แววตาของเวินหนิงสว่างวาววับ เต็มไปด้วยความหวัง
ลู่จิ้นยวนมองดูเธอโดยไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจเริ่มมีความคิดบางอย่าง
เดิมทีบ้านตระกูลเวินถูกเขาจัดการจนแทบไม่เหลืออะไร แต่ในเมื่อเวินหนิงคิดจะเอาสิ่งที่เคยเป็นของตัวเองคืน เขาก็คงจะจัดการแบบง่ายๆไม่ได้แล้ว
บางทีนี่อาจจะเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาจะมอบให้เวินหนิง
คิดได้ดังนั้น นัยน์ตาของชายหนุ่มก็เข้มขึ้น พอเห็นว่าเวินหนิงกินข้าวเสร็จแล้ว จึงลุกขึ้น “กินข้าวเสร็จแล้ว ก็กลับไปได้แล้ว”
เวินหนิงมองดูชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เธอรู้สึกว่าเขาดูขัดแย้งในตัวเองมาก ในขณะที่กลัวว่าเธอจะกินไม่อิ่ม ก็อยากขับไล่เธอไปให้พ้นด้วย
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
เวินหหนิงลุกขึ้นยืน แต่ไม่ได้ออกไปอย่างที่ลู่จิ้นยวนหวังไว้ เธอตรงไปนั่งบนตักเขา ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปจูบริมฝีปากของลู่จิ้นยวน
อย่างคำพูดที่ว่า ดูใจคนไม่ต้องฟังคำที่เขาพูด แต่ให้มองสิ่งที่เขาทำ
เวินหนิงแค่อยากรู้ว่าเขาจะตอบสนองยังไง จะผลักไสเธอออก หรือว่า……..?
ลู่จิ้นยวนไม่เคยคิดมาก่อนว่าเธอจะทำแบบนี้ รสชาติที่ค้นเคยทำให้เขาเสียการควบคุมไปชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะพลิกกลับมาคุมเกมเองอย่าไม่รอช้า
รสชาติของเธอที่เขาเฝ้าคิดถึงมานาน เป็นเหมือนฝิ่นถ้ายังไม่ได้สัมผัสก็พอควบคุมตัวเองได้ แต่เมื่อไหร่ที่ได้สัมผัสก็จะไม่สามารถถอนตัวได้อีก มีแต่อยากได้มากขึ้น
เวินหนิงไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนแต่อย่างใด มีแต่ความเต็มใจ
ที่เขาเป็นอยู่กำลังบอกเธอว่าเขายังชอบเธออยู่ใช่มั้ย แต่แค่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่อยากแสดงมันออกมา
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแต่ในที่สุดการจูบอันยาวนานก็สิ้นสุดลง ใบหน้าของเวินหนิงแดงรื้อขึ้นเพราะขาดอากาศหายใจ แต่แววตาเธอกลับสุกใสแวววาบอย่างอ่อนหวาน
เธออดไม่ได้ที่จะลูบไล้บนริมฝีปาก “ลู่จิ้นยวน แบบนี้แล้ว คุณจะยังไล่ฉันกลับอยู่มั้ย?”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนบอกตัวเองว่าอย่าเลยเถิด แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ย้ายตัวเวินหนิงลงจากตักไปยันโซฟา “เดี๋ยวฉันจะให้คนไปส่งเธอ”
ถ้ายังไม่ให้เธอไป กลัวว่าเขาคงจะควบคุมตัวเองไม่ได้ จนทำอะไรที่เลวร้ายลงไปแน่
เวินหนิงมองเขา ก่อนจะยื่นมือไปกอดแขนของเขาไว้แน่น ตอนนี้เธอทำได้ทุกอย่าง
ในเมื่อจูบก็เริ่มแล้ว เธอก็ไม่สนใจเรื่องรักนวลสงวนตัวอะไรแล้ว “ดึกขนาดนี้แล้ว ฉันจะอยู่กับคุณจนถึงเช้า”
ลู่จิ้นยวนมองเธอแวบหนึ่ง “เธอเป็นอะไร ปกติไม่เห็นเป็นแบบนี้”
เมื่อก่อนแค่เขาแตะเธอนิดเดียว เวินหนิงก็หน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว ไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มก่อนแบบนี้
“คุณเองก็ไม่ปกติ ฉันเลยต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนไง”