รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 267 เข้าไม่ได้ก็คือเข้าไม่ได้

บทที่ 267 เข้าไม่ได้ก็คือเข้าไม่ได้
เหยาจวี้นเจี๋ยไม่มีการสอบถาม ฉินหลั่งพูดขึ้นมา เขาก็เห็นด้วยทันที ฉินหลั่งกับต้ายเฉียนโป๋ยืนยามอยู่ที่ลานเจียสู่
ฉินหลั่งต้องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรบางอย่างกับบ้านตระกูลจง พื้นหลังที่ใหญ่ขนาดนี้ ขนาดเหยาจวี้นเจี๋ยยังไม่กล้าพูดคำว่า “ไม่”
ตั้งแต่วันนี้ งานของฉินหลั่งก็คือ ทุกวันผลัดกันเข้าเวรและลาดตระเวนโดยรถตำรวจในนมหาวิทยาลัย เวลาที่เหลือ ก็ให้อยู่ยามที่มหาวิทยาลัยเย็นจีน
งานง่ายมาก ถึงแม้จะพูดว่ายืนยาม แต่ความจริงเวลาส่วนใหญ่ก็ต้องในป้อมยาม เมื่อมีปัญหา ฉินหลั่งพวกเขาจะต้องแก้ไขทันที
ในคืนนั้น ฉินหลั่งก็เปลี่ยนชุด รปภ. แล้วไปอยู่เวรที่มหาวิทยาลัยกับต้ายเฉียนโป๋
4ทุ่ม จงยู่เดินมาแต่ไกล ฉินหลั่งรู้สึกดีใจ ยืนตัวตรง มองจงยู่เดินเข้ามาทีละก้าว
“คุณเข้าเวรเหรอ ฉันก็ว่าทำไมไม่เห็นแม้แต่เงาของคุณ” จงยู่เห็นฉินหลั่งในชุด รปภ. เหมือนตำรวจเลย หล่อผิดปกติ รู้สึกชอบมาก
หลังจากเธอออกจากห้องเรียนตอน 9 โมง ก็เดินวนไปวนมาในมหาวิทยาลัยเย็นจีนคนเดียว ตามหาฉินหลั่ง แต่ก็ไม่เจอ เธอผิดหวังมาก คาดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะอยู่ที่ลานเจียสู่
“อืม ทานข้าวหรือยัง ทำไมเพิ่งกลับมา” ฉินหลั่งถามด้วยความห่วงใย
จงยู่มาที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนเป็นวันแรก เขาคิดว่าเธอน่าจะกลับมาตั้งนานแล้ว
“ทานแล้ว อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนสอนดีมาก ตอนเย็นฉันไปทบทวนสิ่งที่เขาสอนในห้องอ่านหนังสือ นักเรียนที่นี่ขยันมาก ถ้าฉันไม่ขยันฉันอาจจะถูกคัดออก” จงยู่ยิ้ม
หลังจากฟังจงยู่พูด ฉินหลั่งรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยคนนี้ที่รู้ความ เขาอยากจะอยู่ข้างๆจงยู่เพื่อดูแลเธอ แต่บ้านตระกูลจงที่สั่งไว้แล้ว หน้าที่ของตัวเองตอนนี้ก็คือดูแลจงยู่ ถ้าเปิดเผยตัวตนของจงยู่แล้วมันก็ไม่ดีสำหรับเธอ
ถึงแม้ในใจอยาก แต่ก็ทำได้แค่อดทนเท่านั้น
“ได้ เห็นแก่ที่ เมื่อครู่คิ้วของคุณเหมือนกำลังจะต่อสู้กันแล้ว รีบกลับไปนอนไป” ฉินหลั่งพูด
“คุณก็เช่นกัน” จงยู่พูดจบ ยิ้มให้ฉินหลั่ง แล้วเดินไปทางลานเจียสู่
ต้ายเฉียนโป๋เดินไปข้างหน้าฉินหลั่ง ยิ้มแล้วพูด “ฉินหลั่ง ฉันว่าสาวน้อยคนนั้นเหมือนสนใจคุณนะ เธอยืนอยู่ตรงนี้ 5 นาทีแล้ว สายตาจับจ้องไปที่ตัวคุณ ไม่ได้มองคนหล่ออย่างฉันเลย”
ณ ตอนนี้ ต้ายเฉียนโป๋ลักษณะเจ้าเล่ห์อย่างตลก
“พี่ต้าย คุณไม่ต้องหัวเราะฉันแล้ว ฉันเป็นคนมีเมียแล้วนะ”
ฉินหลั่งยกแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมา
“อีกอย่าง ถึงแม้ฉันกับจงยู่จะเป็นเพื่อนกัน แต่เธอเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเย็นจีน มีอนาคตที่ดี คุณว่าเธอจะมามองรปภ.อย่างฉันได้อย่างไร”
“ที่คุณพูดก็ถูก รปภ.อย่างพวกเรา รายได้ก็น้อย ไม่มีโอกาสในการพัฒนา ผู้หญิงอย่างเธอถ้ามาคบคุณก็คงจะแปลกมาก”
ต้ายเฉียนโป๋พูดตามความรู้สึก เขาหยิบกล่องบุหรี่ราคา 8หยวนออกมา ส่งให้ฉินหลั่งหนึ่งกล่อง พูดว่า “บุหรี่ไม่ดี อย่ารังเกียจนะ”
“อย่าพูดแบบนั้น พวกเราก็เป็นรปภ.เล็กๆเหมือนกัน ฉันจะรังเกียจทำไม” ฉินหลั่งยิ้ม ปกติเขาไม่สูบบุหรี่ แต่ในสถานการณ์นี้ เขาก็เลยต้องสูบ
ฉินหลั่งรับบุหรี่มา ต้ายเฉียนโป๋จุดบุหรี่ให้ฉินหลั่ง
ต้ายเฉียนโป๋พาฉินหลั่งไปที่มุม มุมหนึ่ง ตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ในมหาวิทยาลัยคงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก ทั้งสองคนนั่งกันบนถนน
“ฉันเกิดมา30กว่าปีแล้ว ตั้งแต่เด็กก็ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ถูกคนอื่นดูถูก ตอนหนุ่มๆฉันยังมีความทะเยอทะยาน เฮ่ย ป่านนี้ก็ยังเป็นได้แค่รปภ.เล็กๆ เมียก็ไม่มีปัญญาไปขอ ตลกที่สุดเลย”
“ฮ่าๆ” ต้ายเฉียนโป๋หัวเราะเอง แต่รอยยิ้มของเขาช่างขมขื่น
“พี่ต้าย พี่อย่าคิดเช่นนี้ ตอนนี้พี่แค่ 32 มันเป็นช่วงเวลาสำคัญของชีวิต ตราบใดที่พี่ยังยึดติดกับความทะเยอทะยาน เชื่อว่าพระเจ้าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” ฉินหลั่งปลอบใจ มองความหดหู่ของชายหนุ่มวัยที่อายุ 30 ปี ฉินหลั่งรู้สึกเสียใจมาก
“ฮ่า”
ต้ายเฉียนโป๋ยิ้มอย่างขมขื่นอีกครั้ง เขามองไปที่ดวงดาวอันไกลโพ้น มีไฟสว่างอยู่สองสามดวงในดวงตาเล็ก ๆ
“ช่างเหอะ ชาตินี้ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรกับชีวิตแล้ว แม้จะต้องเป็นอันธพาลไปทั้งชีวิต ถูกคนหัวเราะเยาะ ก็ไม่เป็นไร ฉันมีแค่ความหวังเดียว ก็คือน้องสาวของฉัน ขอแค่เธอปลอดภัย มีความสุขตลอดไป ฉันก็มีความสุขและพึงพอใจมากแล้ว”
ต้ายเฉียนโป๋พูดจบ บุหรี่ในมือของเขาถูกดูดเกือบหมดแล้ว
ต้ายเฉียนโป๋เหยียบก้นบุหรี่ดับ โยนลงในสนามหญ้า ยืนขึ้นแล้วปัดก้น “ได้พูดคุยกับคุณ ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลย ฉันขอไปงีบสักแป๊ป เที่ยงคืนฉันจะมาเปลี่ยนเวรกับคุณ”
พูดจบ ต้ายเฉียนโป๋ก็หันหลังแล้วกลับไปที่พักของตัวเอง
มองไปที่แผ่นหลังอันผอมบางของเขา ฉินหลั่งคิดอะไรได้มากมาย รปภ.เล็กๆอย่างต้ายเฉียนโป๋ ต้องอยู่ภายใต้ความกดดันมากมายเช่นนี้ โลกกว้างใหญ่ขนาดนี้ จะมีสักกี่นาทีที่ไร้ความกังวลใจจริงๆ
ฉินหลั่งสูบบุหรี่ไปหนึ่งคำ หลับตาและลิ้มรสนิโคติน นาทีนี้ เขาได้รู้สึกได้ถึงความรู้สึกผ่อนคลายจากการสูบบุหรี่
วันถัดไป ฉินหลั่งตื่นแต่เช้า เขาวิ่งวงรอบมหาวิทยาลัย 2กิโลเมตร กลับเข้ามาในโรงอาหารและกินอาหารเช้าอย่างรวดเร็ว ในเวลา7โมง20นาที ก็ปฏิบัติหน้าที่ที่ประตูลานเจียสู่แล้ว
มองดูจงยู่เดินออกมา ฉินหลั่งโบกมือทักทายจงยู่
“วันนี้ฉันมีเรียนสามคาบ สำคัญมาก ไม่พูดมากแล้ว ฉันต้องรีบไปแย่งที่นั่งในชั้นเรียนแล้ว” จงยู่พูดจบ โบกมือให้ฉินหลั่งแล้วจากไป การสอนระดับสูงของมหาวิทยาลัยเย็นจีน พิชิตใจจงยู่ ตอนนี้เธอเต็มไปด้วยความกระหายในความรู้
บ่าย4โมงเย็น ฉินหลั่งยืนอยู่ที่ตู้ยาม เห็นจงยู่เดินกลับมา ในมือเธอถือสมุดโน้ตหนึ่งเล่ม เดินไปด้วยดูไปด้วย ดูสับสนเล็กน้อย
“จงยู่ คุณเป็นอะไร” รอจงยู่เดินเข้ามาใกล้ ฉินหลั่งจึงถาม
“ไม่มีอะไร วันนี้อาจารย์สอนเนื้อหามากมาย ฉันยังเข้าใจไม่หมดเลย ฉันต้องกลับไปทบทวนอีกครั้ง” จงยู่พูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย เธอกลัวว่าฉินหลั่งจะเป็นห่วงเธอ
“อืม คุณฉลาดขนาดนี้ จะต้องเข้าใจแน่นอน อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยมากนะ คุณต้องพักผ่อนบ้างรู้ไหม” ฉินหลั่งพูดด้วยเสียงอ่อนโยน
จงยู่พยักหน้า เดินเข้าไปที่ลานเจียสู่
ผ่านไปสิบกว่านาที ถึงเวลาที่ฉินหลั่งกับต้ายเฉียนโป๋ต้องเปลี่ยนเวรกันแล้ว
ตอนนี้ที่ห่างไกล มีBMW X7 สีดำขับมา ขับช้าๆวนรอบมหาวิทยาลัย คนขับรถเห็นลานเจียสู่ จึงขับมาทางนี้
ฉินหลั่งขมวดคิ้วเล็กน้อย มองBMW X7ขับเข้ามาอย่างช้าๆ
“เฮ่ย ยกคันขึ้น” BMWจอดข้างๆฉินหลั่ง เลื่อนกระจกลง ชายหนุ่มคนหนึ่งมองฉินหลั่งแล้วพูด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะท่าทางหรือทัศนคติมีความหยิ่งยโสเป็นพิเศษ
ชายหนุ่มชื่อฟางเจิ้ง เป็นคนมีชื่อเสียงในเย็นจีน วันนี้เขากับพี่ชายซ่งอวี่ว่างและเบื่อจึงมาเที่ยวที่มหาวิทยาลัยเย็นจีน
ฉินหลั่งเห็น ในรถมีชายหนุ่มสองคน อายุประมาณ 20ปี ชายหนุ่มอีกคนนั่งอยู่ข้างคนขับกำลังดูโทรศัพท์อยู่
ชายหนุ่มทั้งสองรูปร่างสูงใหญ่ เนื้อนุ่มละเอียด รูปลักษณ์และเสื้อผ้าดูทันสมัยมาก ดูก็รู้ว่าเป็นลูกหลานคนรวย
ต้ายเฉียนโป๋เคยบอกกับฉินหลั่งว่า ลานเจียสู่ของมหาวิทยาลัยเย็นจีนจะขับรถเข้าไปได้ก็ต่อเมื่อเป็นคนที่อาศัยอยู่ในนั้น โดยทั่วไปจะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า
“ขอถามหน่อยครับ คุณอาศัยอยู่ที่นี่หรือไม่”
ฉินหลั่งถามคนขับฟางเจิ้ง เขาก็ถามตามกฎเพราะเขารู้ บุคคลที่อาศัยอยู่ในลานเจียสู่ส่วนใหญ่จะเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเย็นจีนเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ชายหนุ่มสองคนนี้ไม่ใช่แน่นอน
“คุณจะไร้สาระทำไม ฉันบอกให้คุณยกคันขึ้น คุณฟังไม่รู้เรื่องเหรอ” ฟางเจิ้งตวาด
แค่รปภ.เล็กๆ มีหน้าที่แค่ทำตามที่เขาสั่ง ไม่มีสิทธิ์มาถามว่าทำไม
ฉินหลั่งโกรธมาก คนคนนี้เอาแต่ใจมาก
ได้ยินฟางเจิ้งตวาดฉินหลั่ง ต้ายเฉียนโป๋ก็รีบเดินเข้า ฉินหลั่งยังเด็กเกินไป เขายืนอยู่ข้างๆ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ได้
“เกิดอะไรขึ้น”
ต้ายเฉียนโป๋ดึงฉินหลั่งไปด้านหลัง มองไปที่คนขับฟางเจิ้ง ยิ้มเอาใจแล้วพูด
“คุณชายท่านนี้ ทางมหาวิทยาลัยมีกฎ ถ้าไม่ใช่ผู้ที่อาศัยอยู่ในลานเจียสู่ ห้ามขับรถเข้าไป พวกเราก็เป็นเพียง รปภ.เล็กๆ ก็แค่ทำตามกฎของที่นี่ ขอให้ท่านเห็นใจความลำบากใจของพวกเราด้วย ฮือๆ……..”
“แม่ง หมาสองตัวนี้กล้าทำให้ฉันเสียเวลานานขนาดนี้ ใครให้ความกล้ากับพวกแก” ฟางเจิ้งต่อว่า
ขณะพูด ฟางเจิ้งเปิดประตูรถ เดินลงจากรถ ไม่พูดมาก “ผลัวะ” ดังขึ้น ตบไปที่หน้าของต้ายเฉียนโป๋ ต้ายเฉียนโป๋ถูกตบจนหน้าหมุน 90 ° อึ้งไปสักพัก
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายคือศักดิ์ศรี แต่ศักดิ์ศรีของเขา กำลังถูกฟางเจิ้งเหยียบย่ำ
“รปภ.ชั่ว ในสายตาของฉัน คุณไม่เหมาะสมแม้แต่จะเป็นลูกน้อง คุณเป็นหมาตัวหนึ่ง” ฟางเจิ้งพูดอย่างเย็นชา แต่เขากลับรู้สึกสบายใจมาก ทุกครั้งที่เขาทำร้ายคนอื่นเขาจะมีความรู้สึกสดชื่นเหมือนเสพยา
หากมีคนมองอยู่รอบๆ เขาจะยิ่งมีความสุข
นักเรียนและอาจารย์ที่เดินผ่าน ยืนมองจากไกลๆ ไม่กล้าเข้ามา
“ยังมีหมาอย่างแกด้วย” ฟางเจิ้งจ้องไปที่ฉินหลั่ง เขาเดินอย่างกระวนกระวายไปทางฉินหลั่ง ยกมือขึ้น “แกกล้าไม่ฟังคำสั่งของฉัน อยากตายใช่ไหม”
ฟางเจิ้งโบกมือลงไป เขาอยากตบฉินหลั่งให้เลือดไหลออกมามาก
“ผลัวะ” มีเสียงที่คมชัด ณ ขณะนั้น มีคนล้มลงกับพื้นหนึ่งคน ไม่ใช่ฉินหลั่งแต่กลับเป็นฟางเจิ้ง
ทุกคนอึ้งมาก พวกเขาเห็น ตอนที่มือของฟางเจิ้งกำลังจะโดนหน้าฉินหลั่ง มือของฉินหลั่งเหมือนดีดลูกปืนออกมา ออกมาทีหลังแต่ถึงก่อน โดนหน้าฟางเจิ้ง ล้มลงกับพื้นโดยตรง
มีเลือดไหลออกจากริมฝีปากของฟางเจิ้ง ปากเขาขยับ “พู่” คายฟันขาวสองซี่ออกมา ฟางเจิ้งวางมือบนพื้น จ้องฉินหลั่ง แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและขุ่นเคือง กัดฟันด้วยความแค้น “แกกล้าต่อยฉัน”
ฉินหลั่งยิ้มในใจ เขาต่อยคนมาไม่รู้เท่าไหร่ ก็แค่ลูกหลานคนรวยทำไมเขาจะไม่กล้าต่อย
ปกติฉินหลั่งก็ไม่ใจร้อน แต่วันนี้ฟางเจิ้งทำเกินไป ในเมื่อเขาดูถูกศักดิ์ศรีของต้ายเฉียนโป๋ ฉินหลั่งก็แค่ให้เขารับผิดชอบ
“ที่นี่เข้าได้เฉพาะบุคคลที่อาศัยในลานเจียสู่เท่านั้น รบกวนคุณช่วยขับรถออกไปด้วย อย่าขวางทางเข้าออกของรถคันอื่น” ฉินหลั่งมองฟางเจิ้งที่อยู่บนพื้นแล้วพูด
“ฉินหลั่ง อย่าพูดอีกเลย”
ต้ายเฉียนโป๋กังวลมาก ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนที่มีอิทธิพลอย่างเห็นได้ชัด มีเรื่องกับคนพวกนี้ไม่ใช่เรื่องตลก ต้ายเฉียนโป๋เตรียมจะขอโทษฟางเจิ้ง “คุณชายท่านนี้ เป็นเพราะพวกเราใจร้อนเกินไป ฉันจะรีบยกคันขึ้นเดี๋ยวนี้………..”
“ไม่ต้อง พี่ต้าย” ฉินหลั่งดึงต้ายเฉียนโป๋ไว้ ส่ายหัวเบาๆให้เขา ทั้งๆที่คนผิดคือฝ่ายตรงข้าม แต่พวกเขาต้องขอโทษ เหตุผลนี้ฉินหลั่งไม่ยอมรับ
“พวกแกสองคนใช้ชีวิตจนเบื่อแล้วใช่ไหม” ฟางเจิ้งลุกขึ้นมาจากพื้น เขาเสียหน้าในฝูงชน คิดอยากจะกู้หน้าตัวเองกลับมา
“ฟางเจิ้ง” ซ่งอวี่ที่อยู่ในรถห้ามฟางเจิ้งไว้ “พวกเรากลับ”
“พี่” ฟางเจิ้งกลืนความแค้นนี้ไม่ลง ตั้งแต่เด็กจนโต เขายังไม่เคยถูก รปภ.ที่ต่ำต้อยเช่นนี้ทำร้าย นี่เป็นความอัปยศอย่างยิ่งสำหรับเขา
“ขึ้นมาขับรถ พวกเรากลับ” ซ่งอวี่พูดเบาๆอีกครั้ง ฟางเจิ้งไม่รู้จะทำอย่างไร จ้องมองฉินหลั่งกับต้ายเฉียนโป๋อย่างโกรธแค้น ชี้หน้าพวกเขา “ฝากไว้ก่อน ถ้าฉันฟางเจิ้งเอาชีวิตพวกแกไม่ได้จะไม่แซ่ฟาง”
ทิ้งคำขู่ไว้ ฟางเจิ้งขึ้นรถ ขับรถออกจากมหาวิทยาลัยเย็นจีน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset