ตอนที่ 618 เผยหนานเจวี๋ยที่ร่างกายแข็งแรงเหมือนวัว
“ได้” คุณย่ากงได้ยินแล้วก็ยื่นมือประคองกงจวิ้นฉือเดินไปยังเตียงผู้ป่วย
จะให้คุณย่ากงเห็นฉากเมื่อครู่ไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าหากท่านเห็นแล้วจะต้องโมโหตายแน่ๆ ไม่ใช่หรือ? ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ฉู่เจียเสวียนก็อยู่กับเผยหนานเจวี๋ย
คุณย่ากงต่อต้านครอบครัวเผยเสมอมา การที่สามารถยอมรับฉู่เจียเสวียนได้นั้น ตอนนี้ก็นับว่าดีขึ้นมากแล้ว เรื่องระหว่างเขากับฉู่เจียเสวียน เขายังไม่ได้คิดว่าจะบอกท่านอย่างไรดี
กงจวิ้นฉือถูกคุณย่ากงประคองมานั่งที่เตียง ทันทีที่เอนตัวลง จู่ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อกๆ…
“เข้ามา” กงจวิ้นฉือกล่าวอย่างมีมารยาท
ประตูเปิดออก เป็นประธานหยางที่เดินเข้ามาจากข้างนอก บนใบหน้าของกงจวิ้นฉือมีรอยยิ้มจางๆ
“ประธานกง คุณย่ากง” ประธานหยางเข้ามาในห้องคนไข้แล้วก็เอ่ยทักตามมารยาท
“มีเรื่องอะไรเหรอ” ประธานหยางเป็นมือซ้ายมือขวาที่มีประสิทธิภาพของกงจวิ้นฉือ ช่วงที่เขาไม่อยู่ในบริษัท เรื่องทั้งหมดก็ยกให้เขาเป็นคนจัดการ
“ไม่มีอะไรครับ ผมก็แค่เป็นตัวแทนของพนักงานบริษัทมาเยี่ยมคุณ”
“ประธานกง คุณรักษาร่างกายให้ดีเถอะนะครับ ผมจะจัดการเรื่องที่บริษัทเอง คุณไม่ต้องเป็นห่วง” ประธานหยางตบหน้าอกเบาๆ เอ่ยปากรับรองกับเขา
กงจวิ้นฉือพยักหน้า เขาเชื่อใจประธานหยางมาตลอด
“ช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรครับ เพียงแค่โครงการความร่วมมือหลายแห่งยังอยู่ระหว่างการหารือ”
“โอเค คุยกับพวกเขาต่อไป จะต้องรับโครงการนี้มาให้ได้ ตอนนี้บริษัทกงเหมือนถูกคนหมายตาไว้ คุณต้องระวังตัวไว้หน่อย” กงจวิ้นฉือกล่าว
เขารู้สึกอยู่บ้างว่าความสงบของเมือง A ในขณะนี้น่ากลัวเล็กน้อย ราวกับมือมีฝ่ามือใหญ่กำลังยื่นมาทางพวกเขา เพราะอย่างนั้นเขาจึงต้องระวังตัว
หลังจากประธานหยางจากไปแล้ว ผ่านไปไม่นานฉู่เจียเสวียนก็กลับมา เมื่อเห็นตะกร้าผลไม้บนโต๊ะของเขา ฉู่เจียเสวียนก็รู้แล้วว่ามีคนมาเยี่ยมกงจวิ้นฉือ
“จวิ้นฉือ ตอนนี้ร่างกายของคุณยังไม่หายดี เรื่องงานก็เอาไว้ก่อนเถอะ” ไม่ต้องเดาฉู่เจียเสวียนก็รู้ว่าคนที่มาเยี่ยมเขาจะต้องเป็นพนักงานในบริษัทอย่างแน่นอน
เธอไม่ต้องการให้สถานการณ์ใดๆ ส่งผลกระทบระหว่างที่กงจวิ้นฉือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
“ไม่เป็นไร คุยกันแค่สองคำเขาก็ไปแล้ว” กงจวิ้นฉือกล่าวขึ้นอย่างอบอุ่น หัวใจของเขายิ้มให้กับความเป็นห่วงของฉู่เจียเสวียน
สุดท้ายแล้วฉู่เจียเสวียนก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เธอได้แต่เพียงถอนหายใจเบาๆ แต่ละคนก็ล้วนบ้างานกันทั้งนั้น บางครั้งเธอเองก็อยากเปิดสมองของพวกเขาออกมาดูเสียจริงๆ ว่าในสมองของพวกเขานั้นนอกจากเรื่องงานแล้วยังมีอะไรอีกบ้างไหม
วันเวลาไหลผ่านไปอย่างเงียบๆ วันตรุษจีนยิ่งใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว อากาศเริ่มรู้สึกอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ไม่มีความเย็นเหมือนตอนต้นฤดูหนาว
เพราะมีฉู่เจียเสวียนดูแลอย่างระมัดระวัง ทำให้ร่างกายของกงจวิ้นฉือฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว แต่เดิมความสามารถในการฟื้นตัวทางกายภาพของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป บางครั้งเขาก็เกลียดความสามารถในการฟื้นตัวแบบนี้ที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปนัก เพราะมันทำให้ฉู่เจียเสวียนมีเหตุผลที่จะดูแลเขาน้อยลง
ส่วนเผยหนานเจวี๋ยที่ร่างกายเคยแข็งแรงเหมือนวัวในอดีต กลับต้องนอนที่โรงพยาบาลสองสามเดือนเต็ม
ทุกครั้งที่กงจวิ้นฉือเห็นฉู่เจียเสวียนเป็นห่วงเผยหนานเจวี๋ย หัวใจของเขาก็บ้าคลั่งไปด้วยความริษยา เขารู้สึกได้แม้กระทั่งว่าความเจ็บปวดทุกส่วนบนร่างกายของเผยหนานเจวี๋ยนั้นล้วนเจ็บมาถึงในใจของฉู่เจียเสวียน
ถ้ามีคนปฏิบัติต่อเขาแบบนี้จะดีแค่ไหนกันนะ? แต่เขารู้ว่าหากคนนั้นไม่ใช่ฉู่เจียเสวียน เขาก็ไม่ต้องการความรู้สึกแบบนั้น
ได้ยินมาว่าเผยหนานเจวี๋ยออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อสองสามวันก่อนแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้ก็เป็นวันสิ้นปี หากฉลองตรุษจีนที่โรงพยาบาลคงจะไม่เป็นมงคล เป็นธรรมดาที่ฉู่เจียเสวียนจะต้องตามไปดูแลเผยหนานเจวี๋ย
ในห้องขนาดใหญ่ มีเพียงกงจวิ้นฉือที่นั่งอยู่บนโซฟาตามลำพัง เขาอยู่ที่นี่กลับไม่รู้สึกถึงบรรยากาศของตรุษจีนเลย
ตอนที่ 619 คุณต้องการจะทิ้งผม
อีกด้านหนึ่งนั้นกลับต่างกับความเยียบเย็นของกงจวิ้นฉือโดยสิ้นเชิง ขณะนี้ที่คฤหาสน์ตระกูลเผยกำลังประดับไฟเฉลิมฉลองและมีความสุขมากเป็นพิเศษ
เผยหนานเจวี๋ยยุ่งอยู่ตลอดเวลา เขาตกแต่งคฤหาสน์เองกับมือ ถ้าหากเป็นปีก่อนๆ เผยหนานเจวี๋ยคงไม่ลงแรงแบบนี้แน่ แต่ว่าครั้งนี้มีฉู่เจียเสวียนอยู่ด้วย เขาจะต้องตระเตรียมให้ดี
หลายต่อหลายครั้งที่ฉู่เจียเสวียนอยากบอกกับเผยหนานเจวี๋ยว่าเธอไม่อยากฉลองที่บ้านเผย เธออยากกลับไปอยู่กับซูซาน เพราะเธอไม่สามารถทิ้งซูซานให้อยู่ที่บ้านคนเดียวได้
ยิ่งไปกว่านั้นคุณย่ากงยังคงเรียกให้เธอกลับไปกินข้าวฉลองตรุษจีนอยู่เสมอ เพราะว่าในสายตาของคุณย่ากง ตอนนี้ฉู่เจียเสวียนเป็นสะใภ้ของบ้านกงแล้ว แต่ว่าท่านกลับไม่รู้เรื่องระหว่างกงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนเลยแม้แต่น้อย
เธอไม่ต้องการให้คนแก่อย่างท่านต้องเสียใจในวันแห่งเทศกาลแบบนี้
วันนี้ก็เป็นวันก่อนตรุษจีนแล้ว เธอกลัวว่าหากไม่พูดอีกก็จะไม่มีโอกาสจริงๆ แล้ว
เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอเห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยกำลังทุ่มเทให้กับงานเทศกาลตรุษจีน เธอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเธอจะไปทานอาหารฉลองตรุษจีนที่บ้านกง
“เผยหนานเจวี๋ย ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากปรึกษากับคุณหน่อย” ฉู่เจียเสวียนเอ่ยปากขึ้น
เสียงของเธอไม่ดังไม่เบา แต่ลอยมากระทบเข้าหูของเผยหนานเจวี๋ยพอดี เขาพลันหยุดการกระทำในมือลง
เขาตั้งใจจะตกแต่งคฤหาสน์ในรูปแบบโบราณ เพื่อให้ฉู่เจียเสวียนได้จดจำการฉลองตรุษจีนที่แตกต่างออกไป
“แป๊บนึงนะ ขอผมแขวนโคมไฟนี่ก่อน” เผยหนานเจวี๋ยพูดพร้อมรอยยิ้ม
ในความทรงจำของเขา เขาไม่เคยฉลองตรุษจีนกับฉู่เจียเสวียนเลย วันตรุษจีนนั้นเป็นหนึ่งในประเพณีที่สำคัญที่สุดในประเทศจีน เขาจะต้องส่งต่อปีใหม่ที่แข็งแกร่งให้กับฉู่เจียเสวียน
“ทางขวา ใช่ ทางขวาอีกหน่อย” เผยหนานเจวี๋ยกำกับดูแลงานต่อ เรื่องบางเรื่องเขาต้องการลงมือด้วยตัวเอง
รอยยิ้มที่มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยแพร่กระจายมาถึงฉู่เจียเสวียน เธอไม่ค่อยได้เห็นอารมณ์ผ่อนคลายของเผยหนานเจวี๋ยมากนัก และรอยยิ้มของเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ก็หล่อเหลาอย่างนึกไม่ถึง
ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็เสร็จจากงานในมือ ฉู่เจียเสวียนยื่นผ้าขนหนูให้เขาด้วยความเป็นห่วง เพื่อให้เขาได้เช็ดเหงื่อ
ไม่ช้าก็ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว หลังจากฉู่เจียเสวียนกินข้าวเป็นเพื่อนเผยหนานเจวี๋ย เธอก็เริ่มคิดถึงวิธีบอกเผยหนานเจวี๋ยว่าเธอกำลังจะไปทานอาหารฉลองตรุษจีนที่บ้านกง
ขณะที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อมองดูสายเรียกเข้าแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็รีบรับสายทันที “ฮัลโหล สวัสดีค่ะคุณย่า”
“เจียเสวียน ทำไมเธอกับจวิ้นฉือยังไม่มาอีกล่ะ วันนี้เป็นวันสิ้นปีนะ พวกเรามากินข้าวฉลองด้วยกันเถอะ”
“ฉัน…” ทำอย่างไรเธอก็เอ่ยคำปฏิเสธไม่ออก
ตอนนี้คุณย่ากงอายุมากแล้ว ท่านคงรับความกระเทือนใจมากไม่ได้ ฉู่เจียเสวียนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเอ่ยปากว่า “คงจะดึกหน่อยค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปกับแม่”
“ได้ แต่อย่านานนักล่ะ”
“ค่ะ”
เมื่อวางสายลง ฉู่เจียเสวียนก็หันไปมองเผยหนานเจวี๋ยที่กำลังสาละวนอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาแล้ว สิ่งที่ต้องการจะพูดก็พูดไม่ออก
มองฟ้าสีของท้องฟ้าด้านนอก ฉู่เจียเสวียนกัดริมฝีปากน้อยๆ ก่อนเดินเข้ามาหาเขา หากไม่พูดอีก ฟ้าก็จะมืดแล้ว
“หนานเจวี๋ย ฉันจะไปกินข้าวเย็นก่อนตรุษจีนที่บ้านกงนะ” ฉู่เจียเสวียนพูดตรงๆ แทนที่จะพัวพันอยู่อย่างนี้ เธอสู้พูดออกไปตรงๆ จะดีกว่า
กงจวิ้นฉือเคยรับปากกับเธอว่าเขาจะไปคุยกับคุณย่า แต่ตอนนี้ร่างกายของคุณย่ากงยังคงอ่อนแอมาก เขาไม่อยากให้ท่านเป็นกังวล ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงเป็นคู่รักต่อหน้าคุณย่า
มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยที่ยังคงมีรอยยิ้มในตอนแรก เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้วก็เย็นชาลงทันใด เขาตระเตรียมมาเนิ่นนาน คิดไม่ถึงว่าเวลาที่สำคัญแบบนี้เธอกลับบอกว่าจะไปบ้านกง
ที่แท้เธอก็ไม่ได้คิดจะฉลองตรุษจีนกับเขาเลย
ทันใดนั้น อารมณ์ของเผยหนานเจวี๋ยก็ราวกับตกจากสวรรค์สู่นรก
“คุณก็เลยจะทิ้งผม?” เผยหนานเจวี๋ยพยายามอย่างมากในการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง