ป้าเฟิงแห่งตระกูลฉิน?
หรือว่าจะเป็นพี่เลี้ยงของพี่ฉิน?
ไม่ใช่หรอกมั้ง พี่เลี้ยงจะมามีเงินมากขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
หวังตงเสวี่ยงงขึ้นมาเล็กน้อย
“ต่อไปจะเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดสำหรับงานคาร์นิวัลประจำปีของเราในวันนี้ รางวัลผู้ประกาศข่าวประจำปี พอจะเดาออกไหมว่าจะเป็นใคร?”
พวกแฟนคลับก็เริ่มตะโกนส่งเสียงขึ้นมา
“หูเฟย หูเฟย หูเฟย!”
“หวังโต้ หวังโต้!”
“…”
ชื่อผู้ประกาศข่าวหลายคนถูกตะโกนออกมาจากหมู่แฟนคลับ แต่ชื่อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือหูเฟยกับหวังโต้โต้ พวกเค้าเหล่านี้เป็นเพื่อนร่วมงานกันในเพลตฟอร์มTigerfish
หวังตงเสวี่ยเองก็ปรบมือให้เช่นกัน หลังจากนั้น รางวัลนี้มันไม่น่าเกี่ยวข้องอะไรกับเธอแล้ว เธอเป็นเพียงแค่ผู้ชมก็เท่านั้น
พิธีกรเหลือบดูรายการแล้วประกาศชื่อออกมา
“ฉันขอประกาศว่าผู้ชนะรางวัลผู้ประกาศข่าวประจำปีนี้คือ… ตงเสวี่ย!”
ทันใดนั้นเอง
เสียงของผู้ชมก็เงียบไปในทันที
พวกเค้าส่วนใหญ่ต่างก็รู้ว่าใครคือตงเสวี่ย ท้ายที่สุดพวกเธอก็ได้รับความสนใจหลายครั้ง ป้าเฟิงแห่งตระกูลฉินเองให้รางวัลกับเธอไปไม่น้อยเลยและ เซี๋ยต้าหลิน คุณชายเซี๋ยเองก็เคยให้รางวัลกับเธอเหมือนกัน
แต่ชื่อเสียงเล็กน้อยกลับมีชื่อเสียงมากกว่า แฟนคลับของเธอก็มีน้อยเกินไป ผู้ประกาศข่าวด้านอาหารมันเป็นหมวดหมู่ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจอะไรมากนัก
ทำไมเธอถึงเป็นผู้ได้รับรางวัล?
ทุกคนต่างก็งงไปหมดและพวกเค้าคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ประกาศข่าวตัวน้อยอย่างหวังตงเสวี่ยจะสามารถชนะรางวัลนี้ได้!
หวังตงเสวี่ยปิดตาของตัวเอง เธอลุกยืนขึ้น เธอสวมชุดกี่เพ้า ทันใดนั้นเอง เธอก็กลายเป็นจุดสนใจของทั้งงาน
พิธีกรยิ้มและพูดเชิญเธอขึ้นมา “ฉันเชิญตงเสวี่ยขึ้นมารับรางวัลด้วยครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เชิญผู้นำมามอบรางวัลให้ตงเสวี่ย”
หลังจากพูดจบ ชายอ้วนคนหนึ่งเดินไปที่หน้าเวทีพร้อมผิวปาก เค้าหยิบถ้วยรางวัลขึ้นมาและเตรียมมอบรางวัลให้กับหวังตงเสวี่ย
ทันทีที่ชายอ้วนคนนี้ปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนก็รีบยืนขึ้นมา
“หม่าเหลียงเทียน!”
“พระเจ้า ประธานหม่าจริงด้วย ประธานหม่ามาได้ยังไงกัน?”
“พระเจ้า ตงเสวี่ยคนนี้มีต้องมีคนหนุนหลังเธออย่างแน่นอน แม้แต่ประธานหม่าเองยังมามอบรางวัลให้เธอด้วยตัวของเค้าเอง?”
หม่าเหลียงเทียนคือใคร นี่มันไม่มีใครไม่รู้จักเค้าเลย ถึงแม้ว่าพวกเค้าจะเป็นนักข่าว แต่นี่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงด้วย ในฐานะที่เป็นวงบันเทิง หม่าเหลียงเทียน ก็มีเหมือนหัวหน้าใหญ่ แน่นอนว่าทุกคนต้องรู้จักเค้า
ผู้จัดละครหลายคนก็ต้องการจะประจบแต่ แต่ก็ไม่มีโอกาสเลย พวกเค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าหวังตงเสวี่ยจะรู้จักเค้า
ผู้ประกาศข่าวที่อยู่ใกล้หวังตงเสวี่ยต่างก็มองหน้ากัน พวกเธอต่างก็เข้าใจในทันที
หวังตงเสวี่ยคนนี้เธอมีคนหนุนหลัง เธอสามารถทำให้ประธานหม่ามามอบรางวัลให้กับเธอเป็นการส่วนตัว นี่มันจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
หวังตงเสวี่ยก็สับสนเล็กน้อย แต่เธอก็ยังก้าวขึ้นไปบนเวทีอย่างสง่างาม
หม่าเหลียงเทียนมอบรางวัลให้กับเธอและหวังตงเสวี่ยก็ขอบคุณเค้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพราะเธอไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย ดังนั้นเธอก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรมากเกี่ยวกับรางวัลนี้ เธอพูดอย่างง่ายๆ แน่นอนว่ามันเป็นคำพูดจากใจจริงของหวังตงเสวี่ย เธอพูดอะไรไม่ถูกเลยจริงๆเมื่อเธอได้รับรางวัลนี้
หลังรับรางวัลแล้ว พวกเค้าก็เริ่มทานอาหารกัน มันเป็นบุฟเฟ่ต์แบบเดินไปตักอาหารเอง จากนั้นทุกคนก็ทานอาหารเย็นด้วยกัน
หวังตงเสวี่ยวิ่งเหยาะๆเข้าไปหาฉินจุน เธอถือถ้วยรางวัลและถามเบาๆขึ้นมาว่า
“พี่ฉิน พี่คิดว่านี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ฉินจุนยิ้ม “ยินดีด้วยนะ”
รางวัลนี้มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเป็นฝีมือของหม่าเหลียงเทียน แม้ว่ามันจะดูเกินจริงไปบ้าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน
หลังจากเข้าสู่เวลาของอาหารเย็น ฉินจุนก็ขึ้นไปชั้นบนและช่วยประคองเย่ซวนหยวนลงมา
“ตงเสวี่ย ฉันจะแนะนำให้เธอรู้จัก นี่คืออาจารย์ของฉัน เย่ซวนหยวน”
หวังตงเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอรู้ว่าพ่อแม่และผู้อาวุโสของฉินจุนเสียชีวิตไปหมดแล้ว เค้ามีอาจารย์คนหนึ่งที่เป็นทั้งครูและพ่อมาตลอดชีวิต อาจารย์คนนี้ต้องเป็นผู้อาวุโสที่สำคัญมากสำหรับเค้า
เธอเองก็ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกับผู้อาวุโส…
แน่นอน ทั้งสองยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แม้ว่าหวังตงเหวินจะรู้สึกอย่างนั้นในใจของเธอก็ตาม
การพบผู้อาวุโสทำให้นี่ มันก็ทำให้หวังตงเสวี่ยทำอะไรไม่ถูก
เย่ซวนหยวนก็เหลือบมองไปที่หวังตงเสวี่ย เค้าพยักหน้าแล้วหยิบลูกปัดเล็กๆออกมา จากนั้นก็ยื่นมันให้กับหวังตงเสวี่ย
“ถือซะว่าของขวัญแรกพบก็แล้วกัน”
หวังตงเสวี่ยก็นิ่งไป “อ่า ขอบคุณค่ะ!”
หวังตงเสวี่ยรับมันไว้แล้วเธอก็เดินตามไป
หลังจากที่เย่ซวนหยวนลงมาแล้ว เค้าก็พบที่นั่งริมหน้าต่าง และซุนเจี้ยนหมินกับพวกก็รีบพากันวิ่งเข้ามา
เมื่อคนพวกนี้วิ่งเข้ามา ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็ถูกดึงดูดในทันที
“บ้าเอ๊ย พวกนี้มันใครกัน!”
“นายพลห้าดาว?!
หวังจินไห่สวมเครื่องแบบทหารที่มีดาวห้าดวงบนบ่าของเค้า เค้าเป็นคนที่ดูโดดเด่นมาก เค้าเดินอยู่ในฝูงชน ออร่าของเค้าไม่มีใครเทียบได้ นี่คือแม่ทัพระดับประเทศ!
ที่ด้านหลังหวังจินไห่ ผู้บริหารซุนก็เดินตามเค้ามา
ผู้บริหารซุนในชุดทูนิค แม้ว่าเค้าจะไม่ได้หยิ่งทะนงเหมือนหวังจินไห่ แต่เค้าก็ดูมีออร่ามากอย่างเห็นได้ชัด
เหอเนี่ยนอิง, เมิ่งเหวินกัง, หม่าเหลียงเทียน
พวกบอสใหญ่ต่างก็รวมตัวกัน พวกเค้าเดินเข้ามาหาเย่ซวนหยวนและหยิบแก้วไวน์ของพวกเค้าแล้วคุกเข่าลง
“อาจารย์!”
ทุกคนต่างก็อึ้ง!
ชายชราคนนี้เค้าเป็นใครกัน!
คนใหญ่คนโตมากมาย ทำไมพวกเค้าถึงคุกเข่าลงต่อหน้าของชายชรานี่?
ท่าทางที่ดูเคารพนับถือนี่ มันดูราวกับว่าพวกเค้ากำลังคุกเข่าลงต่อหน้าพ่อของพวกเค้า
ฉินจุนยิ้มแล้วคุกเข่าข้างอาจารย์ของเค้า
“ขอให้อาจารย์มีสุขภาพดีตลอดไป”
เย่ซวนหยวนพยักหน้าแล้วหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแล้วจิบ “เอาหละ ลุกขึ้นเถอะ ดูท่าแล้วพวกเธอจะไม่มีปัญหาอะไรนะ”
คำพูดของเย่ซวนหยวนก็ ทำให้ทุกคนรู้สึกกระอักกระอ่วมขึ้นมา
คนเหล่านี้เป็นคนใหญ่คนโตในอุตสาหกรรมต่างๆและพวกเค้าต่างก็ได้รับความชื่นชมและความอิจฉาจากผู้คนนับไม่ถ้วน แต่ในสายตาของเย่ซวนหยวน พวกเค้ากลายเป็นคนไร้ค่าเท่านั้น…นี่มันน่าละอายจริงๆ
หลังจากดื่มแล้วนั่งลง พวกเค้าก็นั่งลง เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารติดอาวุธยืนอยู่รอบๆพวกเค้า บุคคลภายนอกไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้เลย
นักข่าวนับไม่ถ้วนคอยอยู่ข้างๆ เดิมทีพวกเค้าต้องการสัมภาษณ์ผู้ประกาศข่าวและผู้ประกอบการในท้องถิ่น
แต่ผู้ประกาศข่าวกับผู้ประกอบการท้องถิ่นประจำปีต่างก็อยู่ที่โต๊ะนี้ พวกเค้าก็เลยไม่มีโอกาสได้สัมภาษณ์เลย
ส่วนผู้ประกาศข่าวคนอื่นๆ พวกเค้าก็มีโอกาสได้สัมภาษณ์ แต่ไม่มีหัวข้ออะไรมาก ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป มันจะน่าเสียดายเป็นอย่างมาก?
“ชายชราคนนี้ เค้าเป็นใครกัน ทำไมคนจำนวนมากถึงเป็นศิษย์ของเค้า”
“เป็นอาจารย์เหรอ นี่มันเรื่องทั่วไปอย่างงั้นเหรอ?”
“ถึงจะเป็นอาจารย์ ก็น่าจะเป็นอาจารย์ที่มีความสามารถ?”
ในตอนนี้ก็มีอาจารย์ปลอมจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น ปรมาจารย์มวยไทเก็ก ปรมาจารย์มวยชวนหวู่และก็ยังคนดังมากมายในฐานะเด็กฝึก แต่จริงๆแล้วพวกเค้าก็เป็นแค่กลยุทธ์ทางการตลาดก็เท่านั้น พวกเค้าไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย
เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไป อาจารย์คนนี้คงจะไม่ใช่ของปลอมใช่ไหม พวกเค้าเองก็รอไม่ไหวที่จะสัมภาษณ์แล้ว