แต่ว่า ลู่จิ้นยวนเข้าใจดีว่าเวินหนิงแค่แกล้ง เขาเลยไม่ได้รู้สึกสงสารอะไร แค่ระบายอารมณ์ออกมาเต็มที่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ตอนที่เวินหนิงรู้สึกว่าร่างกายไม่ใช่ของตัวเองอีก ลู่จิ้นยวนก็หยุดแล้วผลักเธอออก
“ไสหัวออกไป”
ผู้ชายเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้วเอ่ยสั่งเหมือนเธอเป็นแค่นางบำเรออย่างงั้น
เวินหนิงรู้สึกเสียใจ เธอรู้ว่าลู่จิ้นยวนเกลียดเธอ แต่แบบนี้เหมือนโยนศักดิ์ศรีของเธอไปที่พื้นแล้วเหยียบย่ำ
แต่ว่า เธอก็ไม่กล้าอยู่ที่นี่ต่อ คลานไปเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายแล้วพาร่างกายที่เจ็บปวดกลับห้องอย่างทุลักทุเล
พอล็อกประตู เวินหนิงก็เข้าไปในห้องอาบน้ำ เธอมองดูผู้หญิงที่ทุลักทุเลในกระจกแล้วรู้สึกใจหาย
เธอทำให้ตัวเองเป็นถึงขนาดนี้
เวินหนิงเปิดฝักบัวชะล้างร่างกายแล้วนอนลงบนเตียงอย่างเหน็ดเหนื่อย
วันต่อๆไป ฝันร้ายยังดำเนินต่อไป บางครั้งลู่จิ้นยวนก็เรียกเธอไปที่ห้องหลักแล้วทารุณเธอ จากนั้นก็ไล่เธอออกมา
เวินหนิงได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายแล้วก็จิตใจ จนต่อนี้ผอมโทรมไปไม่น้อย
เธอภาวนาว่าวันไหนลู่จิ้นยวนจะเบื่อแล้วปล่อยเธอไป
……
เวินหนิงออกมาจากบริษัทอย่างมึนมัว กำลังจะนั่งรถกลับบ้าน ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งแล่นมาจอดหน้าเธอ “เวินหนิง ทำไมช่วงนี้เธอไม่สนใจฉัน ทำไม……”
กี่วันนี้เห่อจื่ออันติดต่อหาเวินหนิง เธอไม่สนใจเลย เพราะเป็นห่วงเขาเลยมาดักรอหน้าบริษัท สุดท้ายพอเจอเวินหนิง เขาก็ตกใจจนพูดไม่ออก
“เธอเป็นอะไร? ทำไมถึงผอมขนาดนี้?” เห่อจื่นอันรีบลงรถ เวินหนิงค่อยมองไปแล้วเห็นว่าเป็นเห่อจื่ออัน เลยฝืนยิ้มออกมา
“นายเองเหรอ……”
ตอนนี้ ไม่ว่าเวินหนิงทำอะไรก็รู้สึกเหนื่อย ถูกลู่จิ้นยวนทารุณทุกคืน เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเจ็บปวดนั้น เธอเลยหลอกตัวเองแล้วปิดกั้นตัวเอง แบบนี้ เธอถึงจะไม่เป็นบ้ากับการเหยียดหยามนั่น
นานวันเข้า เธอก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มไม่ปกติ
กับโลกภายนอก เธอเคยชินที่จะหลีกหนี คนอื่นคุยกับเธอต้องพูดหลายรอบกว่าเธอจะฟังเข้าหู
“เธอดูแย่มาก เวินหนิง เกิดอะไรขึ้น?”
เห่อจื่นอันตกใจกับสภาพของเธอ ครั้งก่อนเธอถูกเวินหลานใส่ร้ายว่าเป็นมือที่สาม เลยถูกคนอื่นด่าว่า แต่ก็ไม่เหมือนตอนนี้ เธอเหมือนหุ่นเชิดที่ไร้วิญญาณ
“เกิด……” เวินหนิงเห็นเห่อจื่นอันเป็นห่วง เกาะป้องกันในใจเธอก็คลายออก แต่ว่า คำพูดบางอย่าง เธอไม่กล้าพูด
เห่อจื่นอันเห็นเธอลังเลไม่พูดเลยดึงตัวเธอขึ้นรถ “เดี๋ยวฉันพาเธอไปรับลม”
ทีแรกเวินหนิงอยากจะปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาที่เป็นห่วงของเขา เธอเลยเงียบ
เขาคงจะเป็นคนเดียวในโลกที่ยังเป็นห่วงเธอแบบนี้
เห่อจื่นอันพาเธอไปริมทะเล
“ไปเถอะ ไปดูทะเลกัน อารมณ์เธออาจจะดีขึ้น”
เวินหนิงลงรถแล้วมองไปที่ทะเลสีฟ้า แต่ความเศร้าในตาของเธอไม่ลดลงเลย
ตั้งแต่วันนั้นที่โดนผู้ชายแปลกหน้าแย่งความบริสุทธิ์ไป เธอก็รู้สึกว่าทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
เห่อจื่นอันเห็นเธอยังเงียบเหมือนเดิมเลยถอนหายใจ
“เธอไม่อยากพูด ฉันก็ไม่บังคับ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะเล่าเรื่องของฉันให้เธอฟัง?”
“เธอเห็นฉันแบบนี้ ดูเหมือนฉันคงสุขสบายล่ะสิ? ความจริง ชีวิตตอนเด็กของฉันเธอคงคาดไม่ถึงเลยล่ะ”
เห่อจื่นอันเล่าเรื่องของเขา
คุณแม่ของเห่อจื่นอันเคยเป็นดาวที่มีชื่อเสียงในเมืองเจียงเฉิง ท่านสวยมาก ถึงฐานะจะธรรมดา แต่ก็ให้ความรู้สึกเป็นผู้ดี นี่เลยทำให้ท่านเป็นที่หมายปองของผู้ชาย
แต่ว่าท่านโชคร้าย หลังจากที่คบกับคุณชายคนรวย ท่านคิดว่าได้เจอกับเทพบุตรในชีวิตแล้ว จนกระทั่งท่านไปตรวจครรภ์ก็เจอผู้หญิงที่พูดว่าเป็นว่าที่ภรรยาของผู้ชายคนนั้น ท่านเลยรู้ว่าเป็นมือที่สามอย่างไม่รู้ตัว
ท่านไปจากผู้ชายคนนั้น แต่ก็ทำใจไม่ได้ที่จะทำแท้ง วันคลอดท่านก็เสียเลือดมากจนเสียชีวิต ผู้ชายคนนี้เลยเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่เกิด
ผู้ชายคนนี้เติบโตมาในสถารับเลี้ยงเด็ก ตามหลัก เด็กที่ฉลาดแข็งแรงอย่างเขาคงจะได้รับเลี้ยงไปไม่ยาก แต่ทุกครั้ง เขาแค่ถูกรีบไปเลี้ยงไม่เกินสามเดือนก็จะถูกส่งตัวกลับมา
นานวันเข้า คนในสถารับเลี้ยงเลยคิดว่ามือเท้าเขาไม่สะอาด หรือมีโรคประจำตัวอะไรเลยรังเกียจเขา
แต่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับมา ในคืนวันนั้นเขาเลยได้ยินความจริง
ที่แท้ เขาเป็นลูกนอกสมรสของตระกูลใหญ่ ถึงแม่ตัวเองจะเสียชีวิตแล้ว แต่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่เขากำลังมีชีวิตที่ดีก็จะใช้อำนาจในมือไปทำลาย
เมื่อเด็กผู้ชายรู้เรื่องทั้งหมดก็ไม่ยอมให้คนบ้านนั้นส่งตัวเขากลับไป แล้วไปทำงานในบ่อนใต้ดิน ค่อยๆคลานขึ้นมา……
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ เขาเคยทำผิดมาเยอะ
เรื่องพวกนั้นก็รวมถึงเรื่องที่เวินหนิงเข้าคุกด้วย……แต่ว่า เห่อจื่นอันเก็บซ่อนคำพูดนี้ไว้ในใจ ไม่ได้พูดออกมา
เมื่อเวินหนิงฟังคำพูดของเห่อจื่นอันจบก็รู้สึกอึ้งไป เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าเขาเป็นคนที่อบอุ่น ไม่คิดเลยว่าอดีตของเขาจะมืดมนมาก่อน
“ขอโทษ ฉันไม่รู้……”
เวินหนิงรู้สึกผิด เธอไม่ได้อยากจะเปิดแผลของเขา
“ไม่ต้องขอโทษ ฉันเป็นคนพูดเอง พูดเรื่องพวกนี้แค่อยากให้เธอรู้ ในชีวิตไม่มีอุปสรรคอะไรที่ก้าวผ่านไม่ได้”
“เธอรู้หรือเปล่าครั้งแรกที่ฉันเห็นเธอ ทำไมต้องช่วยเธอ?”
“ทำไม?” เวินหนิงถาม
“เพราะสายตาตอนนั้นของเธอ ทำให้ฉันมองเห็นตัวเอง” เห่อจื่นอันพูดแล้วสายตาก็มองไปที่เวินหนิง
เวินหนิงหลบสายตา “ฉัน……”
เธอเอ่ยพูดเรื่องวันนั้นออกมาอย่างลำบากใจ
ตั้งแต่ที่แอบตามเวินหลาน แล้วหลงเข้าไปในห้องเสียบริสุทธิ์ไป แต่เรื่องความสัมพันธ์กับลู่จิ้นยวนเธอข้ามไป
“อะไรนะ?” เมื่อเห่อจื่ออันได้ยินสิ่งที่เธอพูด แล้วมองเห็นดวงตาที่เศร้าหมอง ก็รู้สึกเจ็บปวดใจจนอธิบายไม่ถูก
เขาเกลียดตัวเองที่ไม่ได้ปกป้องผู้หญิงคนนี้ดีๆ
“แล้วตอนนี้ เธออยากทำอะไร?”
เวินหนิงกัดริมฝีปากแน่น เห่อจื่ออันไม่รังเกียจเธอแต่กลับจะช่วยเธอ เลยทำให้เธอสบายใจไป “ฉันอยาก ตามหาแม่ แล้วพลิกคดีตอนนั้น แล้วให้คนพวกนั้นชดใช้ จับสารเลวนั่นให้เข้าคุก จากนั้นก็พาแม่ไปที่ไกลๆแล้วใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ”
พูดไปด้วย เวินหนิงก็รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ห่างไกลมาก ทีแรก ก่อนหน้านั้นลู่จิ้นยวนมองเธอเปลี่ยนไป เธออยากจะขอให้เขาช่วยตามหาแม่
แต่ตอนนี้……พอนึกถึงใบหน้าที่เลือดเย็นของผู้ชายคนนั้น ร่างกายเธอก็อดไม่ได้ที่จะสั่นกลัว