เวินหนิงขยับตัวไปทางด้านหลัง กลับยังไม่รู้สึกปลอดภัย แล้วก็มองลู่จิ้นยวนอีกครั้ง “ฉันขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
ทำไมลู่จิ้นยวนจะไม่รู้ความคิดในใจของเธอ เธออยากจะหลบหน้าเขา?
เธอกำลังกลัว เธอกลัวว่าเขาจะโดนตัวเธอ? ยังคงเป็นเพราะผู้ชายคนนั้น? เมื่อวานเขายังไม่สามารถทำให้เธอจำได้อีกเหรอ?
ดวงตาสีดำมืดของชายหนุ่มมีประกายความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
ก้าวไปข้างหน้ายาวๆ ดึงตัวของเวินหนิงกลับมา กดตัวเธอลงไปบนเตียง
เวินหนิงตกใจ เงยหน้าขึ้นไปที่มองเห็นก็คือดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธของชายหนุ่ม
โดนดวงตาวาววับแบบนั้นมองมาก็เริ่มใจเสีย เวินหนิงเบนสายตาหนี พูดขึ้นอย่างม่รู้ร้อนรู้หนาว “ทำไมคะ เดี๋ยวนี้ฉันจะไปเข้าห้องน้ำก็ต้องรายงานคุณชายลู่ด้วยเหรอ?”
ลู่จิ้นยวนจ้องเธอเขม็ง “เวินหนิง อย่านึกว่าผมไม่รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ คุณกำลังหลบหน้าผม?”
เวินหนิงกะพริบตา อยู่ๆลู่จิ้นยวนก็ปล่อยมือ “จะขอบอกคุณนะว่าอย่าคิดเข้าข้างตัวเอง เห็นลูกนอกสมรสในท้องของคุณ ผมรังเกียจว่ามันสกปรก”
เธอมีสิทธิ์อะไรที่จะไปกลัวเขา ตระกูลลู่ไม่เคยขาดสิ่งของเครื่องใช้ของเธอ นอกจากครั้งนั้น เขาก็ไม่เคยทำเรื่องทรยศการแต่งงานอันสั้นนั้น
ต่อให้ นั่นเป็นเพียงแค่การแต่งงานเพราะมีจุดประสงค์เท่านั้น แต่เวินหนิง ไม่ได้เพียงแค่ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นระหว่างที่ทั้งสองคนยังเป็นสามีภรรยากันเท่านั้น ถึงขนาดที่ว่า……ยังมีเด็กติดมาด้วย
เธอมีหน้าที่ไหนที่จะไปหลบเขา หลบเลี่ยงเขา?
หัวใจของเวินหนิงหนักอึ้ง ต่อให้เคยได้ยินคำพูดที่ไม่น่าฟังต่างๆของลู่จิ้นยวนมาแล้ว แต่ว่าคำพูดที่แดกดันในครั้งนี้ ยังคงทำให้หัวใจของเธอเจ็บขึ้นมาเป็นระลอกๆ
สกปรก?
เขาพูดว่าเธอสกปรก? ทั้งๆที่นอกจากเขา เธอก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนเลย ทำไมเขาถึงได้ว่าเธอแบบนี้?
เวินหนิงกล้ำกลืนความน้อยใจกับความรู้แย่ เดินก้าวยาวๆเข้าไปในห้องน้ำ มองเห็นหน้าตาน่าสงสารนั่นในกระจก ก็กำหมัดแน่น
ทุกๆอย่างเหมือนกับว่าย้อนกลับไปในตอนแรก ลู่จิ้นยวนกลับไปเป็นคุณชายแห่งตระกูลลู่ที่สูงส่ง ใช้คำพูดที่รุนแรงบาดใจมาทำลายศักดิ์ศรีของเธอให้แตกละเอียด
เวินหนิงอยู่ในห้องน้ำครู่หนึ่ง หลังจากนั้น ใช้น้ำเย็นตบๆใบหน้าตัวเอง ล้างอารมณ์ต่างๆให้หายไป เธอไม่สามารถให้ลู่จิ้นยวนมองเห็นความอ่อนแอของตัวเองได้
……
หลังจากที่เวินหนิงเข้าไปในห้องน้ำ ในใจของลู่จิ้นยวนก็ร้อนรนเป็นอย่างมาก เลยตัดสินใจออกไปสูบบุหรี่มวนหนึ่ง
แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใช่คนที่จะปล่อยตัวปล่อยใจไปเรื่องอย่างว่า สำหรับผู้หญิงคนนั้น มีแต่สงบจิตสงบใจตลอด ในตอนแรก มู่เยียนหรานขอให้พวกเขาเก็บคืนแรกเอาไว้วันแต่งงาน เขาก็ไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหน
เวินหนิง นับว่าเป็นผู้หญิงคนแรกของเขา แล้วก็เป็นผู้หญิงที่ทำให้เขาเสียการควบคุมในเรื่องๆนั้นหลายครั้ง
แต่ว่า พอคิดถึงเรื่องเด็กคนนั้น แค่คิดถึงสถานะของเหอจื่ออัน ในใจของเขาก็เกลียดเป็นอย่างมาก
แค่คิดถึงท่าทางของผู้หญิงคนนี้กำลังเริงรักอยู่กับผู้ชายคนอื่น ภายในใจของลู่จิ้นยวนก็มีความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
สูบบุหรี่เสร็จหนึ่งมวน หลังจากที่ลู่จิ้นยวนคิดว่าอารมณ์โมโหลดลงไปประมาณหนึ่งแล้ว ก็กลับไปอีกครั้ง
เวินหนิงออกมาแล้ว สัมผัสได้ว่ามีคนขยับอยู่ด้านหลัง ก็เงยหน้ามองเขา
เมื่อกี้ เธอเรียกสติของตัวให้อยู่ในห้องน้ำ เธออดที่จะติดไม่ได้ ในเมื่อลู่จิ้นยวนรังเกียจตัวเองมากขนาดนั้น คิดว่าเธอนั้นสกปรกเสียเต็มประดา ทำไมถึงยังมาหาอีก?
ถ้าเกิดว่าตัวเองเกลียดคนๆหนึ่งถึงขั้นนี้ เกรงว่า แม้แต่การมองเห็นเขาก็เป็นความทรมานชนิดหนึ่ง
“คุณชายลู่ ฉันมีเรื่องอยากจะพูดค่ะ” เวินหนิงสั่งให้ตัวเองใจเย็นๆ มองลู่จิ้นยวน
“เมื่อกี้คุณพูดแล้ว ว่ารังเกียจเพราะฉันสกปรก ใช่ไหมคะ?”
คำพูดนี้พูดออกมา กลับไม่ได้ง่ายเลย เวินหนิงแทบจะละทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ฉันไป จะได้ไม่ต้องมาเกะกะสายตาของคุณชายลู่? คนมากมายขนาดนี้ดูแลคนท้องอย่างฉัน สนุกอย่างนั้นเหรอคะ? ถ้าหากว่าโดนคนรู้เข้า สำหรับชื่อเสียงของคุณชายลู่ ก็เป็นการทำลายอย่างนึง?”
ลู่จิ้นยวนหัวเราะเยาะ เขารู้ ในสมองของผู้หญิงคนนี้ นอกจากออกไปจากที่นี่ ไม่มีความคิดอื่นอยู่
เธออยากจะไปขนาดนี้……
อย่างนั้นในตอนแรกการกระทำที่แสดงความใส่ใจเขา ความรักเลื่อมใสกับพึ่งพิงนั่นคืออะไร? ล้วนเป็นการแสดงทั้งสิ้น?
อย่างนั้นเขาก็ต้องขอคารวะการแสดงของเธอเสียหน่อย แม้แต่เขาก็หลอกมาแล้ว
“เวินหนิง ผมเคยพูดไปแล้ว ถ้าไม่มีการอนุญาตจากผม ไม่ว่าจะที่ไหนคุณก็อย่าคิดที่จะอยากไป”
“ทำความผิด ไม่ยอมรับผลที่ตามมา คิดแค่ประจบประแจงแล้วก็ไป บนโลกใบนี้มีเรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้นด้วยเหรอ?”
เวินหนิงมองลู่จิ้นยวน คิดแค่ว่าช่างน่าขำ
ที่เธอทำผิดจากที่ควรจะเป้นที่สุด ก็คือคิดว่าลู่จิ้นยวนจะปกป้องเธอ จะปกป้องเด็กในท้องของเธอ
“ลู่จิ้ยวน ที่ฉันผิดคือไม่ควรจะเชื่อในคำพูดของคุณ”
ลู่จิ้นยวนโดนคำพูดเบาๆประโยคนี้ของเธอทำให้โมโห ก้าวฉับๆไปด้านหน้า กดตัวเวินหนิงลงกับเตียง “คุณพูดอีกทีสิ?”
เขาถามตัวเองไม่เคยทำเรื่องที่ต้องขอโทษเธอสักเรื่อง กลับเป็นเธอ หลอกเขาซ้ำๆ แกล้งทำให้เขาหัวหมุน หลอกล่อเอาไว้ในกำมือ
เวินหนิงไม่ได้พูดต่อ สายตาของลู่จิ้นยวนเย็นชาจนน่ากลัว เหมือนกับว่าจะบีบคอเธอให้ตายอย่างไรอย่างนั้น
เธอต้องไม่ยั่วโมโหเขา
เห็นเวินหนิงไม่พูดไม่จา อารมณ์โมโหของลู่จิ้นยวนไม่มีที่ให้ปลดปล่อย ชกลงแรงๆบนเตียงข้างๆตัวของหญิงสาว หลังจากนั้น ก็กระแทกประตูออกไปด้วยความโกรธจัด
เวินหนิงมองเขาเดินจากไป ก้อนหนักอึ้งในใจก็ถูกวางลง เมื่อกี้ เธอกลัวว่าลู่จิ้นยวนจะลงไม้ลงมือจริงๆ จากนั้นก็ตบเธอชุดใหญ่ ยังดี เขายังไม่ได้สูญเสียสติไปจริงๆ ไม่อย่างนั้น เธอกลัวว่าจะรับผลลัพธ์ไม่ไหว
……
หลังจากที่ลู่จิ้นยวนจากไปไม่นาน ไป๋ซินอวี๋ที่ซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลเห็นว่ารถของเขาขับออกไป ก็เข้าใจได้ในทันที สิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้ตอนแรกถูกไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ลู่จิ้นยวนมาที่นี่จริงๆ แต่ ข้างในซ่อนใครเอาไว้ เขาจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบ
คิดแล้วก็คิด ไป๋ซินอวี๋ขับรถไปที่สวนด้านหลังวิลล่าของลู่จิ้นยวน ที่นั่นโดนต้นไม้ในสวนบังเอาไว้ ถ้าเกิดว่าไม่ได้สังเกตให้ดีๆ ไม่สามารถที่จะเห็นได้
ไป๋ซินอวี๋รออย่างอดทน สัญชาตญาณกับความเข้าใจลู่จิ้นวนกำลังบอกเขา ภายในนี้จะต้องซ่อนความลับอะไรที่สำคัญเอาไว้แน่ๆ……
ลู่จิ้นยวนไปแล้ว เวินหนิงกลับมาเหม่อลอยอีกครั้ง รอจนโดนทำให้ตกใจจนหัวใจเต้นรัวแล้วกลับมาปกติ ถึงได้ค่อยๆลงจากเตียง เปิดหน้าต่างออก
ชีวิตที่โดนกักขังเอาไว้แบบนี้ ทำให้เธอนั้นหายใจไม่สะดวกเลยจริงๆ
“คุณหนูเวิน ยาของคุณ”
คนรับใช้หญิงเดินเข้ามา เอายาทามาให้เวินหนิง เวินหนิงมองแค่แวบหนึ่ง ใบหน้าแดงเล็กน้อย ทุกข์ใจเป้นอย่างมาก
นั่นเป็นยาที่เอามาทำให้ข้างล่างตรงนั้นหายบวม เพราะว่าความรุนแรงของลู่จิ้นยวน ตอนนี้เธอยังคงเจ็บปวดอยู่บ้าง
“คุณหนูเวิน คุณยังท้องอยู่ ต้องระวังอารมณ์นะคะ”
คนรับใช้หญิงก็ไม่รู้ว่าทั้งสองคนเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงแต่ว่าไม่เคยเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเวินหนิงเลยสักครั้ง อดไม่ได้ที่จะพูดโน้มน้าว
เวินหนิงส่ายหน้า เธอจะอารมณ์ดีขึ้นมาได้ยังไง? ชีวิตที่ราวกับนักโทษอย่างนี้ นอกจากไม่ต้องกังวลเรื่องอาหาร ไม่ได้โดนทุบตี นอกเหนือจากนั้นก็พูดได้ว่าเหมือนกับกลับไปตอนแรกๆ ในตอนที่เธอนั้นอยู่ในคุก
“ไม่อย่างนั้นให้ฉันออกไปเดินเป็นเพื่อนคุณไหมคะ” คนรับใช้หญิงคิดแล้วก็คิด “ดอกไม้ในสวนก็บานหมดแล้ว ตอนนี้กำลังสวยเลยค่ะ”