เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก – ตอนที่ 243 ออกจากโรงพยาบาล / ตอนที่ 244 ทายาเลย

ตอนที่ 243 ออกจากโรงพยาบาล 

 

 

คุณพ่อเหยียนออกมาจากห้องหนังสือก่อนจะนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาในห้องรับแขก 

 

 

คุณแม่เหยียนเห็นท่าทางเหม่อลอยของคุณพ่อเหยียนแล้วก็ถามขึ้นอย่างประหลาดใจ “คุณเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าแบบนี้” 

 

 

“ไม่ได้เป็นอะไร” คุณพ่อเหยียนโบกปัด “เหยียนเค่อจะแต่งงานแล้วก็รู้สึกใจหายน่ะ” 

 

 

คุณแม่เหยียนลูบหลังเขาอย่างประหลาดใจ “ตอนนี้ไม่อยากให้แต่งแล้วเหรอคะ เมื่อก่อนตอนคุณส่งเขาไปเรียนยังไม่ไปส่งที่สนามบินเลย ตอนปิดเทอมก็ไม่ให้เขากลับบ้าน มัวทำอะไรอยู่” 

 

 

คุณพ่อเหยียนฟังภรรยาตนพูดก็หน้าแดง “เอาเถอะๆ ผมก็แค่พูดนิดหน่อยเอง ทำไมคุณตอบมาซะเยอะเลยล่ะ” 

 

 

“ถ้าเหยียนเค่อแต่งงานฉันก็สบายใจแล้ว เจ้าเด็กดื้อนั่นทำให้กลุ้มใจอยู่เรื่อย” 

 

 

คุณพ่อเหยียนดื่มชา ไม่ได้พูดอะไร 

 

 

การพัฒนาของเหยียนเค่อตลอดหลายปีมานี้ เขาเห็นมันมาโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สนับสนุนให้เขาออกไปทำธุรกิจของตัวเองอยู่ดี กลัวว่าเขากับเหยียนเฟิงจะแข่งขันกันในโลกธุรกิจ แล้วจะพ่ายแพ้ยับเยินกันทั้งคู่ 

 

 

“ลูกหลานได้ดิบได้ดีแล้ว เราไม่ต้องห่วงหรอก ถึงตอนนี้อยากดูแลก็ดูแลไม่ได้แล้ว” 

 

 

รอยช้ำเขียวม่วงบนแผ่นหลังของเหยียนเค่อไม่สามารถจางหายไปได้ภายในระยะแค่สองสัปดาห์ แต่ตอนนี้สามารถเดินเหินได้ปกติแล้ว นอนหงายก็ไม่เป็นปัญหาอะไร แต่ให้คนมาโดนแผลไม่ได้ 

 

 

“ฉินซื่อหลาน นายจะฆ่าฉันหรือไงวะ!” เหยียนเค่อกำผ้าปูเตียงแน่น มุดหัวลงไปใต้ผ้าห่ม 

 

 

ฉินซื่อหลานถูยาในมือ ก่อนจะลูบลงบนร่างของเขา 

 

 

“นี่เป็นยาที่เสี่ยวฝูเอ๋อร์ทำขึ้นมาช่วงก่อนหน้านี้ ให้นายใช้ขวดแรกเลย” 

 

 

“ไอ้ห่า ฉันคงไม่ใช่หนูทดลองหรอกนะ” เหยียนเค่อผงกหัวออกมา 

 

 

ฉินซื่อหลานออกแรงทา ให้ตัวยาสามารถออกฤทธิ์ได้เต็มที่ “ก่อนหน้านี้ฉันเคยใช้ นี่เป็นตัวยาที่อัปเกรดแล้ว ใช้ดีกว่าอันเก่าอีก” 

 

 

“ระวังผิวฉันแพ้นะ” 

 

 

“รู้แล้วว่าผิวนายบอบบางกว่าพวกผู้หญิงเสียอีก ก็ระวังอยู่นี่ไง” ฉินซื่อหลานตบหลังเขาดังแปะๆๆ หลังจากทายาเสร็จแล้วก็ดึงเสื้อผ้าเขาลง “นายออกจากโรงพยาบาลไปได้แล้ว” 

 

 

เหยียนเค่อพลิกตัวนอนหงายแล้วหารือกับเขา “คืนนี้ฉันนอนนี่ก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยไปทำงานได้ไหม” 

 

 

“นายคิดว่าโรงพยาบาลเป็นบ้านนายหรือไง” ฉินซื่อหลานไม่ยอม 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินเองก็ไม่เห็นด้วย “ฉันก็อยากกลับบ้านนะเว้ย ฉันไม่อยากอยู่โรงพยาบาลแล้ว” 

 

 

“นายหยุดคิดไปเลย คืนนี้นายต้องอยู่เฝ้า” 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก “สาวๆ ข้างนอกนั่นนึกว่าเราสองคนเป็นคู่ขากันหมดแล้ว ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ” 

 

 

เหยียนเค่อกวนประสาท “ดูซิ ชื่อเสียงของฉันด่างพร้อยเพราะนายหมดแล้ว ถ้านายไม่อยู่เฝ้าแล้วจะให้ใครเฝ้า” 

 

 

“เอิ่ม” เสิ่นจิ้งเฉินที่ถูกตอกกลับทำหน้างง “นายจะบ้าหรือเปล่า! ใครทำให้ใครด่างพร้อยกันแน่หา!” 

 

 

เหยียนเค่อไม่อยากกลับบ้าน แล้วก็ไม่อยากกลับห้องตัวเองด้วย จึงหารือกับเสิ่นจิ้งเฉิน “เอาอย่างนี้ ฉันออกจากโรงพยาบาลไปอยู่ห้องนายได้ไหม” 

 

 

“พี่ครับ พี่ก็มีห้องชุดหนึ่งอยู่ตรงข้ามห้องผมไงครับ จะมาอยู่กับผมเพื่อ?” 

 

 

ห้องชุดตรงข้ามห้องของเสิ่นจิ้งเฉินเป็นของเหยียนเค่อ เพียงแต่เสิ่นจิ้งเฉินอยู่ที่เมืองหลวงเป็นเวลานาน ดังนั้นเหยียนเค่อจึงไม่ค่อยได้ไปเท่าไรนัก แทบจะลืมไปแล้วว่าตัวเองมีห้องชุดอยู่ตรงนั้นอีกห้อง 

 

 

“ก็ได้ ในเมื่อนายชวนฉันแบบอ้อมๆ แบบนี้ งั้นคืนนี้ฉันจะไปที่นั่น” คนที่แสร้งทำเป็นเรียบร้อยเชื่อฟังเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ก็คือคนแบบเขานี่ล่ะ 

 

 

ฉินซื่อหลานยื่นยาให้เสิ่นจิ้งเฉินด้วยสีหน้าเรียบนิ่งและเคร่งขรึม “งั้นฝากคนไข้ด้วยนะครับ” 

 

 

“ฉันขอปฏิเสธได้ไหม” เสิ่นจิ้งเฉินไม่ได้ยื่นมือออกไปรับ 

 

 

“น่าจะไม่ได้นะครับ” ฉินซื่อหลานมองคนที่กำลังเปลี่ยนชุด แล้วยัดยาใส่มือเขา 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินคิดออกแล้ว เขาจะไลฟ์โชว์การทายาให้เหยียนเค่อทุกคืนเลย… 

 

 

เหยียนเค่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็ไม่ถืออะไรไปทั้งนั้น เสิ่นจิ้งเฉินโยนหมาตัวนั้นใส่เขา “สาวที่ตามจีบนายให้มาเลยนะ นายไม่เก็บรักษาไว้เลยหรือไง” 

 

 

เหยียนเค่อรับมาก็วางไว้บนหัวเตียง “คราวหน้าฉันค่อยมาเล่นกับมันต่อแล้วกัน” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 244 ทายาเลย 

 

 

ห้องพักผู้ป่วยถูกเก็บรักษาไว้เป็นเวลานาน เหยียนเค่อเองก็นอนพักแต่ห้องนี้เช่นกัน ของในนี้ก็ไม่มีใครกล้ามาทำความสะอาด 

 

 

“เอาผลไม้ไปแบ่งคนอื่นแล้วกัน ส่วนหมาตัวนั้นเก็บไว้ให้ฉันด้วย เดี๋ยวจะเอาให้ลูกสาวฉันดู สอนให้เขารู้จักความยากลำบากเสียบ้าง” 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินฟังจบก็หมดคำพูด “ทำไมนายไม่สอนเมียนายให้รู้จักความยากลำบากบ้างล่ะ” 

 

 

“เมียฉันยุ่งพออยู่แล้ว ดังนั้นก็แบ่งศัตรูหัวใจตัวน้อยคนนี้ให้ลูกสาวไปแล้วกัน” เหยียนเค่อพูดราวกับว่ามันเป็นเรื่องปกติ 

 

 

“ยังไม่ทันจะมีเมียเลย จะไปหาลูกสาวมาจากไหน” 

 

 

หลังจากทั้งคู่ออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดของเสิ่นจิ้งเฉินทันที 

 

 

เหยียนเค่อหยิบกุญแจเดินขึ้นตึกไปก่อน ทิ้งให้เสิ่นจิ้งเฉินเอารถไปจอดในลานจอดรถ 

 

 

“ชีวิตดีนี่” เหยียนเค่อมองห้องรับแขกอันกว้างขวาง เดินไปหยุดอยู่ที่ริมหน้าต่างเพื่อมองทิวทัศน์ด้านล่าง 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินเดินเข้าห้องมาก็เห็นเหยียนเค่อกำลังก้าวเท้าเดินไปเดินมาอยู่ 

 

 

“นายทำอะไรน่ะ” 

 

 

“ฉันรู้สึกว่าห้องรับแขกนายก็ใหญ่อยู่นะ” 

 

 

“แล้วไง” 

 

 

“แต่เล็กกว่าห้องฉัน” เหยียนเค่อลูบคาง หรือว่าการตกแต่งจะมีปัญหา? 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินแนะนำ “นายก็ลองแต่งให้เป็นแบบนี้สิ อาจจะใหญ่ขึ้นก็ได้” 

 

 

เหยียนเค่อเบ้ปาก “เท่านี้กำลังดี ถ้าใหญ่มากก็โล่งเกินไป” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วนั่งอยู่บ้านเฉยๆ อยู่ครึ่งค่อนวัน ว่างจะตายชัก 

 

 

จึงลองกินขนมหลากหลายประเภท และวาดต้นฉบับของเดือนตุลาคมที่นัดแนะไว้ล่วงหน้าจนเสร็จ 

 

 

“ฉันป่วยเป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย” เธอรับตัวเองที่เป็นคนขยับมุมานะเช่นนี้ไม่ได้จริงๆ 

 

 

แม้แต่น้องนักเขียนที่นัดเอาต้นฉบับภาพวาดยังชมเปาะว่าเธอขยันขันแข็ง… 

 

 

ความรู้สึกเดียวของซย่าเสี่ยวมั่วก็คือโลกนี้ช่างแฟนตาซีจริงๆ 

 

 

“ฉันจะบอกให้นะ ฉันทำงานเสร็จหมดแล้ว” 

 

 

อันหร่าน ที่ได้รับหน้าที่จากบอสใหญ่กะทันหันกำลังยุ่งจนหัวหมุน จึงตอบกลับแบบขอไปที “เดือนตุลาคมน่าจะงานน้อยเกินไปสินะ นี่เพิ่งจะต้นเดือน เดี๋ยวกลางเดือนก็เยอะเองแหละ” 

 

 

“ก็จริง” ซย่าเสี่ยวมั่วพยักหน้า “มีข่าวดีอีกเรื่อง ฉันวาดต้นฉบับของสิ้นเดือนตุลาคมเสร็จแล้วด้วย” 

 

 

อันหร่านกุมหน้าผาก “นั่นคือข่าวดีของเธอ แต่ไม่ใช่ของฉันจ้ะที่รัก แล้วก็นะ เพื่อจะได้โชว์ว่าเราสามารถอัปการ์ตูนได้อย่างรวดเร็ว เธอต้องอัปการ์ตูนติดต่อกันสามวัน ตามนี้ ฉันไปทำงานต่อแล้ว” 

 

 

หัวใจอันว่างเปล่าโดดเดี่ยวของเด็กน้อยผู้ถูกทอดทิ้งอย่างซย่าเสี่ยวมั่วโดนทำร้ายอย่างหนักหน่วง จึงต้องวาดเพิ่มอีกหลายตอน 

 

 

ตอนค่ำคุณแม่ซย่ามีงานจึงนอนที่หอพัก ซย่าเสี่ยวมั่วจึงนั่งดูโทรทัศน์อย่างเบื่อหน่ายอยู่ในห้องรับแขกอันกว้างใหญ่นี่คนเดียว 

 

 

เวลาสองทุ่ม เสิ่นจิ้งเฉินก็ทายาให้เหยียนเค่ออย่างตรงเวลา อยากลองเชิงดูปฏิกิริยาตอบรับของเขาก่อน สุดท้ายยังไม่ทันได้จับเลย เหยียนเค่อก็เริ่มแหกปากร้องแล้ว 

 

 

เขาทำได้เพียงไปล้างมือให้สะอาดแล้วไปวิดีโอคอล 

 

 

เหยียนเค่อเพิ่งจะได้ลองโดนเขาทายาให้เป็นครั้ง แต่ก็เห็นว่าเสิ่นจิ้งเฉินลุกออกไปแล้ว 

 

 

คงไม่ได้จะไม่ทายาให้ฉันหรอกนะ เขาชะโงกหัวมองหาเสิ่นจิ้งเฉินที่เดินไปเข้าห้องน้ำ 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินถือโน้ตบุ๊กออกมาจากห้องแล้ววางไว้บนโต๊ะกลมตัวเล็ก 

 

 

เหยียนเค่อมองเขาอย่างหวาดระแวง “นายคิดจะทำอะไรน่ะ การปล่อยคลิปฉันออกไปตามอำเภอใจมันผิดกฎหมายนะเว้ย” 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินหันหน้าหนี “นายหลงตัวเองเกินไปแล้วมั้ง” 

 

 

ก่อนจะทำการวิดีโอคอล ซย่าเสี่ยวมั่วยังไม่ทันรู้ตัวก็ได้ยินเสิ่นจิ้งเฉินพูดขึ้นก่อน “เดี๋ยวฉันจะไลฟ์ทายาให้เหยียนเค่อโชว์ วันนี้เธอไม่ได้ดูไม่ใช่เหรอ ฉันจะชดเชยให้” 

 

 

เหยียนเค่อมองใบหน้ามึนงงของซย่าเสี่ยวมั่วบนหน้าจอแล้วก็ปากอ้าตาค้าง กำเสื้อผ้าตัวเองแน่นไม่ยอมปล่อย “ฉันไม่อนุญาต!” 

 

 

เสิ่นจิ้งเฉินตีมือเขา “เชื่อฟังหน่อย ฉันจะได้ทายาให้นาย” 

 

 

ซย่าเสี่ยวมั่วรอดูเรื่องสนุก เธอนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าจอคอมพ์ เห็นเหยียนเค่อถลึงตาโตจนน้ำตาเอ่อคลอ เหมือนเด็กผู้หญิงชะมัด อารมณ์ก็ดีขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ 

 

 

“รีบลงมือเลย” เธอส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างๆ “นายจะอายทำบ้าอะไร” 

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

เช่าท่านประธานมาปิ๊งรัก

ซย่าเสี่ยวมั่ว สาวโสดผู้หมดศรัทธาในความรักจำต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกจากบ้าน เพียงเพราะทะเลาะกับผู้เป็นแม่เรื่องหา ‘ลูกเขย’! ด้วยอับจนหนทางที่จะกลับบ้าน เธอจึงต้องไปขออาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทชั่วคราว ทว่าระหว่างนั่งรถประจำทาง เธอดันไปปะทะฝีปากกับชายหนุ่มรูปงาม และสร้างความอับอายให้เขาอย่างน่าคับแค้นใจ! ทั้งที่เธอไม่คิดจะเจอเขาอีกชั่วชีวิต ทว่าเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง บันดาลให้เธอต้องมาพบกับเขาอีกครั้งในฐานะ ‘แฟนเช่า’ ครั้งนี้ เหยียนเค่อ จะให้เธอได้ชดใช้อย่างสาสม!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset