รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 8 ใช้อำนาจของวงศ์ตระกูล

บทที่ 8 ใช้อำนาจของวงศ์ตระกูล
เมื่อได้ยินเสียงของฉินหลั่ง ส้งเส่นเอ๋อก็ชะงักไป เธอหยุดเช็ดจมูก แล้วเงยหน้าขึ้นหันไปมองฉินหลั่งด้วยสายตาเย็นชา “นายก็มาด้วยเหรอ”
ฉินหลั่งพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร ดูสีหน้าของส้งเส่นเอ๋อ ก็รู้ว่าเธอไม่พอใจตัวเองมาก
“เส่นเอ๋อ ฉินหลั่งมาเพราะอยากจะช่วยเธอหาทางออกนะ เกิดเรื่องขึ้นกับเธอ เขาก็เป็นห่วงมากเหมือนกัน” โจวซินรีบร้อนช่วยฉินหลั่งพูดแก้ตัว
“หึ เป็นห่วง !” ส้งเส่นเอ๋อหัวเราะเสียงเย็น “เมื่อวานถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันจะไปชนกับหม่าเก๋อไหม ? ถ้าไม่ไปชนหม่าเก๋อ แล้วจะมีเรื่องวันนี้ไหม ?”
ส้งเส่นเอ๋อพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก พูดจบก็ชี้นิ้วไปที่หน้าประตู ก่อนจะตะคอกใส่ “ไสหัวไป นายรีบไสหัวออกไปจากหอพักของฉันเดี๋ยวนี้ !”
“เส่นเอ๋อ ดูเธอสิ…” โจวซินเองก็รู้สึกว่าส้งเส่นเอ๋อโวยวายอย่างไร้เหตุผลเกินไปหน่อย ยังไงฉินหลั่งเขาก็มาเยี่ยมเธอแล้ว เธอยังจะพูดแบบนี้กับคนอื่นอีก
ฉินหลั่งไม่พูดอะไร เขาค่อยๆหันหลัง แล้วเดินไปทางประตู
“ฉินหลั่ง ไม่เป็นไรใช่ไหม เมื่อกี้เส่นเอ๋อพูดเกินไปหน่อย เห็นแก่ที่วันนี้เธอกดดันมาก นายก็อย่าได้ถือสาเธอเลยนะ เข้าใจเธอหน่อย” หวงเกอกดวางสาย แล้วเดินตามออกมา ปลอบใจพี่น้อง
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ดี” ฉินหลั่งยิ้มบางๆ “เอาล่ะ รีบเข้าไปปลอบเธอเถอะ บอกเธอไม่ต้องเป็นห่วง ทุกอย่างจะดีเอง”
พอพูดจบ ฉินหลั่งก็เดินออกไปข้างนอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน
หวงเกอมองดูแผ่นหลังของฉินหลั่ง ส่ายหัว แล้วรีบเดินกลับเข้าไปในหอพัก
“ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าไอ้ตัวซวยนั่นอีกแล้ว !” ส้งเส่นเอ๋อยังคงก่นด่าฉินหลั่งไม่หยุด พอเห็นหวงเกอเข้ามา ถึงจะหยุด ก่อนจะคว้าโทรศัพท์ออกมา “จู่ๆเมื่อกี้ฉันก็คิดได้ ว่าควรจะโทรหาเพื่อนสมัยม.ปลาย ดูว่าจางเชื๋อจะช่วยอะไรได้ไหม……”
“ฮัลโหล จางเชื๋อ ฉันเส่นเอ๋อเองนะ……”ส้งเส่นเอ๋อเริ่มเล่าบรรยายความซวยของตัวเองให้จางเชื๋อฟัง
คนอื่นๆที่อยู่ในหอพักเองต่างก็กำลังติดต่อ คนที่ตัวเองพอจะคิดออก คนที่พอจะช่วยอะไรได้บ้าง
“ฮัลโหล คุณลุงคะ ฉันเหวินเหวินเองนะ มีเรื่องอยากจะรบกวนคุณลุงหน่อยค่ะ เพื่อนร่วมหอของฉันกับหม่าวั่นถังบริษัทเทียนซีกรุ๊ป……อะไรนะคะ ไม่กล้ายุ่ง ไม่ใช่ค่ะ คุณลุงช่วยดูหน่อยว่าพอจะหาทางเจรจา…อ๋อ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันลองไปหาคนอื่นดู สวัสดีค่ะคุณลุง”
“ฮัลโหล ป้าหรุงคะ ป้าช่วยดูหน่อยนะคะว่าเรื่องนี้ป้าช่วยฉันได้ไหม……”
ฉินหลั่งเดินออกมาจากหอพักหญิง สายใจสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไป ก่อนจะควานหาโทรศัพท์ กดหาเบอร์ที่อยู่ในความทรงจำ แล้วทาบโทรศัพท์ลงข้างหู
หลังเสียงสัญญาณสามครั้ง สายก็ติด
“คุณชายใหญ่ ในที่สุดคุณก็โทรหาชายชราสักที คุณชายใหญ่ลำบากอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปี กระผมมีใจแต่ไร้กำลัง ความผิดของกระผมเอง” อีกด้านมีเสียงของชายชราดังขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือ ฟังแล้วเหมือนว่ากำลังตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ออกมา
“ท่านหวงพูดเกินไปแล้ว” ได้ยินเสียงของท่านหวงในวงศ์ตระกูลที่ไม่ได้ยินมานานเจ็ดปี ในใจของฉินหลั่งมีความรู้สึกนับร้อยที่ผสมปนเปกันอยู่
“บททดสอบความยากจนของผมจบแล้ว ตอนนี้ผมคงใช้อำนาจของวงศ์ตระกูลได้แล้วใช่ไหม”
“แน่นอนครับ ตั้งแต่เมื่อวานซืน ทุกคำสั่งห้ามที่เกี่ยวกับท่าน ทางวงศ์ตระกูลได้สั่งให้ปลดล็อกออกทั้งหมดแล้วครับ !” ท่านหวงรีบตอบอย่างกระตือรือร้น
“อืม ผมอยากจะตักเตือนหม่าวั่นถังบริษัทเทียนซีกรุ๊ปสักหน่อย” ฉินหลั่งพูดตรงประเด็นทันทีถึงเป้าหมายที่เขาโทรมาในครั้งนี้
“บริษัทเทียนซีกรุ๊ป บริษัทเทียนซีกรุ๊ป…” ท่านหวงที่อยู่ฝั่งนั้นพึมพำอยู่สองคำ “โปรดยกโทษให้คนแก่ที่โง่เขลาด้วยเถอะ บริษัทเทียนซีกรุ๊ปนี้เป็นองค์กรของที่ไหนหรือครับ”
“เป็นองค์กรหนึ่งในพื้นที่ของเมืองจีนหลิง” ฉินหลั่งอธิบาย อำนาจของพวกเขาแผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก แค่หนึ่งในองค์กรที่อยู่ท็อปสิบของจีนหลิงนั้น ก็ถือว่าไม่มีอะไรจริงๆ
“องค์กรในจีนหลิง” ท่านหวงนึกขึ้นมาได้ทันที “ได้ครับ จีนหลิงถือว่าเป็นเขตรับผิดชอบของตระกูลฝ่ายภาคตะวันออก หลังจากนี้ผมจะติดต่อไปทางโข่งลิ่งเสียนผู้รับผิดชอบภาคตะวันออกเอง คุณชายใหญ่ คุณต้องการตักเตือนหม่าวั่นถังเรื่องอะไรเหรอครับ ?”
“บอกให้เขาหยุดทุกการกระทำที่กำลังทำกับบริษัท Dragon Cargo !” ฉินหลั่งพูดเรียบๆ
“ได้ครับ คุณชายใหญ่โปรดวางใจ ภายในครึ่งชั่วโมง ไม่ว่าหม่าวั่นถังเตรียมที่จะทำอะไรกับบริษัท Dragon Cargo ก็จะต้องหยุดลงอย่างว่าง่ายเองครับ” ท่านหวงพูดเบาๆพร้อมรอยยิ้ม
“แบบนั้นจะดีที่สุด” ฉินหลั่งพยักหน้า แล้วกดวางสาย
หลังจากท่านหวงได้รับคำสั่งจากฉินหลั่งแล้ว ก็รีบต่อสายผ่านสายภายในวงศ์ตระกูลทันที แล้วส่งต่อความต้องการของฉินหลั่งไปที่โข่งลิ่งเสียนผู้รับผิดชอบภาคตะวันออก
ในตอนนั้นเอง ส้งเส่นเอ๋อที่โทรหาเพื่อนสมัยม.ปลาย พ่อของจางเชื๋อ ก็รับปากข้อเรียกร้องของลูกชาย แล้วรีบตรงไปที่สหพันธ์ธุรกิจของเมืองจีนหลิงทันที
เขากับชื๋อหยินจ้งประธานสหพันธ์ธุรกิจของเมืองจีนหลิงเป็นเพื่อนกันสมัยม.ต้น ถ้าหากชื๋อหยินจ้งเป็นคนออกหน้า เรื่องนี้จะต้องถูกแก้ไขอย่างแน่นอน
ในขณะนี้ชื๋อหยินจ้ง กำลังเจรจาธุรกิจกับผู้ลงทุนที่มาจากอเมริกาเจ้าหนึ่ง อยู่ในตึกของสหพันธ์ธุรกิจ แต่ละฝ่ายต่างก็มีผู้เจรจาฝ่ายละสิบคน จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องมีมากถึง795ล้านหยวน
การเจรจากำลังมาถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุด ดูจากกระแสตอนนี้แล้ว อีกสิบนาที ทั้งสองฝ่ายก็คงสามารถเจรจากันได้แล้ว ฝ่ายที่มีชื๋อหยินจ้งนำอยู่ ก็จะได้รับโครงการลงทุน795ล้านหยวนไป
และในเวลานั้นเอง ประตูของห้องประชุมก็ถูกผลักออก เลขาของชื๋อหยินจ้งเดินเข้ามาข้างใน
ชื๋อหยินจ้งขมวดคิ้ว คนอื่นๆเองก็มีสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมาก ในกระบวนการเจรจา การที่เลขาเดินเข้ามาอย่างกะทันหัน นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทมาก
แต่ว่าเลขาก็ยังเดินไปข้างชื๋อหยินจ้ง แล้วพูดอยู่ที่ข้างหูเขาสองสามคำ สีหน้าของชื๋อหยินจ้งเปลี่ยนไปทันที ไตร่ตรองครู่หนึ่งก่อนจะยืนขึ้น แล้วพูดกับคนอื่นๆว่า “ต้องขออภัยทุกท่านเป็นอย่างมาก ตอนนี้ผมมีเรื่องด่วนเข้ามา จำเป็นจะต้องไปจัดการทันที การประชุมในวันนี้คงต้องเลื่อนออกไปก่อน ขอให้ทุกท่านได้โปรดเข้าใจ”
พูดจบ เขาก็โค้งคำนับเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินออกไปทางประตูทันที
“คุณชื๋อ ถ้าคุณออกไปตอนนี้ ฉันคิดว่าพวกเราคงไม่ต้องคุยกันอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าฉันไม่เห็นถึงความจริงใจของคุณเลย” ตัวแทนที่มีอำนาจที่สุดของฝั่งอเมริกาพูดกับชื๋อหยินจ้ง แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ผมคงต้องขออภัย” ชื๋อหยินจ้งหันกลับมาพูดคำหนึ่ง จากนั้นก็ก้าวยาวๆออกไปทางประตู
เมื่อกี้เลขาบอกเขาว่า โข่งลิ่งเสียนโทรมาบอกให้เขารีบแก้ไขปัญหาของบริษัทเทียนซีกรุ๊ปกับบริษัทDragon Cargoโดยด่วน
ในสายตาเขาแล้ว คำพูดของโข่งลิ่งเสียนสำคัญกว่าเงิน795ล้านหยวนมาก
เจรจาธุรกิจล้มเหลว ต่อไปก็ยังคุยใหม่ได้ แต่ถ้าทำผิดต่อโข่งลิ่งเสียน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆแค่การสูญเสียเงินอย่างเดียวแล้ว บางทีแม้ทั้งบริษัทและตำแหน่งประธานสหพันธ์ธุรกิจก็จะหายไปด้วย
คนๆนี้ไม่ใช่ทั้งทางการหรือนักธุรกิจ แต่ในแวดวงของภาคตะวันออก ถือว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลมาก
เลขาออกไปพร้อมกับชื๋อหยินจ้งตรงออกไปทางประตูทางออกของตึกอย่างรีบร้อน และตอนนั้นเอง พ่อจางก็มาถึงพอดี
“ประธานชื๋อ……” พ่อจางเดินไปทางชื๋อหยินจ้งด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เขาอยากจะพึงพาความเป็นเพื่อนร่วมชั้น ยังไงประธานชื๋อก็คงยอมช่วยเขาอยู่แล้ว
แต่ว่า ประธานชื๋อกลับแค่เหลือบมองเขาทีหนึ่ง ไม่ได้สนใจเขาเลย รีบร้อนเดินขึ้นรถไป แล้วคนขับรถก็พาเขาออกไปทันที
พูดถึงฉินหลั่ง เขาเดินไปที่ทะเลสาบยุ่นซีข้างมหาวิทยาลัยคนเดียว แล้วนั่งลงบนหินก้อนหนึ่ง มองดูผนน้ำที่ถูกลมพัด แล้วก็เหม่อลอย
ริมฝั่งทะเลสาบ คู่รักที่กำลังคลอเคลียกันก็เปิดกล่องความทรงจำในอดีตของเขาออก
ในตอนนั้น ฉินหลั่งกับเส้เหวินจี้งก็เคยมีช่วงเวลาที่รักกันหวานชื่นแบบนี้อยู่ ไปส่งข้าวให้เธอ ขี่มอเตอร์ไซต์ไปส่งเธอสอบภาษากลาง ใช้เงินที่ประหยัดกินประหยัดใช้ ไปซื้อเครื่องสำอางให้เส้เหวินจี้ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของฉินหลั่ง ฉินหลั่งเก็บสายตาที่รู้สึกปวดร้าวกลับมา บนหน้าจอแสดงชื่อ “เสี้ยฉีง” ขึ้นมา
เสี้ยฉีงคือกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย ฉินหลั่งเองก็เป็นสมาชิกของทีมเชียร์ลีดเดอร์ ในทีมเชียร์ลีดเดอร์มีแต่ผู้หญิงแล้วใครจะช่วยย้ายของ ใครจะยกเครื่องเสียง ใครจะซื้อไอศกรีม เวลาร้อนใครจะเป็นคนพัดให้ แน่นอนว่าต้องการผู้ชายคนหนึ่งอยู่แล้ว ฉินหลั่งก็มีไว้เพื่อการนี้ กลายมาเป็น “ผู้ช่วยราชินี” ของทีมเชียร์ลีดเดอร์ พูดง่ายๆคือแรงงานฟรี
“ฮัลโหล ฉินหลั่ง ตอนนี้รีบมาที่สนามฝั่งตะวันตกเดี๋ยวนี้เลยนะ !”
“มีเรื่องอะไรเหรอ……”
“บอกให้นายมาก็มาสิ พูดมากไร้สาระทำไม วางล่ะ !” พูดจบ เสี้ยฉีงก็กดวางสายไป
ฉินหลั่งยัดโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ยืนขึ้นมาปัดฝุ่นที่ก้น แล้วรีบเดินไปทางสนามฝั่งตะวันตก

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset