ลู่จิ้นไปจัดการธุระที่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้ การกระทำของเขาเด็ดขาดมาก จากนั้นก็จัดการพวกคนที่คิดไม่ดีทิ้งซะ
แล้วเซี่ยเหลียนก็ไม่มีทางอยู่ที่ตระกูลลู่ได้อีก
“เถ้าแก่คะ จากที่ฉันตั้งใจดูแลคุณชายมาหลายปี ขอร้องอย่าไล่ฉันออกเลยค่ะ……”
เซี่ยเหลียนเพิ่งคิดได้แล้วกำลังขอร้องอ้อนวอน
เถ้าแก่ที่ใจกว้างกับคนรับใช้ แต่ครั้งนี้ไม่ใจอ่อนเลย กับคนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ ท่านไม่เก็บไว้แน่นอน
ถ้าวันนั้นไม่ใช่เพราะลู่จิ้นยวนโชคดี แล้วหักห้ามตัวเองได้พร้อมปฏิเสธการยั่วยุของเธอ ตอนนี้คงแย่แน่นอน
เวินหนิงเห็นเธอถูกไล่ออกไปแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเห็นใจ
ถึงคนแบบนี้จะรนหาที่เอง แต่ก็ทำให้เธอแน่ใจมากขึ้น ยังไงลู่จิ้นยวนก็เป็นคนเลือดเย็น ถึงจะเป็นคนรับใช้ที่ดูแลมาตั้งหลายปีก็ไล่ออกไปแบบนี้ได้ เธอเป็นแค่คนนอก ก็คงจะโดนแบบนี้เหมือนกัน……
หรือว่า เธอควรจะรีบไปจากที่นี่ ไม่ใช่ว่ารอให้คนอื่นมาไล่ออกไปอย่างทุลักทุเล
หลักจากที่เซี่ยเหลียนถูกไล่ออกไป ในบ้านก็ดูเงียบสงัด ให้ความรู้สึกว่าเหมือนพายุจะเข้า ทุกคนรู้สึกกดดันกลัวว่าตัวเองจะทำอะไรผิด
หนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลู่จิ้นยวนไม่อยู่ เวินหนิงก็ย้ายออกจากห้องนอนหลักไปห้องนอนแขกที่ไกลที่สุด
เธอคิดว่า ถ้ายิ่งห่างออกจากผู้ชายคนนั้นมากเท่าไหร่ อารมณ์ของเขาอาจจะไม่เสียขนาดนั้นแล้วก็จะไม่ทำอะไรเธอด้วย
แต่ เธอคิดผิดไป
กลางดึก เวินหนิงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะนอน
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เธอตกใจไปกำลังจะถามว่าใคร แล้วลู่จิ้นยวนก็เดินเข้ามาแล้วจ้องเธออย่างเยือกเย็น ท่าทางนั้นทำให้เวินหนิงเสียวสันหลังวาบ
“ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?”
เวินหนิงตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ สีหน้าของลู่จิ้นยวนเยือกเย็นมาก เหมือนกำลังกดความโมโหไว้
“ทำไม เธอย้ายออกมากลัวว่าจะรักษาร่างกายให้ผู้ชายคนนั้นไม่ได้?”
เมื่อลู่จิ้นยวนถึงบ้านแล้วเห็นว่าเวินหนิงไม่อยู่ ความรู้สึกโมโหก็พุ่งกระฉูด เห็นว่าเธอมาหลบอยู่ที่นี่ ความโมโหในใจไม่ลดแต่กลับเพิ่มขึ้นไปอีก
“ฉันเปล่า” เวินหนิงได้ยินความพูดที่เขาเหยียดเธอ ก็รู้สึกเสียใจ เธอแค่กลัวว่าเขาจะอารมณ์เสีย
“ฉันแค่ไม่อยากทำให้นายโมโห แล้วลามมาถึงตัวเอง ในเมื่อนายเห็นฉันแล้วหงุดหงิด ถ้าฉันหายไปก็คงจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
“ตอนนี้ กลับไปกับผม” ลู่จิ้นยวนเห็นท่าทางของเวินหนิง ไม่ได้รู้สึกใจอ่อนแต่กลับอยากจะรังแกเธอมากกว่า
เธอคิดว่า เขายังจะโดนท่าทางที่แสแสร้งของเธอหลอกอีกเหรอ?
ผู้หญิงอย่างเวินหนิงไม่คู่ควรกับความเชื่อใจแล้วก็การให้เกียรติ
เมื่อรู้สึกถึงความหงุดหงิดของลู่จิ้นยวน เวินหนิงไม่อยากให้เขาโมโหก็เลยเดินตามเขากลับไปที่ห้องที่คุ้นเคย
ประตูเพิ่งล็อก ลู่จิ้นยวนก็นั่งอยู่บนโซฟาแล้วจ้องมองไปที่เธอ สายตาแบบนั้น ไม่เหมือนกำลังมองคนแต่กลับเหมือนมองสิ่งของ
สายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามไม่เห็นค่า เวินหนิงรู้สึกไร้ศักดิ์ศรีมากต่อหน้าเขา