เวินหนิงจ้องมองด้วยสายตาแดงก่ำ ลมหายใจสั่นเคลือของชีวิตที่เหลืออยู่ ” คุณห้ามฉันไม่ได้หรอก ต้องมีช่วงเวลาที่คุณมาปรากฏตัวไม่ได้ ถึงตอนนั้นคุณจะทำอะไรฉันได้!”
“ถ้าเธออยากตายจริงๆล่ะก็ ทำไมไม่หาวิธีตั้งแต่ตอนอยู่ในคุก? ” แววตาคู่นั้นของเขาเปล่งประกายในความมืด คล้ายดั่งว่ามันมองเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจของเวินหนิง “ลองคิดดูดีดีว่าทำไมต้องทนความทรมานเพื่อมีชีวิตต่อ และยังอยากจะมีอิสระ คิดถึงคนที่ทำให้เธอเดินมาถึงวันนี้ คิดถึงสิ่งที่เธอได้รับความทุกข์ทรมานในช่วงสามปีนี้ที่ยาวนาน เธอจะยอมตายจริงๆหรอ?”
มือของเวินหนิงสั่น น้ำตาก็ไหลลงมา เธอจะยอมตายได้ยังไง เธอยังไม่ได้รับความเป็นธรรม เธอยังไม่ได้อยู่กับแม่ แต่ตอนนี้ เผชิญหน้ากับตระกูลลู่ด้วยความลำบาก เชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ที่ต้องการจะทำร้ายตัวเอง แล้วเธอจะทำอะไรได้?
แล้วเธอต้องทำอย่างไร?
มือของผู้ชายคนนั้นยังกุมมือของเธอที่มีเศษแก้วอยู่ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมปล่อย ครู่หนึ่ง เขาก็โน้มตัวมาพูดเบาๆที่ข้างหูของเวินหนิงว่า ” ยอมฉันเถอะ ฉันให้เธอได้มากกว่าที่ตระกูลลู่จะให้ อะไรที่เธออยากทำ ฉันจะช่วยเธอเอง”
คำพูดของผู้ชายคนนั้นทำให้เวินหนิงตัวสั่น คำพูดของเขาเหมือนดั่งคำสาป เวินหนิงเริ่มลังเล….
ผู้ชายคนนี้ สามารถช่วยฉันได้จริงๆหรอ?
“คุณ ทำไมคุณอยากช่วยฉัน?”
“เธอยังไม่ต้องรู้ตอนนี้”
ผู้ชายคนนั้นพูดจบ ก็ลุกออกจากร่างของเวินหนิง และคว้าเศษแก้วในมือเธอมาด้วย แล้วหันหลังเดินไปที่ระเบียง ยกมุมของผ้าม่านขึ้น แสงพระจันทร์ส่องเข้ามา เวินหนิงมองเห็นเงาที่สูงใหญ่ของเขา ไหล่กว้าง ดูแข็งแรง ทำให้รู้สึกถึงความปลอดภัย
เขาหันหน้ามาพูดว่า ” ให้เวลาเธอคิดสามวัน อีกสามวันฉันจะมาหาเธอ”
พูดจบก็กระโดดออกจากระเบียงไป เวินหนิงค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เลือดของผู้ชายคนนั้นที่เลอะคอแห้งแล้ว แต่จิตใจของเธอยังเต้นร้อนรุ่มไม่หยุด
คืนความยุติธรรมให้เธอ ได้อยู่กับแม่ เรื่องพวกนี้ ผู้ชายคนนั้นสามารถช่วยเธอได้จริงๆหรอ?
ผ่านมาสามวัน ผู้ชายคนนั้นไม่มาเลย เวินหนิงก็ยังคิดไม่ตกว่าควรจะตกลงข้อเสนอผู้ชายคนนั้นหรือไม่
เขาพูดปากเปล่า เวินหนิงไม่สามารถเชื่อเขาได้ง่ายๆ และก็ไม่รู้ว่าครบสามวันแล้วในคืนนั้นเธอควรจะรับมือกับเขาอย่างไร
เช้าของวันที่สาม เวินหนิงเพิ่งกินข้าวเสร็จ ก็ถูกเรียกให้ไปห้องหนังสือของนายท่าน
ห้องหนังสือที่เงียบสงัด นายท่านมองสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนักของเวินหนิง ไม่มีความเมตาอยู่ในสายตา ” พิจารณาตัวเองเรียบร้อยแล้วยัง?”
เวินหนิงก้มหน้าลง ” ฉันรู้แล้วว่าฉันผิด ตั้งแต่วันนี้ไปฉันจะไม่ยอมให้ลู่จิ้นยวนได้รับบาดเจ็บอีก ฉันจะดูแลเขาให้ดี”
นายท่านพยักหน้า “ตระกูลลู่ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล ฉันเห็นทุกอย่างที่เธอดูแลลู่จิ้นยวนในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาถ้าครั้งหน้ายังเกิดเรื่องแบบนี้อีก ผลลัพธ์จะเป็นยังไง ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้ดี”
“ฉันทราบค่ะ ” เวินหนิงเม้มริมฝีปากที่แห้งเหือด
“ยังไงวันนี้จะให้เธอพักผ่อนหนึ่งวัน เรื่องที่เธออกจากคุกตระกูลเวินคงยังไม่รู้สินะ? วันนี้ลองกลับบ้านไปดูสิ!”
เวินหนิงรีบเงยหน้าขึ้นมา “จริงหรอคะ? เธอสามารถกลับบ้านไปเจอแม่ได้แล้วหรอ!
นายท่านพยักหน้า เวินหนิงโค้งคำนับขอบคุณอยู่หลายครั้ง ” ขอบคุณ ขอบคุณท่านมากๆค่ะ ฉันจะรีบไปรีบกลับ!”
มีความหมายที่ไม่ชัดเจนอยู่ในแววตาของนายท่าน เขาไม่พูดอะไร เพียงแค่สะบัดมือให้เวินหนิงออกไป