถปล่อยออกมาได้ ทำยังไงเนี่ย?
ศิลปะการต่อสู้ของเสี่ยวฉวนเก่งกาจกว่าจ้านอู๋หยาอยู่บ้าง
แต่กอดอกนี้ของฉินหลั่ง ก็สามารถปล้นเรกิรอบๆ ได้อย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่ามีฤทธิ์ร้ายแรงมาก เทียบกับเหล่าปรมาจารย์ ที่ใช้เรกิฟ้าดินอย่างระมัดระวัง มันดีกว่ามาก
“รับไป กระบี่ฟ้า!”
ฉินหลั่งแกว่งออกไปราวกับโอบกอดดาบหิน ปล่อยพลังอันแรงกล้าที่รวมกันในมือออกไปยังเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งถอยหนีอีกครั้ง เขาใจเต้นรัวตลอด เป็นวิกฤตที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สัญชาตญาณบอกเขาว่า การจู่โจมครั้งนี้ห้ามรับไว้เด็ดขาด ถ้ารับมัน อาจโดนพลังอันแรงกล้านั้นระเบิดจนร่างแหลกสลาย
“บูม!”
เป็นอย่างที่คิดไว้ พลังนั่นตกไปโดนอาคารที่อยู่ด้านหลังเขา จากนั้นก็ระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ระเบิดจนพังไปครึ่งหนึ่ง ทุกคนช็อกมากนี่มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้งั้นเหรอ?ทำไม่รู้สึกเหมือนลูกระเบิดมือที่ยิงต่อสู้รถถังอย่างไรอย่างนั้น
“ปังๆ !”
ทันใดนั้นเองฉินหลั่งก็โจมตีอีกครั้ง สู้กับเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง
ท่าหมัดของฉินหลั่งนั้นเรียบง่ายและยิ่งใหญ่ ความดุดันนั้นแพร่กระจายไปทั่วทุกทิศ ถึงหมัดนี้จะไม่ได้ดูตระการตามาก แต่ก็ทรงพลัง จนสามารถบดขยี้บลูสโตนขนาดใหญ่ได้ แต่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งใช้มือสองข้างไขว้กันเหมือนผีเสื้อบินขึ้นไป ด้วยท่าทีเท่ห์ระเบิด เมื่อมือสองข้างนั้นขยับ ลมปราณมากมายที่บ้างก็อ่อนบ้างก็แข็งรวมตัวเป็นสายรุ้งขาว ล้อมรอบเขาเอาไว้ทั้งสี่ทิศ
“รับไปซะ!”
ฉินหลั่งออกหมัดไป ก็ไปโดนสายรุ้งขาวที่หลบขดอยู่ จากนั้นก็พนมทั้งสองมือ จากนั้นก็มีแสงสีทองเปล่งประกาย ฟัน ‘หักภูเขา’ออกมา เพียงแวบเดียวก็ตัดมุมเสื้อของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งขาดออก
“ไม่ได้เจออะไรดีๆ แบบนี้มานานแล้ว”
ฉินหลั่งนั้นออกอาวุธไป โดยไม่ได้ออมมือ แต่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งด้วยพลังเมฆาอันกว้างใหญ่ และพลังปราณที่ใหญ่โต เลยสามารถต้านทานการโจมตีของเขาเอาไว้ได้
นี่ทำให้ฉินหลั่งไม่ได้แปลกใจแต่กลับยินดีเสียอีก ช่วงนี้แค่ต่อยตีเพียงไม่นาน ไม่จำเป็นต้องใช้แรงมากขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
การต่อสู้ภายในห้อง ต้องเก็บมือเก็บเท้า แต่อยู่ระหว่างเมฆแบบนี้ มันกว้างใหญ่มากจริงๆ
การปิดในครั้งนี้ ตาของฉินหลั่งร้อนผ่าว ตอนแรกเขาอยากจะลองยุทธ์แปลกๆ แต่เป็นกำแพงเมืองจีนของจีนเอง เลยกลัวจะเสียหาย แต่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง กลับทำลายกำแพงเมืองจีนอย่างเละเทะ
ถ้าเกิดตอนนี้เขาปล่อยไฟออกมา สามารถทำให้เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งถูกแผดเผาได้เลยล่ะ แต่ฉินหลั่งทำแบบนั้นไม่ลง
ฉินหลั่งอยากจะปล่อยน้ำ แต่กลับไม่รู้ว่าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งนั้นกระอักเลือดแล้ว
“คนนี้มันคนแปลกหรือเปล่าเนี่ย?แรงไม่มีวันหมดเลย เนื้อก็ทำร้ายไม่เข้า แถมยังปล่อยพลังภายในออกมาได้อีก รวมลมปราณคุ้มกาย แถมยังมีการออกอาวุธที่แข็งแกร่งเกินใคร เขาอายุแค่ยี่สิบกว่าเอง ฝึกอย่างไรกันแน่เนี่ย?”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเพียงแค่คิดว่าตัวเองกำลังประลองอยู่กับปรมาจารย์ที่มากฝีมือคนหนึ่ง
ฉินหลั่งเหมือนจะไม่มีข้อด้อยอะไรเลยในตัว แต่ว่าแผลเดียวของเขานั้น ประทับอยู่ตรงไหล่ของฉินหลั่ง แต่แรงที่มีก็ถูกฉินหลั่งทำให้แรงหมดไปถึงครึ่ง ที่เหลือ ฉินหลั่งเลยใช้แรงจากกล้ามเนื้อที่มีต้านเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อรู้ว่าตัวเองทำร้ายคู่ต่อสู้ไม่ได้ อีกฝ่ายออกแรงเพียงหมัดเดียวตัวเองก็กระอักเลือดได้ เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งนั้นทำอะไรไม่ได้จริงๆ
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเลยพยายามแก้ปัญหา แต่ก็ทำได้เพียงพยายามต่อต้านเล็กน้อย แล้วสู้ไปเรื่อยๆ
“ไม่แปลกใจเลยที่มีฉายาว่าปรมาจารย์ไร้เทียมทาน แม้ศิลปะการต่อสู้มันจะลดลงเรื่อยๆ แต่ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีมากมาย ถือว่าอยู่ในจุดที่น่านับถือเลยล่ะ”
มีคนสูดหายใจอย่างเยือกเย็นพลางพูดออกมา “ความแข็งแกร่งระดับนี้ เหมือนจะหาดูได้ยากมากเลยนะ”
คนดูนั้นเห็นได้ชัด ว่าทั้งสองคนนั้นเหมือนจะออกแรงกันมาก แต่ส่วนใหญ่ฉินหลั่งก็เป็นคนลงมือ ส่วนเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งนั้นหลบ ที่เรียกกันว่าการปกป้องระยะยาวแล้วจะต้องเสียไป สุดท้าย เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งก็จะถูกฉินหลั่งตาม เดี๋ยวถึงเวลาการแพ้ชนะก็จะเด่นชัดเอง
ตอนแรกฉินหลั่งกำลังหลบอยู่ เสิ่นชิงซานเลยไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้ฉินหลั่งกำลังสู้ เขาก็ไม่อารมณ์เสียอีกแล้ว
จู่ๆ เสิ่นชิงซานก็โกรธขึ้นมา ถือว่าตัวเองเป็นคนโด่งดังของจีน เลยลุกขึ้นมาแล้วตะโกน:
“ฉินหลั่ง นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย?”
“นี่คือการประลอง การประลองที่เดิมพันด้วยชีวิต วิ่งไล่จับกันแบบนี้มันสนุกเหรอไง?”
“นี่ไม่ใช่แค่ไม่เคารพคุณเสี่ยวฉวนนะ แต่ยังเสียเวลาของทุกๆ คนอีก ฉันไม่ให้คุณทำแบบนั้นหรอก”
“ตอนนี้ฉันจะสั่งคุณนะ ว่าไม่ให้วิ่งแบบนี้ในการแข่งขัน เดี๋ยวจะมาเจอคุณเสี่ยวฉวนเพื่อสู้กันหน่อย”
เขาโกรธมากจริงๆ แต่นี่โง่เง่าจริงๆ เลย ตอนนี้เขายังคิดอยู่เลย ว่าวิธีนี้จะชนะเสี่ยวฉวนได้ ในตอนนั้นเลยยังควบคุมมันอยู่ เสี่ยวฉวนตั้งใจจะทำให้ฉินหลั่งวิ่งต่อ ดูสนุกไม่พอ ยังทำให้พวกจั่วเถิงไม่พอใจอีกด้วย
พวกจั่วเถิงอยากเห็นฉินหลั่งหมดแรง ร้องขอชีวิต สั่นเทา ด้วยความกลัวมากกว่า……แต่เหมือนจะไม่มีเลยแม้แต่น้อย ฉินหลั่งวิ่งขยับอย่างร่าเริง ดูมีอิสระอย่างสบายอารมณ์
เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?การต่อสู้ของจีนมาปะทะการต่อสู้ของญี่ปุ่น เป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
จั่วเถิงมีสีหน้านิ่งลง
แต่จั่วเฉินบิงกลับคิดว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากล เพราะว่าเมื่อครู่เสี่ยวฉวนถูกทำร้ายจริงๆ นี่ตั้งใจอ่อนข้อให้คู่ต่อสู้หรอ ใบหน้าของเขานั้นหนักใจเป็นอย่างมาก
“ไอสารเลว!”
“การประลองก็คือการประลอง ไม่ควรมีการออมมือ”
เสิ่นชิงซานหน้าตานิ่งไป: “ฉันจะบอกอีกครั้งนะ ฉันไม่ให้คุณวิ่งหนีอีก ไม่อย่างนั้นฉันจะประกาศว่าคุณแพ้ และทุกคนก็จะกลับมาทรยศคุณ”
“ห้ามวิ่งหนีงั้นเหรอ?”
นี่มันกฎอะไรกัน?ถึงจะไม่มีใครสนับสนุนฉินหลั่งเลย แต่ก็คิดว่าเสิ่นชิงซานนั้นชัดเจนเกินไป ประลองกันแบบไม่ให้วิ่งขยับไปไหน จะให้รอมาเชือดคอให้ตายหรือไง?!
เสิ่นชิงซานร้องเสียงหลง แต่ว่าแววตาของจั่วเถิง จั่วเฉินบิงและเหย่หยวนเม๋ยจื่อนิ่งไปมากกว่าเดิม ก่อนจะกำกำปั้นอย่างแน่นหนา และจ้องคู่ต่อสู้สองคนที่กำลังสู้กันอยู่อย่างไม่ละสายตา
ในใจของพวกเขานั้นรู้ดี ว่าเสี่ยวฉวนกำลังถูกไล่ล่า เหมือนกำลังเสียเปรียบ แต่ฉินหลั่งนั้นได้เปรียบอยู่มาก แววตาพร้อมเล่นงานคู่ต่อสู้สุดๆ
“ในที่สุดก็จับได้แล้ว”
ภายในฝุ่นหมอกควันนั้น อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียบๆ ลอยมา เห็นเพียงมืออวบสีขาวยื่นออกมา ภายในที่ตรงนั้น มีเงาภูตที่ใช้แรงอย่างเต็มกำลัง ก่อนจะจับขาของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งข้างหนึ่ง
“ซวยแล้ว!”
ทุกคนต่างหนักใจ
เห็นเพียงฉินหลั่งขับขาซ้ายของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเอาไว้ จากนั้นก็เหวี่ยงเขาขึ้นไปบนฟ้า
“พรวก!”
ถึงแม้ปรมาจารย์จะมีลมปราณคุ้มกาย แต่ก็ต่อต้านการปะทะแบบนี้ไม่ไหว อวัยวะภายในช่องท้องของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งนั้นถูกแรงกดมากมาย กระดูกภายในก็สั่นสะเทือน จนทำให้กระอักเลือดออกมา
ในตอนนั้นเอง ฉินหลั่งปรี่เข้ามาอยู่ข้างกายเขา ด้วยความไวดั่งสายฟ้า ก่อนจะเตะเข้าไป ตรงเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอย่างเต็มแรง
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 538 สถานการณ์กลับตาลปัตร
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment