เวินหลานหน้าเบ้ เห็นเวินหนิงทำหน้าหัวเราะเยาะ ยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ ทั้งโกรธพลางเดินเขย่งกลับไปวิลล่าของตน
จ้าวหย่าหลินรู้สึกสงสารเวินหลาน แต่ก็กลัวตระกูลลู่ ทำได้เพียงกลืนความโกรธลงคอ แล้วก็ลากยวี๋เฟยหมิงออก “พอแล้วเฟยหมิง ห้าล้านก็ห้าล้าน พวกเราก็ชดใช้ให้เขาไปเถอะ ถ้าหากครั้งนี้ถูกโยนออกไป นายต้องคิดแทนหลานหลานด้วยนะ ถ้าหากเรื่องที่พวกเธออยู่บนรถเมื่อกี้แพร่งพรายออกไป งานของหลานหลานต้องได้รับผลกระทบแน่……”
จ้าวหย่าหลินมักใช่วิธีนี้เสมอเพื่อเลื่อนตำแหน่ง พอเธอเห็นว่าทั้งสองคนยังมีอารมณ์อยู่ก็รู้ทันทีว่าบนรถเมื่อกี้ยวี๋เฟยหมิงกับเวินหลานทำอะไรกันบนรถ ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือลูกสาวของเธอ เวินหลาน ยังไงจ้าวหย่าหลินก็ต้องคิดถึงลูกสาวตัวเองไว้ก่อน
ถึงยังไงคนที่ชดใช้ค่าเสียหายก็คือยวี๋เฟยหมิง ไม่ได้ใช้เงินตระกูลเวินจ่ายเสียหน่อย
เวินฉีโม่ก็เดินขึ้นมาข้างหน้า “ใช่แล้ว ชดใช้ให้เขาเถอะ ถ้าหากเรื่องไปถึงทางการ น่าจะไม่ใช่แค่ห้าล้านนะ”
ยวี๋เฟยหมิงกัดฟันจ้องไปที่คนขับรถอยู่พักใหญ่ ในใจอยากจะเอามีดมาแทงคนที่อยู่ดีๆไม่รู้มาจากไหนก็ขับรถมาชน ปกตินายน้อยแห่งตระกูลยวี๋ก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหน แต่ครั้งนี้ทำให้เขายอมเสียเปรียบ แล้วเขาจะยอมได้ยังไง!
ภายใต้ความกดดัน เขายังควักบัตรออกมา โยนไปให้
คนขับรถก็เอาเครื่องรูดบัตรออกมา แล้วรูดบัตรไปห้าล้าน ก่อนจากไปก็ยังยิ้มให้พร้อมเอ่ยว่า “คุณชายยวี๋ ครั้งหน้าขับรถต้องระวังหน่อยนะ ขอให้มีความสุขนะ”
จากนั้นคนขับนถก็ขึ้นรถ ขับรถไปจอดที่ข้างเวินหนิง แล้วลงจากรถมาเปิดประตูให้เวินหนิง “คุณหนูเวิน เชิญขึ้นรถครับ”
เวินหนิงเห็นคนตระกูลเวินกับยวี๋เฟยหมิงเสียเปรียบเทียบ ก็รู้สึกตลก คนอย่างยวี๋เฟยหมิงที่หยิ่งยโส ยังมีวันนี้ที่ถูกทำให้เสียเปรียบ
ในใจของเวินหนิงมีหลายเรื่องที่ทำให้คิดได้ บนรถดูเป็นระเบียบสะอาดตาอยู่ไม่น้อย
พอรถขับออกไป เวินฉีโม่ได้แต่กระพริบตามองดูเวินหนิงที่นั่งรถของตระกูลลู่
“ยัยเด็กคนนี้ ไปอยู่กับตระกูลลู่จริงๆด้วย” พอจ้าวหย่าหลินเห็นคนขับรถคู่ไปกับเวินหนิง ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
ตอนนี้ลู่จิ้นยวนนอนไม่รู้สึกตัวอยู่ ตระกูลลู่รับเธอออกมา คงกลัวรู้สึกว่าเธอติดคุกโทษยังไม่พอ จึงคิดหาวิธีใหม่ทำโทษเธอ เขาลงโทษทรมานยิ่งกว่าติดคุกเสียอีก รอเธอให้นึกว่าอยู่บนสวรรค์ ที่จริงแล้วคือนรกดีๆนี่เอง ”
ยวี๋เฟยหมิงมองเวินหนิงที่เริ่มห่างออกไป ด้วยสายตาที่กำลังคิดอะไรบางอย่าง
พอกลับมาถึงบ้านตระกูลลู่ก็มืดค่ำแล้ว เวินหนิงก็หาของกินเล็กน้อยก็กลับเข้าห้องของตัวเอง ความเคยชินเธอจะตรวจเช็คร่างกายของลู่จิ้นยวนก่อน เขายังคงนอนเป็นเจ้าชายนิทรา ร่างกายยังอุ่นไม่หลง ไม่มีผิดปกติหรือบาดแผลอะไรแล้ว
ตามที่เธอได้ทำกายภาพให้ลู่จิ้นยวนหนึ่งชั่วโมง ขณะทำกายอยู่ก็คิดถึงเรื่องของวันนี้ นึกขึ้นได้ว่าตอนกลางวันที่พ่อเธอปล่อยให้เธอกลับมาที่บ้านตระกูลลู่ด้วยสายตาที่มองไม่ออก
เวินหนิงก็เข้าใจทันทีว่าหมายถึงอะไร มันคือท่าทางดูถูก ไม่มีค่า
ตอนนั้นเวินหนิงรู้สึกขอบคุณมาก นึกว่าท่านลู่ปล่อยเธอกลับบ้านเพราะหวังดี แต่ที่จริงแล้ว เขาปล่อยเธอกลับบ้าน เพื่อให้เธอได้เห็นถึงตอนนี้ตนเป็นอะไรสำหรับตระกูลเวิน. ซึ่งไม่ใช่ที่ที่เธอพึ่งพาอาศัยได้ คนตระกูลเวินล้วนอยากให้เธอตายกันทุกคน
รวมทั้งคนที่เธอรักอย่างคู่หมั้นของเธอ ก็อยู่ข้างและเดินตามเส้นทางของตระกูลเวิน พวกเขาล้วนทิ้งเธอ
คุณท่านอยากให้เวินหนิงกลับไปได้เจอกับอุปสรรคครั้งนี้ อยากให้เธอเข้าใจและเชื่อฟังคำของตระกูลลู่ เธอถึงจะมีชีวิตรอด อาศัยบ้านตระกูลลู่ เธอถึงจะได้ในสิ่งที่ตนหวัง
ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ถ้าเธอพึ่งแค่ตัวเองเพื่อได้อิสระ ก็ต้องถูกตระกูลเวินทำลายลงแน่
คุณท่านต้องการให้เธอพุ่งชน เผชิญหน้ากับความกตัญญูรู้คุณ ถึงจะแสดงออกถึงการดูถูกและไม่มีค่า
แท้จริงแล้ว ตระกูลลู่ได้คิดและเตรียมการไว้หมดแล้ว
มองไปที่ลู่จิ้มยวน ก่อนหน้านี้เคยได้ยินข่าวว่าลู่จิ้นยวนคือคนที่ท่านลู่นั้นโปรดปรานมาก และก็เป็นคนรุ่นหลังที่เก่งที่สุดยิ่งกว่าคุณท่านลู่ คุณท่านลู่ถึงได้คิดบัญชีแค้นอย่างนี้ แล้วลู่จิ้นยวนล่ะ ถ้าเขาตื่นขึ้นมา ยังจะคิดบัญชีกับเธออยู่ไหม
เวินหนิงที่รู้สึกกลัวก็ชักมือกลับ ไม่กล้าที่จะแตะเนื้อต้องตัวของลู่จิ้นยวนมากนัก แต่กลับมีร่างกายที่อุ่นๆเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง ให้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขา……..