ลู่จิ้นยวนหลบไม่ทัน แล้วถูกมู่เยียนหรานจูบที่ริมฝีปาก
แต่ว่า ทันใดนั้น เขาก็รีบยื่นมือออกมาผลักเธอออก มู่เยียนหรานก็มองไปที่เขาอย่างตกใจ
แม้แต่ถูกเธอจูบลู่จิ้นยวนก็ไม่ยอม จนถึงขั้นต้องใช้มือผลักเธอออก
ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายขนาดนี้?
ลู่จิ้นยวนเห็นสายตาที่เสียใจของเธอ เมื่อกี้เขาก็ทำไปอย่างไม่รู้ตัว
“เยียนหราน ผมไม่ได้จะผลักเธอ แต่ว่า……เรื่องแบบนี้ เธออย่าทำอีกดีกว่า”
ลู่จิ้นยยนไม่เคยลงมือกับผู้หญิงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ครั้งนี้เขาขอโทษ
ดวงตาทั้งสองข้างมู่เยียนหรานชื้นแฉะ มองเห็นความรู้สึกผิดของผู้ชายคนนี้ เธอก็รู้สึกสิ้นหวังมาก
ตอนนั้น เธอคิดว่าไม่มีอะไรบนโลกที่พยายามแล้วจะไม่ได้กลับคืนมา ตอนนี้ค่อยรู้ หัวใจของคนเป็นสิ่งที่คาดเดายากที่สุด
ตอนนั้นผู้ชายบอกว่าจะตามใจตัวเองไปตลอดชีวิต แล้วรักตัวเอง ก็มีวันที่จะผลักเธอออกเพื่อที่จะหลบไม่ให้เธอจูบ
สายตาของมู่เยียนหรานมองไปที่ลู่จิ้นยวน จากนั้น เธอก็เห็นอะไรบางอย่างที่เกือบจะทำให้เธอบ้า
นั่นเป็นเส้นผมยาวติดอยู่ที่คอเสื้อของลู่จิ้นยวน เหมือนกำลังเยาะเย้ยว่าเธอกำลังหลงตัวเองอย่างนั้น
มู่เยียนหรานย้อมสีผมสีไวน์แดง แต่นั่นเป็นเส้นผมสีดำยาว
เพราะฉะนั้น ต้องเป็นของผู้หญิงคนอื่นแน่นอน
ความรู้สึกอิจฉา ก็พุ่งออกมาจากในใจจนขึ้นสมอง
“ลู่จิ้นยวน นายบอกฉันมา ที่นายผลักฉันออก เป็นเพราะผู้หญิงคนอื่นงั้นหรอ?”
มู่เยียนหรานปาดน้ำตาไปด้วย แล้วจ้องไปที่ผู้ชายตรงหน้า
ลู่จิ้นยวนไม่ได้หลบหนีสายตาเธอ ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ไม่จำเป็นต้องโกหกอีก
“ใช่ เยียนหราน ผมไม่รักเธอแล้ว”
มู่เยียนหรานยิ้ม ใบหน้าของเธอสวยงามอยู่แล้ว ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างก็บวมแดง แต่ก็ยังยิ้มอยู่ นี่ก็เลยทำให้เกิดความสวยที่ขมขื่นมาก
“ฉันรู้แล้ว”
มู่เยียนหรานลุกขึ้น “ฉันไปก่อนนะ”
ลู่จิ้นยวนเห็นแผ่นหลังที่หนักแน่นของเธอ ในใจก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง รู้สึกว่าอารมณ์ของมู่เยียนหรานจะไม่ปกติขนาดนั้น
แต่ว่า ตอนนี้เขาก็เอ่ยปากที่จะรั้งหรือว่าปลอบใจไม่ได้ เพราะยังไง แผลของเธอ ก็เป็นเพราะตัวเอง
ลู่จิ้นยวนโทรไปหาไป๋ซินอวี๋ พวกเขาสนิทกัน แล้วเชื่อว่าเขาจะสามารถปลอบใจมู่เยียนหรานได้
……
ไป๋ซินอวี๋ตามหาตัวมู่เยียนหรานเจอที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง
ภาพลักษณ์ที่เธอไม่เคยแตะต้องของมึนเมา แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคน กระดกดื่มคำใหญ่ แล้วยังมีผู้ชายที่บ้ากามเห็นว่าเธอเมาแล้วจะมายุ่งกับเธอด้วย
ไป๋ซินอวี๋ไล่ผู้ชายคนนั้นไป แล้วดึงตัวมู่เยียนหรานมา “เยียนหราน เธอควบคุมสติหน่อย”
“สติ ฉันไม่อยากมีสติ ถ้ามีสติ ก็รู้สึกเสียใจ”
มู่เยียนหรานเห็นแล้วว่าใครมาหา ก็เอาแต่พึมพำ
ตอนนี้เธออยากเมา แล้วทำให้ตัวเองเฉื่อยชา จะได้ไม่คิดถึงลู่จิ้นยวน แล้วเสียใจกับสิ่งนั้นอีก
“นายรู้หรือเปล่า เขาหลงรักคนอื่น เพื่อคนคนนั้น แม้แต่ให้ฉันดูแลเขาก็ไม่ยอม จน เขายอมผลักฉันออกเพื่อไม่ให้มีการเข้าใจผิด”
ไป๋ซินอวี๋มองเห็นท่าทางที่อ่อนแอของมู่เยียนหรานแบบนี้ ในใจก็รู้สึกเสียใจ เขาไม่เคยเห็นท่าทางที่ทุลักทุเลแบบนี้เลย เธอเป็นแบบนี้ ทำให้เขาเป็นห่วงมาก
ในใจ ความรู้สึกที่หักห้ามมาโดยตลอด วินาทีนี้ก็พุ่งออกมา
อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วเอ่ยปลอบใจ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ลืมเขาไปซะ เยียนหราน ยังมีคนที่รักเธอมากกว่ารออยู่”
ไป๋ซินอวี๋พูดไปด้วย สายตาก็มีความลึกซึ้งแล้วก็จริงจัง
เขาชอบมู่เยียนหรานมาโดยตลอด แต่ว่า ตอนที่เขารู้ว่าเธอคบกับเพื่อนของตัวเอง ก็เลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้ แฟนของเพื่อนจะยุ่งไม่ได้ เขาจะไม่มีทางทำเกินเลยกับผู้หญิงของเพื่อนแน่นอน
เวลาผ่านไปนานแล้ว ความรู้สึกก็เก็บกดเกินไป จนถึงขั้น เขาเกือบจะถูกตัวเองกล่อมสมอง แล้วลืมความรักนี้ไป
แต่ว่า พอเห็นเวลาที่มู่เยียนหรานต้องการใครบางคนปกป้อง ตอนนี้ความรู้สึกที่หักห้ามในใจก็เก็บไม่อยู่แล้ว
ถึงแม้จะตระกูลไป๋จะเทียบกับตระกูลลู่ไม่ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียง ไป๋ซินอวี๋ก็เป็นคนที่หญิงสาวไม่น้อยอยากได้ตัวมา แต่เขาก็ไม่เคยยอมรับ เลยเป็นโสดตลอด
ตอนนี้ ในเมื่อลู่จิ้นยวนแยกจากมู่เยียนหรานอย่างจริงจังแล้ว ถ้าอย่างงั้น เขาอาจจะ ยังมีโอกาส
“แต่ ฉันอยากได้แค่เขนคนเดียว ฉันอยากได้แค่ลู่จิ้นยวน”
มู่เยียนหรานจับแขนของไป๋ซินอวี๋ไว้ “ซินอวี๋ นายช่วยฉันได้ไหม ฉันไม่อยากเลิก ฉันรู้สึกผิดแล้ว ฉัน……”
มู่เยียนหรานพูดไปด้วย แล้วโดนแอลกอฮอล์กล่อมสมอง น้ำตาก็ไหลออกมา นี่เป็นท่าทางที่เธอไม่เคยแสดงให้ใครเห็นมาก่อน
ในใจไป๋ซินอวี๋ก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูก อยากจะให้คนที่รู้สึกเสียใจเป็นตัวเอง เขาจะมองเห็นมู่เยียนหรานเสียใจขนาดนี้ได้ยังไง?
“ซินอวี๋ นายช่วยฉันด้วย ช่วยฉันตามเขากลับมา……”
มู่เยียนหรานเหมือนมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ แล้วจับไป๋ซินอวี๋ไว้ แล้วขอร้องบังคับให้เขาให้สัญญากับตัวเอง
สายตาของไป๋ซินอวี๋หม่นหมอง สุดท้าย เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธสายตาของมู่เยียนหรานได้ “เดี๋ยวผมจะช่วย เยียนหราน ผมช่วยแน่นอน”
“ดีมาก ฉันรู้อยู่แล้ว นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน……”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ มู่เยียนหรานก็ยิ้ม จากนั้นเธอก็หมดสติไป ไป๋ซินอวี๋ก็อุ้มเธอเดินออกมา ในใจก็รู้สึกขมขื่นมาก
เขารู้จักนิสัยของมู่เยียนหรานดี ถ้าเธอตั้งใจจะทำเรื่องอะไรสักอย่าง แม้แต่ช้างสิบเชือกก็ดึงกลับมาไม่ได้ ถ้าตอนนี้แยกจากลู่จิ้นยวน เธอไม่รู้ว่าจะเสียใจถึงขนาดไหน
ไป๋ซินอวี๋สูบบุหรี่ที่ข้างนอกเสร็จ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาผู้ชายที่ขายข้อมูล
เพื่อมู่เยียนหราน เขาก็เลยต้องลงมือกับเวินหนิง ถ้าอย่างงั้น ก็จำเป็นต้องรู้เขารู้เรา
ผ่านไปไม่นาน ข้อมูลของเวินหนิงก็ถูกส่งมา
พอไป๋ซินอวี๋เปิดดู ใบหน้าที่เยือกเย็นก็ตึงไว้ไม่อยู่
เวินหนิงเป็นผู้หญิงที่ชนลู่จิ้นยวนแล้วหนี เธอเคยเข้าคุกสามปี จากนั้นตระกูลลู่ก็ประกันออกมา……
ในระหว่างนี้เกิดเรื่องอะไรบ้าง ไป๋ซินอวี๋ก็รู้ทันที แต่ว่าพอเห็น เวินหนิงเป็นผู้ต้องหาของอุบัติเหตุครั้งนั้น เขาก็ขยี้บุหรี่ในมือทิ้งทันที
ตอนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะลู่จิ้นยวนเกิดอุบัติเหตุ ทั้งสองคนก็คงจะไม่แยกจากกัน เพราะฉะนั้น เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงที่ชื่อเวินหนิง?
แล้วเธอ ไม่รู้ว่าใช้มารยาอะไร ทำให้ลู่จิ้นยวนลืมความผิดไปได้ จนยอมปล่อยความรู้สึกที่มีต่อมู่เยียนหรานมาตั้งหลายปี
ไป๋ซินอวี๋ยิ้มอย่างเยือกเย็น ผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนว่าจะไม่ธรรมดาเหมือนที่เจอครั้งก่อน เขาก็ถูกท่าทางที่เสแสร้งของเธอหลอก
มองไปที่มู่เยียนหรานที่นอนอยู่หลังเบาะรถ เขาก็เอ่ยเสียงเบา “ไว้ใจเถอะเยียนหราน ผู้หญิงแบบนั้น จะไม่มีทางมาเป็นตัวขวางอนาคตเธอแน่นอน เธอไม่เหมาะ ผมจะทำให้เธอชดใช้แน่นอน”