รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 502 ลองลงมือกับกูดูสิ

บทที่ 502 ลองลงมือกับกูดูสิ
ในสายตาของเมิ่งเหมิงเหมิง ฉินหลั่งก็เป็นเพียงพวกใช้กำลัง เท่านั้นเอง
ส่วนพวกข่าวลือที่เกี่ยวกับฉินหลั่ง ในสายระบบข่าวกรองของเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยรายงาน เพียงแต่เขาคิดว่านั่นเป็นเพียงการเยินยอเสียมากกว่า พวกบริษัทโฆษณาต่างๆ เอาใจฉินหลั่ง มีแต่พี่สาวที่แสนทึ่มของเขาเท่านั้นที่จะเชื่อ
พวกนักต่อสู้ในวงการสมัยนี้ ล้วนแล้วแต่จะสร้างชื่อเสียง สืบสาวไปจริงๆ ก็ทำเพื่อเงินทั้งนั้น
ส่วนเมิ่งเหมิงเหมิงนั้น เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาแล้ว เมื่อเทียบกันเช่นนี้ ฉินหลั่งนั้นนับว่าเป็นตัวอะไรละ? เพื่อเงิน ถึงขนาดไปหาเรื่องกับหอการค้าเทียนอิง ถ้าไม่ใช่พวกใช้กำลังไร้สมอง แล้วจะเรียกว่าอะไร?
ส่วนพวกที่บดบังใบหน้าไว้ เมิ่งเหมิงเหมิงก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นพวกของฉินหลั่ง
สำหรับไอ้พวกกระจอกที่อาศัยชื่อเสียงมาหาเงินเช่นนี้ ไม่ได้อยู่ในสายตาของเมิ่งเหมิงเหมิงอยู่แล้ว พอเห็นฉินหลั่งนิ่งเงียบไม่ส่งเสียง ไม่สะทกสะท้านต่อการดูถูกของเมิ่งเหมิงเหมิงเลย เมิ่งเหมิงเหมิงก็ได้ใจ เขากลับคิดว่า ฉินหลั่งจะไม่กล้าลงมือกับเขา ฝั่งตรงข้ามแค่โชว์กวดฝีมือเล็กน้อยเท่านั้น
“ฉินหลั่ง มึงไปแทงคนอื่นมันไม่นับว่าโหดหรอก จะให้ดีมาแทงคนที่มีชื่อเสียงมีตำแหน่งอย่างกูนี่ อย่ามัวแต่ใช้วิชากระจอก คนฉลาด เขาจะไม่ถูกมึงหลอกง่ายๆ หรอก มาเลย……”
“ขจอเพียงกูยังมีลมหายใจ ทั้งตระกูลมึงจะต้องซวยกันหมด ทั้งคนรอบข้างมึง จะไม่มีวันอยู่อย่างสงบสุข…….”
เพื่อหน้าตาชื่อเสียง คำพูดของเมิ่งเหมิงเหมิงวันนี้ถือว่าดูสวยหรูมาก พอพูดออกมา ก็เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของทายาทรุ่นที่สอง พลังอำนาจยิ่งใหญ่ การพูดที่มีไหวพริบและความกล้าที่เหนือใคร
สามารถทำให้คนในเหตุการณ์ต้องมองเขาในมุมใหม่ และยอมรับเขา
พอพูดไป ก็เห็นฉินหลั่งนั่งครุ่นคิดกับความคิดตนเอง เมิ่งเหมิงเหมิงก็โล่งอก เริ่มดีใจ แล้วก็ลากเก้าอี้มานั่งบ้าง โบกมือไป ลูกน้องก็เอาไวน์ฝรั่งเศสปี1939 แล้วก็แก้วไวน์หรูหรามาเสิร์ฟให้
จากนั้น เขาก็ค่อยๆ เข้าไปใกล้ฉินหลั่ง สายตาเริ่มมีความสนใจมาก ทั้งยิ้มเยาะ ดูถูก เหยียดหยาม ค่อยๆ หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ท่าทางโอหังมาก
“ไอหย๋า คุณชายเมิ่งช่างเก่งจริงๆ”
“ดูสิ เล่นเอาฉินหลั่งหน้าแห้งไปเลย”
“ใช่นะสิ เดิมทีก็ไม่ได้เก่งอะไร น่าจะดื่มเหล้าเมามาแล้วก็มาหาเรื่อง ตอนนี้น่าจะสร่างเมาแล้ว”
“คุณชายเมิ่งพบเจอสถานการณ์มามากมาย สำหรับคนอื่นแล้วนี่มันเป็นการโอกาสที่จะแสดงตัวตน ว่าไม่กลัวสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำเรื่องยาก ให้เป็นเรื่องง่าย”
“สุดยอดเลย แล้วยังมีความเป็นผู้ดีอยู่ด้วย”
“เมื่อครู่ยังเอะอะโวยวาย พอคุณชายเมิ่งมายืนตรงหน้าเข้า เขาก็ไม่กล้าทำอะไรเลย”
“ไอหย๋า ผมคิดออกแล้ว ฉินหลั่งใช่ไหม คนนี้หาเรื่องไม่ได้นะ เหมือนว่าจะเป็น……ใช่แล้ว เขาเป็นปรมาจารย์” ในตอนนั้นชายแก่ก็ตกใจเอ่ยขึ้นมา จ้องมองไปที่ฉินหลั่งไม่หยุด เหมือนว่าจะคิดอะไรออก
“เหอะ ไม่เคยได้ยินหรือไงว่ามันเป็นการสร้างชื่อปลอมๆ ปรมาจารย์บ้าบออะไรกัน ไร้สาระ อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะถูกหน้าจอทีวีหลอกลวงเอาได้อีก?”
“ปลอมกันทั้งหมดแหละ ตอนนี้คุณชายเมิ่งมาแล้ว ลองให้ฉินหลั่งลงมือดูสิ บางทีอาจจะเป็นทีมนักแสดงส่งตัวมา จุดประสงค์ก็เพื่อเพิ่มเรตติ้ง ส่วนไอ้ที่ชื่อเสืออะไรนั่น คงได้เงินมา เห็นไหมว่าไม่เห็นมีตำรวจเข้ามาเลย?”
ในตอนนั้นจะพูดอะไรก็ได้ ทุกคนกลายเป็นนักวิเคราะห์ นักวางแผน ไปกันหมด………
เห็นคุณชายเมิ่งกล้าหาญ องอาจเช่นนี้ เมิ่งเหมิงเหมิงก็เลยมีแฟนคลับกลุ่มแรกขึ้นมาทันที ชาติตระกูลดี ใจเด็ด ใช้กำลังเก่ง ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างมั่นคง
ในตอนที่เมิ่งเหมิงเหมิงกำลังนิ่งๆ นั้น คนในงานเลี้ยงก็เริ่มมีสติกลับมา ไม่ได้ตกใจกลัวกันแล้ว ลูกน้องของเมิ่งเหมิงเหมิงก็ค่อยๆ หลบออกไป ไปยืนถือปืนเงียบๆ อยู่ด้านข้าง เพื่อเตียมยิ่งฉินหลั่งได้ทุกเมื่อ
คนกว่า90เปอเซนต์คิดว่าฉินหลั่งคงไม่กล้าทำอะไรเมิ่งเหมิงเหมิง เพราะถ้าจะลงมือ ก็ทำไปนานแล้ว ส่วนคนที่รู้เรื่องราวของฉินหลั่งจริงๆ ก็เหงื่อแตกอยู่เงียบๆ แต่จากนั้นก็ถูกเสียงพิเศษอะไรบางอย่างทำให้สับสน
พักใหญ่ ฉินหลั่งวางแก้วไวน์ในมือลง “ทำไมละ? พูดจบแล้วหรือ?”
สีหน้านิ่งๆ ทำให้ในห้องโถงดูเงียบไป
“ฉินหลั่ง อย่าตกใจไป จะมาท้าคนอย่างกู ยังไม่เข้าขั้นหรอก”
เมิ่งเหมิงเหมิงก็วางแก้วไวน์ลง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด “กูขี้เกียจแจ้งตำรวจ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคนในโรงแรมจะไม่โทรแจ้งนะ แล้วอีกอย่างอาสามก็ใกล้จะมาถึงแล้ว ตำแหน่งของเขามึงคงคิดไม่ถึงแน่”
เมิ่งเหมิงเหมิงพูดต่อว่าออกมา “มึงมาแทงคนต่อหน้าคนอื่นเขา เขาอาจจะตายก็ได้ ผลสุดท้ายมันจะเป็นอย่างไรมึงก็น่าจะอ่านกฎหมายบ้างนะ กูจะบอกให้ นี่มันเรียกว่า ฆ่าคนโดยเจตนา！” เมิ่งเหมิงเหมิงยิ่งพูด ความกล้าก็ยิ่งทวีคูณ ยกมือเอานิ้วชี้หน้าฉินหลั่งตะโกนพูด
“โทษจำคุกตลอดชีวิต แย่กว่านั้นก็ยิงเน้าประหารชีวิต”
เมิงเหมิงเหมิงพูดไปแล้วก็จัดคอเสื้อตนเองไป สายตาอำมหิต แล้วพูดว่า “มึงไปคิดดูเองว่าจะกู้สถานการณ์นี้ให้หลับมาอย่างไร มึงคิดเสีย！”
“พอถึงตอนนั้น ใครจะมัวมาสนใจความเป็นความตายของผู้ก่อเหตุ?” เมิ่งเหมิงเหมิงรีบอธิบายหลักการให้ฉินหลั่งฟัง ประมาณว่าจะพูดเอาชนะฉินหลั่ง พูดทำลายความมั่นใจของฉินหลั่ง
“ถ้ากูเป็นมึงนะ กูจะคิดก่อนที่จะทำอะไร พอทำเสร็จ กูก็จะรีบจากไปเสีย ไม่มัวมานั่งโง่อยู่ที่นี่หรอก”
จากนั้นเมิ่งเหมิงเหมิงก็ชี้ไปที่ประตู “ถ้ายังไม่ไป มึงก็จะหมดโอกาสแล้วนะ”
ทันใดนั้น เสียงหวอรถตำรวจก็ดังเข้ามา แสดงว่าทางตำรวจกำลังเดินทางมาแล้ว
ส่วนฉินหลั่ง ก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่จ้องมองไอ้คุณชายคนนี้มันแสดงละคร เขาคิดว่าเมิ่งเหมิงเหมิงนั้นอัปลักษณ์มาก ตลกมาก แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นๆ ในเหตุการณ์จะรู้เหมือนกับเขาหรือเปล่า
“เออ มึงมันกระจอก พูดมากหนวกหูเว้ย” ฉินหลั่งพิงหลังไปที่เก้าอี้ สองมือวางไขว้กัน แล้วก็มีสีหน้าเบื่อหน่าย
เมิ่งเหมิงเหมิงก็นิ่ง แล้วก็หัวเราะออกมา อะไรนะ? กูกระจอกงั้นหรือนี่? ไอ้นี่มันบอกว่ากูกระจอก ฮ่าๆ เขาคิดในใจ
คนอื่นๆ ก็เงียบไปด้วย คุณชายเมิ่งกระจอกงั้นหรือ? ฉินหลั่งพูดใหญ่โตเกินไปจริงๆ
เมิ่งลี่ลี่ก็มองน้องชายตนเองอย่างกังวล เธอเชื่อความรู้สึกของตนเอง ฉินหลั่งไม่ใช่คนที่พวกเขาคิดอย่างนั้น
ส่วนเมิ่งเหมิงเหมิงก็หยิบบุหรี่ซิการ์ออกมาภายใต้เสียงหวอรถตำรวจ สูบแล้วพ่นควันใส่หน้าฉินหลั่ง “กระจอก อะไรเรียกว่ากระจอก? มึงรู้จริงหรือเปล่า? กูสูบซิการ์ม้วนละ1000ดอลล่าห์ เงินเดือนมึงทั้งเดือนพอไหม? ยังมาว่ากูกระจอกอีก?”
“มึงตามตัวกูไม่ใช่หรือ? จะแทงงั้นหรือ? มาดิ ลองแทงกูดิ เดี๋ยวกูให้ยืมความกล้า”
“เก่งดิ? ทำไมไม่เก่งแล้วละ?”
“กูจะบอกมึงให้นะ เมื่อครู่นี้มันเพิ่งเริ่มต้น หลังจากตำรวจจับตัวมึงไปแล้ว เดี๋ยวกูจะบริการให้มึงอย่างสุดพิเศษเลย”
“มึงจะตายทั้งเป็น……” เมิ่งเหมิงเหมิงพูดโหดๆ จากนั้นก็สูบบุหรี่เข้าไป พ่นควันกลุ่มใหญ่ออกมา ควันบุหรี่ปลิวเข้าหน้าฉินหลั่ง
ตุบ！
หมักซัดเข้าที่ใบหน้าของเมิ่งเหมิงเหมิง บุหรี่ซิการ์กระจายเป็นเปลวไฟ ไหม้ไปบนหน้าเมิ่งเหมิงเหมิง ทั้งดำ ทั้งไฟ แล้วก็ยาเส้นบุหรี่ แตกเต็มหน้าเมิ่งเหมิงเหมิง
เมิ่งเหมิงเหมิงที่ไม่ทันตั้งตัว ก็กระโดดขึ้น แล้วรีบปัดเศษบุหรี่บนใบหน้าตนเอง