ลู่จิ้นยวนมองเห็นสายตาที่หนักแน่นของเวินหนิง ในใจก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์บางอย่าง
แต่เวินหนิงไม่ได้หยุดอยู่ที่เดิมแล้วรีบไปจากที่นี่ทันที
ลู่จิ้นยวนเดินเข้าไปในห้องหนังสือ เถ้าแก่ลู่ก็ชี้ไปที่กระดานหมากล้อม “มา มาเล่นต่อ”
ลู่จิ้นยวนขมวดคิ้วเข้ม “คุณปู่ เมื่อกี้เธอพูดอะไรกับคุณปู่?”
เถ้าแก่ลู่มองไปที่ลู่จิ้นยวนแล้วส่ายหัว “ในเมื่อเธอขอร้องที่จะคุยกับฉันตัวต่อตัวเอง ถ้าฉันบอกแก ตาแก่อย่างฉันก็คงไม่ได้เรื่อง มาเล่นต่อ”
ลู่จิ้นยวนเห็นท่าทางของเถ้าแก่ไม่อยากพูด ก็เลยไม่ได้เอ่ยถามต่อ แล้วพยายามหักห้ามอารมณ์ในใจไว้ เล่นหมากล้อมต่อ
แต่ว่า ครั้งนี้ เขาไม่ได้รู้สึกสงบสติได้เหมือนเมื่อกี้ ผ่านไปไม่นาน ความได้เปรียบบนกระดานหมากที่สร้างมาเมื่อกี้ก็ค่อยๆหายไป จากนั้นเถ้าแก่ก็เห็นจุดอ่อนแล้วบีบไปจนมุม
“จิ้นยวน ชีวิตคนก็เหมือนกลับหมากล้อม ทุกก้าวสำคัญมาก แกต้องระวัง”
เถ้าแก่ชนะหมากล้อมกระดานนี้ แล้วเห็นท่าทางไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวของลู่จิ้นยวนก็เลยเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่น
ลู่จิ้นยวนพยักหน้า ก็รู้สึกว่าคำพูดนี้แอบแฝงอะไรบางอย่าง แต่ว่า เถ้าแก่บอกว่าท่านเหนื่อยแล้ว จะกลับไปพักผ่อน สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรเลย
……
เช้าวันต่อมา เวินหนิงรู้สึกไม่สบายตัว ก็เลยไม่ได้ไปทำงาน
ลู่จิ้นยวนมองเห็นที่นั่งในรถว่าง ในใจก็รู้สึกหงุดหงิด
ผู้หญิงคนนี้ลำไส้จะอักเสบไปนานแค่ไหน ทำไมตอนนี้ก็ยังไม่หาย?
หรือว่าตอนนั้นเธอไปหาหมอเถื่อน? คิดไปด้วย ลู่จิ้นยวนก็โทรหาคุณหมอประจำบ้านให้ตอนดึกไปตรวจเช็คร่างกายของเวินหนิง
……
เถ้าแก่ก็ให้คนไปจัดการเรื่องหย่าอย่างรวดเร็ว ท่านกังวลว่าถ้าจะยื้อต่อคงไม่ดีมากนัก ก็เลยจัดการอย่างเด็ดขาด
แน่นอน ใบสมรสหย่าตระกูลลู่ไม่คิดที่จะให้เธอ พวกเขากังวลว่าเธอจะเอาเอกสารนี้ไปสร้างปัญหา
เวินหนิงก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก จนกระทั่งถึงเวลาที่เธอจะจากไป ก็แค่มีกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ข้างในก็มีแค่เสื้อผ้ากับรองเท้าที่เธอเอาออกมาจากคุกตอนนั้น ที่เหลือ เธอไม่ได้เอาอะไรไปเลย
เถ้าแก่ลู่ก็เขียนเช็คให้เธอ ตัวเลขบนนั้นน่าดึงดูดมาก แต่เวินหนิงก็ปฏิเสธ “ที่ออกมาจากคุกได้ ก็ถือว่าหนูโชคดีมากแล้ว เงินพวกนี้ก็ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอแค่คุณปู่จำคำสัญญาที่พูดกับหนูไว้ได้ก็พอค่ะ”
เถ้าแก่ลู่พยักหน้า “ไว้ใจเถอะ เรื่องนั้นผ่านไปแล้ว ไม่มีใครไปตอแยเธออีกแน่นอน คำพูดของฉันก็ยังมีประโยชน์อยู่”
เวินหนิงพยักหน้า ก็จากไปแบบนี้เลย
พอคิดถึงผู้ชายคนนั้น สายตาของเวินหนิงก็หม่นหมอง อีกหน่อยโอกาสที่พวกเขาจะเจอหน้ากันก็คงไม่มีแล้ว
ในตระกูลลู่ ในช่วงเวลาที่เป็นภรรยาของลู่จิ้นยวน เธอรู้สึกเหมือนเป็นแค่ความฝัน
ตอนนี้ฝันตื่นแล้ว เธอก็ควรจะเริ่มมีชีวิตใหม่สักที
……
ตอนดึก หลังจากลู่จิ้นยวนเลิกงาน
เวลาอาหารเย็น เวินหนิงก็ไม่อยู่เหมือนเดิม เขาก็ไม่ได้สงสัยอะไร เพราะว่าเธอบอกว่าลำไส้อักเสบ ไม่ได้ร่วมทานอาหารกับคนอื่นนานแล้ว
รอจนทานอาหารเสร็จ เขากลับไปที่ห้องนอนของตัวเองก็รู้สึกบางอย่างผิดปกติ
เดิมที่ เสื้อผ้าของเวินหนิงที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้าของเขาหายไป ผ้าห่มที่เธอปูพื้นนอนก็หายไปด้วย
ทั้งหมดเหมือนกลับไปตอนเริ่มต้น ตอนที่เวินหนิงไม่มีตัวตนอยู่
ลู่จิ้นยวนเหมือนจะคิดอะไรได้ ก็ก้าวเดินออกไปแล้วเข้าไปในห้องนอนของเวินหนิง พอเปิดประตูเข้าไป ข้างในก็ว่างเปล่า ไม่มีใครเลย ข้างในนั้นถูกทำความสะอาดจนเหมือนไม่มีร่องรอยของคนเคยอยู่
เวินหนิงไปไหน?
ลู่จิ้นยวนเข้าใจทันทีว่าสายตาเมื่อวานของเธอหมายความว่ายังไง ดูเหมือนว่าเธอคิดไว้ดีแล้วที่จะไปจากตระกูลลู่
ไม่ได้ลังเล ลู่จิ้นยวนก็เดินเข้าไปในห้องของเถ้าแก่ เถ้าแก่กำลังรดน้ำดอกไม้ พอเห็นเขามาก็ส่ายหน้า
“เธอไปแล้ว นี่เป็นเอกสารการหย่าของพวกแก ไว้ใจเถอะ ฉันจะเก็บมันไว้ให้ดี ไม่ให้คนอื่นรู้ว่าแกเคยมีความสัมพันธ์อะไรกับเธอ”
ลู่จิ้นยวนจ้องไปที่หนังสือสีแดงเลือด พอเปิดดู บนนั้นก็มีชื่อของเขากับเวินหนิงไว้ แต่ว่าเปลี่ยนจากตกลงที่จะสมรสกันเป็นตกลงที่จะหย่าร้างกัน
“ทำไมถึงไม่บอกผม?”
ลู่จิ้นยวนมองไปที่เอกสารนั่น มีความคิดที่อยากจะฉีกทิ้งซะ
ใครให้สิทธิ์เวินหนิงหย่ากับเขา? เธออยากจะหลุดพ้นจากเขาขนาดนั้นเลยหรอ?
“เรื่องนี้ ฉันเป็นคนทำให้เกิดเอง ตอนนี้ก็ด้วย ก็ถือว่าสมเหตุสมผล”
เถ้าแก่มองเห็นสีหน้าที่เยือกเย็นของลู่จิ้นยวน ความจริงท่าน สังเกตุเห็นอะไรบางอย่างระหว่างลู่จิ้นยวนกับเวินหนิงแล้ว แต่ว่าท่านไม่ได้เอ่ยปากพูด
ท่านคิดว่า ด้วยสายตาของลู่จิ้นยวน จะรู้สึกจริงจังกับฆาตกรที่เคยขับรถชนเขาได้ยังไง แต่ความจริงไม่เป็นอย่างนั้น ท่านเห็นท่าทางที่ลู่จิ้นยวนมีต่อเวินหนิงค่อยๆเปลี่ยนไป ท่านกลัวว่าผู้หญิงที่ท่านจงใจหากลับมาจะทำลายทายาทรับช่วงต่อของท่าน
ตั้งแต่ตอนนั้น ท่านก็คิดมาโดยตลอดว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง
ตอนนี้ ทุกอย่างจบแล้ว กลับไปจุดเริ่มต้น นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน
ลู่จิ้นยวนเข้าใจความหมายของท่าน ก็เลยไม่ได้เอ่ยพูดอะไรอีก
“ตอนนี้ฉันแก่มากแล้ว ก็ยุ่งอะไรขนาดนั้นไม่ได้ แกจะอยู่กับแฟนเก่าของแกก็ได้ หรือว่าจะไปหาคุณหนูตระกูลไหน จะแค่ผู้หญิงธรรมดาก็ได้ แต่ว่าเวินหนิง ไม่ได้”
“ผู้หญิงแบบเธอ จะเป็นภรรยาแกไม่ได้ แต่จะเป็นจุดอ่อนที่คนอื่นจะมาทำร้ายแกแทน”
เมื่อเถ้าแก่พูดจบ ลู่จิ้นยวนก็เงียบไป
เขาก็ต้องเข้าใจอยู่แล้ว คุณปู่ก็ทำเพื่อตระกูลลู่แล้วก็ตัวเอง เลยยุ่งเรื่องนี้ แต่นี่ไม่สามารถทำให้เขาลดความโมโหในใจได้เลย แต่กลับรู้สึกหมดแรง
“ต่อไปแกอย่าเจอเธออีก ฉันเชื่อว่าแกจะลืมคนคนนี้ไปได้ในไม่ช้า”
ลู่จิ้นยวนถอยออกไปอย่างเงียบๆ
เมื่อกลับถึงห้อง เขาก็ทุบของทุกอย่างที่ขวางหน้า
ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอะไร แค่อยากจะทำลายล้าง โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไปโดยที่ไม่บอกลา
ทำไมเธอถึงไปจากที่นี่ได้ มาหลอกเขาแล้วถอนตัวออกไปอย่างง่ายดายแบบนี้?
เขากวาดหนังสือบนโต๊ะลงมาบนพื้นด้วยความโมโห จากนั้น ผู้ชายคนนี้ก็เห็นการ์ดแผ่นหนึ่ง ข้างบนนั้นเป็นลายมือของเวินหนิง “บัตรเครดิตใบนี้นายให้ฉันไว้ ยังไม่เคยใช้ คืนให้นาย”
นั่นเป็นการ์ดไม่จำกัดวงเงินที่เขาเคยให้เธอ แม้แต่สิ่งนี้เธอก็ไม่เอาไปด้วย
ลู่จิ้นยวนก็หักการ์ดใบนั้นแล้วโยนทิ้งถังขยะไปเลย
หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็โทรหาไป๋ซินอวี๋กับเฉิงหยาง “ออกมาเจอกันหน่อย ฉันเลี้ยง”
ทั้งสองก็รู้สึกตกใจไป ปกติลู่จิ้นยวนไม่ค่อยออกมาเที่ยว ถึงพวกเขาจะเรียกเขาออกมาก็ตาม โดยปกติชวนไปสิบครั้งก็จะโดนปฏิเสธเก้าครั้ง
วันนี้พระอาทิตย์ออกมาจากทางตะวันตกหรอ?
ลู่จิ้นยวนเป็นคนที่ไม่ชอบเที่ยว ความสนุกแบบนี้ ในสายตาเขาก็เป็นแค่การเสียเวลา แต่ตอนนี้เขาแค่อยากจะดื่มเหล้า แล้วให้แอลกอฮอล์มาลบล้างความหงุดหงิดในใจ
ไม่งั้น เขาคงจะรีบไปตามหาผู้หญิงที่สมควรตายคนนั้น แล้วให้เธอทุกข์ทรมานตายทั้งเป็น