รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 96 ตัดไม่ขาด ใจสับสน

บทที่ 96 ตัดไม่ขาด ใจสับสน
เย้นนียืนอยู่ตรงหน้าของจงยู่อย่างกระวนกระวาย เมื่อคืนพวกเฉินจิ้งอี๋เฝ้ารอยู่หน้าห้องผู้ป่วยจนกระทั่งถึงเวลาตีหนึ่ง เฉินจิ้งอี๋จึงได้ช่วยพวกกัวย่าหนานหาโรงแรมที่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล คนอื่นกล้าที่จะกลับไปนอนพัก แต่เย้นนีไม่กล้า เธอกลัวว่าหากฉินเทียนออกมาแล้วไม่เห็นเธอ จะยิ่งโมโห
เมื่อคืน ในใจของเย้นนีกลัวมาก เธอจะไปคิดถึงได้อย่างไร ว่าจงยู่ก็คือพี่สะใภ้ของฉินเทียน คิดถึงก่อนหน้านี้ที่อยู่จินหลิง สิ่งที่ตัวเองได้ทำกับจงยู่นั้น เย้นนีตื่นเต้นจนเหงื่อออกที่มือตลอดเวลา กลัวว่าจงยู่จะฟ้องเรื่องของเธอกับฉินเทียน
“จงยู่ ไม่ใช่ พี่จง พี่ตื่นแล้ว……..” เย้นนียิ้มเจื่อนๆมองไปที่จงยู่ เวลานี้คนที่อยู่ตรงหน้าของเธอไม่ใช่จงยู่ แต่เป็นพี่สะใภ้ของฉินเทียน จะไม่ให้เธอกลัวได้อย่างไร?
จงยู่เข้าใจทันที เย้นนีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน พูดกับตัวเองอย่างอ่อนโยน คิดถึงเมื่อคืนที่เย้นนีใส่ร้ายตัวเอง สายตาของจงยู่ไม่เข้าใจและโกรธ
“ขอโทษค่ะ พี่จง เมื่อวานเป็นเพราะฉันไม่ดี พี่โปรดยกโทษให้ฉันด้วย อย่าถือสาฉันเลย ฉันรู้สึกผิดแล้ว ต่อไปนี้ฉันไม่กล้าแล้ว……” สายตาที่โกรธแค้นของจงยู่ทำให้เย้นนีตกใจจนต้องคุกเข่าลง เธอกลัวจนต้องเอาหัวโขกพื้น
จงยู่อึ้งไปทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อน สักวันหนึ่งเย้นนีต้องมาคุกเข่าต่อหน้าตัวเอง ไม่นานนัก จงยู่ก็มีปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อก่อนฉินเทียนเคยพูดไว้ว่า เขาจะจัดการทุกคนที่รังแกเธอไม่ใช่เหรอ?
“หน้าของเธอถูกฉินเทียนตบเหรอ?” เวลานี้ จงยู่เพิ่งจะสังเกตเห็น หน้าของเย้นนีบวมอยู่ มุมปากยังมีรอยช้ำอีกด้วย
เย้นนีที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ใช้มือลูบที่มุมปากอย่างบางเบาๆ น้ำตาของเธอได้ไหลรินออกมา มองไปที่จงยู่แล้วพยักหน้าเล็กน้อย: “ไม่เพียงแต่ตรงหน้า ยังมี……..”
ขณะที่พูดเย้นนีก็ได้ยืนขึ้นมา เธอหันข้าง แล้วค่อยๆดึงกางเกงลงมาก
เริ่มแรก จงยู่ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร แต่เห็นก้นที่ช้ำเป็นสีม่วงของเย้นนีแล้ว จงยู่ตกใจจนต้องหลับตาลง มันช่างน่าสังเวชเหลือเกิน
เย้นนีดึงกางเกงขึ้นมา มองไปที่จงยู่ ถังปอแฟนของฉันก็ได้เลิกกับฉันแล้ว: “พี่จง ฉันได้รับการลงโทษที่สาสมแล้ว พี่ได้โปรดอภัยให้ฉันด้วยเถอะ…….”
“ได้ ฉันอภัยให้เธอ” เย้นนีน่าสังเวชพอแล้ว จงยู่ก็ไม่ใช่ประเภทที่กัดแล้วไม่ยอมปล่อย
“ขอบคุณค่ะพี่จง ขอบคุณค่ะพี่จง………” เย้นนีหัวเราะทั้งน้ำตา เธอโค้งคำนับจงยู่อย่างไม่ยอมอยู่
“เธอไม่ต้องเรียกฉันว่าพี่จงแล้ว ให้เรียกฉันจงยู่อย่างเมื่อก่อนดีกว่า และก็ไม่ต้อง ‘พี่พี่’ อีกแล้ว…….” จงยู่ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าว: อาการบาดเจ็บของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ให้หมอตรวจดูหรือยัง?”
“ไม่เป็นไร เธอไม่ต้องสนใจฉันหรอก ตอนนี้ร่างกายเธอถึงจะสำคัญที่สุด จงยู่เธอจะดื่มน้ำมั้ย? รู้สึกร้อนหรือเปล่า? หรือว่าฉันไปซื้อซาลาเปาให้เธอกิน………” เย้นนีได้เห็นจงยู่เป็นผู้มีพระคุณไปแล้ว เธอเป็นพี่สะใภ้ของฉินเทียน คนแบบนี้จำเป็นที่จะต้องดูแลให้ดี
“เธออย่ายุ่งวุ่นวายอีกแล้ว ตอนนี้ฉันสบายดีมากแล้ว เธอนั่งลง ไม่ใช่ เธอไปนอนพักตรงนั้นสักพักดีกว่า ฉันไม่ต้องให้เธอมาดูแลอะไรทั้งนั้น…….” จู่ๆจงยู่ก็พบว่า จริงๆเย้นนีก็น่ารักเหมือนกัน
“อ่อ……..” ไม่ได้นอนมาทั้งคืน เย้นนีก็เหนื่อยมากแล้ว เธอเอนกายไปยังขอบหน้าต่างเพื่องีบหลับ
เวลานี้ จงยู่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หาเบอร์โทรของฉินหลั่ง แล้วโทรออกไปหาเขา เธอคิดถึงฉินเหลั่งแล้ว ตอนนี้เธออยากได้ยินเสียงของฉินหลั่ง อยากจะซบอยู่ในอ้อมอกของเขา
“ตู๊ดๆ………” เป็นเสียงสายไม่ว่าง
เมื่อคืน มีโจวซินคนเดียวที่ไม่เมา ได้โทรเรียกเพื่อนนักศึกษาหลายคน มาพาตัวพวกฉินหลั่งไปส่งที่หอพัก เวลานี้ ในหอพักของฉินหลั่งทั้งสี่คนยังนอนอยู่บนเตียง กำลังหลับเป็นตาย
โทรศัพท์ของฉินหลั่งก็อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเขา แต่ว่าเขาหลับอย่างไม่รู้ตัวเลย
ในใจของจงยู่รู้สึกเดาว์ลงเล็กน้อย เวลาที่เธอต้องการฉินหลั่ง แต่โทรศัพท์ของฉินหลั่งกลับโทรไม่ติด
อาจจะเป็นเพราะเขากำลังยุ่งอยู่มั้ง? จงยู่กดวางสาย แล้วนำโทรศัพท์วางไว้บนตู้ที่อยู่ด้านข้าง
เวลานี้ พยาบาลได้เดินเข้ามา ตรวจดูอาการของจงยู่
“ฟื้นฟูได้ไม่เลว ไม่ได้มีอาการแทรกซ้อนใดๆ พักผ่อนสักหนึ่งอาทิตย์ ก็สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว……….” หลังจากที่พยาบาลตรวจดูร่างกายของจงยู่แล้ว ก็กล่าวอย่างยิ้มๆ
“ดีมากเลย” เย้นนีมองหน้าจงยู่ พยักหน้าอย่างยิ้มๆ
พยาบาลก็ได้เปลี่ยนถุงน้ำเกลือให้กับจงยู่: “ในน้ำเกลือที่ให้นี้มียาฆ่าเชื้อ และกลูโคสต่างๆ อีกสักพักเธอก็จะง่วง ไม่ต้องกังวล มันเป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองปกติ เธอพักผ่อนดีๆก็พอแล้ว ปิดโทรศัพท์ด้วย แบบนี้มันจะไม่รบกวนการพักผ่อนของเธอ…….”
“วางใจเถอะ ฉันจะดูแลเธออย่างดี…….” เย้นนีมองไปที่พยาบาลแล้วกล่าว
พยาบาลพูดจบ ก็ได้ถือใบรายงานพร้อมสมุดบันทึกเดินออกไป
“จงยู่ ฟังที่พยาบาลพูดนะ นอนพักดีๆสักงีบ ฉันจะเฝ้าอยู่ข้างๆเธอเอง…….” เย้นนียืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ พูดพร้อมกับยิ้มให้จงยู่
จงยู่พยักหน้าเบาๆ หลับตาลง เพียงไม่นาน ก็ได้หลับไป
ขณะที่เย้นนีเตรียมตัวจะไปพิงหลับที่ขอบหน้าต่างสักแป๊บ
ติ๊งตอง เวลานี้ โทรศัพท์ของจงยู่ที่วางอยู่บนตู้ได้ดังขึ้นมาหนึ่งที
เย้นนีจึงนึกขึ้นได้ เมื่อกี้พยาบาลได้กำชับไว้ ให้ปิดโทรศัพท์มือถือ
เธอถือโทรศัพท์ของจงยู่ไว้ กำลังจะปิดเครื่อง บังเอิญไปเลื่อนหน้าจอของโทรศัพท์เข้าหนึ่งครั้ง จึงพบว่าโทรศัพท์ของจงยู่นั้นไม่ได้ล็อกหน้าจอไว้ เธอจึงสามารถเข้าไปดูข้อมูลข้างในได้อย่างง่ายใด
เย้นนีไปกดเข้าไปที่ “บันทึกโทรเข้าโทรออก” พบว่าคนที่จงยู่โทรหาเมื่อกี้คือ “ฉินหลั่ง” แต่ว่าไม่มีคนรับสาย สมองของเย้นนีอดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นมา
จงยู่เป็นพี่สะใภ้ของฉินเทียน ฉินหลั่งเป็นแฟนของจงยู่ พวกเขาต่างก็แซ่ฉิน……….
เวลานี้เย้นนีถึงได้เข้าใจทุกอย่าง ฉินหลั่งก็คือพี่ชายของฉินเทียน ก่อนหน้านี้เธอกังวลตลอดเวลา กลัวว่าฉินเทียนจะทำอะไรเธอ ความสัมพันธ์ง่ายๆแค่นี้เธอยังไม่เข้าใจ
เย้นนีมองโทรศัพท์ของในมือของจงยู่ แล้วก็มองจงยู่ที่นอนหลับอยู่บนเตียง สายตาแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอแค่กลอกตาไปหนึ่งครั้ง ไม่นานก็คิดแผนได้แผนหนึ่ง
เย้นนีหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา ลับหลังจงยู่ ไม่รู้ว่าได้ทำอะไรกับโทรศัพท์มือถือสองเครื่องนี้……..
ฉินหลั่งในเวลานี้ ได้ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เขาก็ทำเหมือนที่เคยทำประจำได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา พบว่าเป็นเวลาเก้าโมงครึ่งแล้ว แต่สมองของเขายังคงมึนๆ
มองอีกครั้ง ก็เห็นมิสคอลสี่สาย กดเข้าไปดู จงยู่โทรมาหนึ่งสาย ฉินเทียนโทรมาสามสาย
เห็นชื่อของจงยู่ ฉินหลั่งก็สร่างเมาไปเกือบครึ่ง เขารีบโทรกลับไปหาจงยู่
“ฉินหลั่ง”
โทรศัพท์ของจงยู่ดังขึ้น พบว่าเป็นชื่อของฉินหลั่ง เย้นนีตกใจจนสะดุ้ง จึงรีบปิดเสียงทันที เธอก็ให้โทรศัพท์กะพริบอยู่อย่างนั้น ยังไงก็ไม่รับสาย จนกว่าสายถูกตัดไปเอง
ทำไมเป็นแบบนี้? ฉินหลั่งสงสัย จงยู่ทำไมไม่รับสายของตัวเอง?
ในขณะที่เขากำลังจะโทรอีกครั้งนั้น ก็มีข้อความเข้ามา
“กำลังยุ่งอยู่ เดี๋ยวค่อยโทรหานาย” เห็นข้อความแล้ว ฉินหลั่งจึงไม่ได้โทรอีก คิดว่าโชว์ที่เซี่ยงไฮ้ คงมีเรื่องมากมายให้จงยู่ต้องทำ
ทำไมเจ้าเด็กฉินเทียนถึงได้โทรหาตัวเองล่ะ? ฉินหลั่งที่ครุ่นคิด จึงได้โทรหาฉินเทียน และในเวลานี้ โทรศัพท์ไอโฟน8 กำลังดังอยู่ใต้แม่น้ำ แล้วใครจะสามารถมารับได้ล่ะ?
ฉินหลั่งโทรไปสามสาย แต่ก็โทรไม่ติด ถึงแม้ฉินหลั่งจะสงสัยเล็กน้อย แต่ก็จนปัญญา
เจ้าเด็กคนนี้คงจะเที่ยวเล่นอยู่ที่ไหนสักแห่ง คิดแบบนี้แล้ว ฉินหลั่งก็ได้สอดโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋ากางเกง เดินเข้าไปในห้องน้ำล้างหน้าแปรงฟัน
เมื่อคืนดื่มไปทั้งคืน ต่อให้ใช้น้ำเย็นล้างหน้าไปหนึ่งรอบ ฉินหลั่งยังคงรู้สึกมึนอยู่ เขาเดินออกไปจากหอพัก อยากจะเดินไปหาของกินที่หน้ามหาวิทยาลัย เพื่อให้สมองของตัวเองตื่นตัวกว่านี้
จากหอพักเดินไปถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย สูดดมอากาศที่บริสุทธิ์ สมองของฉินหลั่งปลอดโปร่งขึ้นมานิดนึง
“ฉินหลั่ง หวัดดี!” ขณะที่ฉินหลั่งกำลังจะเดินถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยนั้น สาวสวยคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เธอก็คือเผิงเมิ่ง! เธอทักทายฉินหลั่งด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน
เห็นเผิงเมิ่ง ในใจของฉินหลั่งอดไม่ได้ที่หวั่นไหว เขาพบว่า ตัวเองเหมือนอยากจะพบเจอกับเผิงเมิ่ง นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี ฉินหลั่งเตือนตัวเอง ให้รักษาระยะห่างกับเผิงเมิ่ง
เผิงเมิ่งได้ก้าวเดินมาด้วยฝีเท้าที่ค่อนข้างเร็ว ยิ้มแล้วมองมาที่ฉินหลั่ง เดินเข้ามาทางเขา
“หวัดดี!” ฉินหลั่งจงใจทักทายกับเธออย่างห่างเหิน พยักหน้ารับรู้ ก็ได้เดินไปนอกมหาวิทยาลัยต่อ ทำให้เผิงเมิ่งกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“เฮ้ย นาย…….” เผิงเมิ่งเรียกฉินหลั่ง ฉินหลั่งก็ไม่ได้หันกลับมา เผิงเมิ่งก็ถอนหายใจเบาๆ ก็ได้เร่งฝีเท้า เดินตามอยู่ด้านหลังของฉินหลั่ง: “นายรอฉันด้วย……”
เผิงเมิ่งก้าวเท้ายาวๆ จึงได้ตามฉินหลั่งทัน เธอมองฉินหลั่งจากข้างๆ พยายามที่จะสนิทกับฉินหลั่งให้ได้: “นายกินข้าวหรือยัง? นายกำลังจะไปไหน…….”
“ยังไม่กิน กำลังจะไปกินข้าว” ฉินหลั่งไม่ได้มองเผิงเมิ่งแม้แต่ครั้งเดียว ยังคงมองและเดินต่อไปยังด้านหน้า
ทำไมต้องเย็นชาขนาดนี้ด้วย? เหลือเกินจริงๆ เผิงเมิ่งบ่นพึมพำในใจ แต่เธอก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย สำหรับเผิงเมิ่งที่เป็นคนฉลาด ทำไมจะดูไม่ออก ฉินหลั่งจงใจที่จะรักษาระยะห่างกับตัวเอง ทำไมฉินหลั่งต้องทำแบบนี้ หรือว่าเขาจะรู้แล้วว่าในระหว่างที่คุยกับตัวเอง มีความเป็นไปได้ว่าได้ชอบตัวเองเข้าแล้ว
แววตาของเผิงเมิ่งมีเลศนัย นายอยากจะรักษาระยะห่างกับฉัน ฉันก็จงใจจะไม่ถอย
“ช่วงนี้นายสบายดีมั้ย?”
“ดี”
“เมื่อวานฉันกินพาสต้า เมื่อคืนนายกินอะไรเหรอ?”
“สังสรรค์กับเพื่อน”
“ฉันยังไม่เคยเห็นนายอยู่ด้วยกันกับแฟนเลย ความสัมพันธ์ของพวกนายมีปัญหากันเหรอ?”
ฉินหลั่งได้หยุดฝีเท้าลง มองไปทางเผิงเมิ่งอย่างไม่พูดไม่จา เดิมทีเผิงเมิ่งยังหัวเราะคิกๆ เมื่อพบว่าฉินหลั่งกำลังจ้องมองตัวเองอยู่นั้น ริมฝีปากของเธอสั่นอย่างเขินอาย รอยยิ้มค่อยๆเกร็งขึ้นมา
ฉินหลั่งส่ายหัวอย่างเอือมระอา แล้วเดินต่อไป
ทำไม นายถึงต้องจ้องฉันแบบนี้ นายจะไปไหน? เหลือเกินจริงๆ ไม่รู้จักเคารพสาวสวยบ้างเลย เผิงเมิ่งว่าฉินหลั่งในใจ แล้วก็เร่งฝีเท้าตามไป
เวลานี้ เธอเป็นคนที่คุยกับฉินหลั่งก่อน ฉินหลั่งก็ไม่ได้สนใจเธอเลย
“พี่ฉินหลั่ง ฉันผิดไปแล้วพอใจยัง ใจพี่กว้างหน่อยสิ คุยกับฉันหน่อยได้มั้ย?” เผิงเมิ่ง ทำท่าทางที่น่าสงสารอ้อนวอนฉินหลั่ง ฉินหลั่งไม่ได้รู้สึกสงสารเลย
พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากประตูมหาวิทยาลัย ตรงหน้าประตู มีรถCadillac CT6จอดอยู่ บนหลังคารถวางน้ำแร่เอเวียงไว้หนึ่งขวด ชายอายุประมาณสามสิบปี นั่งพิงอยู่ในเบาะคนขับ เขามาตกสาวๆที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ เฉพาะแค่มหาวิทยาลัยจินหลิง เขาก็เสียเงินไปเป็นแสนแล้ว
เขากำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ รอหญิงสาวมาติดเบ็ด ก็ได้เห็นสาวสวยคนหนึ่งกำลังเดินมาจากทางออกของมหาวิทยาลัย ตาของเขาสว่างขึ้นมาทันที สาวสวยคนนี้สมบูรณ์แบบมาก ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือรูปร่าง เหมือนพริตตี้รถเลย
สาวสวยแบบนี้ ต่อให้ต้องเสียเงินมากแค่ไหน ชายหนุ่มนี้ก็ยินดี
เห็นเธอกำลังจะเดินมาฝั่งของตัวเอง ชายหนุ่มได้เปิดประตูรถ เดินลงมาจากรถ……..

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset