เวินหนิงรีบส่ายหน้าทันที ความจริง บริเวณที่โดนน้ำซุปลวกเมื่อกี้ก็แสบแดง แต่ว่า น้ำซุปพวกนั้นสาดมาที่หน้าอกของเธอ เป็นบริเวณที่ไม่สะดวกมากนัก เธอจะพูดยังไงกับลู่จิ้นยวน น่าอายมาก
ลู่จิ้นยวนมองไปที่เธอ “ให้ผมดูหน่อย”
เวินหนิงก็รู้สึกตกใจ “ไม่ต้อง ไม่เป็นอะไรจริงๆ!”
“นายกินข้าวเถอะ ฉันไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันกลับไปจัดการเองก็ได้”
เวินหนิงตกใจจนรีบหนี ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ
แต่สีหน้าของลู่จิ้นยวนก็เข้มงวดไปกว่าเดิม ถ้าจำเป็นต้องไปจัดการ งั้นก็ต้องบาดเจ็บสิ? ผู้หญิงคนนี้ เวลาไหนแล้วยังจะอวดเก่งอีก แล้วอีกอย่าง เธอไม่เชื่อตัวเอง?
เวินหนิงลุกขึ้น กำลังจะออกไป ผู้ชายก็เลิกคิ้วแล้วมองท่าทางที่ทุลักทุเลของเธอ ก็รู้สึกขัดหูขัดตามมาก ก็เลยไม่สนคำปฏิเสธของเวินหนิง พร้อมกับจับแขนเธอไว้แล้วดึงเธอลงมาบนเตียง
“ลู่จิ้นยวน นายจะทำอะไร? รีบปล่อยฉันนะ”
เวินหนิงรู้สึกโลกหมุน แล้วทำให้มีลางสังหรณ์อะไรไม่ดีบางอย่าง
แต่ผู้ชายคนนั้นกลับไม่ตอบ แล้วใช้ร่างใหญ่ของเขาบังคับตัวเธอไว้ จนทำให้เวินหนิงดิ้นหนีไม่ได้ เมื่อเทียบกับร่างบางของเธอ ก็ทำให้คนอื่นรู้สึกคิดลึก
“นาย……” เวินหนิงหน้าแดง จนรู้สึกเหมือนเลือดพุ่งขึ้นสมอง แล้วร่างกายเธอร้อนไปหมด
แต่ว่า อยากจะหนี แต่ก็หนีไม่ได้
ลู่จิ้นยวนจะทำอะไรบางอย่างแน่นอน จนทำให้คนอื่นไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้
เวินหนิงก็ต้องปล่อยวางร่างกายก่อน ในเมื่อตอบโต้ไปก็ไม่มีประโยชน์ งั้นก็รอดูว่าเขาจะทำอะไรกันแน่
นิ้วมือลู่จิ้นยวนแตะลงบนเสื้อผ้าเวินหนิง ความรู้สึกเย็นมือนั้นก็ทำให้สายตาเขาเยือกเย็นมาก
ผู้หญิงคนนี้ จะไปทั้งๆที่ตัวยังเปียกงั้นหรอ?
ถึงแม้อากาศตอนนี้จะเริ่มอุ่นแล้ว แต่ถ้ายังทำตัวแบบนี้ มีโอกาสที่จะไม่สบายได้
นิ้วมือที่เรียวยาว หยุดลงบนกระดุมคอเสื้อของเวินหนิง
“นายเอามือออกไปเดี๋ยวนี้!”
เวินหนิงรู้สึกร้อนรน ยื่นมืออยากจะไปผลักผู้ชายคนนั้นออก แต่ว่าลู่จิ้นยวนอยู่ชิดเธอมาก ทุกครั้งที่เธอสูดลมหายใจเข้า ก็จะเป็นกลิ่นตัวของผู้ชายคน
นี้เธอไม่อยากหลงไหลกับกลิ่นหอมนี้ แต่สมองก็ไม่ฟังคำสั่งเธอ เหมือนกำลังจะยอมแพ้
“เด็กดีให้ ผมดูหน่อย”
ลู่จิ้นยวนจับมือเวินหนิงไว้ จากนั้นก็ใช้มือปลดกระดุมบนเสื้อ ไม่นาน ผิวกายที่ร้อนแดงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าเขา
ลู่จิ้นยวนยั้งมือไว้ เมื่อกี้ที่ปลดกระดุมนั้น ก็ไม่ได้ล่วงเกิน แต่ถึงแม้จะอย่างนี้ ก็ทำให้เวินหนิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก
ผู้ชายคนนี้……ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้โดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนเลย?
แต่ว่า แรงมหาศาลของลู่จิ้นยวน ก็ทำให้เวินหนิงไม่มีทางได้ดิ้นรน
“เจ็บไหม?” ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว ใช้นิ้วมือก็แตะไปบริเวณตรงนั้นเบาๆ เวินหนิงก็ขมวดคิ้วแน่น แม้แต่หายใจก็ยังติดขัด
แต่ ปฏิกิริยาที่เธอแสดงออกมาไม่ได้นิ่งเหมือนที่บรรยายไว้
“ไม่เป็นอะไรสักหน่อย ฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ขี้งอแง แต่ก่อนตอนที่อยู่…… แต่ก่อนก็ไม่ใช่ไม่เคยได้รับบาดเจ็บ ไม่เป็นอะไรจริงๆ เดี๋ยวฉันกลับไปทายาก็ดีแล้ว”
เวินหนิงนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ในคุกอย่างไม่รู้ตัว
มีครั้งหนึ่ง เธอถูกผู้คุมขังเรียกออกไปใช้แรงงาน ข้างนอกอากาศหนาวมาก เธอทำไปนานมากกว่าจะทำงานที่ทั้งสกปรกแล้วทั้งเหนื่อยที่คนอื่นไม่ยอมทำจนเสร็จ พอกลับไป กว่าจะตักน้ำร้อนได้หนึ่งแก้ว แต่ก็ถูกผู้หญิงที่ไม่ชอบขี้หน้าเธอสาดมาบนตัว
ตอนนั้น เจ็บกว่าตอนนี้อีก แต่ก็ไม่มีใครเหมือนตอนนี้ ที่มาดูแผลเธออย่างระมัดระวัง
คิดไปด้วย ในใจเวินหนิงก็รู้สึกขมขื่น
ลู่จ้นยวนมองเห็นสีหน้าของเธอ ก็เข้าใจเลยทันทีว่าเมื่อกี้สิ่งที่เธออยากจะพูดคืออะไร
คงจะเป็นความยากลำบากที่เธอได้รับตอนที่อยู่ในคุก
“ผ่านไปหมดแล้ว ตอนนี้ เธอต้องดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม?”
ลู่จิ้นยวนปล่อยมือ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่ว่าอารมณ์กลับไม่ได้เรียบนิ่งขนาดนั้น
ทีแรกเวินหนิงคิดจะบอกว่าตัวเองจะไปแล้ว แต่ว่าพอเห็นความเป็นห่วงในสายตาของผู้ชายคนนั้น เธอกลับพูดอะไรไม่ออก
ความจริง มีคนเป็นห่วงก็ยังดีกว่ามีแต่คนเมินเฉย เธอมีเพื่อนน้อยมาก ไม่ได้รับความเป็นห่วงแบบนี้นานแล้ว
“เดี๋ยวผมจะเรียกคนเอายามาให้ ส่วนเสื้อผ้า ถอดทิ้งเลย”
เวินหนิงไม่มีทีท่าที่จะไป ลู่จิ้นยวนก็มองไปที่เสื้อผ้าบนตัวเธอ จากนั้น ก็ลุกขึ้นแล้วหาชุดของผู้ชายที่มีให้เธอเปลี่ยน
ที่นี่เขาพักคนเดียวมาตลอด ก็เลยไม่มีเสื้อผ้าของผู้หญิง “ใส่นี้ไปก่อน เดี๋ยวผมเรียกอันเฉินมาส่งชุดให้”
เวินหนิงเข้าใจความหมายของลู่จิ้นยวน กลัวว่าเธอจะไม่สบาย คิดไปคิดมา ถ้าไม่สบายเพราะว่าเรื่องแบบนี้ ตัวเองลำบากไม่ว่า เด็กในท้องก็จะลำบากไปด้วย ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธแล้วรับเสื้อผ้ามา
แต่ว่า ถ้าจะให้เปลี่ยนเสื้อต่อหน้าลู่จิ้นยวน เธอก็รู้สึกเขิน
จากนั้น เวินหนิงก็ลุกขึ้น แล้วไปจัดการในห้องน้ำ เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นแบบนี้ก็เลยเอ่ย “เธออยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมเอาไปเอง”
พูดไปด้วย ก็เดินออกไปจากห้องพักฟื้น ในใจเวินหนิงก็รู้สึกตื่นตันใจ ลู่จิ้นยวนเป็นคนที่ไม่แคร์ใครอยู่แล้ว แต่ทำเพื่อเธอแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าไม่ตื้นตันใจก็คงจะเป็นแค่คำโกหก
คิดไปด้วย เวินหนิงก็ไม่ได้ลังเลต่อ จากนั้นก็รีบถอดเสื้อแล้วเปลี่ยนชุดของผู้ชายคนนั้น
ลู่จิ้นยวนยืนอยู่หน้าประตูห้องพักฟื้นไปสักพัก ที่นี่ห้ามสูบบุหรี่ แต่ ณ วินาทีนี้ เขากลับมีความคิดที่จะอยากสูบสูบบุหรี่มาก
เวินหนิง……อยู่ในคุกเจอเรื่องอะไรมาบ้าง?
แต่ก่อน ลู่จิ้นยวนมีแต่ความเกลียดกับความไม่แยแสให้เธอรู้สึกว่าที่เธอต้องลำบากที่นั่นก็รนหาที่เอง ก็เลยไม่เคยเป็นห่วง แต่ว่าตอนนี้……
เขาไม่มีทางแกล้งทำตัวไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของเวินหนิงได้เลย เขาอยากรู้มาก
จากนั้นก็โทรไปหาอันเฉิน
“เดี๋ยวส่งเสื้อผ้าของเวินหนิงมาด้วย อีกอย่าง ช่วยผมเช็คด้วยว่าระหว่างที่เธออยู่ในคุกเป็นยังไงบ้าง”
พูดจบ ก็มีพยาบาลคนหนึ่งเดินผ่านลู่จิ้นยวน จากนั้นก็ให้เธอส่งยามาให้ด้วย “ขอเป็นยาที่คนท้องก็สามารถใช้ได้ด้วย”
เมื่อลู่จิ้นยวนพูดจบ ตัวเองก็อึ้งไป ทีแรกเขาคิดว่าเขาจะรู้สึกรังเกียจเด็กในท้องของเวินหนิง แต่ด้วยความไม่รู้ตัว ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รังเกียจขนาดนั้น นี่ไม่เหมือนตัวเขาเลย