เมื่อแน่ใจแล้วว่าเวินหนิงไม่เป็นอะไร ก็ถูกส่งตัวไปห้องพักฟื้น คุณหมอย้ำกับลู่จิ้นยวนว่าต้องดูอาการที่โรงพยาบาลไปก่อน อย่าทำอะไรที่กระทบเด็กอีก
ลู่จิ้นยวนมองใบหน้าที่นอนหลับของเวินหนิง เป็นเพราะฉีดยานอนหลับให้ ตอนนี้เธอหลับสนิทมาก ท่าทางที่เงียบสงบแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกสบายใจ
หรือว่า เป็นแบบนี้ไปตลอดก็ไม่เลว
ลู่จิ้นยวนก็รู้สึกเหนื่อย กำลังจะพักผ่อนข้างๆ ก็มีเสียงวุ่นวายลอยเข้ามา “ประธานลู่ล่ะ ฉันจะพบเขา!”
หลิวเมิ่งเซวี่ยวิ่งมาอย่างกระวนกระวาย เมื่อกี้ตำรวจไปที่บ้านหลิว แล้วสอบปากคำพวกเขา เธอค่อยรู้ว่าหลิวยวนเทาจัดการเวินหนิงไม่สำเร็จ แล้วลู่จิ้นยวนยังรู้อีก ตอนนี้ถูกพาตัวไปโรงพัก มีโอกาสที่จะถูกกล่าวหาเรื่องลวนลาม
เกิดเรื่องนี้ คนตระกูลหลิวก็วุ่นวายไปหมด พ่อแม่ก็เอาแต่ร้องไห้ แล้วเรียกให้หลิวเมิ่งเซวี่ยมาจัดการเรื่องนี้
หลิวเมิ่งเซวี่ยด่าพี่ชายว่าไร้ประโยชน์ในใจ แล้วตามมาถึงที่นี่ เธอกลัวว่าเรื่องของหลิวยวนเทาจะลามมาถึงตัวเองด้วย
เวินหนิงขมวดคิ้ว เหมือนถูกเสียงที่แสบหูทำให้ตื่น ลู่จิ้นยวนเดินออกไปอย่างเยือกเย็น พอเปิดประตู หลิวเมิ่งเซวี่ยก็พุ่งมาหา
“ประธานลู่คะ พี่ชายฉันอยู่ที่โรงพัก……ขอร้องคุณช่วยเขาด้วย”
ลู่จิ้นยวนหลบหลีกด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก หลิวเมิ่งเซวี่ยเลยหน้าแตก จากนั้น ก็รีบบีบน้ำตา “ประธานลู่……”
ลู่จิ้นยวนไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของเธอ แต่กลับรู้สึกรังเกียจ
คนที่ทำผิดคือพี่ชายเธอ ตอนนี้เธอยังมาแกล้งทำตัวน่าสงสารอีก ถ้าไม่ใช่เขาตั้งใจมองไป ตอนนี้คงเกิดเรื่องอะไรที่ร้ายแรงไปแล้ว
“พี่ชายเธอทำผิด ก็ควรจะรับผิดชอบ” ลู่จิ้นยวนไม่ใจอ่อนเลย “ที่นี่คือโรงพยาบาล เสียงดัง ออกไป”
ขณะที่หลิวเมิ่งเซวี่ยกำลังจะพูดอะไร คุณหมอก็เดินมา จะไปดูอาการของเวินหนิง
“เธอนอนหลับแล้ว มีอะไรคุยกับผมได้”
ลู่จิ้นยวนรู้ว่าวันนี้เวินหนิงตกใจมาก ก็เลยไม่อยากให้ใครรบกวนเธอพักผ่อน
คุณหมอพยักหน้า แล้วยื่นยาให้ลู่จิ้นยวน “ไม่มีอะไรครับ ยาบำรุงที่เธอกินควรจะเปลี่ยนแล้ว ถ้ายังไม่เปลี่ยน จะไม่ดีกับเด็ก”
เมื่อหลิวเมิ่งเซวี่ยได้ยินคำว่าเด็ก ก็ไม่รู้ว่าควรจะบีบน้ำตาต่อหรือว่าพอแล้ว
เวินหนิงท้องแล้วงั้นเหรอ?
ลูกของลู่จิ้นยวนหรือเปล่า?
พอคิดไป ถ้าไม่ใช่ลูกของลู่จิ้นยวน เขาจะเป็นห่วงขนาดนี้ได้ยังไง
ในใจหลิวเมิ่งเซวี่ยก็รู้สึกเกลียด เวินหนิงรู้ตั้งนานแล้ว แค่แสแสร้งต่อหน้าเธอ ดูท่าทางที่เธอไม่สมหวังแล้วมีความสุข?
“ยังไม่ไปอีก?” ลู่จิ้นยวนรับของพวกนั้นมา ค่อยเห็นหลิวเมิ่งเซวี่ยเหม่อมองตัวเอง ก็เลยเอ่ยปากไล่
มองใบหน้าที่หล่อเหลาของลู่จิ้นยวน ในใจหลิวเมิ่งเซวี่ยก็รู้สึกอิจฉา
ความอ่อนโยนของเขา เคยให้เธอแค่ครั้งเดียว ตอนที่เข้าใจว่าเธอเป็นเวินหนิง ตอนนี้ เธอตื่นจากฝันแล้ว ทุกอย่างจบแล้ว!
ตอนจะจากไป หลิวเมิ่งเซวี่ยก็รู้สึกเกลียดเวินหนิง ถ้าไม่ใช่เธอ พาลู่จิ้นยวนเข้ามาในชีวิตเธอ งั้นเธอก็คงไม่เป็นแบบนี้
ความรู้สึกที่ได้มาแล้วเสียไป เจ็บปวดกว่าคนที่ไม่เคยได้ ความเจ็บปวดนี้ ก็จะทำให้เป็นบ้า
หลิวเมิ่งเซวี่ยเดินไปไม่กี่ก้าว ก็มีผู้ชายคนหนึ่งชนเธอ แล้วก้มมองเธอ “เป็นเธอ พาตัวไป”
หลิวเมิ่งเซวี่ยไม่ทันได้พูดอะไร ก็ถูกผ้าที่มียาสลบปิดปาก จากนั้นก็หมดสติไป
……
เพราะยานอนหลับ เวินหนิงก็หลับไปนานมาก รอเธอตื่นมา ฟ้าก็มืดแล้ว
เธอลุกขึ้นนั่ง ขยับร่างกายที่แข็งทื่อ มองไปรอบๆก็มีแค่เธอคนเดียว ในใจก็รู้สึกผิดหวัง
ปกติไม่รู้สึก ถึงเวลาที่ต้องการคนดูแลจริงๆ เธอค่อยรู้ว่าตัวเองโดดเดี่ยว น่าสงสารมาก
ลู่จิ้นยวนคงจะส่งเธอมาแล้วไปเลยสินะ เวินหนิงคิดไปด้วย ก็ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
เขาช่วยเธอออกมาได้ ก็ถือว่ามีบุญคุณมากแล้ว เธอยังจะให้ลู่จิ้นยวนเฝ้าเธอที่ห้องจนตื่น?
เธอคงรู้สึกหลงตัวเองเกินไป
เวินหนิงโยนความคิดมากนี้ไปเพราะท้อง สมองคงจะเบลอเพราะท้อง เลยคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้
กำลังเหม่อ อันเฉินที่เฝ้าอยู่ข้างนอกเห็นว่าไฟสว่าง เลยเดินเข้ามา แล้วยื่นอาหารค่ำที่มีประโยชน์ให้ “กินอะไรก่อนเถอะ”
เวินหนิงรับมาอย่างตื้นตันใจ เธอกำลังหิวพอดี “ลู่จิ้นยวนเป็นคนให้นายมา?”
อันเฉินพยักหน้า เวินหนิงก็รู้สึกอบอุ่นใจ แต่ก็นึกอะไรได้ “คนคนนั้นล่ะ?”
หลิวยวนเทาเกือบจะข่มขืนเธอ เกือบจะทำร้ายลูกในท้องด้วย เธอเลยเอ่ยถามถึงคนคนนั้น
“เรื่องนี้ บอสบอกเขาจะจัดการเอง”
อันเฉินเอ่ยเป็นขั้นเป็นตอน เรื่องของหลิวยวนเทาจะทำให้เรื่องใหญ่หรือเป็นเรื่องเล็กก็ได้ เพราะยังไงก็ทำไม่สำเร็จ แต่ลู่จิ้นยวนคงไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆแบบนี้ ก็เลย ต้องใช้มาตรการวิธีการบางอย่าง
เรื่องพวกนี้ เวินหนิงไม่เหมาะที่จะได้ยิน
รอยยิ้มบนใบหน้าเวินหนิงก็หายไป ท่าทางที่กำลังกินอาหารก็ช้าลง “รู้แล้ว”
หลิวยวนเทาเป็นพี่ชายของหลิวเมิ่งเซวี่ย ลู่จิ้นยวนรู้สึกพิเศษกับเธอ คงจะ จงใจไปช่วยก็เป็นไปได้
คิดไปด้วย ในใจเวินหนิงก็ผิดหวังด้วย
เพราะยังไง ถ้าลู่จิ้นยวนจะช่วยหลิวยวนเทา เธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เรื่องนี้ คงต้องให้ผ่านไปอย่างนี้ ถึงแม้ เธอจะไม่อยากปล่อยคนชั่วนั่นก็เถอะ
อันเฉินไม่ได้สังเกตความผิดปกติของเวินหนิง แล้วมองไปที่เวลา “ค่ำแล้ว ผมกลับไปก่อนนะครับ ผมจ้างพยาบาลมาดูแลแล้ว ถ้ามีปัญหาอะไรก็เรียกเธอได้”
เวินหนิงพยักหน้า แล้วมองส่งอันเฉินออกไป
เห็นพยาบาลที่ยืนอยู่หน้าห้อง เธออดไม่ได้ที่จะคิด นี่เหรอวิธีที่ลู่จิ้นยวนชดใช้ให้เธอ เธอไม่รู้สึกดีใจอะไรเลย
เวินหนิงพักอยู่ในโรงพยาบาลไปไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้อย่างราบรื่น กี่วันนี้ เธอถูกบังคับให้นอนอยู่บนเตียง แม้แต่เข้าห้องน้ำยังมาคนตาม กลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
แค่ไม่กี่วัน แต่เหมือนนานมาก เธออึดอัดจะแย่อยู่แล้ว
แต่พอไปทำงาน เวินหนิงค่อยรู้ว่าหลิวเมิ่งเซวี่ยไม่อยู่แล้ว
ไม่อยู่ก็ดี เวินหนิงยังรู้สึกเคืองเธอ เพราะยังไง เธอดีกับเธอ แต่สุดท้ายกลับโดนแทงข้างหลัง พูดว่าไม่ใส่ใจก็แค่คำโกหก
ขณะทำงาน โทรศัพท์เวินหนิงก็ดัง เป็นเบอร์แปลกโทรมา
เวินหนิงไม่รับ แต่ผ่านไปไม่นาน คนคนนั้นก็ส่งข้อความมา “ไม่อยากรู้เหรอว่าคนที่พักห้องสวีทวันนั้นเป็นใคร?”