แต่ในเวลาต่อมาตำรวจที่เดินจากไปก็กลับมาพร้อมปลดกุญแจมือให้กับเวินหนิง “คุณไปได้แล้ว” พูดเสร็จก็หันไปอีกสองคน “พวกคุณสองคนอยู่ก่อน!”
พวกเธอทั้งสองตกใจมากที่ตำรวจใส่กุญแจมือกับพวกเธอแทน “เดี๋ยวนะคุณตำรวจ คุณเข้าใจผิดรึเปล่า เธอเป็นคนขโมยนะคะ พวกเราต่างหากที่เป็นคนรายงานเรื่องเธอ!”
“มีคนพิสูจน์แล้วว่าบัตรของเวินหนิงไม่ได้ถูกขโมย หลิวลี่ลี่เป็นคนใส่ร้ายและต้องถูกควบคุมตัว”
มีคนมาพิสูจน์งั้นเหรอ มาพิสูจน์ว่าเวินหนิงไม่ใช่ขโมยเป็นไปได้ไหมว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้น?
เวินหนิงรีบวิ่งออกไปโดยทิ้งจ้าวหย่าหลินกับหลิวลี่ลี่ไปข้างใน
ในสถานีตำรวจเต็มไปด้วยผู้คน เวินหนิงเห็นร่างสูงเดินมาหน้าประตู เขาสวมสูท แผ่นหลังกว้างเหมือนกับคนที่เธอเคยเจอในคืนนั้น!
“นี่คุณ รอเดี๋ยว!”
เวินหนิงที่พยายามไล่ตามแต่ก็ไม่ทันเพราะมีคนมาขวางทางเธอไว้
สุดท้ายก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรไปหาเขา
ขณะที่โทรออกไปก็เห็นผู้ชายร่างสูงคนนั้นรับโทรศัพท์!
คือเขาจริงๆสินะ!
“เวินหนิง เธอจะโง่ไปถึงไหน แค่ไปซื้อเสื้อผ้าทำไงถึงโผล่ที่โรงพักได้ แถมยังโดนเด็กกลั่นแกล้งอีก?” เสียงชายคนนั้นดังออกจากโทรศัพท์ แต่ก็ทำให้เวินหนิงรู้สึกอุ่นใจอย่างอธิบายไม่ได้
“คุณมาโรงพักเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันเหรอ” เธอถือโทรศัพท์ไว้ในมือ ก้าวเท้าเขยิบเข้าไปใกล้ชายคนนั้นพร้อมกับใจที่เต้นรัว
“ไม่อย่างนั้น เธอคิดว่าตระกูลลู่จะมาช่วยเธอเหรอ เลิกล้อเล่นเลย ถ้าเข้าคุกครั้งที่สองตระกูลลู่คงจะยกโทษให้เธอหรอก บนโลกนี้นอกจากฉันก็ไม่มีใครมาช่วยเธอแล้ว!”
เมื่อฟังคำถากถางของชายคนนั้น เวินหนิงก็ระงับความรู้สึกในใจจนเธอเดินมาประชิดตัวเขา “ขอบคุณที่วันนี้มาช่วยฉันนะ ถ้าไม่มีคุณวันนี้คงไม่ได้กลับตระกูลลู่อีก พวกเขาคงไม่ไว้ชีวิตฉันแน่…”
“วันนี้ทำตัวดีมาก ถ้าตอนกลางคืนเป็นเด็กดีแบบนี้ฉันคงพอใจมากกว่านี้” ผู้ชายคนนั้นพูดจบก็ตัดสายไป
เวินหนิงมองผู้ชายตรงหน้าที่กดวางสายโทรศัพท์ เธอก็ยิ่งมั่นใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือผู้ชายคนนั้น!
เมื่อชายคนนั้นทำท่าจะเดิน เวินหนิงก็เดินเข้าไปขวางทางแล้วคว้าข้อมือของเขาเดินมองอีกคนก็ต้องตะลึงกับใบหน้าของอีกคน
“ลู่จิ้นยวน เป็นคุณเองเหรอ?”
ลู่จิ้นยวนพอเห็นเวินหนิงก็ขมวดคิ้ว “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
“คุณกำลังเล่นอะไร? ก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นคุณที่ช่วยฉันออกมา คุณแกล้งทำไม! ทำตัวเป็นสองคนทุกวันไม่เหนื่อยรึไง มาเล่นกับฉันสนุกนักเหรอ!”
จู่ๆอารมณ์โมโหก็ตีขึ้นมา ลู่จิ้นยวนอยากจะทรมานเธอ ทำไมต้องมาก่อกวนกันทุกคืน สร้างความเดิอดร้อนให้คนอื่นด้วย เเล้วฉันจะไปต่อต้านอะไรได้
ให้เธอใช้ชีวิตที่บ้านตระกูลลู่อย่างระแวง เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกงั้นเหรอ?
กลางวันก็ต้องคอยหวาดระแวง ตกกลางคืนก็หวาดกลัว เขาสนุกกับมันมากใช่ไหม!
ปรากฏว่าเขารู้อยู่แล้ว ไม่แน่เขาอาจจะเอาเธอออกจากคุกเพื่อมาดูแลเขาก็เป็นเรื่องหลอกลวงที่เขาวางแผนไว้เพื่อจะทรมานฉัน ทำให้ฉันทรมานจนกลายเป็นบ้า
“บ้าไปแล้วเหรอ!”
ลู่จิ้นยวนลากเธอไปที่รถ เวินหนิงหยุดเขาไว้แล้วคว้าโทรศัพท์เขาไป “อย่ามาเล่นละคร เมื่อกี้ฉันโทรหาเธอ ฉันมีหลักฐาน”
เธอเปิดการบันทึกการโทรของลู่จิ้นยวนสายแรกเมื่อสองนาทีที่แล้ว
แต่เบอร์นั้น ไม่ใช่ของเวินหนิง
“เป็น เป็นไปได้ยังไง!”
“เวินหนิง เธอประเมินตัวเองสูงไป ฉันแค่มาทำธุระที่นี่ ไม่ใช่มาช่วยเธอ เธอมาที่นี่ได้ไงฉันยังไงไม่รู้ อีกอย่าง เธอคิดว่าฉันใจดีขนาดนั้นแล้วมาช่วยเธอเหรอ?”
ลู่จิ้นยวนยกยิ้มอย่างเย็นชา แล้วคว้าโทรศัพท์คืนจากมือของเธอแล้วเธอจากไป
เวินหนิงยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตะลึง
นี่เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆงั้นเหรอ?