บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 236 อาการของเวินหนิงไม่ดีมากนัก

เวินหนิงมองไปที่อันเฉินอย่างไม่เชื่อ

เขาพูดว่า ลู่จิ้นยวนกำลังจะหมั้น……

ข่าวนี้ ถึงแม้เธอจะยอมรับความจริงว่าเลิกกันแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดี

“คือ……ไม่ครับ……ผมพูดผิด” อันเฉินตกใจ ไม่ใช่เป็นเพราะเรื่องนี้ เขาพูดอะไรที่ไม่ควรพูด?

“สรุปอะไรกันแน่? นายพูดสิ!” เวินหนิงไม่สนของในมือ แล้วจับคอเสื้อของอันเฉิน

แต่ว่า ในสมองก็มีภาพเหตุการณ์ ตอนนั้น ตอนที่อันเฉินคุยโทรศัพท์เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องงานแต่ง แล้วก็คำกล่าวที่ดูแปลกประหลาดของลู่จิ้นยวนด้วย……

แต่ก่อนเธอไม่เคยคิดลึกเลย พอมาตอนนี้ เธอค่อยเข้าใจว่ามันเป็นยังไง

ที่แท้ลู่จิ้นยวนกำลังจะหมั้น ก็เลยบอกให้เธอรอเขาที่ต่างประเทศ ก็เลยพาตัวคุณแม่มาต่างประเทศ?

อย่างไม่รู้ตัว เธอกลายเป็นมือที่สามที่ผู้ชายคนนี้ซ่อนอยู่ข้างนอก……ยิ่งตลกไปกว่านั้น เธอยังคิดว่าความสัมพันธ์ที่หลบๆซ่อนๆนี้เป็นความรัก แล้วคาดหวังมาก

เหอะเหอะ ทำไมเธอถึงโง่ขนาดนี้?

“คุณหนูเวิน เรื่องไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ……” อันเฉินก็ต้องรู้ดีอยู่แล้ว ตอนนั้นเย่หวานจิ้งใช้ชีวิตตัวเองขู่ ก็เลยทำให้ลู่จิ้นยวนตอบตกลงเรื่องงานหมั้น

ไม่ว่าจะยังไง ตัวเขาเองก็ไม่เต็มใจอยู่แล้ว

“พอแล้ว หยุดพูด……” เวินหนิงหัวเราะ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับน่าเกลียดมากกว่าร้องไห้อีก

ที่จะให้ของตระกูลเวินกับเธอ ที่แท้ก็แค่ค่าชดเชยที่มาปั่นหัวเธอเล่นก็เท่านั้น

เวินหนิงรู้สึกปวดหัวมากจนเหมือนจะระเบิด ทั้งตกใจทั้งโมโห จนทำให้เธอรู้สึกปวดท้องไปด้วย

อันเฉินเห็นสีหน้าเวินหนิงซีดขาวไปกว่าเดิม ก็ตกใจ “คุณเป็นอะไร รู้สึกไม่สบายตัวหรือเปล่าครับ?”

เวินหนิงกอดท้องไว้ เจ็บจนพูดอะไรไม่ออก ในใจเธอ มีแต่ความเสียใจ เธอควรจะยอมรับความจริงให้เร็วกว่านี้ แต่ไม่ใช่รอจนถึงตอนนี้แล้วลูกในท้องของเธอก็จะกลายเป็นลูกนอกสมรสที่เปิดเผยตัวตนไม่ได้

ลู่จิ้นยวน ทำไมถึงใจร้ายขนาดนั้น เขาทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่เปิดเผยตัวไม่ได้ แม้แต่เด็กที่กำลังจะคลอดก็ต้องถูกคนอื่นมาต่อว่าด้วย

“ผม……ผมรีบส่งคุณไปโรงพยาบาล!” อันเฉินร้อนรนใจ กลัวว่าเวินหนิงจะเป็นอะไร ก็ไม่สนอะไรขนาดนั้นแล้วอุ้มเธอขึ้นไปบนรถ แล้วขับตรงไปโรงพยาบาล

ลู่จิ้นยวนขับกลับมาที่เดิมอย่างไม่รู้ตัว พอรู้ว่าตัวเองขับกลับมา ก็กำลังโมโห ทันใดนั้น ก็เห็นเวินหนิงถูกอันเฉินอุ้มออกมาจากในบ้าน

สีหน้าของอันเฉิน ทำให้เขามีลางสังหรณ์อะไรไม่ดีบางอย่าง ลู่จิ้นยวนรีบวิ่งไปหา “ทำไม เกิดอะไรขึ้น?”

“คุณหนูเวินรู้เหมือนจะไม่สบายตัว ต้องรีบไปโรงพยาบาลครับ!”

อันเฉินรีบส่งตัวเวินหนิงให้ลู่จิ้นยวน จากนั้นก็ไปขับรถ

ลู่จิ้นยวนมองเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเวินหนิง ผ่านไปไม่นาน เหงื่อก็เต็มหน้าผาก เธอเหมือนจะทุกข์ทรมานมาก

ลู่จิ้นยวนรู้สึกว่าความโมโหของตัวเองเมื่อกี้หายไปทันที ตอนนี้ เขาไม่คิดอะไรทั้งนั้น แค่อยากให้เวินหนิงดีขึ้น

เผชิญหน้ากับความเป็นความตาย ไม่ว่าจะอะไร ก็ไม่สำคัญทั้งนั้น

เวินหนิงลืมตาขึ้นมาจากความเจ็บปวด เห็นใบหน้าของลู่จิ้นยวน ผู้ชายคนนี้อุ้มเธอขึ้นรถ ท่าทางเขาทะมัดทะแมงมาก ในดวงตาก็มีแต่ความร้อนรนใจ

ลู่จิ้นยวนจะร้อนรนใจเพื่อเธอหรอ?

เวินหนิงเหม่อไปครู่หนึ่ง หรือว่าเธอกำลังฝัน คนคนนั้น จะเป็นห่วงของเล่นได้ยังไง

เธอเบิกตากว้าง อยากจะมองคนตรงหน้าให้ชัด แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ แล้วสลบไป

……

โรงพยาบาล

เวินหนิงถูกส่งตัวมาโรงพยาบาล คุณหมอที่เตรียมตัวไว้อยู่แล้วก็รีบตรวจเช็คอาการทันที

ลู่จิ้นยวนวางเธอลงบนเตียง จากนั้น เวินหนิงก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

เขานั่งอยู่ข้างนอก มองเห็นแสงไฟที่ยังสว่าง อยู่ในสายตาก็มีความกังวล แล้วก็รู้สึกผิดมากด้วย

ที่เกิดเรื่องแบบนี้ เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องเลย

เวินหนิง จะเป็นอะไรหรือเปล่า?

เมื่อนึกถึงเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้นี้ ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกหายใจไม่ออกทันที เธอห้ามเกิดเรื่องอะไรเด็ดขาด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ไฟที่ห้องฉุกเฉินก็ดับลง

คุณหมอเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน แล้วกำลังเช็ดเหงื่อบนหน้าตัวเอง “อาการของคนไข้ไม่ดีมากนัก เธอเป็นคนท้องอยู่แล้ว อารมณ์ก็ไม่คงที่ด้วย ถ้ายังอารมณ์ขึ้นอีก เด็กในท้องก็อาจจะคลอดก่อนกำหนด”

“อะไรนะครับ?” ลู่จิ้นยวนมองเห็นผู้หญิงที่นอนสลบอยู่บนเตียง พอรู้ว่าเธอเข้าใกล้อันตรายมาก ในใจก็รู้สึกเกร็งทันที

“หลังจากนี้ต้องให้เธอพักผ่อนดีๆ ไม่งั้น สถานการณ์อาจจะไม่ดีมากครับ”

เมื่อคุณหมอพูดจบ ก็เดินออกไป เวินหนิงก็ถูกเข็นเข้าไปในห้องพักฟื้นพิเศษ

ลู่จิ้นยวนกุมมือเธอไว้ ในใจก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี

เขามองเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ เอาแต่จ้องเธอไว้ กลัวว่าจะพลัดพรากจากเธอ

ณ เวลานั้น โทรศัพท์เขาก็ดัง เขาปิดเครื่องอย่างไม่ต้องคิดเลย

เวลานี้ เขาค่อยรู้ว่าเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่ตัวเองรักมันสำคัญมากแค่ไหน โดยเฉพาะตอนนี้ เขาไม่อยากให้เรื่องอื่นมารบกวนเลย

พอเถ้าแก่ลู่เห็นว่าลู่จิ้นยวนปิดเครื่อง ก็ขมวดคิ้ว อีกสามวันก็จะถึงงานหมั้นแล้ว แต่หลานคนนี้ก็ยังเอาแต่อยู่ที่ต่างประเทศไม่กลับมา

หรือว่า เขาไปหาผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว?

พอนึกถึงที่นี่ เถ้าแก่ก็รู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิม โทรศัพท์ไปหาเบอร์หนึ่งที่ท่านไม่ได้ติดต่อมานานแล้ว

หลินซือเฉินกำลังวิจัยยาตัวใหม่ในห้องทดลองอยู่ พอถูกเสียงขัดจังหวะ ก็ขมวดคิ้ว หนูตัวเล็กในมือเขาก็ตายไปทันทีกับการกระทำบางอย่างของเขา เขาดูเหมือนไม่แคร์อะไร แล้วโยนทิ้งไปอย่างเยือกเย็น

เดินออกจากห้องทดลอง หลินซือเฉินก็เห็นว่าเถ้าแก่ลู่เป็นคน โทรมา จึงกดรับสาย

ตอนนั้น เถ้าแก่ลู่สร้างธุรกิจมาด้วยตัวเอง ก็ต้องผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย แล้วในอุบัติเหตุครั้งหนึ่ง ท่านก็ได้ช่วยเหลือตระกูลหลินไว้

ตระกูลหลินเป็นตระกูลที่ลึกลับมาก ถึงแม้ตระกูลนี้จะไม่ใช่ตระกูลที่มีธุรกิจใหญ่โต แต่ในทางการแพทย์ก็ถือว่ามีชื่อเสียงมาก

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาสามารถวิจัยยาที่รักษาโรคออกมาได้ แล้วอีกส่วนหนึ่ง พวกเขาก็สามารถผลิตยาพิษที่น่ากลัวได้เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น คนตระกูลหลินก็เป็นดาบสองคมอยู่แล้ว เป็นทั้งคุณหมอที่ช่วยเหลือผู้ป่วย แล้วก็เป็นอาวุธที่ใช้ฆ่าคนด้วย ธุรกิจสีเทาก็จะจ้างพวกเขาให้ทำภารกิจบางอย่าง แล้วราคาก็สูงด้วย คนปกติไม่มีปัญญาจ้างได้แน่นอน

เพราะตอนยังหนุ่ม เถ้าแก่ลู่ก็รู้จักตระกูลนี้แล้ว ก็เลยคิดแผนนี้ได้ ให้คนตระกูลหลินช่วยจัดการเรื่องระหว่างเวินหนิงกับลู่จิ้นยวน

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset