บ่วงแค้นแสนรัก – ตอนที่ 129 ให้โอกาสเธอ

เวินหนิงคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ตัดสินใจจะไปเยี่ยมลู่จิ้นยวน ไปดูเขาแว็บเดียว ถ้าเขาไม่เป็นอะไร เธอก็วางใจแล้ว

แต่ว่า……พอนึกได้ว่านั่นเป็นโรงพยาบาลของตระกูลลู่ คนตระกูลลู่ก็ต้องอยู่แน่นอน ถ้าบังเอิญก็อาจจะเจอเพื่อนของลู่จิ้นยวนด้วย

เวินหนิงก็ลังเลไปอีกครั้ง ถ้าเธอไป จะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า จะทำให้ลู่จิ้นยวนเกลียดเธอหรือเปล่า?

คิดไปคิดมา สุดท้ายเวินหนิงก็ตัดสินใจว่าจะไปตอนดึก ไปแอบดูก็พอแล้ว

……

เวลาก็มาถึงตอนกลางคืน

เวินหนิงใส่แว่นตาแล้วก็สวมแมส ท่าทางดูพิรุธมาก นั่งอยู่บนรถ คนขับรถก็หันมามองเธอ คิดว่าที่เวินหนิงแต่งตัวแปลกแบบนี้อาจจะเป็นผู้ต้องหา

“ไปโรงพยาบาลค่ะ” เวินหนิงพูดจบ ก็ไม่สนว่าเขาจะมองตัวเอง แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง

รถก็แล่นไปถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เพราะดึกแล้ว บริเวณ ที่ปกติผู้คนจะพลุ่งพล่านตอนนี้ก็เงียบสงบ

เวินหนิงเดินตามหมายเลขห้องตามที่เฉิงหยางให้เธอไว้ เป็นเพราะลู่จิ้นยวนอยู่ในห้องพักฟื้นวีไอพี เพราะฉะนั้นก็จะไกลหน่อย

พอไปถึงหน้าประตู มือของเวินหนิงก็หยุดที่ประตู

ไม่รู้ว่าลู่จิ้นยวนนอนหลับหรือยัง ถ้าหลับก็คงดี เธอแค่อยากจะดูแว็บเดียว……

ขณะกำลังเหม่อ ลู่จิ้นยวนที่ไปคุยกับคุณหมอก็กลับมา แล้วเห็นมีคนลับๆล่อๆ เลยขมวดคิ้ว

หรือว่าในโรงพยาบาลก็มีขโมย? หรือว่าเป็นนักข่าวที่อยากจะได้ข่าว?

ไม่ว่าจะยังไง คิดจะมาลงมือกับตัวเอง คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ

คิดไปด้วย ผู้ชายคนนั้นก็ก้าวเท้าเดินไปเบาๆ จะจับคนคนนั้นไว้

เวินหนิงกำลังจะเปิดประตูเข้าไป ก็ถูกมือของใครบางคนจับไว้ ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ทำให้เธอใจเต้นแรงมาก เหมือนจะทะลุออกมาจากหน้าอก

“เธอเป็นใคร?” ลู่จิ้นยวนมองเห็นผู้หญิงที่ใส่แมสแล้วก็แว่นกดำ ดึกขนาดนี้แล้วยังแต่งตัวแบบนี้ ต้องคิดไม่ดีแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาก็ลงแรงที่มือหนักกว่าเดิม เวินหนิงเจ็บจนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้วโอดครวญ

“ฉัน……” เวินหนิงไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไง ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญแล้วลู่จิ้นยวนอยู่ข้างนอก

แล้วอีกอย่าง เห็นท่าทางที่ดูแข็งแรงของเขา แล้วยังมีแรงเยอะขนาดนี้ จนแขนเธอเป็นรอยแดง ดูก็รู้ว่าอาการของเขาไม่สาหัสมาก

เธอถูกหลอกแล้ว?

เวินหนิงรู้สึกหงุดหงิด เฉิงหยางพูดกำกวมมาก เธอคิดว่าเกิดเรื่องอะไรกับลู่จิ้นยวน ตอนนี้อาจจะนอนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียง ไม่คิดเลยว่า เขากำลังหลอกเธอ

“ใครให้เธอมา มีจุดประสงค์อะไร? จะพูดหรือไม่พูด?”

พอลู่จิ้นยวนเห็นว่าเธอไม่พูดอะไร ก็ดึงแขนเธอมาตรงหน้า

“ฉันจะจุดประสงค์อะไรได้ล่ะ ก็แค่เดินผ่าน มาหาหมอไม่ได้หรอ?”

เวินหนิงถูกเขาบีบจนน้ำตาจะไหล ใครจะรู้ว่าผู้ชายคนนี้แรงเยอะขนาดนี้?

เขาแข็งแรงกว่าตัวเองเป็นร้อยเท่า ไม่เห็นว่ามีอาการสาหัสอะไรเลย?

“เธอคือ……เวินหนิง?”

ลู่จิ้นยวนหมดความอดทนแล้ว กำลังจะเรียกยามมาสอบปากคำเธอ แต่พอได้ยินเธอโอดครวญ จึงขมวดคิ้ว

เสียงนี้ คุ้นเคยเกินไปหรือเปล่า

“ใช่แล้วยังไง?” ลู่จิ้นยวนรู้ตัวแล้ว จากนั้นเวินหนิงก็ใช้มืออีกข้างถอดแว่น จึงทำให้เห็นดวงตาที่ชื้นแฉะ “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้”

จากนั้นลู่จิ้นยวนก็ปล่อยมือ แล้วเปิดประตู “เข้าไป”

ดึกขนาดนี้แล้วเธอมาที่นี่ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่นอน

“ไม่ต้อง ฉันจะไปแล้ว”

เวินหนิงไม่อยากจะอยู่ห้องเดียวกันกับผู้ชายที่อันตรายคนนี้ เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไร งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ

“อยากจะไป?”

ลู่จิ้นยวนขวางทางเวินหนิงไว้ แล้วก้มมองเธอ

“เธอจะให้ฉันลากตัวเธอเข้าไป หรือว่าเธอจะเดินเข้าไปเอง”

เสียงของผู้ชายคนนี้ เข้มงวดมาก เอาแต่ใจมาก

เวินหนิงอึ้งไป คิดไปคิดมา ตัวเองเดินเข้าไปเองดีกว่า ลู่จิ้นยวนพูดชัดเจนขนาดนั้น ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง ก็คงจะโดนโยนเข้าไป

เมื่อไม่เห็นว่าเธอขัดคำสั่งของตัวเอง สีหน้าลู่จิ้นยวนก็ดูอ่อนโยนไปไม่น้อย “เธอมาได้ยังไง?”

หน้าเวินหนิงเริ่มแดง เธอจะพูดว่าตัวเองเป็นห่วงที่เขาเข้าโรงพยาบาล ก็เลยมาเยี่ยม?

พูดแบบนี้ ก็เหมือนแสแสร้ง

“ก็แค่ ผ่านมาเฉยๆ”

เวินหนิงหลบสายตา แต่ใบหน้าร้อนแดงก็ทำให้เธอขายหน้ามาก

ลู่จิ้นยวนรู้สึกตลกกับท่าทางเธอแบบนี้ แค่ผ่านมา?

ดึกขนาดนี้แล้วมาที่โรงพยาบาลยังจะพูดว่าแค่ผ่านมาอีก แม้แต่โกหกเธอก็ยังโกหกไม่เป็นเลย

“ทำไง มาเยี่ยมฉัน? เป็นห่วงฉัน?”

ลู่จิ้นยวนนั่งลงอย่างผู้ดี แล้วทอดมองไปที่ผู้หญิงตรงหน้า

เธอใส่เสื้อคลุมธรรมดา ใบหน้าอันเล็กก็มีแมสอันใหญ่สวมอยู่ เผยให้เห็นแค่ดวงตาที่สวยงาม เหมือนกวางตัวน้อย ทำให้คนดูรู้สึกเอ็นดูมาก

“ใครจะเป็นห่วงนาย” เวินหนิงปฏิเสธอย่างไม่คิดเลย เธอไม่อยากเป็นผู้หญิงที่คิดแต่จะหาผลประโยชน์ในสายตาเขา

วันนี้ เป็นแค่อุบัติเหตุ ต่อไปเธอจะไม่เข้ามายุ่งในชีวิตของเขาอีก

“ไม่เป็นห่วงแล้วเธอมาทำไม?” ลู่จิ้นยวนเห็นว่าเธอปากแข็ง เลยยื่นมือไปดึงเวินหนิงเข้ามาในอ้อมกอดตัวเอง

เวินหนิงกรีดร้อง เธอไม่คิดหรือว่าลู่จิ้นยวนจะทำแบบนี้ จนร่างกายเธอพยุงตัวไม่อยู่ เลยล้มนั่งลงบนตักของผู้ชายคนนั้น

อุณหภูมิอุ่นร้อนของร่างกายแผ่มาหาเธอผ่านเสื้อผ้า ใบหน้าเวินหนิงก็แดงไปกว่าเดิม เหมือนลูกแอปเปิ้ลที่สุกเต็มที่แล้ว

“นายปล่อยฉันนะ!”

เวินหนิงพยายามจะดิ้นหนี แต่ว่า ยิ่งดิ้น เธอก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ลู่จิ้นยวนเอียงใกล้ข้างหู “เธอกำลังยั่วอารมณ์ฉัน?”

เวินหนิงตกใจจนไม่กล้าดิ้นอีก

ผ่านไปสักพัก ทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก มีแค่อากาศที่ยังลอยอยู่ในความเงียบนี้

“นายพูดว่า ถ้าฉันลงจากรถของนาย ก็อย่าเจอกันอีก? ถ้างั้น ฉันก็จะไป”

เวินหนิงแข็งข้อกับลู่จิ้นยวนไม่ได้ ก็เลยอ่อนข้อให้ หวังว่าจะทำให้เขาใจอ่อน

เธอจะอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ ถ้าคนอื่นเห็นจะพูดถึงเธอยังไง?

ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว “งั้นตอนนี้ แค่เธอไม่ไปเจอผู้ชายคนอื่นอีก ฉันก็จะให้โอกาสเธออีกหนึ่งครั้ง”

“ฉันไม่เคยเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนอื่นอยู่แล้ว วันนั้น ฉันก็แค่……”

ลู่จิ้นยวนรู้สึกสงสัยเธอ จนทำให้เวินหนิงอดใจไม่ไหวแล้วอยากอธิบาย

บ่วงแค้นแสนรัก

บ่วงแค้นแสนรัก

ของขวัญวันเกิดอายุ18ปีของเวินหนิง คือเธอต้องติดคุก10ปี เพื่อการแก้แค้นเธอจึงตอบตกลงคำขอร้องของปีศาจ เธอต้องแต่งงานกับสามีที่นอนอยู่ในสภาพเหมือนผัก แต่คิดไม่ถึงว่า…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset