ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 237 ยาเม็ดระดับพสุธา

“นี่..งานประชุมกลั่นยาไม่ได้กำหนดเวลาเอาไว้” ผู้อาวุโสใหญ่พูดออกมา

ถังหยิงโบกมือและพูดว่า “แบบนั้นได้อย่างไง ถ้าหากฉินเฉิงคนนี้ใช้เวลาชั่วชีวิตในการปรุงยา พวกเราก็ต้องรอไปทั้งชีวิตอย่างนั้นเหรอ?”

ผู้อาวุโสใหญ่พูดไม่ออก เขาเหลือบมองไปที่ฉินเฉิงกับท่านเจ้าสำนักโดยไม่รู้ตัว

ดวงตาของท่านเจ้าสำนักยังคงจับจ้องไปที่ฉินเฉิง แม้ว่าถังหยิงจะกลั่นยาโชหยวนเสร็จ แต่มันก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของท่านเจ้าสำนักได้!

สิ่งนี้ทำให้ถังหยิงรู้สึกโกรธ เขากัดฟัน และความแค้นในใจของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

“ท่านเจ้าสำนัก ท่านจะตัดสินกับเรื่องนี้อย่างไร?” ผู้อาวุโสใหญ่ถามออกไป

ท่านเจ้าสำนักขมวดคิ้วและพูดว่า “หลบไป อย่าบังสายตาของฉัน!”

ทุกคนต่างมองหน้ากัน

ท่านเจ้าสำนักคนนี้เป็นอะไรกันแน่? ทำไมถึงได้ใส่ใจฉินเฉิงขนาดนั้น?

“ท่านเจ้าสำนัก ถังหยิงกลั่นยาโชหยวนออกมาเรียบร้อยแล้ว คุณภาพดีเยี่ยม ท่านลองดูหน่อยไหม” ผู้อาวุโสใหญ่ยิ้มและถามออกมา

เมื่อได้ยินคำว่า “ยาโชหยวน” การแสดงออกของท่านเจ้าสำนักก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

เธอมองมาที่ยาในมือของผู้อาวุโสใหญ่ พยักหน้าและพูดว่า “อืม ไม่เลว เป็นสิ่งที่ยาได้ยากมาก”

“ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ท่านเจ้าสำนัก” ถังหยิงตอบกลับไปด้วยความดีใจ

แต่อย่างไรก็ตาม ประโยคต่อไปที่ท่านเจ้าสำนักพูดออกมาทำให้ถังหยิงรู้สึกตกต่ำ

“ยาโชหยวนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ฉันคิดว่ายาที่ฉินเฉิงกำลังกลี่นอยู่นี้มันคุ้มค่ากับการรอคอยมากกว่า” ท่านเจ้าสำนักพูดออกมา

สีหน้าของถังหยิงเปลี่ยนไปทันที ความโกรธที่อยู่ในใจของเขาแทบจะพุ่งออกมา

เขากำหมัดโดยไม่รู้ตัว

เขากัดฟัน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยสีที่ชั่วร้าย

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับท่านเจ้าสำนัก เขาไม่กล้าพูดอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงอดทน

ท่านเจ้าสำนักลำเอียงไปในแถบของฉินเฉิงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้ทุกคนต่างรู้ดี

แต่เนื่องด้วยความสูงส่งของตำแหน่งท่านเจ้าสำนัก ไม่ว่าพวกเขาจะสงสัยอย่างไง ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกไปแม้แต่คำเดียว

“ดูไปเถอะ อาจารย์ของฉันจะต้องกลั่นยาที่ดีกว่าของที่ถังหยิงคนนั้นกลั่นออกมาแน่!” ฉูเป่ยชวนที่อยู่ข้างๆหมอยาพูดออกมา

หมอยาเหล่านั้นชำเลืองมองฉูเป่ยชวนและคิดจะด่าออกมาสักสองสามคำ แต่เมื่อคิดถึงว่าฉูเป่ยชวนคนนี้เป็น นักเลงคีย์บอร์ด พวกเขาก็ไม่พูดอะไรออกมา

ฉินเฉิงยังคงจดจ่ออยู่กับเปลวไฟของเขา และเปลวไฟของเขาแตกต่างจากของถังหยิง

เปลวไฟของถังหยิงนั้นรุนแรงและอ่อนโยนเป็นบางเวลา แต่เปลวไฟของฉินเฉิงนั้นดูอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา

พริบตาเดียวก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง

หลายคนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายเล็กน้อย ขนาดผู้อาวุโสใหญ่ที่อยู่บนเวทียังหาวออกมา

มีเพียงท่านเจ้าสำนักและซูวานสองคนเท่านั้นที่ยังคงให้ความสนใจกับเปลวไฟนั่น

“ฉินเฉิงเคยกลั่นยาอย่างอื่นอีกไหม?” ท่านเจ้าสำนักหันไปทางซูวานและถามออกมา

ซูวานพยักหน้า “นอกจากยารวมชีพจร เขายังเคยทำ ยาเม็ทองคำเก้าขั้น”

” ยาเม็ทองคำเก้าขั้น?” เมื่อได้ยินแบบนั้นดวงตาของท่านเจ้าสำนักก็อดไม่ได้ที่จะเปล่งประกายออกมา

“เท่าที่ฉันรู้ วิธีการกลั่นของเม็ดยานี้ดูเหมือนจะหายไปตั้งนานแล้ว” ท่านเจ้าสำนักพึมพำออกมา ดวงตาของเธอแสดงออกให้เห็นถึงความตื่นเต้น หลังจากนั้นเธอก็จ้องมาที่ฉินเฉิงอย่างใจจดใจจ่อ

“เหมือนมาก มันเหมือนมากจริงๆ!” สีหน้าของท่านเจ้าสำนักแสดงให้เห็นถึงความตกใจอย่างมาก

หลังจากที่สังเกตเห็นท่าทางของท่านเจ้าสำนัก ซูวานก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมา

สายตาของท่านเจ้าสำนักที่มองไปที่ฉินเฉิง….ดูเหมือนว่ามันจะดูแปลกไป สัมผัสได้ถึง… ความชื่นชม?

แม้ว่ารูปร่างของท่านเจ้าสำนักจะดูเด็ก แต่ที่จริงเธอก็มีอายุมากแล้ว แต่ทำไมเธอถึงมองไปที่ฉินเฉิงด้วยสายตาแบบนั้น?

“ตู้มม!”

ในตอนนั้นเตายาก็ระเบิดออกมาทันที จากนั้นก็มีควันสีดำลอยขึ้นมาอย่างหนาแน่น

ทุกคนตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะออกมา

ฉากแบบนี้เป็นฉากที่เกิดขึ้นตอนกลั่นยาล้มเหลวเท่านั้น

“เห้อ ให้รอเราตั้งนาน เสียเวลาเปล่าจริงๆ”

“รอมาตั้งนาน สุดท้ายก็ล้มเหลว”

“ท่านเจ้าสำนักคงไม่มีอะไรจะพูดแล้วใช่ไหม”

ใบหน้าของถังหยิงฉายแววแห่งความภาคภูมิใจ เขามองไปที่ท่านเจ้าสำนักและกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ท่านเจ้าสำนัก รู้ผลแล้วใช่ไหม”

ท่านเจ้าสำนักมองไปที่เขาและพูดออกมาว่า “ไม่ต้องรีบ รออีกเดี๋ยว”

ถังหยิงไม่พอใจอย่างยิ่ง เขาพ่นลมหายใจและไปยืนอยู่ข้างๆ

สีหน้าของฉินเฉิงไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกใดๆ เขาเดินไปที่เตาและเปิดกระเบื้องที่แตก ไม่รู้ว่ากำลังมองหาอะไร

“ผู้อาวุโสฉิน ก็แค่ยาที่ล้มเหลวเม็ดนึง คุณยังต้องไปหามันอีกเหรอ?” หมอยาที่อยู่ข้างๆอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“เฮ้อ ต่อให้หาเจอก็คงเอาชนะถังหยิงไม่ได้หรอก”

“ผู้อาวุโสฉิน อย่าใจร้อนไปเลย ครั้งนี้แพ้ครั้งหน้าก็ยังมีโอกาสแก้ตัว!”

เมื่อเห็นการเสียดสีบนใบหน้าของทุกคนฉูเป่ยชวนก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งออกมา “อะไรของพวกนาย รู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรออกมา ไม่รู้อะไรแล้วยังจะพูดออกมาอีก”

“เจ้าหนุ่ม ฉันอดทนกับนายมาตั้งนานแล้ว!” หมอยาหลายคนอดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา

“คิดว่าฉันกลัวนายหรือไง” ฉูเป่ยชวนม้วนแขนเสื้อขึ้นแล้วเดินไปข้างหน้า

ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว

เมื่อเกิดเหตุวุ่นวาย เมฆหลายก้อนก็ปรากฏขึ้นบนอากาศ

“ดูนั่นสิ นั่นมัน ยาเม็ดตานหยวน!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกนออกมา ทุกคนต่างหยุดเคลื่อนไหวทันที

เมื่อมองขึ้นไปก็เห็นเมฆสีดำสองสามก้อนรวมตัวอยู่ในอากาศ ดูเหมือนจะมีฟ้าแลบและฟ้าร้องในเมฆ และมีเสียงระเบิดเป็นระยะๆ

“นี่…นี่มันต้นกำเนิดของยาเม็ดระดับโลก!” ผู้อาวุโสใหญ่พูดออกมา

เขามองขึ้นไปที่ยาเม็ดตานหยวนด้วยความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา

และท่านเจ้าสำนักเองถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นก็กลับมาอยู่ในสภาพที่เย็นชาเหมือนเดิม

ฉินเฉิงหยิบเม็ดยาออกจากเตายาและเดินไปหาท่านเจ้าสำนัก

“ท่านเจ้าสำนัก นี่เป็นยากที่ฉันเป็นคนกลั่นมันออกมา” ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยความสงบ

หลังจากที่ท่านเจ้าสำนักรับยานั้นมาแล้วก็ถามกลับไปว่า “นี่คืออะไร?”

“เม็ดยาฉี่ซุ้ย” ฉินเฉิงตอบ

สัมผัสที่ประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ขาวและอ่อนโยนของท่านเจ้าสำนัก

“เม็ดยาฉี่ซุ้ย?” สีหน้าของผู้อาวุโสใหญ่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาวิ่งเข้ามาและพูดออกมาว่า “นี่…นี่มันคือเม็ดยาฉี่ซุ้ยระดับโลกนั้นจริงๆเหรอ?”

“ใช่ครับ” ฉินเฉิงตอบ “ต่อให้จอมยุทธ์เป็นคนกินมันเข้าไป แต่ก็สามารถเสริมสร้างร่างกาย ปรับรูปร่างของกล้ามเนื้อและกระดูกได้ และผมก็จะมอบมันให้กับท่านเจ้าสำนัก”

ท่านเจ้าสำนักเลิกคิ้วและแสดงรอยยิ้มที่หายาก

เธอพยักหน้าและพูดว่า “ได้ งั้นฉันจะรับไว้”

เม็ดยาฉี่ซุ้ยสามารถปรับสมดุลร่างกายได้หนึ่งครับ แต่สำหรับ111ที่ปรับสมดุลร่างกายมาแล้ว 300 ครั้ง เพิ่มไปอีกครั้งหนึ่งมันก็ไม่ได้มีความหมายมากมายอะไร ไม่สู้มอบให้ท่านเจ้าสำนักจะดีกว่า

ใบหน้าของถังหยิงที่อยู่ข้างๆน่าเกลียดเป็นอย่างมาก เขากัดฟันแน่นราวกับว่าจะกลืนกินฉินเฉิงเข้าไป

“ได้เวลาตัดสินแล้ว” ท่านเจ้าสำนักพูดออกมาด้วยท่าทางเหน็ดเหนื่อยเล็กน้อย

“เดี๋ยวก่อน!” และในตอนนั้นจู่ๆถังหยิงก็ลุกขึ้นยืน

เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น “ท่านเจ้าสำนัก ทุกคนต่างรู้ดีกว่าการกลั่นยานั้นมันมีเวลาจำกัด ถึงแม้ว่ายาที่ฉินเฉิงกลั่นออกมานั้นดีกว่าของผม แต่ว่าเขาก็ใช้เวลามากกว่าผมถึงสองชั่วโมง”

“แล้วยังไง?” ท่านเจ้าสำนักขมวดคิ้วและถามออกมา

“ผมคิดว่าพวกเราน่าจะเสมอกัน” ถังหยิงพูดออกมา “เอาเป็นว่าให้ท่านผู้อาวุโสมาลงคะแนนให้ดีกว่าไหม แบบนี้จะได้รู้ชัดไปเลยว่าใครจะได้นั่งตำแหน่งผู้อาวุโสต่อไป”

คนที่อยู่รอบๆต่างพยักหน้า คิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดี

ท่านเจ้าสำนักโบกมือและพูดว่า “งั้นเอาตามที่นายว่า”

ตำหนักเทพโอสถมีผู้อาวุโสทั้งหมดเจ็ดคน แต่ไม่นับฉินเฉิงก็เหลือแค่หก

เมื่อรวมผลคะแนนของท่านเจ้าสำนักกับชูชีเชิงแล้ว ผลออกมาฉินเฉิงกับถังหยิงก็ยังเสมอกันอยู่

“แล้วแบบนี้จะเอายังไงต่อดี?” ผู้อาวุโสใหญ่มองคะแนนโหวตที่อยู่ในมือและขมวดคิ้วออกมา

ถังหยิงยิ้มและพูดออกมาว่า “พูดกันตามเหตุผล ในมือของฉินเฉิงเองยังมีคะแนนโหวตอีก 1 คะแนน แต่การเลือกตัวเองมันก็ไม่ยุติธรรม ผมว่าเอาแบบนี้ไหม ขอให้เชิญหยูฉงชือ หรือผู้อาวุโสหยูออกมาโหวตแทน เป็นยังไง?”

ถังหยิงได้ยินเรื่องที่ฉินเฉิงกับหยูฉงชือทะเลาะกันมานานแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ คะแนนโหวตของหยูฉงชือจะต้องตกเป็นของเขาแน่ๆ!

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset