ถึงแม้ว่าพระอาทิตย์ขึ้นจะงดงาม แต่การลงจากเขานั้นเหนื่อยจริง ๆ
ยิ่งไม่ได้อาหารเช้าก็ยิ่งเหนื่อย
เมื่อเก็บของไว้หลังกระโปรงรถเสร็จสรรพเรียบร้อย ทั้งคู่ก็ขึ้นรถไป ในยามเช้าตรู่รอบข้างเงียบมาก เวลานี้แทบจะไม่มีใครผ่านมาทางนี้เลย
เมื่อขับรถเข้ามาถึงในเมือง เสิ่นเผยซวนได้ถามเธอขว่าจะแวะทานอะไรก่อนไหม ซางหยูตอบว่าอยากจะกลับบ้านก่อน อยู่ในเต็นท์ไม่ได้ถอดผ้านอนตอนนี้รู้สึกเนื้อตัวไม่ค่อยสบาย อยากจะกลับบ้านไปอาบน้ำ
“ครับ” เสิ่นเผยซวนจึงขับรถต่อ
รถได้มาจอดในลานจอดรถชั้นใต้ดิน เสิ่นเผยซวนถือเต็นท์ ซางหยูถือกาน้ำในมือ
และทั้งคู่ขึ้นตึกไป
เสิ่นเผยซวนจัดเก็บสิ่งของ ซางหยูยืนมองเขาอยู่ที่ห้องรับแขก ดูเหมือนจะคิดอะไรได้บางอย่าง จึงยิ้มอย่างขวยเขินครู่หนึ่ง จากนั้นหันหลังเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ
เสิ่นเผยซวนจัดวางของเรียบร้อย ไม่เห็นซางหยู ได้ยินแต่เสียงน้ำไหลดังซ่า จึงรู้ว่าเธอไปอาบน้ำ เขาก็หันหลังเดินออกมาจากห้องครัว
เขาทำอาหารไม่เป็น แต่ว่าซื้อเป็น พักอยู่ที่นี่มานมนานจึงรู้ว่าซื้ออาหารอร่อยได้ที่ไหน
ซางหยูรอาบน้ำอย่างเร็วที่สุด เช็ดตัวเสร็จสรรพปรับสภาพตัวเองเรียบร้อย จากนั้นเดินออกมาที่ห้องรับแขก กลับไม่เห็นคน
เธอหันหลังเข้าไปที่ห้องนอน แต่แล้วห้องนอนก็ว่างเปล่า ผ้าห่มไม่มีการแตะต้องยังคงสภาพเดิมตามที่เธอปูไว้ก่อนจากไป
คนไปไหนแล้วนะ
เธอไปหยิบโทรศัพท์ กำลังจะโทรหาเสิ่นเผยซวน ก็ได้ยินเสียงประตูดังขึ้น และก็มีเสียงคนเดินเข้ามา เธอวางโทรศัพท์ลงแล้วเดินออกมา เห็นเสิ่นเผยซวนถืออาหารเช้าเข้ามา เขาเดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร จากนั้นกล่าว “มาทานอาหารเช้าเร็ว”
เขาจัดวางอาหารเช้าที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ
ซางหยูเดินมา แต่ไม่ได้นั่งลงทานอาหาร กลับเดินมาโอบที่ตัวของเสิ่นเผยซวน
เสิ่นเผยซวนหันหน้ามามองเธอ “มาทานอาหารเช้ากัน”
ซางหยูส่ายหน้ามองเขา แล้วกะพริบตาปริบ จากนั้นกล่าวเบาๆ “ฉันไม่หิว”
พลางพูดพลางปลดสายรัดเสื้อคลุมอาบน้ำออก แล้วแนบตัวไปร่างของเขา……
“ซางหยู……”
“ตัวของฉันสะอาดสะอ้าน ไม่มีอะไรเลย”
เสิ่นเผยซวนยังไม่ทันพูดจบก็ถูกเธอขัดจังหวะขึ้น
เธอลืมตาจ้องมองเสิ่นเผยซวนอย่างจดจ่อ
เสิ่นเผยซวนหันหลังมองเธอ
ซางหยูใบหน้าเขินอาย จนแก้มแดงก่ำ กัดริมฝีปากเบาๆโดยไม่มีการหลบสายตา ดวงตาใสแป๋ว
เสิ่นเผยซวนยื่นมือไปปิดเสื้อคลุมอาบน้ำของเธอ ซางหยูคล้องคอของเขาไว้แล้วเขย่งปลายเท้าไปจูบที่ริมฝีปากของเขา ทักษะการจูบของเธอไม่ค่อยมีชั้นเชิง แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนจิตใจเตลิดเปิดเปิงได้
เสิ่นเผยซวนร่างเกร็งแน่น แต่ไม่ได้สนองกลับในทันที
ซางหยูจึงถามเบาๆ “คุณไม่ต้องการฉัน……”
“เปล่า” เสิ่นเผยซวนปฏิเสธทันใด น้ำเสียงซางหยูแหบแห้งอย่างกับอะไร
“อย่างนั้นคุณ……”
ทันใดนั้นเสิ่นเผยซวนก็กอดเธอไว้ในอ้อมกอด รัดแน่นขึ้น แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากเธอเบาๆ “คุณเตรียมพร้อมแล้วเหรอ”
ซางหยูที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาตอบอืม
เสิ่นเผยซวนอุ้มเธอขึ้นมาแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน
ซางหยูคล้องคอของเขาไว้ หายใจรดริน รู้สึกอ่อนไหว ซึ้งใจสุดจะพรรณนา
และแล้วประตูก็ปิดลง ปิดกั้นฉากทั้งหมดที่ทำให้คนหูแดงหัวใจเต้นรัว
อาหารเช้าที่อยู่บนโต๊ะเย็นลง คนที่อยู่ในห้องก็ยังไม่ออกมา
จนกระทั่งใกล้เที่ยง
ร่างกำยำของเสิ่นเผยซวนที่เปลือยเปล่านั่งจ้องมองเธออยู่ข้างเตียง ซางหยูนอนอย่างหลับใหลด้วยความเหนื่อยเพลีย
ผมที่ดำเงายาวสรวยปรกกระจายทั่วหมอน และบางส่วนปรกอยู่บนใบหน้าของเธอ เสิ่นเผยซวนยื่นมือไปปัดที่แก้มของเธอเบาๆ เธอเกิดอาการคันเล็กน้อย จึงขยับเบาๆแล้วก็หลับต่อ
เสิ่นเผยซวนดึงมือกลับมา สายตาตกกระทบไปที่มุมผ้าห่มอย่างไม่ตั้งใจ
มุมผ้าห่มด้านล่างที่พับครึ่ง เห็นรอยคราบเลือดเล็ก ๆ ที่แห้งแล้ว ที่เปลี่ยนจากสีแดงสดกลายเป็นสีแดงคล้ำ แต่ก็ยังชัดเจนอย่างเห็นได้ชัด
เวลานั้นใบหน้าเล็ก ๆ ของซางหยูมีรอยย่นเพราะความเจ็บปวด แต่ท่าทางที่กัดริมฝีปากอย่างเงียบๆด้วยความอดทน ยังคงแวบให้เห็นอยู่ตรงหน้า
แพขนตาของเขาสั่นกะพริบ ตามด้วยการเคลื่อนไหวขึ้นลงของลูกกระเดือก
วินาทีนั้นตื่นเต้นจนไม่สามารถควบคุมได้ ภาพยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ
เขามองซางหยูครู่หนึ่งแล้วก็ลุกยืนขึ้น
เดิมทีอยากจะทำอาหารสักหน่อย แต่พบว่าตัวเองนั้นทำไม่เป็น
ด้านล่างตึกมีร้านอาหารร้านหนึ่งที่รสชาติไม่เลว และก็สะดวกในการส่งอาหาร เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรสั่ง
เขาเป็นลูกค้าประจำ ตัวเองทำอาหารไม่เป็น ส่วนใหญ่จึงทานจากข้างนอก ร้านนี้อยู่ใกล้บ้าน เขาเคยไปทานหลายครั้ง ก็เลยค่อยๆเริ่มสนิทกัน มีบางครั้งที่ไม่อยากจะลงไปก็จะให้คนนำมาส่ง
เขาสั่งมาสองสามอย่างที่ตัวเองเคยทานแล้วรู้สึกรสชาติใช้ได้
ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไป อาหารก็ถูกนำมาส่ง เพราะว่าอยู่ใกล้ พอส่งขึ้นมาอาหารก็ยังร้อนๆอยู่
เขาจ่ายเงินเสร็จก็รับกล่องอาหารมา แล้วนำมาจัดวางบนโต๊ะ จากนั้นก็ไปเรียกซางหยู
ซางหยูที่ยังคงนอนหลับใหล เสิ่นเผยซวนจึงนั่งลงข้างๆเตียงแล้วเรียกชื่อเธอเบาๆ
ซางหยูลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย
“อื้ออ——”
เธอมองร่างรางๆที่ไม่ชัดเจนตรงหน้า แต่ก็ดูเหมือนจะรู้ว่าเป็นใคร
เธอขยี้ดวงตา
เสิ่นเผยซวนกล่าวเบาๆ “ลุกขึ้นมาทานอาหาร”
ซางหยูพยุงร่างอยากจะลุกขึ้นนั่ง