รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 278 ขู่ไปก็ไม่ได้อะไร

บทที่ 278 ขู่ไปก็ไม่ได้อะไร
“ไปจับผู้ต้องสงสัยซ่งอวี่กับฟางเจิ้งที่โรงพยาบาลเสเหอกับฉันตอนนี้”หวังเฉินพูดกับตำรวจชายหลายคน ก่อนหน้านี้ที่ซ่งอวี่โทรมาแจ้งความ พูดว่าตอนนี้ตนเองกับฟางเจิ้งอยู่ในโรงพยาบาลเสเหอ หวังเฉินคิดว่าฟางเจิ้งอยู่ในโรงพยาบาลแน่เลย ซ่งอวี่ก็มีโอกาสอยู่ในโรงพยาบาล90%
“หา…”ได้ยินหวังเฉินพูดว่าจะไปจับซ่งอวี่กับฟางเจิ้ง ตำรวจคนอื่นตกใจกันหมด ระดับรับรู้ข่าวสารต่างๆในเมืองของพวกเขาที่เป็นตำรวจ สามารถเทียบเท่ากับคนขับแท็กซี่ได้ ดังนั้นพวกเขาก็รู้อย่างชัดเจนว่าซ่งอวี่กับฟางเจิ้งเป็นผู้มีอำนาจขนาดไหนในเย็นจีน 
“ห้ามไปเด็ดขาด”ฝานเฟิงเดินออกมาจากห้องทำงาน มองและพูดกับตรวจคนอื่นว่า“ตอนนี้คดีนี้ยังไม่ชัดเจน ใครก็ห้ามไปจับซ่งอวี่กับฟางเจิ้ง”
เขาอยากจะห้ามคนอื่น และอยากจะให้หวังเฉินก็ไม่ต้องไปเช่นกัน
หวังเฉินไล่สายมองใบหน้าของตำรวจแต่ละคน พอพวกเขาสัมผัสสายกับเธอก็จะก้อมหัวลงทันที หวังเฉินรู้ว่าพวกเขาไม่กล้าไปกับตัวเอง
ในเมื่อที่คนอื่นไม่ไป งั้นเธอก็ไปคนเดี๋ยวละกัน เพราะท่าทีของคนอื่นไม่เคยมีผลกระทบต่อพฤติกรรมของหวังเฉินอยู่แล้ว
หวังเฉินหันหลังแล้วเดินไปทางประตู
“รอผมด้วย หัวหน้าหวัง ผมไปกับคุณ”ตำรวจชายคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน เป็นตำรวจหนุ่มคนนั้นที่โดนกลิ่นคาวเลือดฉุนจนที่อ้วกที่ห้องเสี่ยวติงแฟนเฉิงเหมิ่งก่อนหน้านี้นี่เอง
“หลิวจื้อกาง”ฝานเฟิงตะโกนเรียกอย่างเสียงดัง
“ผู้บัญชาการตำรวจ ตอนนั้นผมก็ได้ยินสิ่งที่เฉิงเหมิ่งพูด ซ่งอวี่กับฟางเจิ้งจ้างเขาไปฆ่าคนอื่นจริงๆ ดังนั้นควรไปจับพวกเขากลับมา……”หลิวจื้อกางพูดกับฝานเฟิงอย่างเกรงๆแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
หวังเฉินขับรถพาตำรวจหนุ่มหลิวจื้อกางไปทางโรงพยาบาลเสเหอ
ตอนนี้ฝานเฟิงโมโหหวังเฉินจนหัวจะระเบิด ถ้าไม่ใช่อยู่ในสถานีตำรวจ เขาจะโยนของแล้วตะโกนด่า เพื่อระบายความโกรดแค้นในใจออกมา
“ปัง”ฝานเฟิงเดินเข้าไปที่ห้องทำงาน แล้วปิดประตู
ฝานเฟิงเดินไปมาในห้องทำงาน ตอนนี้เธอไปจับซ่งอวี่กับฟางเจิ้งที่โรงพยาบาลเสเหอแล้ว เขาต้องรีบรายงานกับซ่งอวี่
แต่ถ้าพูดประโยคนี้ออกไป เขารู้สึกว่าซ่งอวี่จะโกรธจนอยากฆ่าเขาแน่เลย
สถานีตำรวจห่างจากโรงพยาบาลเสเหอขับรถเพียงแค่ไม่ถึง20นาที ถ้าไม่โทรอีก หวังเฉินก็จะถึงโรงพยาบาลแล้ว
โทรเถอะ พอฝานเฟิงตัดสินใจได้ จึงหยีบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา แล้วโทรไปหาซ่งอวี่
ขณะนี้ที่โรงพยาบาลเสเหอ ฟางเจิ้งโกรธจนเป็นฝืนเป็นไฟ ตั้งแต่ที่รู้ข่าวฉินหลั่งโดนปล่อยออกมาจากสถานีตำรวจ
แต่พอเขาเห็นซ่งอวี่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องผู้ป่วยอย่างเงียบๆ ก็ไม่กล้าบ่นอย่างเสียงดัง เพราะกลัวทำให้ซ่งอวี่หงุดหงิดอีก
พ่อแม่ของฟางเจิ้งนั่งอยู่ริมเตียงแล้วปลอบลูกชายตัวเองด้วยเสียงเบาว่า พวกเขาจะล้างแค้นให้เขา จะให้ร.ป.ภที่ชื่อ“ฉินหลั่ง”ชดใช้แน่นอน
ในขณะนี้ โทรศัพท์ของซ่งอวี่ก็ส่งเสียงดังขึ้นมา
พอเห็นว่าเป็นฝานเฟิงโทรมา ซ่งอวี่รู้สึกงงๆ หรือว่าจับฉินหลั่งกลับไปที่สถานีตำรวจแล้ว
ซ่งอวี่กดรับโทรศัพท์
“มีอะไร”ซ่งอวี่ถาม
ฝานเฟิงพูดตรงๆไปว่า “คุณชายซ่ง หวังเฉินออกเดินทางไปจับคุณกับคุณชายฟางที่โรงพยาบาลแล้ว”
“เธอจะมาจับฉัน”มือที่ซ่งอวี่จับโทรศัพท์อยู่ได้กำแน่นขึ้นมา หวังเฉินคนนี้กำลังท้าทายความอดทนและสติของเขาอยู่
“อะไรนะ ใครมาจับผม”
ฟางเจิ้งก็ได้ยินเช่นกัน เขาพูดอย่างโมโหว่า “ไอ้เวร ข้าโดนเฉิงเหมิ่งกับไอ้ร.ป.ภนั้นตีจนขาเป๋ แล้วพวกเขายังหันมาจับข้าอีก นี่มันอะไรกัน
“หวังเฉินพูดว่า เฉิงเหมิ่งกล่าวหาว่าคุณกับคุณชายฟางจ้างให้เขาไปฆ่าร.ป.ภสองคนนั้น หลังจากที่เขาพลาดไป คุณก็สั่งให้ลูกน้องไปไล่ฆ่าเขา แล้วยังพูดว่าสามปีที่ผ่านมานี้ เขาช่วยคุณฆ่าไปแล้วแปดคน และเขาก็มีหลักฐานยืนยันด้วยว่าสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นเป็นจริงหมด ”ฝานเฟิงกล่าว
“แหอะ เป็นผมแล้วไง เธอเป็นเพียงแค่ลูกหลานของตระกูลหวาง กล้าทำกับผมซ่งอวี่ ทำกับตระกูลซ่งอย่างนี้หรือ ผมจะคอยดูว่าหวังเฉินที่ว่าเที่ยงธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครคนนี้ จะทำอะไรผมได้”ซ่งอวี่พูดอย่างเย็นชา
พอพูดจบ ซ่งอวี่ก็ตบโทรศัพท์ลงบนโต๊ะดัง“ปัง”แรงจนจอโทรศัพท์แตกไปหมด
“พี่ชาย ตำรวจไหนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว กล้ามาจับพวกเรา ถ้าเขากล้าเข้ามาแตะตัวผมนะ ผมจะตบเขาให้ดูเลย”ฟางเจิ้งพูด
“รอเธอมาสิ เราจะดูว่ามันมีความสามารถเยอะขนาดไหนกันแน่”ซ่งอวี่ยิ้มอย่างเย็นชา
“พยาบาล”ซ่งอวี่เรียก แล้วมีพยาบาลคนหนึ่งผลักประตูเข้ามา ซ่งอวี่สั่งว่า“ชงกาแฟมาให้แก้วหนึ่งสิ”
หลังจากนั้น10นาที หวังเฉินและหลิวจื้อกางเพิ่งมาถึงโรงพยาบาลเสเหอ หวังเฉินรับรู้ห้องที่ฟางเจิ้งพักอยู่ผ่านหมอ
หวังเฉินเดินไปถึงหน้าห้องผู้ป่วยของฟางเจิ้ง แล้วผลักประตูเดินเข้าไป
ในห้องพักผู้ป่วยนั้น ซ่งอวี่กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่บนเก้าอี้อย่างสบาย พอหวังเฉินเข้า เขาไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลย
“พวกเธอทำอะไรกัน”
ฟางเจิ้งมองพวกเขาสองคนอย่างโมโห “พวกเธอไม่ไปจับผู้ต้องสงสัย มาทำอะไรที่นี่ มาดูว่าขาของผมหักไม่หักหรือไง ผมไม่ต้องการความสนใจของพวกคุณ ออกไปจากห้องของผมเดี๋ยวนี้”
“สวัสดีทุกคน ฉันคือหวังเฉินตำรวจจากสถานีตำรวจ นี่คือบัตรตำรวจของฉัน”
หวังเฉินแสดงบัตรของตนเองให้ฟางเจิ้งกับซ่งอวี่ดู“จากข้อมูลที่ตำรวจได้รับ พวกคุณของสองเป็นผู้ต้องสงสัยในเรื่องจ้างคนฆ่าคนอื่น คุณซ่งอวี่ถูกสงสัยจ้างเฉิงเหมิ่งฆ่าคนหลายคน ส่วนอาการของคุณฟางเจิ้งยังรุนแรงอยู่ ดังนั้นตำรวจจึงอนุญาตให้คุณรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อน คุณซ่งอวี่ต้องกลับสถานีตำรวจกับพวกเราสองคนเพื่อทำการสืบสวนในขั้นต่อไป
พอพูดจบ หวังเฉินก็ถือกุญแจมือ แล้วเดินเข้าไปหาซ่งอวี่
“พวกเธอทำอะไร ซ่งอวี่จ้างนักฆ่า บ้าหรือเปล่า ออกไป อย่ามาแตะตัวหลานฉันนะ” แม่ของฟางเจิ้งขวางอยู่หน้าหวังเฉิน
“ขอโทษ”พอหวังเฉินพูดจบก็ใช้มือผลักแม่ของฟางเจิ้งออกอย่างเบาๆ แล้วเดินไปยืนหน้าซ่งอวี่
“คุณซ่งอวี่ ขอโทษนะ”
หวังเฉินรู้ภูมิหลังของซ่งอวี่ เลยรักษามารยาทต่อเขาอยู่เสมอ พอพูดจบก็ใช้มือข้างซ้ายจับมือของซ่งอวี่ไว้ มือขวาเตรียมล็อกกุญแจมือ
“คุณตำรวจหวัง”
ซ่งอวี่มองหวังเฉินแล้วพูดว่า “ผมอยากรู้ว่าในเมื่อที่คุณรู้ว่าผมเป็นใคร แล้วถ้าผมโดนจับ คุณคิดว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลซ่งมากเท่าไหร่ คุณไม่กลัวว่าเรื่องนี้จะทำร้ายความสัมพันธ์ไม่ยุ่งเกี่ยวกันระหว่างตระกูลซ่งกับตระกูลหวางของคุณหรือ ”
ซ่งอวี่กำลังใช้ตระกูลของตนสร้างความกดดันให้กับหวังเฉิน
“พวกเราได้รับข่าวที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นฉันที่เป็นตำรวจไม่สามารถทำตัวถึงจะรับรู้แต่ก็ไม่ทำอะไรได้……”หวังเฉินยังคงยืนหยัดในความคิดของตนเองอยู่ดี
“เฉิงเหมิ่งหรือ แหอะๆ คุณเคยคิดหรือเปล่า ถ้าเฉิงเหมิ่งจงใจใส่ร้ายผมละ ทำไง”ซ่งอวี่ซักถามด้วยเสียงโหดๆ
“ตามหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้ พวกฉันต้องจับตัวคุณไว้ก่อน นี่ไม่ใช่เรื่องที่ต่อรองได้ รอเฉิงเหมิ่งกลับมาสารภาพความจริงทั้งหมดที่สถานีตำรวจแล้ว ถ้าคูณบริสุทธิ์ ตำรวจจะปล่อยคุณเอง แต่ถ้าคุณทำผิดกฎหมายจริง พวกเราก็ไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
พอหวังเฉินพูดจบ ก็ล็อกมือของซ่งอวี่เลย
“ได้ คุณจำไว้ให้ดีนะ ถ้าผมโดนใส่ร้าย ผมจะให้คุณชดใช้เรื่องนี้แน่”ซ่งอวี่จ้องหน้าหวังเฉินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ลุกขึ้นมา ไปสถานีตำรวจกับฉัน”
หวังเฉินไม่สนใจคำพูดของซ่งอวี่ เธอดึงซ่งอวี่ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้แล้วหันหลังไปพูดกับฟางเจิ้งว่า
“เพราะว่าคุณยังบาดเจ็บสาหัสอยู่ ดังนั้นตำรวจจะยังไม่จับตัวคุณโดยชั่วคร่าว แต่ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปต้นไป พวกเราจะมีตำรวจคอยเปลี่ยนเวรมาเฝ้าคุณอยู่เรื่อยๆ จนคุณสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ แล้วพวกเราก็จะพาคุณไปสถานีตำรวจเช่นกัน”
“พวกเราไปกัน”
พอพูดจบ หวังเฉินกับหลิวจื้อกางก็พาซ่งอวี่เดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย แต่คำนึงถึงตำแหน่งของซ่งอวี่ หวังเฉินจึงใช้เสื้อตัวหนึ่งปิดมือของเขาที่ถูกกุญแจมือล็อกไว้……
เช้าวันต่อมา หลังฉินหลั่งตื่นนอน วิ่งเสร็จ กินข้าวเช้าที่โรงอาหารโรงเรียนแล้ว ตอนเช้าของมหาวิทยาลัยเย็นจีน มีนักเรียนที่ขยันอยู่มากมาย ตื่นแต่เช้า พอกินข้าวเช้าเสร็จก็รีบวิ่งไปจองโต๊ะอ่านหนังสือที่ห้องสมุด
หลังเข้ามหาวิทยาลัยเย็นจีน พวกเขาก็ใกล้ชิดกับสังคมชั้นสูงมากแล้ว ถ้าไม่ขยันตอนนี้ แล้วสุดท้ายกลางเป็นบุคคลธรรมดาคนหนึ่ง นั้นจะเป็นเรื่องน่าเสียดายมากเลย
ฉินหลั่งมาเข้าเวรที่หน้าประตูบ้านพักพนักงาน เวลา7โมง20 จงยู่เดินออกมาจากบ้านพักพนักงาน
เธอแบกกระเป๋าเล็กใบหนึ่ง มองฉินหลั่งแล้วยิ้มมาแต่ไกล
“ทำไมนายดูเหนื่อยจังเลย เมื่อคืนนอนกี่โมงหรอ”จงยู่มองขอบตาดำของฉินหลั่งแล้วถามอย่างเป็นห่วง
เมื่อคืนฉินหลั่งเนื่องจากเรื่องของต้ายเฉียนโป๋ ตอนกลับมาถึงหอพักมหาวิทยาลัยเย็นจีน เป็นเวลาตี3แล้ว จะพักผ่อนดีๆได้ที่ไหน
“อืม……”ฉินหลั่งจับจมูก แล้วคิดในสมองอย่างรวดเร็ว ยิ้มแล้วพูดว่า“เมื่อคืนดูหนังบนโทรศัพท์ดึกไป เลยนอนไม่ค่อยพอ”
“ต่อไปเลิกงานก็นอนเลย รู้ไหม”จงยู่เตือนเช่นนี้ เธอมองไปที่ห้องพักแล้วถามอย่างสงสัยว่า“ทำไมพี่ต้ายไม่อยู่หรอ”
“พี่ต้ายลางานกี่วันอ่ะ จะไม่อยู่นี่หลายวัน”ฉินหลั่งรีบตอบ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนห้ามให้จงยู่รู้เด็ดขาด ไม่งั้นเธอเป็นห่วงอีกแน่เลย
จงยู่พูดกับฉินหลั่งแค่ไม่กี่คำ ก็ไปเรียนแล้ว ฉินหลั่งรู้สึกโล่งใจสักที
ฉินหลั่งโทรหาต้ายเฉียนโป๋ แต่ผู้รับคือน้องของเขาต้ายเฉียนหลิ่ว
“พี่ฉินหลั่ง คุณเป็นไงบ้าง พี่ฉันเป็นห่วงคุณมากเลย พวกตำรวจได้กลั่นแกล้งคุณหรือเปล่า ต้องการให้พี่ฉันไปเป็นพยานให้ที่สถานีตำรวจไหม……”ต้ายเฉียนหลิ่วถามอย่างกังวลใจ
พอได้ยินเช่นนี้ ฉินหลั่งรู้สึกอุ่นใจมากเลย
“พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมออกมาจากสถานีตำรวจแล้ว ตอนนี้ไม่มีไรแล้ว”ฉินหลั่งกล่าว “แล้วพี่เธอละเป็นไงบ้างแล้ว”
“จริงสิ ดีใจมากเลย”
ต้ายเฉียนหลิ่วตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น แล้วฉินหลั่งก็ได้ยินเธอพูดในโทรศัพท์ต่อว่า “พี่ ตอนนี้ฉินหลั่งไม่เป็นไรแล้ว พี่เขาถูกปล่อยออกมาแล้ว หนูบอกแล้วใช่ไหมว่าพี่เขาเป็นคนดี คนดีก็จะได้ดีอย่างแน่นอน……”
“ฉินหลั่ง สภาพพี่ฉันก็ดีเหมือนกัน หมอบอกว่าพี่ฉันแค่สมองกระเทือนเพียงเล็กน้อย หน้าผากเย็บไป7เข็ม เนื้อเยื่ออ่อนตรงขากับหลังฟกช้ำ พัก3ถึง5อาทิตย์ก็สามารถออกจากโรงพยาบาลไปทำการฝึกซ้อมเพื่อฟื้นสภาพได้แล้ว”ต้ายเฉียนหลิ่วพูด
“อืม งั้นก็ดี”ฉินหลั่งตอบแล้วพยักหน้า
ในโทรศัพท์ส่งเสียงของต้ายเฉียนโป๋ออกมาต่อ
“ฉินหลั่ง ครั้งนี้ขอบคุณนายมากเลยนะ…”ในใจของต้ายเฉียนโป๋เต็มไปด้วยจิตใจขอบคุณต่อฉินหลั่ง
“พี่ต้าย พี่จะพูดอย่างงี้ทำไม พวกเราเป็นพี่น้องกันนะ ไม่เห็นต้องพูดอะไรแบบนี้เลย”ฉินหลั่งตอบ
“ได้ พี่น้องกัน พี่น้องที่ดี”ในใจต้ายเฉียนโป๋เต็มไปด้วยหลายความรู้สึก“แต่ถึงแม้จะเป็นพี่น้องแท้ๆเราก็ยังต้องคิดบัญชีกัน เงิน9หมื่นที่ยืมมา ฉันคืนแน่นอน ถึงแม้หลังจากนี้จะทำงานด้วยกันไม่ได้แล้ว แต่นายไว้ใจ ฉันไม่โกงนายหรอก”
ฉินหลั่งก็รู้ คนอย่างต้ายเฉียนโป๋ถ้าไม่คืนเงินนี้ให้ตนเอง เขาคงรู้สึกไม่ดีมากแน่เลย
“พี่ต้าย คุณหมายความว่าไง คุณไม่เป็นร.ป.ภที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนแล้วหรอ”ฉินหลั่งถาม
“ไม่ใช่ฉันไม่อยากทำ แต่คือฉันมีเรื่องกับตระกูลซ่งแล้ว ตระกูลซ่งไม่ยอมให้ฉันทำต่อหรอก อีกอย่างตอนนี้ฉันยังบาดเจ็บอยู่ ไม่รู้ต้องใช้เวลารักษานานขนาดไหน นายคิดว่าคนอย่างหัวหน้าเหยา เขาจะให้ฉันลาป่วยเรื่อยๆหรือไง เมื่อกี้ฉันโทรหาเขา และได้อธิบายสภาพของฉันตอนนี้ให้เขาฟังแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดมาตรงๆ แต่ฉันคิดว่าภายในสองสามวันนี้แหละ เขาคงจะเลิกจ้างฉันล่ะ ”
 
 

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset