รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 269 ดูว่าคุณจะมาทันเวลาไหม

บทที่ 269 ดูว่าคุณจะมาทันเวลาไหม
เย็นจีนถนนชิงเฟิงถนนชิงเฟิง เขตเฟิงถาย ที่นี่มีบ้านเช่าเยอะมาก ราคาตั้งแต่500 ถึง 5000แตกต่างกันไป ในเมืองเย็นจีน ยากที่จะหาบ้านเช่าที่มีค่าเช่าต่ำกว่าที่นี่แล้ว
ต้ายเฉียนโป๋กับน้องสาวต้ายเฉียนหลิ่วอยู่ที่นี่ที่ชั้นใต้ดินของซอย ห้องพักกว้าง 25 ตร.ม. มีเตียงสองชั้นหนึ่งตัว ค่าเช่าเดือนละ 1000หยวน
ต้ายเฉียนโป๋มาจากสถานีรถไฟใต้ดิน ตรงไปที่บ้านของตัวเอง
ก่อนจะจากมหาวิทยาลัยเย็นจีนมา เขาได้ทานบะหมี่ถ้วย 10หยวนที่ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัยเย็นจีนมาแล้ว เย็นจีนที่มีเศรษฐกิจดี บะหมี่หนึ่งถ้วยก็ 15 หยวน ประหยัดได้ก็ต้องประหยัด
อีกสองซอย ต้ายเฉียนโป๋ก็จะถึงบ้านแล้ว
คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คือคนที่ทำอาชีพระดับล่างทั้งนั้น มีคนเป็น รปภ.เหมือนต้ายเฉียนโป๋ ทำงานก่อสร้าง ทำร้านตัดผม ที่พวกคุณชายทั้งหลายต้องการก็มีหมด กลุ่มสตรีข้างถนนในแถวนี้มีตลาดใหญ่
ในขณะนี้ก็มีผู้หญิงแต่งหน้าจัดๆหลายคน นั่งอยู่ข้างถนน เพราะอากาศค่อนข้างหนาว พวกเธอก็เลยไม่ได้สวมใส่ผ้าบางๆเหมือนช่วงหน้าร้อน
แต่สองขาที่สวยงามนั้นถูกห่อหุ้มด้วยถุงน่อง ยังคงเปิดโชว์อยู่บ่อยครั้ง บวกกับรองเท้าส้นสูงสีดำที่เท้า ดูน่าลิ้มลองมาก ๆ
เมื่อผู้ชายเดินผ่าน พวกเธอก็จะเข้าไปพูดคุยด้วยอย่างอัตโนมัติ เช่นเดียวกับต้ายเฉียนโป๋เดินผ่านหน้าพวกเธอในตอนนี้
“คนหล่อ เล่นไหม แค่300 รับรองว่าคุณจะมีความสุขทั้งคืน” สาวข้างถนนคนหนึ่งขวางทางของต้ายเฉียนโป๋ไว้ ถามด้วยเสียงเบาๆ
สาวข้างถนนจงใจปลดกระดุมเสื้อ ให้คอเสื้อหลวมๆ ให้ต้ายเฉียนโป๋เห็นหน้าอกขาว ๆ ของเธอและร่องลึก
“ไม่ดีกว่า ไว้ครั้งหน้าเงินเดือนออกค่อยมาหาคุณเล่น” ต้ายเฉียนโป๋ยิ้มและผลักสาวข้างถนนออกเบา ๆ
ถ้าเป็นตอนอายุ20กว่า ต้ายเฉียนโป๋อาจจะเข้าห้องไปกับสาวข้างถนนแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่ทำแล้ว เงินของเขาจะต้องส่งน้องสาวเรียน ไม่สามารถสูญเปล่ากับพวกเธอได้
สาวข้างถนนดูแล้วไม่น่าจะทำธุรกิจกับต้ายเฉียนโป๋ได้ หันกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง แล้วมองต้ายเฉียนโป๋อย่างดูถูก พึมพำในปากว่า “ไอ้ยาจก ถึงแม้คุณจะมีเงิน ฉันก็ไม่อยากทำธุรกิจกับคุณ”
ต้ายเฉียนโป๋เดินกลับไปที่พักของตัวเองในห้องใต้ดิน ยืนอยู่หน้าห้อง แล้วเคาะประตู
ไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออก คนที่เปิดประตูเป็นหญิงสาวที่สวมใส่ชุดนักเรียน เห็นเธอมัดหางม้า ไม่มีเครื่องสำอางบนใบหน้า ดูเรียบๆ เธอเป็นน้องสาวของต้ายเฉียนโป๋—-ต้ายเฉียนหลิ่ว
“พี่ พี่กลับมาแล้ว” เมื่อเห็นพี่ชาย ต้ายเฉียนหลิ่วใบหน้าที่ระวัง ก็เริ่มมีความสุขขึ้นมาทันที
เธอรีบเปิดประตู ให้พี่ชายเข้ามาในห้อง
“เฮ่ย เด็กน้อย คิดถึงพี่แล้วใช่ไหม”
ต้ายเฉียนโป๋จับแก้มน้องสาวแล้วยิ้ม ได้เจอน้องสาว ปัญหาและความเศร้าโศกทั้งหมดของเขาก็หายไป
ต้ายเฉียนโป๋ใช้จมูกดม เห็นบนโต๊ะหนังสือมีถ้วยวางอยู่หนึ่งใบ ขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดว่า
“ต้ายเฉียนหลิ่ว เธอกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกแล้วเหรอ พี่เคยบอกแล้วไง ของนั่นมันไม่มีสารอาหาร ตอนนี้เรียนมัธยมปลายแล้ว และเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเติบโตของร่างกาย จะกินแต่งของแบบนี้ได้ยังไง”
“พี่ วันนี้การบ้านเยอะ ฉันทำเพื่อความสะดวก จึงได้กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปกติฉันก็กินโรงอาหารที่โรงเรียน” ต้ายเฉียนหลิ่วพูด
เธอรู้ว่าพี่ชายหาเงินลำบาก เงินเดือนก็แค่5000หยวนต่อเดือน มันไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายของสองคนที่เย็นจีน
ต้ายเฉียนหลิ่วกินข้าวในโรงอาหารที่ถูกที่สุด ก็ 6หยวนแล้ว แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละแค่ 2หยวน ดังนั้น ถ้าเธอไม่หิวมาก เธอก็จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งซองทุกคืน
เธอคิดไม่ถึงว่าวันนี้พี่ชายจะกลับมา ดังนั้นเธอจึงพูดโกหกไป
“ต้ายเฉียนหลิ่ว เธอไม่ต้องโกหกพี่ พี่หาเงินได้ไม่เยอะ แต่แค่ให้เธอกินข้าวให้อิ่มหนึ่งมื้อที่โรงอาหารก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นะ หลังจากนี้เชื่อฟังพี่ ห้ามกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีก จะต้องกินข้าวที่โรงอาหารทุกมื้อ ตกลงไหม” ต้ายเฉียนโป๋กับน้องสาวพึ่งพาซึ่งกันและกันมาหลายปี แล้วทำไมจะอ่านความคิดของน้องสาวไม่ออก
“ตกลง ฉันเข้าใจแล้วพี่ พี่ไม่ต้องกังวลนะ ต่อไปนี้ฉันจะกินในโรงอาหารทุกวัน” ต้ายเฉียนหลิ่วพูด เธอพาพี่ชายไปนั่งที่ขอบเตียง แล้วพูดว่า “พี่ หอพักที่โรงเรียนสร้างใกล้จะเสร็จแล้ว เมื่อถึงเวลานั้นฉันก็สามารถย้ายเข้าไปอยู่หอได้แล้ว พี่อยู่ที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนก็มีหอพัก พวกเราก็จะสามารถคือห้องนี้ให้เขาได้แล้ว”
ต้ายเฉียนหลิ่วเรียนที่โรงเรียนมัธยมเอกชน มณฑลเหอหนานแห่งหนึ่ง เพิ่งเปิดได้ 3 ปี ปีนี้เมืองเย็นจีนออกคำขอ โรงเรียนแห่งนี้ต้องรับนักเรียนจำนวน 300 คนที่เป็นลูกหลานของแรงงานต่างถิ่นเข้าโรงเรียน
ต้ายเฉียนหลิ่วถึงมีโอกาสได้เข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เนื่องจากหอพักของโรงเรียนไม่พร้อม ต้ายเฉียนโป๋จึงต้องเช่าห้องนี้ให้น้องสาวอยู่
“อืม เมื่อถึงตอนนั้นก็ดีมาก” ต้ายเฉียนโป๋พูดอย่างปลื้มใจ “งานบ้านทำเสร็จหรือยัง ตอนนี้ก็เกือบจะ10โมงแล้ว ทำเสร็จแล้วก็รีบเข้านอน ถ้วยนี้เดี๋ยวพี่ล้างให้ พรุ่งนี้เช้าพี่ปลุกเธอไปโรงเรียน”
“ขอบคุณค่ะพี่” ต้ายเฉียนหลิ่วยิ้มแล้วพูด มีพี่ชายอยู่ด้วย เธอรู้สึกปลอดภัยมาก ต้ายเฉียนหลิ่วถอดรองเท้า เข้าไปในผ้าห่ม
ต้ายเฉียนโป๋เอาถ้วยวางลงในอ่างล้างถ้วย เตรียมเปิดน้ำแล้วล้างจาน
“ปังปังปัง”
ขณะนั้น ประตูก็ดังขึ้น
ต้ายเฉียนโป๋แปลกใจ เขาอยู่ที่นี่ไม่มีคนสนิท ในเวลานี้ทำไมมีคนมาเคาะประตู หรือว่าเป็น……..
ในขณะที่ต้ายเฉียนโป๋ในใจกำลังสงสัย ก็ได้ยินเสียง “ปัง” ประตูถูกเปิดออก
ต้ายเฉียนโป๋สองพี่น้องช็อกมาก หัวใจหดตัวจนถึงระดับที่แน่นที่สุด ต้ายเฉียนหลิ่วร้องลั่นด้วยความตกใจ
ผู้ชายร่างกายแข็งแรง อายุประมาณ 35ปีเดินเข้ามา เขาสวมแจ็คเก็ตสีดำ ด้านในเป็นเสื้อกั๊กสีขาว หน้าเหลือง รูปหน้าผอมจ้องมองไปที่ต้ายเฉียนโป๋ด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเขาดูคมกริบและเฉียบแหลม
ผู้ชายคนนี้คือเฉิงเหมิ่ง
“ต้ายเฉียนโป๋ คุณกล้ามาก กล้ายั่วโมโหคนอื่นไปเรื่อย วันนี้ฉันจะให้คุณรู้ คนบางคนเมื่อคุณเจอ คุณทำได้แค่กระดิกหางเท่านั้น ถ้ากล้าออกเสียงแม้แต่นิดเดียว จุดจบของคุณก็คือความตาย”
เฉิงเหมิ่งยิ้มอย่างเย็นชา เขาปิดประตู สำหรับสองพี่น้องต้ายเฉียนโป๋ที่อยู่ในห้อง เขาในเวลานี้ก็คืออสูรในนรก
เฉิงเหมิ่งก้าวเข้ามาหาต้ายเฉียนโป๋ทีละก้าว
“พี่ พี่….” ต้ายเฉียนหลิ่วกลัว เรียกพี่เบาๆ เธอรู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้จะทำร้ายพวกเขาสองพี่น้อง
“พลัวะ”
เฉิงเหมิ่งยกฝ่ามือขึ้น จากบนลงล่าง ตบไปบนหัวของต้ายเฉียนโป๋ กะละมังในมือของต้ายเฉียนโป๋ตกลงบนพื้น ถ้วยแตกกระจาย เขารู้สึกว่าสมองของเขากำลังสั่น เหมือนไฟฟ้าช็อต
ความรู้สึกที่เจ็บนี้ เจ็บเป็นครั้งที่สอง ความรู้สึกของต้ายเฉียนโป๋ในขณะนี้คือความกลัว
“พี่” ต้ายเฉียนหลิ่วเห็นพี่ชายโดนตบ ลงจากเตียงด้วยเท้าเปล่า พุ่งไปที่เฉิงเหมิ่ง ใครกล้าตีพี่ของเธอ เธอก็จะตีคนนั้น
แต่ต้ายเฉียนหลิ่วเพิ่งจะพุ่งถึงหน้าเฉิงเหมิ่ง เฉิงเหมิ่งก็ผลักเธอออก ต้ายเฉียนหลิ่วก็ล้มไปบนเตียง
“สาวน้อยอ่อนละมุนขนาดนี้ รอจัดการพี่ชายของคุณแล้ว พี่ใหญ่จะให้น้องได้สัมผัสกับความรู้สึกที่น้องไม่เคยสัมผัสมาก่อน แม้ว่าเตียงสองชั้นนี้จะมีขนาดเล็ก แต่พี่มีทักษะที่ดี รับรองว่าน้องจะไม่ตกจากเตียงแน่นอน……” เฉิงเหมิ่งพูด
ได้ยินคำพูดของเฉิงเหมิ่ง ต้ายเฉียนโป๋กังวลมาก ถ้าเขาจะต้องตายก็ไม่เป็นไร ขอแค่น้องสาวของเขาปลอดภัย
ต้ายเฉียนโป๋ใช้โอกาสตอนที่เฉิงเหมิ่งกำลังคิดร้ายกับน้องสาว ทันใดนั้นก็กอดขาสองข้างของเฉิงเหมิ่งไว้ มองไปที่น้องสาวแล้วตะโกนว่า “รีบหนี ไม่ต้องสนใจพี่ รีบหนีเร็ว”
“ไอ้เลว” เฉิงเหมิ่งนั่งลง ใช้ศอกศอกลงสันหลังของต้ายเฉียนโป๋
ต้ายเฉียนโป๋ “ปัง” เสียงดังขึ้นแล้วนอนลงกับพื้น อาเจียนน้ำเปรี้ยวในปากออกมา ร่างกายเหมือนถูกเฉิงเหมิ่งตีจนแตกกระจายไปรอบๆ
“ในเมื่อคุณรีบไปพบยมบาลขนาดนี้ ฉันก็จะช่วยคุณเอง” เฉิงเหมิ่งพูดอย่างโหดเหี้ยม
พูดจบ เฉิงเหมิ่งยกขาขวาขึ้น กระทืบลงบนหลังของเฉิงเหมิ่ง เพราะความเร็ว กางเกงก็เลยมีเสียง “ควาก ๆ “
“โอ้…..” เฉิงเหมิ่งตะโกนร้อง เพราะความเจ็บ เงยหน้าขึ้น เอ็นที่ยื่นออกมาที่คอ หน้าแดงเหมือนเหล็กร้อน ดวงตาจะทะลักออกมา พื้นผิวของลูกตาปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดสีแดงและสีเขียว
“ฮึ” เฉิงเหมิ่งส่งเสียงเย็นชา แสดงรอยยิ้มที่เย็นชา ต้ายเฉียนโป๋ทำให้เขานึกถึงตอนอยู่บนเวทีมวย ประสบการณ์ในการฆ่านักสู้คนอื่น ๆ ทำให้เขารู้สึกเสพติดความสุขหลังจากการฆ่านองเลือด
“ให้ฉันเข้าไป” เฉิงเหมิ่งใช้มืออันใหญ่ยกต้ายเฉียนโป๋ขึ้นมา ตอนนี้ต้ายเฉียนโป๋อ่อนแรงไปหมด ไม่มีแรงต่อต้านแล้ว
“ฉันจะไปหาแม่แก” เฉิงเหมิ่งด่าว่า ต่อยไปที่หน้าของต้ายเฉียนโป๋อย่างแรง
ต้ายเฉียนโป๋ชนตู้ “เสียงของสิ่งที่แตกหักออกจากกัน” ตู้แตกเป็นช่องว่าง
เฉิงเหมิ่งจับที่เสื้อของต้ายเฉียนโป๋อีกครั้ง ดึกมาที่ด้านหน้าตัวเอง เห็นหน้าของต้ายเฉียนโป๋บวมเหมือนแอปเปิล มีคราบเลือดติดอยู่
“ฮ่า ดูสภาพของคุณตอนนี้ น่าสงสารยิ่งกว่าหมาข้างถนนอีก” เฉิงเหมิ่งยิ้มอย่างเย็นชา
รูม่านตาของเขาหดลงเท่ารูเข็มอีกครั้ง กล้ามเนื้อในมือปูดขึ้นอีกครั้ง โยนต้ายเฉียนโป๋ไปที่กระจกบนตู้
“พลั่ก””เสียงของตกลงพื้น”
กระจกแตกกระจาย มาพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันน่าเศร้าของต้ายเฉียนโป๋
“อ้า”
ต้ายเฉียนโป๋หัวแตกยาว 5 ซม มีเลือดไหลออกมา
ครึ่งบนของกระจกแตกกระจาย ครึ่งล่างยังอยู่ ความคมของรอยแตกสามารถปาดคอคนให้ตายได้
“ไปตายซะ” เฉิงเหมิ่งกัดฟัน จับที่คอต้ายเฉียนโป๋ ชนไปที่รอยแตกของกระจก ถ้าชนเข้าไป หลอดลมของต้ายเฉียนโป๋จะถูกตัดขาดแน่นอน
เฉิงเหมิ่งกำลังจะออกแรง เสียงเรียกเข้าที่ไพเราะของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นในห้อง เฉิงเหมิ่งหยุด ต้ายเฉียนโป๋ตกใจมาก หายใจแรงมาก ต้ายเฉียนหลิ่วก็พุ่งเข้าด้านหน้าของต้ายเฉียนโป๋ กอดหัวของต้ายเฉียนโป๋ไว้
“ปิดโทรศัพท์ของคุณซะ” เฉิงเหมิ่งพูด ตอนที่ฆ่าคนเขาไม่ชอบให้มีเสียงอื่นรบกวน
ต้ายเฉียนโป๋หยิบ Coolpad S1ของหลายปีก่อนออกมาอย่างสั่น เขากลัวมากจนแทบถือโทรศัพท์ไม่ไหว ต้ายเฉียนโป๋เห็นฉินหลั่งโทรมาตัวเอง
“ให้ฉัน” เฉิงเหมิ่งพูดแล้วแย่งโทรศัพท์ของต้ายเฉียนโป๋มา
วินาทีที่เขาเห็นชื่อ “ฉินหลั่ง มีความคิดอะไรดีๆ ล่อฉินหลั่งมาที่นี่แล้วฆ่าเขาซะ ฆ่าคนที่นี่ง่ายกว่าไปฆ่าที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนเยอะ
เฉิงเหมิ่งกดปุ่มรับสาย ในมือถือมีเสียงของฉินหลั่งส่งมา “พี่ต้าย กลับถึงบ้านหรือยัง”
ฉินหลั่งเสร็จภารกิจของวันนี้ และทานอาหารค่ำของจงยู่แล้ว หลังจากรอดูไฟห้องของจงยู่ดับไป เขารู้สึกเป็นห่วงต้ายเฉียนโป๋ ดังนั้นจึงโทรมาถาม
“ฉินหลั่ง……” เฉิงเหมิ่งเรียกอย่าเย็นชา น้ำเสียงของเขาทำให้ฉินหลั่งเกร็งในทันใด ฉินหลั่งรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่เป็นลางไม่ดี เขารีบถามทันทีว่า “คุณเป็นใคร”
“ตอนนี้ต้ายเฉียนโป๋อยู่ในมือของฉัน ถ้าไม่อยากให้เขาเป็นอะไร ตอนนี้ให้คุณรีบมาที่บ้านของเขา จำไว้ ห้ามแจ้งตำรวจ และพาคนอื่นมาด้วยหรือส่งเสียง ฉันขอเตือนคุณก่อน วิธีพวกนี้ไม่ได้ผล จะทำให้เขาเร่งสังหารต้ายเฉียนโป๋เร็วขึ้นเท่านั้น”
เฉิงเหมิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา
“ฉันขอเตือนคุณอย่าแตะต้องพี่ต้าย” ฉินหลั่งพูดอย่างตื่นเต้น
“ฮ่าๆ ก็ต้องดูว่าคุณมาทันเวลาไหม” เฉิงเหมิ่งฟังน้ำเสียงของฉินหลั่ง ก็รู้ว่าเขาจะต้องมาแน่นอน
“ฉินหลั่ง ไม่ต้องมา เขาจะฆ่า…..” ต้ายเฉียนโป๋ตะโกนบอก เขาไม่อยากทำให้เพื่อนต้องเดือดร้อน
“โถ่ว ไอ่แม่เย็ดเอ๊ย” เฉิงเหมิ่งตบไปที่หน้าของต้ายเฉียนโป๋
“พี่ต้าย พี่ต้าย……” ฉินหลั่งเรียกอย่างกังวล
“ฉันบอกคุณชัดเจนแล้ว ภายในครึ่งชั่วโมงมาไม่ถึง ฉันก็จะฆ่าเขา” พูดจบ เฉิงเหมิ่งก็วางสายทันที

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset