รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 536 คนประจบสอพลอ

บทที่ 536 คนประจบสอพลอ
“ฮ่าๆ ที่ท่านจั่วพูดถูก งั้นฉันจะไว้ชีวิตแกไปก่อน ค่อยมาคิดบัญชีกับแก!”
เสิ่นชิงซานหายใจฟึดฟัด จ้องฉินหลั่งเขม็งไม่พูดอะไรอีก
จากนั้นเขาก็หันไปเห็นพวกเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งกับเหย่หยวนเม๋ยจื่อ จึงยิ้มออกมาทันที พลางโค้งคำนับทักทาย
“ยินดีต้อนรับเพื่อนต่างชาติที่มาชี้แนะ คุณเสี่ยวฉวน สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน ขอบคุณครับ ขอบคุณๆ……”
ส่วนจั่วเฉินบิงส่งเสียงทักทาย ราวกับอยากเจอเสี่ยวฉวนมานานแสนนาน ท่าทางดีอกดีใจ เหมือนได้เจอคนในค่ายตัวเองอย่างไรอย่างนั้น แต่มันตรงกันข้ามอย่างมาก กับวิธีที่เขาปฏิบัติกับฉินหลั่ง
ทุกคนกอดทักทายกัน
แต่ด้านฉินหลั่ง มีแค่เขาตัวคนเดียว อ้างว้างมากๆ
ศึกความเป็นความตาย กำลังจะเริ่มขึ้น
กำแพงเมืองจีนที่โอ่อ่ายิ่งใหญ่ กำลังเป็นพยาน
ในวงการการต่อสู้ ปรมาจารย์เป็นแค่ตำนาน เทพนิยาย อยู่เหนือคนธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าปรมาจารย์อยู่ที่ใด เขาก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลกได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูง ก็ยังต้องปฏิบัติต่อปรมาจารย์อย่างเป็นทางการ
ปรมาจารย์อย่างเสี้ยงเฟยหลง ถึงแม้ศิลปะการต่อสู้จะเก่งกาจ แต่ก็มีส่วนที่พูดเกินจริงอยู่บ้าง
เพราะปรมาจารย์เป็นแค่เรื่องเล่าต่อๆกันมา น้อยคนนักที่เคยเห็น ใครก็บอกไม่ได้ว่าตกลงแล้วปรมาจารย์นั้นเก่งกาจแค่ไหน
เช่นอย่างจ้านอู๋หยา ลุงจื้อคนเหล่านี้ ล้วนเป็นคนมีอำนาจที่อยู่บนยอดสูง แต่ฉินหลั่งคิดว่าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งก็เป็นปรมาจารย์จริงๆเช่นกัน ส่วนอยู่ระดับไหนนั้น ไม่แน่ใจนัก
แต่คงเหนือกว่าจ้านอู๋หยาอยู่ไม่น้อย
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งยืนกลางสนามรบ ไม่มองใครทั้งนั้น แต่กลับถอนหายใจออกมา:“ฉินหลั่ง คิดไม่ถึงว่าจะกล้ามา ดูจากส่วนนี้นับได้ว่าแตกต่างจากวัยรุ่นในจีนมาก”
“ฉันเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งปกครองญี่ปุ่น มีอำนาจมากมาย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าลูกบุญธรรมฉัน จะโดนฆ่าด้วยน้ำมือคนรุ่นหลัง มองฉันเหมือนอากาศธาตุ แกนี่มันไม่มีความเกรงใจเลยจริงๆ”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งพูด
“แต่สำหรับฉัน แกก็เป็นแค่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่รู้จักความเป็นความตายก็เท่านั้น”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งโบกมือเบาๆ จากนั้นตราประทับสีขาวก็ค่อยๆลอยไปหาฉินหลั่ง ตราประทับนี้ถึงจะดูช้า แต่แค่แป๊บเดียวก็ไปถึงตรงหน้าฉินหลั่ง
ฉินหลั่งไม่ได้รับมันไว้ทันที แต่ใช้วิธีแยกร่างที่ไม่เคยมีมาก่อน วาร์ปเบาๆ
“โอ้ะ?แผลแกหายดีแล้วงั้นเหรอ?พลังไม่เลวเลย คิดไม่ถึงว่าจะหลบฉันได้”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งพูดเรียบๆ
“แกไม่มีเคยรู้ถึงความน่ากลัวของปรมาจารย์แดนฟ้าหรอก!”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งพูดอย่างเนิบๆ เหาะลอยมาราวกับเป็นเมฆขาวก้อนหนึ่ง
อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้คนที่อยู่ดูรอบๆลืมส่งเสียงร้องเชียร์ไปเลย มองเสี่ยวฉวนอย่างเหม่อลอย สายตาใฝ่หามากๆ
และมีพลังสีขาวออกมาจากตัวเขา จากนั้นก็รวบรวมไว้ในฝ่ามือ รวมตัวเป็นสายรุ้งสีขาว พลิ้วไสวอยู่บนท้องฟ้า
รุ้งสีขาวเส้นนี้ดุเหมือนเปราะบาง แต่ความเป็นจริงแข็งแกร่งมาก แค่ฟาดลงมาบนตัว ไม่ว่าคุณจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็กลายเป็นผุยผงได้
“นี่คือมือเมฆของเสี่ยวฉวนใช่ไหม?”
มีใครบางคนตื่นเต้น
มือเมฆของเสี่ยวฉวน ล้อมรอบด้วยเมฆและหมอก สามารถแข็งและอ่อนตัวได้ เวลาแข็งก็แข็งแรงราวเส้นเหล็ก สามารถทำให้หินแกรนิตหักได้ เมื่ออ่อนตัวก็จะกลายเป็นเส้นไหมพลิ้วไสว
แต่ฉินหลั่งกระโดดหลบไป
“ตูม!”
มือเมฆกระทบบนกำแพง ฟาดบนต้นไม้ใหญ่ล่างกำแพงพอดิบพอดี ต้นไม้ก็ระเบิดออกจากกัน เหมือนถูกเลื่อยออก
เสิ่นชิงซานกับจั่วเฉินบิงยิ้มออกมา ฝีมือแบบนี้ ฉินหลั่งอย่าว่าแต่ยังมีบาดแผลเลย ต่อให้ไม่มี มีฉินหลั่งอีก10คนก็สู้ไม่ได้ เขาทำได้แค่หลบไปหลบมา สามารถหลบได้ก็โชคดีมากๆแล้ว
จั่วเถิงรู้สึกดีขึ้นมา รู้สึกดีที่ประเทศตนมีปรมาจารย์แบบนี้อยู่ ยังอยู่ที่กำแพงเมืองจีน แต่คิดไปไกล
ทันทีที่เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งปรากฏตัว เขาก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ ที่ไม่มีใครเทียบได้ง่ายๆ
หลายคนกำลังหวาดหวั่น ปรมาจารย์จริงๆนั้นมีน้อยมาก ปรมาจารย์ในโลกนี้สามารถนับได้เลย ใครจะออกมาง่ายๆแบบนี้?
“คุณเสี่ยวฉวนมีเมตตาจริงๆ ที่ไว้หน้าจีน”
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศค่อนข้างมาคุ เสิ่นชิงซานจึงยิ้มให้จั่วเถิงซานหลัง:“ เรื่องที่แค่หมัดเดียวก็สามารถตัดสินใจได้ ผลสรุปคุณเสี่ยวฉวนจงใจออมแรงไว้”
“คุณจั่วเถิง สิ่นชิงซานขอขอบคุณพวกคุณในนามวงการต่อสู้ของจีน”
“พวกคุณนึกถึงเราแบบนี้ เสิ่นชิงซานจะจำไว้แน่นอน”
“พวกคุณไม่ต้องกังวล หลังจากฉินหลั่งแพ้ศึก ผมจะยื่นคำร้องแก่เบื้องบน ให้ยึดทรัพย์สินที่ฉินหลั่งมี จากนั้นเอามาชดใช้ให้คุณเสี่ยวฉวนทั้งหมด”
“และผมสัญญา ต่อไปวงการต่อสู้ของจีนจะไม่มีคนทำอะไรไม่คิดแบบนี้อีก”
เสิ่นชิงซานถ่อมตัวมาก ยิ้มแล้วพูด
“คุณเสิ่นเกรงใจเกินไปแล้ว”
จั่วเถิงพูดยิ้มๆ:“เรื่องเล็กน้อย ศักดิ์ศรีของจีนก็เหมือนศักดิ์ศรีญี่ปุ่น การแก้แค้นของคุณเสี่ยวฉวนครั้งนี้ ไม่กระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเราหรอก ”
“แน่นอน คุณเสิ่นก็ต้องตั้งใจอบรมสั่งสอนวงการต่อสู้ของจีน อย่าให้มีคนทำอะไรไม่คิดอย่างฉินหลั่งอีก!”
“ไม่งั้นครั้งหน้าคุณเสี่ยวฉวนคงไม่ฟังผมแล้วล่ะ ทำลายคนของพวกคุณโดยทันที เป็นเช่นนั้นวงการต่อสู้ของจีนจะกลายเป็นที่หัวเราะเยาะของใต้หล้าเอาได้”
“ผมจะปรับปรุงวงการต่อสู้ของจีนให้ดีๆ”
เสิ่นชิงซานยิ้มอย่างถ่อมตน:“ผมจะบอกพวกเขา ว่าญี่ปุ่นที่เป็นประเทศที่มีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเราคงไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงหรอก”
คนที่ฟังอยู่รอบข้างเสิ่นชิงซาน เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ต่างเข้าใจ
ที่แท้ที่ฉินหลั่งสามารถหลบทัน เป็นเพราะเสี่ยวฉวนไว้หน้าจีน
ดังนั้นทุกคนก็ต่างพากันมองจั่วเถิงซานหลังพวกเขา ด้วยความซาบซึ้งและเคารพ จากนั้นก็หันไปมองฉินหลั่งที่หลบอยู่ในสนามอย่างไม่พอใจ
พวกเขาต่างรู้สึกว่าไอ้หมอนี่หน้าด้านจริงๆ ไม่คิดไตร่ตรองบ้างรึไง?
ถ้าเป็นพวกเขาโดนออมมือให้แบบนี้ ยอมรับความพ่ายแพ้ไปตั้งนานแล้ว
จั่วเฉินบิงและเหย่หยวนเม๋ยจื่อพวกเธอก็ดูถูกฉินหลั่งเช่นกัน
“คุณเสี่ยวฉวน ขอบคุณความหวังดีของคุณ ไม่ต้องไว้หน้าพวกเราหรอก ทำให้จบๆไปเถอะ”
เสิ่นชิงซานยืนขึ้นพลางตะโกน:“ลงโทษฉินหลั่งเถอะ”
เขารู้สึกว่าที่เสี่ยวฉวนออมมือให้ ก็เพื่อไว้หน้าเขาที่เป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ฉินหลั่งไม่รู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควรแบบนี้ เขาก็ไม่อยากปกป้องเขาอีกต่อไปแล้ว
“ฉันบอกแล้ว แกไม่รู้ถึงความน่ากลัวที่แท้จริงของปรมาจารย์”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งพูดอย่างช้าๆ พลางเอามือไขว้หลัง
นักสู้พลังภายในนั้นรวดเร็วมาก พลังแข็งแกร่ง ตอบสนองไว และเป็นที่รู้จักในหมู่มนุษย์ แต่ปรมาจารย์แดนสุขาวดี ปรมาจารย์แดนฟ้า รวมพลังมาคุ้มกาย กลั่นพลังดั่งเส้นไหม วิธีการเหล่านี้คล้ายๆเทพนิยาย มันเหนือกว่าสิ่งที่มนุษย์คิดไว้มาก ไม่แปลกใจเลยที่ปรมาจารย์ทุกคนอยู่ยงคงกระพัน ไร้ศัตรู
ในสายตาทุกคนฉินหลั่งกลายเป็นลูกไก่ในกำมือไปแล้ว ตอนนี้มีทางเดียวก็คือก้มหัวยอมจำนน แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะส่ายหน้าพลางพูด:
“นี่คือปรมาจารย์แดนฟ้างั้นเหรอ?ก็แค่งั้นๆ!”
“สำหรับผม ผมคิดว่าก็แค่งั้นๆ”
ฉินหลั่งพูดเช่นนี้ทุกคนก็ส่งเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที แต่พวกเขาไม่กล้าออกเสียงดัง เพียงมองสายตาของเขา ที่เหมือนเห็นคนตายแล้วอย่างไรอย่างนั้น แค่เข้ามาในวงการต่อสู้ ก็จะรู้ทันทีว่ากฎข้อแรกคือ‘ห้ามทำให้ปรมาจารย์เสียหน้า!’
จีนกับญี่ปุ่นก็เหมือนกัน!
“เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ก่อนหน้านี้คุณเสี่ยวฉวนไว้ชีวิตแก ครั้งนี้ไม่อาจปล่อยให้แกพูดเหยียดหยาม และหนีได้อีกต่อไป!”
จั่วเฉินบิงพูดเสียงดังด้วยความโมโห

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset