“เป็นอะไร เธอหนาวหรอ?” เห่อจื่ออันรีบถอดเสื้อคลุมให้เธอ
“ไม่ต้อง ไม่ใช่หนาว” เธอก็แค่กลัว
แต่ว่า เห่อจื่ออันไม่สนใจคำปฏิเสธของเธอ “ลมทะเลเย็น คลุมไว้เถอะ เดี๋ยวไม่สบาย เธอผอมขนาดนี้ฉันกลัวว่าจะโดนลมพัดปลิวไป”
เวินหนิงยิ้มแล้วเห่อจื่ออันก็เอ่ย “เรื่องพวกนี้ฉันเข้าใจ ไว้ใจเถอะเดี๋ยวฉันจะช่วยเธอเอง”
เวินหนิงพยักหน้า จากนั้นก็หยิบกระดาษออกมาแล้วเขียนเบาะแส “ฉันไม่รู้ว่าจะขอบคุณนายยังไงดี”
เห่อจื่ออันเห็นสายตาที่ขอบคุณจากใจเธอ เขาสูดหายใจเข้าลึก จากนั้นก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “เราเป็นเพื่อนกันหนิ ฉันไม่ช่วยเธอจะช่วยใคร?”
ทั้งสองกลับไปในรถ เห่อจื่ออันก็เอาแต่จะส่งเวินหนิงกลับบ้าน
เวินหนิงคิดไปคิดมา ถ้าลู่จิ้นยวนรู้ว่าเธอกลับบ้านพร้อมเห่อจื่ออัน คงจะโมโหมากแน่ๆ ก็เลยปฏิเสธ
“ที่นี่ไกลจะตาย เธอโบกรถไม่ได้หรอก เร็วๆเดี๋ยวจะมืดแล้ว จะหนาวมากด้วย”
เมื่อเห็นว่าปฏิเสธไม่ได้ เวินหนิงเลยแก้ที่อยู่ เธอลงรถก่อนแล้วค่อยเดินกลับไป
เห่อจื่ออันส่งเธอไปตามที่เธอบอก เวินหนิงก็พับเสื้อคลุมแล้ววางไว้ที่เบาะนั่ง “งั้นฉันไปก่อนนะ”
“เธอต้องดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวฉันสืบเรื่องได้แล้วแต่เธอกลับล้มป่วยไปซะก่อน”
เวินหนิงยิ้มแล้วพยักหน้า มองส่งผู้ชายคนนั้นจากไปแล้วค่อยเดินกลับบ้านลู่
……
เมื่อกลับถึงบ้านลู่ เวินหนิงเห็นว่ารถของลู่จิ้นยวนจอดอยู่ เธอเริ่มร้อนรนแล้วรีบกลับห้อง พอเปิดประตูห้องก็เห็นว่ามีคนอยู่
ลู่จิ้นยวนนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอีกแล้วจ้องมองมาที่เธอ สายตาที่เลือดเย็นของเขาทำให้เวินหนิงเสียวสันหลังวาบ
“ฉัน……กลับมาแล้ว” เวินหนิงเอ่ยปากพูด ลู่จิ้นยวนเลยยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ยังอยากกลับบ้าน คงไม่ง่ายเลยสินะ”
เวินหนิงอึ้งไป จากนั้นก็มีรูปถ่ายปลิวมาที่หน้าเธอ ผู้ชายคนนั้นก็ก้าวเดินมาแล้วจับผมเธอบังคับให้เธอเงยหน้ามองเขา “ไปชมวิวทะเลกับเห่อจื่ออัน คงมีความสุขมากสินะ?”
ลู่จิ้นยวนกลับถึงบ้านแล้วเห็นว่าเวินหนิงไม่อยู่ รอไปตั้งนานเธอก็ไม่กลับมา เขาเลยให้คนไปหา ไม่คิดเลยว่า จะเห็นเธอนั่งเดทกับเห่อจื่ออันเหมือนแฟนอยู่ริมทะเล
โดยเฉพาะ ตอนหลังที่เวินหนิงใส่เสื้อคลุมของเห่อจื่ออัน นี่เลยทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าพวกเขาทำอะไรที่ไม่ควรทำ
“ฉันเปล่า!” เวินหนิงส่ายหน้า “ฉันกับเขาแค่เพื่อนกัน……”
พูดจบ เวินหนิงก็ยิ้มอย่างเสียดสี พูดแล้วมีประโยชน์อะไร ลู่จิ้นยวนจะเชื่อเหรอ?
ตามคาด เมื่อผู้ชายฟังเธอพูด ก็โยนรูปถ่ายในมือแล้วปล่อยผมเธอ จากนั้นก็จับคางเธอไว้ “ผู้หญิงแบบเธอ จะมีเพื่อนได้ยังไง ก็แค่อยากใช้ความสัมพันธ์นี้แล้วมีอะไรกับเธอ เพราะยังไง อยากได้เธอก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงิน”
เวินหนิงได้ยินคำพูดที่เหยียดหยามของลู่จิ้นยวนมานับครั้งไม่ถ้วน แต่การถูกเหยียดศักดิ์ศรีแบบนี้ก็ยังทำให้เธอรู้สึกเสียใจ แล้วอีกอย่าง เห่อจื่ออันไม่ใช่คนแบบนั้น
ทำไมเขาต้องเอาแต่คิดว่าทุกคนเลวขนาดนั้นด้วย?
“ลู่จิ้นยวน ได้เมื่อนายพูดถึงฉันแบบนี้ คงรังเกียจฉันมากสินะ”
“ไม่งั้นล่ะ?” ลู่จิ้นยวนยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วยื่นมือมากระชากเสื้อผ้าเธอ “ครั้งนี้เธอฉลาดมาก ไม่ได้เหลือร่องรอยอะไรไว้ แต่ ที่อื่นผมก็จะเช็คเหมือนกัน ถอดเสื้อผ้าแล้วไปนอนบนเตียง”
ลู่จิ้นยวนสั่งอย่างเยือกเย็น
ครั้งนี้ เวินหนิงไม่ได้ขยับ แต่ก่อนเป็นเพราะกลัว เธอทำอะไรที่ตัวเองไม่อยากไปนึกย้อนไว้มาก ตอนนี้ เธอจะเป็นแบบนี้ต่อไม่ได้
“ไม่ ลู่จิ้นยวน ในเมื่อนายรู้สึกว่าฉันขยะแขยง เกลียดฉันขนาดนี้ งั้นนายก็หย่ากับฉันเลย”
เวินหนิงเอ่ยอย่างลำบาก แล้วเตรียมใจรับความโมโหของผู้ชายคนนั้น
“เธอไม่กลัวว่าผมจะส่งกลับเข้าคุก?” ลู่จิ้นยวนโมโหจริง ทั้งๆที่เวินหนิงไปมั่วข้างนอก เธอยังกล้ามาขัดเขาอีก?
คิดว่ามีเห่อจื่นอันแล้วมีอำนาจที่จะต่อกรกับเขา?
เวินหนิงเงียบไปสักพัก “ใช่”
ที่เธอกล้าพูดแบบนี้ ไม่ใช่เพราะว่าไม่กลัว แต่เชื่อใจว่าเห่อจื่ออันสามารถหาหลักฐานแล้วช่วยเธอพลิกคดี ถ้ายังโดนลู่จิ้นยวนทารุณอย่างนี้ เธอคงจะเป็นบ้าไปจริงๆ
“ดี ดีมาก……” สายตาลู่จิ้นยวนเยือกเย็นมาก จากนั้นเขาก็กดตัวเวินหนิงที่กำแพง แล้วฝ่ามือของเขาก็บีบคอเธอแรงจนเธอจะหยุดหายใจ
แต่ว่า ถึงจะเป็นแบบนี้ เวินหนิงก็ไม่มีทีท่าที่จะขอร้องเขาเลย
เธอไม่อยากอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรีต่อในตระกูลลู่
“เวินหนิง อยากให้ผมทำให้เธอกับไอ่เลวนั่นสมหวัง ไม่มีทาง”
เมื่อลู่จิ้นยวนเห็นว่าเธอไม่อ่อนข้อเลย ความโมโหในใจก็พุ่งขึ้นไปอีกแล้วเหวี่ยงเธอไปบนเตียงพร้อมฝากร่องรอยเขียวช้ำไว้ที่ตัวเธอ
เวินหนิงพยายามผลักเขาออก แต่ว่ามือของเธอก็ถูกตรึงไว้ ลู่จิ้นยวนปลดเน็กไทแล้วมัดมือเธอไว้กับหัวเตียง
“อย่า นายปล่อยฉันนะ นายรู้สึกว่าฉันสกปรก งั้นก็อย่าแตะฉัน!”
เวินหนิงต่อต้านสุดกำลัง แต่กลับทำให้ลู่จิ้นยวนหงุดหงิดไปก่อนเดิม กำลังจะเอนตัวลงไป ผู้หญิงคนนี้ก็ขดตัวไว้ สีหน้าเริ่มซีดขาวแล้วอาเจียน
“เวินหนิง ทำไม เธอจะรักษาร่างกายไว้ให้เห่อจื่ออันเลยคิดวิธีนี้ได้? หรือว่า ทำกับผู้ชายที่นอกจากเขาแล้วเธอจะอ้วก?”
ลู่จิ้นยวนเห็นท่าทางที่ทรมานที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ ก็รู้สึกหงุดหงิดไปกว่าเดิม แต่ท่าทางของเวินหนิงดูไม่เหมือนแกล้งเลย
นิ่งไปครู่หนึ่ง เขาถอยหลังไป จากนั้นก็เดินตรงออกไป
เมื่อเวินหนิงได้ยินเสียงปิดประตูเสียงดัง ก็ไอแล้วรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลตอนที่อาเจียน แต่ความรู้สึกคลื่นไส้นี้ไม่ลดลงแต่กลับหนักไปกว่าเดิม
เวลาอาหารเย็น เวินหนิงไม่ออกไป เธอไม่อยากเจอลู่จิ้นยวน ก็เลยเรียกคนรับใช้ยกมาให้เธอ
ของที่คนรับใช้เอามาให้เป็นของที่เธอชอบทั้งนั้น เวินหนิงกวาดมองไปแต่ก็ไม่อยากกินเลย เมื่อนึกถึงคำพูดของเห่อจื่ออัน ก็หยิบตะเกียบแล้วฝืนกิน
ไม่คิดเลยว่า ความรู้สึกคลื่นไส้ก็กลับมาอีก ทีแรกเธออยากจะฝืนไว้ แต่ก็หักห้ามความรู้สึกในร่างกายไม่ไหว ปิดปากไว้แล้วรีบวิ่งไปอ้วกหมดไส้หมดพุงในห้องน้ำ
รอจนกระเพาะเธอว่าค่อยเดินออกมาด้วยใบหน้าซีดขาว แต่พอเห็นอาหารพวกนี้อีก เธอก็รู้สึกคลื่นไส้อีก
เวินหนิงรีบโยนของพวกนี้ออกไป นอนอยู่บนเตียงแล้วเริ่มไอค่อกแค่ก
นี่เธอเป็นอะไรกันแน่?