เวินหนิงถึงขั้นยืนนิ่งกับที่ แล้วดูข้อความนั้น เหมือนเห็นอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมาก
เรื่องนั้น นอกจากเห่อจื่ออันกับคนวันนั้น คนอื่นไม่มีทางรู้
เพราะฉะนั้น ข้อความ ผู้ชายคนนั้นส่งมา?
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องมืดสนิทนั้น ร่างกายเวินหนิงก็สั่นไป เหมือนเลือดไหลมากองที่สมอง จนสมองเธอไม่แล่น
เขา จะทำอะไรกันแน่?
โทรศัพท์ไม่ได้ดังขึ้นอีก เวินหนิงมองโทรศัพท์เหมือนระเบิดเวลาอย่างงั้น
เธอควรจะไปเจอคนคนนั้น แล้วจับตัวเขา หรือว่า……แกล้งว่ามองไม่เห็น?
ตอนนี้ในสมองเธอตีกันวุ่นไปหมด
ผ่านไปสักพัก ขณะที่หัวเวินหนิงกำลังจะระเบิด ก็มีข้อความส่งมาอีก
“ที่ร้านกาแฟโต๊ะมุมซ้ายสุดข้างล่างบริษัท มาคนเดียว ฉันจะรอเธอเลิกงาน”
เวินหนิงสะดุ้งตกใจ คนนี้ไม่แค่รู้เบอร์เธอ ยังรู้ว่าเธอทำงานที่ไหน ช่วงเวลานี้ เขาอยู่ที่ไหน แอบจับตาดูเธอ?
เวินหนิงรู้สึกหวาดกลัว ความรู้สึกที่ถูกจับตามองอยู่ที่มืด มันน่ากลัวมาก
……
ส่งข้อความเสร็จ หลิวเมิ่งเซวี่ยก็นั่งนิ่งอยู่ในรถ
“เฮียหลง ปล่อยฉันได้หรือยัง?”
วันนั้นพอออกจากโรงพยาบาล เธอก็ถูกคนพวกนี้ลักพาตัว บอกว่ามีความแค้นกับลู่จิ้นยวน เพราะว่าเธอเคยอวดว่าเป็นผู้หญิงของลู่จิ้นยวน ก็เลย ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา
หลิวเมิ่งเซวี่ยเกือบจะโดนเอาตัวไปขู่ลู่จิ้นยวน ยังดีที่เธอฉลาดเลยนึกถึงเวินหนิง แล้วรีบบอกเรื่องที่เธอท้องลูกของลู่จิ้นยวน เธอเลยรอดตัว
“รอให้เธอถึงมือเราก่อนค่อยว่ากัน”
คนที่หลิวเมิ่งเซวี่ยเรียกว่าเฮียหลงเอ่ย หลิวเมิ่งเซวี่ยก็จำใจเดินไปร้านกาแฟ แล้วรอเวินหนิงมา
……
เวินหนิงลังเลอยู่ในบริษัทนานมาก ดูเวลากำลังเดินผ่านไป เธอเลยตัดสินใจว่าจะลงไปดู
ถ้าพลาดโอกาสครั้งนี้ ใครจะรู้ว่าเขาจะทำอะไรอีก?
แต่ว่า เวินหนิงก็กลัวว่าคนคนนี้จะทำอะไรไม่ดี ก็เลยให้เพื่อนร่วมงานไปด้วย เพราะคนนั้นบอกให้เธอไปคนเดียว เวินหนิงเลยวอนให้เพื่อนร่วมงานรออยู่ข้างนอก
ถ้าเกิดเธอไม่ออกมา จะได้มีคนแจ้งตำรวจ
เมื่อเตรียมตัวเสร็จ เวินหนิงก็เดินลงไป มองเห็นเลขในลิฟต์ค่อยๆลดลง ใจเธอก็เต้นเร็วกว่าเดิม จนสุดท้าย เธอเกือบหายใจไม่ออก
“ฉันไปก่อนนะ รบกวนเธอด้วย” เวินหนิงยิ้มกับเพื่อนร่วมงาน จากนั้นก็เดินเข้าไปในร้านกาแฟ
จากบนข้อความนั่น เวินหนิงก็ตั้งใจมองไปรอบๆ พอหาที่นั่งมุมซ้ายสุดเจอ แต่ที่นั่นถือว่าเป็นจุดบอด
ต้องไปถึงที่ ค่อยดูออกว่าคนคนนั้นเป็นใคร
เวินหนิงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินตรงไป พอเห็นคนที่นั่งอยู่ที่นั่น ก็รู้สึกอึ้งไป
หลิวเมิ่งเซวี่ยนั่งอยู่บนเก้าอี้ ในมือจับช้อนคนกาแฟไว้ ดูเหมือนกำลังรอใครบางคน
“หลิวเมิ่งเซวี่ย ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?” เวินหนิงตกใจ
“ทำไม แปลกใจเหรอ?”
หลิวเมิ่งเซวี่ยยิ้มอย่างมีเลศนัย “เธอยังเดาไม่ออกเหรอ?”
สีหน้าเวินหนิงซีดไปทันที เบาะแสต่างๆก็ลอยเข้ามาในหัว
โรงแรมหมิงเซิ่ง เสื้อของหลิวเมิ่งเซวี่ย คืนนั้นทั้งสองสลับตัวกัน
“คนคนนั้นไปหาเธอ?” เวินหนิงก็เข้าใจทันที
วันนั้นเวินหนิงก็กระวนกระวายเกินไป เสื้อผ้าก็ถูกฉีก แล้วลืมเอาเสื้อผ้ากลับมาด้วย เพราะฉะนั้น คนคนนั้นก็เห็นสิ่งที่เธอทิ้งไว้ ก็เลยเข้าใจผิด
“ใคร? คนคนนั้นเป็นใคร?”
หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่ตอบ แต่ความจริงในหัวเวินหนิงมีคำตอบแล้ว……
ลู่จิ้นยวน
คืนนั้นเป็นงานเลี้ยงของตระกูลลู่ เขาต้องอยู่ที่โรมแรมหมิงเซิ่งอยู่แล้ว คนอย่างเขา ต้องพักห้องสวีทแน่นอน อีกอย่าง……นี่ก็อธิบายความผิดปกติที่ลู่จิ้นยวนให้หลิวเมิ่งเซวี่ยเข้ามาในบริษัทได้
เพราะ เขาจำคนผิด คิดว่าคนที่เขามีอะไรด้วยคือหลิวเมิ่งเซวี่ย ก็เลยชดใช้ให้เธอ?
ความจริงปรากฏต่อหน้า เวินหนิงก็อึ้งไป ขณะที่เธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้น ก็มีมือยื่นมาปิดปากปิดจมูกเธอไว้
ไม่นานก็รู้สึกสติจะหายไป ก่อนเวินหนิงสลบ ก็เห็นใบหน้าที่ยิ้มสะใจของหลิวเมิ่งเซวี่ย
……
ลู่จิ้นยวนเพิ่งกลับถึงบริษัท ก็เห็นมีคนคนหนึ่งเดินกระวนกระวายอยู่ห้องประตู
ไม่ใช่คนอื่น เป็นเพื่อนร่วมงานที่เวินหนิงวอนให้เธอสังเกตสถานการณ์ในร้านกาแฟ แต่ว่า พอเวินหนิงเข้าไปได้ไม่นานเธอก็ได้รับข้อความที่ต้องแก้แผนงานอย่างเร่งด่วน
เธอคิดว่า แค่แปปเดียวคงไม่เป็นอะไร ไม่คิดเลยว่าพอกลับมา เวินหนิงก็หายตัวไปแล้ว ถามคนอื่นแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นเธอ
“เป็นอะไร?”
“ประ ประธานลู่ ฉันกำลังหาเวินหนิง”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้ว “ทำไมไม่โทรหาเธอล่ะ?”
“ไม่มีคนรับ เธอ……ตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่า?” เพื่อนร่วมงานรู้สึกไม่สบายใจ ถ้าเกิดเรื่องอะไร เธอรับผิดชอบไม่ไหวแน่
รอบข้างลู่จิ้นยวนสงบลง หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเวินหนิง สุดท้ายก็ไม่มีใครรับ
ตอนนี้เธอควรจะทำงานอยู่ในบริษัท
“เกิดเรื่องอะไร?” ลู่จิ้นยวนรู้สึกว่าคนตรงหน้าต้องรู้อะไรบางอย่าง
ถูกสายตาที่แหลมคมของผู้ชายจ้อง เธอก็เลยไม่กล้าปิดบัง แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขา
“เธอรับปากคนอื่นแล้ว ทำไมพูดว่าไม่ทำก็ไม่ทำเลยล่ะ?”
เมื่อลู่จิ้นยวนฟังจบ ก็ร้อนรน
ที่เวินหนิงต้องพูดแบบนี้ ต้องมีเหตุผลแน่นอน เขารีบลงไปข้างล่าง แล้วตามหาในร้านกาแฟ ก็ไม่เห็นตัวเวินหนิง จากนั้นก็ถามพนักงาน พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
สายตาของผู้ชายคนนั้นร้อนรนมาก สรุปเกิดเรื่องอะไรกันแน่? ตอนนี้เวินหนิง เป็นยังไงบ้าง?
โทรไปอันเฉิน ลู่จิ้นยวนก็ขึ้นรถไป ให้เขารีบเช็คตำแหน่งเวินหนิง กับก่อนที่เธอจะหายตัวไปติดต่อใครบ้าง
อันเฉินรู้สึกเกร็งกับน้ำเสียงของลู่จิ้นยวน ไม่กล้ารอช้า ก็รีบเช็คทันที หมายเลขที่เขาได้จากโทรศัพท์เวินหนิง ก็ทำให้เขารู้สึกคุ้นตามาก
นี่เป็นเบอร์ของเจ้าของโครงการบ้านที่บริษัทตระกูลลู่เพิ่งซื้อกิจการมาไม่ใช่เหรอ?
บริษัทนี้บริหารงานไม่ดี สู้กับบริษัทตระกูลลู่ไม่ได้ ตอนนี้ก็ล้มละลายแล้ว แต่ว่าลู่จิ้นยวนสนใจบางพื้นที่ของพวกเขา ก็เลยซื้อมา
เจ้าของคนนี้ คิดว่าลู่จิ้นยวนเป็นคนทำให้เขาล้มละลาย ก็โทรมาก่อกวนไม่น้อย
“บอสครับ ผมสงสัยว่า คุณหนูเวินถูกลักพาตัวครับ!”
