เวินนิงกำมือแน่น
“หลิวลี่ลี่ถูกจับเพราะใส่ร้ายว่าฉันเป็นขโมย ฉันไม่รู้สึกว่าเธอผิดตรงไหน นอกจากนี้ ลู่จิ้นหยวนเป็นคนหาทนายมา เรื่องนี้คุณพูดกับฉันก็ไม่มีประโยชน์”
หลิวลี่ลี่รังแกเธออยู่หลายครั้ง เวินหนิงก็ไม่ยากปล่อยเธอแบบนี้
“เธออย่าเอาลู่จิ้นยวนมาขู่ฉัน ฉันรู้ว่าเธอจะพึ่งเขา แต่เธอไม่ส่องกระจกดูเลยว่าสารรูปตัวเองเป็นยังไง หรือเขายังจะแต่งงานกับผู้หญิงอย่างเธอเหรอ อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง อย่าหน้าด้าน”
อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งเหรอ
จู่ๆเวินหนิงก็หัวเราะขึ้นมา พ่อที่ไหนใช้คำพูดที่น่าเกลียดกับลูกสาวของเขาบ้าง เธออาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง แล้วเขาล่ะ
แค่หมาแก่ที่เอาแต่เห่ารึเปล่า
“เรื่องนี้ ฉันทำไม่ได้” เวินหนิงไม่มีอารมณ์จะพูดกับเขา
ให้เธอปล่อยหลิวลี่ลี่เหรอ ไม่มีทาง
“ลูกพี่ลูกน้องของเธอยังเป็นสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน เธอทำเพื่อเธอหน่อยไม่ได้เหรอ ถ้าเธอยังไม่ถอนฟ้อง ต่อไปพี่เธอจะแต่งงานยังไง
เวินฉีโม่ขมวดคิ้ว
คำพูดของเขาผ่านเข้าหูของเวินหนิง มันทำให้หัวใจของเธอดูเหมือนถูกโยนลงไปในธารน้ำแข็งซึ่งเป็นความหนาวเย็นที่ถูกแช่แข็งอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์
สำหรับคำพูดของเวินฉีโม่เขาสามารถเป็นห่วงใครก็ได้และคิดถึงอนาคตของใครก็ได้ยกเว้นลูกสาวในไส้ของเขา
ดูเหมือนเขาจะกลัวว่าเวินหนิงจะปฏิเสธ เขาจึงพูดอย่างเย็นชา “แม่ของเธออยู่ต่างประเทศ โรงพยาบาลบอกเพียงว่า มียาพิเศษชนิดใหม่ ที่สามารถทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น………… เธอจะมีความสุขที่จะเพลิดเพลินกับยาใหม่นี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลูกสาวอย่างเธอ”
เวินหนิงเหมือนถูกสับเป็นชิ้นๆเพราะคำพูดนี้ เธอกำหมัดแน่นและปล่อยมันลงอย่างอ่อนแรง
ตอนนี้แม่เธออยู่ที่ไหนเธอก็ไม่รู้ แล้วเธอจะทำยังไง
“ฉันจะปล่อยเธอออกมา คุณ ต้องบอกฉันว่าแม่อยู่ไหน”หลังจากนั้นไม่นานเวินหนิงก็เงยหน้าขึ้นดวงตาของเธอเป็นสีแดงเล็กน้อย
“อย่ามาต่อรองกับฉัน เธอไม่มีสิทธิ์” เวินฉีโม่ปฎิเสธเธอโดยไม่คิด
นิสัยของเวินหนิงเป็นเหมือนระเบิดเวลา เขาต้องกุมจุดอ่อนของเธอไว้ในมือเพื่อให้สบายใจ
เมื่อเธอถูกปฏิเสธ เวินหนิงก็ไม่ได้พูดอะไร สถานที่ที่เคยคุ้นเคยนี้เรียกว่าบ้าน ทำให้เธอหายใจไม่ออกอย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอหันจากไป การก้าวเดินของเวินหนิงก็เร็วขึ้น และในที่สุดก็เหมือนจะวิ่งหนี