เมื่อได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเซี่ยเจียงก็เปลี่ยนไปทันที
เมื่อไม่นานมานี้ข่าวการต่อสู้ประชิดตัวระหว่างฉินเฉิงกับตงเทียนหนานได้แพร่กระจายไปทุกพื้นที่ และเกือบทุกคนก็รู้ดีว่าร่างกายของฉินเฉิงนั้นไม่สามารถทำลายได้
แต่ในตอนนี้ตัวเขากำลังพุ่งเข้าหาฉินเฉิง นั่นมันไม่ใช่การเข้าไปตายหรอกเหรอ!
เซี่ยเจียงคิดที่จะถอยกลับแต่ว่ามันก็สายเกินไปแล้ว ตอนนี้นิ้วของเขาเข้ามาถึงตัวของฉินเฉิงแล้ว
“ตู้มมม!”
นิ้วของเขาสัมผัสกับร่างกายของฉินเฉิง และมันก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมาของเขา คือเมื่อนิ้วไปสัมผัสกับร่างกายมันจะเจาะเข้าไปถึงอวัยวะภายใน แต่คนคนนี้คือฉินเฉิง นิ้วของเขานั้นหัวทันที!
“ขนาดจอมยุทธ์ยังไม่อยากต่อสู้ระยะประชิดกับฉัน แล้วนายหละเป็นใคร?” เสียงที่เยือกเย็นของฉินเฉิงดังขึ้นมาในหูของเขาทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของฉินเฉิง สีหน้าของเซี่ยเจียงก็น่าเกลียดไปทันที เขาคิดที่จะถอย แต่มันก็ไม่ทันแล้วจริงๆ ตอนนี้ฝ่ามือของฉินเฉิงได้มาสัมผัสกับใบหน้าของเขาแล้ว!
ฝ่ามือนั้นทำให้เซี่ยเจียงกระเด็นออกไปไกล หน้าตาที่หล่อเหล่าของเขาดูไม่ได้ในทันที!
“พี่เซี่ยเจียง!” เหล่าแฟนๆของเขาต่างตะโกนออกมาด้วยความบ้าคลั่ง
ฉินเฉิงรู้ดีว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะใช้เวลานานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าหากคนของตระกูลเซี่ยมาเขาอาจจะหนีไม่พ้น
ดังนั้นฉินเฉิงจึงกระโดดขึ้นไปในอาการและหยีบไปที่หลังของเซี่ยเจียง!
อัจฉริยะแห่งเจียงตูในตอนนี้ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะขัดขืน เมื่อเท้าของฉินเฉิงสัมผัสกับหลังของเขา กระดูกทั้งร่างกายก็แหลกทันที!
ฉินเฉิงใช้โอกาสตอนนี้โยนร่างของเซี่ยเจียงขึ้นไปในอากาศ จากนั้นก็ตบไปที่หน้าของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า จนทำให้ใบหน้าของเซี่ยเจียงดูไม่ได้เอาเสียเลย
“พูดมา นายใช้การฝึกที่ชั่วร้ายแบบไหนกันแน่” ฉินเฉิงตบพร้อมกับถามเขาออกมา
ดวงตาของเซี่ยเจียงเริ่มเบลอ เขาพยายามพูดออกมาว่า “ฉันกับนายไม่มีความแค้นอะไรกัน ทำไมนายต้องฆ่าฉันด้วย….”
“มีคนต้องการชีวิตของนาย” ฉินเฉิงตอบกลับไป “คนคนนั้นเป็นผู้หญิง นายลองคิดให้ดูๆ ว่าชีวิตนี้ของนายไปทำให้ผู้หญิงต้องเจ็บปวดมาแล้วกี่คน?”
ก่อนหน้าที่จะมาเจอเซี่ยเจียง ฉินเฉิงเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่หลังจากที่ได้มาเห็นแนวทางการฝึกวิชาของเซี่ยเจียงแล้ว ฉินเฉิงเองก็มั่นใจขึ้นมาทันที
หยูเหม่ยเหรินคงจะเคยโดยเขาคนนี้ทำร้ายมาก่อน9
“ฉินเฉิง นายปล่อยฉัน และถือว่าตระกูลเซี่ยของฉันติดหนี้นายหนึ่งครั้ง…” เซี่ยเจียงพูดออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขาเป็นอัจฉริยะที่ยังไม่ได้เฉิดฉาย ตราบใดที่เขายังสามารถพัฒนาได้อย่างมั่นคง เชื่อว่าสักวันเข้าจะต้องได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของโลกอย่างแน่นอน
แต่ถ้าหากวันนี้เขาต้องมาตายที่นี่ แบบนั้นเขาก็จะไม่เหลืออะไรแล้ว!
“ติดหนี้ฉันครั้งหนึ่ง? ฉันจะต้องใช้น้ำใจของตระกูลเซี่ยของนายไปทำอะไร?” ฉินเฉิงยังคงตบไปที่หน้าของเขาต่อไป “ยิ่งไปกว่านั้น การฝึกวิชาของตระกูลเซี่ยของนาย ฉันไม่มีความชอบใจเอาเสียเลย ดังนั้นฉันคิดว่านายตายไปแหละดีแล้ว”
ฉินเฉิงยังคงไม่หยุดมือ “ปัง ปัง ปัง…..!”
ทุกฝ่ามือที่สัมผัสใบหน้าของเซี่ยเจียง ทำให้หัวใจของแฟนของเขาแหลกสลายไปเรื่อยๆ
แต่ในตอนนั้นก็มีคนที่แอบส่งข้อความไปบอกทางบ้านของตระกูลเซี่ยแล้ว
ฉินเฉิงเองก็รู้ว่าเขาไม่สามารถทำให้มันเสียเวลาไปมากกว่านี้ได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเพิ่มความรุนแรงของฝ่ามือที่ตบออกไป
หลังจากเพิ่มพลัง ใบหน้าของเซี่ยเจียงก็เหมือนกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“อาจารย์ ต้องไปแล้ว!” ฉูเป่ยชวนพูดออกมา
ฉินเฉิงมองไปที่ร่างกายของเซี่ยเจียงเขาก็อดไม่ได้ที่จะเสียดาย
นักรบที่แข็งแกร่งระดับนี้ไม่ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ สำหรับฉินเฉิงแล้วมันน่าดึงดูดยิ่งนัก!
เขาลังเลอยู่นาน สุดท้ายเขาก็เดินไปที่หน้าของเซี่ยเจียงและนำมือไปวางไว้บนศีรษะของเขา
“วิชากลืนวิญญาณ!” ฉินเฉิงตะโกนออกมา พลังปราณจากร่างกายของเซี่ยเจียงค่อยๆไหลมาตามมือของฉินเฉิง
“ฟู้วววว!”
ในขณะนี้ การ์ดหยกที่แขวนอยู่บนหน้าอกของเซี่ยเจียงก็สว่างวาบขึ้นมาทันที!
จากนั้นก็เห็นผีแก่ๆลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ
“เจ้าหนุ่ม นายกล้าจริงๆ!” ผีแก่ตะโกนออกมา “วันนี้ถ้าหากแกฆ่าหลายชายของฉัน ฉันจะสับแกให้เป็นหมื่นๆชิ้น!”
ฉินเฉิงเหลือบมองไปที่เขา ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า “เป็นแค่ภาพวิญญาณแท้ๆแต่กลับกล้ามาเรียกฉันแบบนี้?”
พูดจบฉินเฉิงก็ยื่นมือออกไปคว้าผีตนนั้นมาไว้ในมือและบดขยี้ทันที!
“คงต้องปล่อย” จากนั้นฉินเฉิงก็โยนร่างของเซี่ยเจียงลงกับพื้น
ถ้าหากเขาไม่ออกจากที่นี่ตั้งแต่ตอนนี้ เกรงว่าน่าจะออกจากที่นี่ไม่ได้แล้ว
ฉินเฉิงเดินมาหาเซี่ยเจียงและพูดว่า “ไป”
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็หายไปทันที และกลับมาที่ปีนีง
….
เจียงตู ตระกูลเซี่ย
ชายชราคนโกรธมากทุบโต๊ะ ทันใดนั้นพลังที่น่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมไปทั่วคฤหาสน์!
“เจ้าเด็กนั่นกล้าฆ่าหลายชายที่รักของฉัน ฉันจะฆ่าแก! ! !” เสียงตะโกนแหบห้าวกระจายไปทั่วตระกูลเซี่ย
จากนั้นไม่นาน หลังจากที่พวกของฉินเฉิงมาถึงสนานบินก็ได้ข่าวมาทันทีว่าสนามบินถูกปิด
นี่ทำให้ฉูเป่ยชวนหวาดกลัวมาก
“อาจารย์ ผมได้ยินมาว่าตระกูลเซี่ยมีอำนาจมาก ไม่ว่าใครเขาก็ไม่เคยไว้หน้า ท่านไปฆ่าเซี่ยเจียงมา พวกเขาไม่มีทางปล่อยท่านเอาไว้แน่” ฉูเป่ยชวนพูดออกมา
ฉินเฉิงถอนหายใจ “เรื่องนั้นฉันรู้ดี”
ต่อจากนี้พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตแบบหลบซ่อนไปทั่วโลก
ผู้นำของตระกูลเซี่ยก็คือปู่ของเซี่ยเจียง เขามีชื่อว่า เซี่ยฝูชาน และเป็นคนที่มีพลังระดับจอมยุทธ์
หลายปีที่ผ่านมาเขาได้สละตำแหน่งไปแล้ว อำนาจต่างๆของตระกูลเซี่ยได้ตกทอดไปยังรุ่นหลังของเขา และทุกวันเขาก็เอาแต่ฝึกวรยุทธกับเหล่าจอมยุทธ์
ตอนนี้เซี่ยเจียงตายไปแล้ว ทุกคนของตระกูลเซี่ยกำลังนั่งคุยกันอยู่ในห้องประชุม
“ท่านผู้นำ นี่คือศพของคุณชายเซี่ย…” ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งนำศพของเซี่ยเจียงเดินเข้ามา
“หลานรัก หลานรักของฉัน…” ทันทีที่ เซี่ยฝูชานเห็นศพของหลายชายของเขา ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน
เขาพูดออกมาด้วยความโกรธว่า “ฉินเฉิง ฉินเฉิง! ไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลังนาย ฉัน เซี่ยฝูชานคนนี้ไม่มีวันปล่อยนายไปแน่!”
หลังจากนั้น เขาก็ปาดน้ำตาของเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ดูแลศพของเซี่ยเจียงเอาไว้ให้ดี ผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุสสี่ ตามฉันไปที่ปีนัง!”
“ครับ! ทุกคนของตระกูลเซี่ยตะโกนออกมา
……
เมื่อกลับมาถึงปีนังก็เกือบเช้าแล้ว
ฉินเฉิงเดินไปที่ห้องนอนของ ซูวานและจูบเธอเบา ๆ ที่หน้าผาก
ซูวานตื่นขึ้นมาทันที เธอมองไปที่ฉินเฉิงด้วยความงุนงงและพูดว่า “นายกลับมาแล้วเหรอ?”
ฉินเฉิงพยักหน้า และถอยหายใจออกมา “เกรงว่าพวกเราคงจะต้อง….ออกไปจากปีนังแล้ว”
“ออกไปจากปีนัง? จะไปไหน?” ซูวานถาม
ฉินเฉิงส่ายหน้า “ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราอยู่ที่นี่ต่อไปตระกูลเซี่ยต้องตามมาฆ่าพวกเราแน่ๆ”
ตระกูลเซี่ยมีจอมยุทธ์ถึงสี่คน เมื่ออยู่ต่อหน้าจอมยุทธ์ทั้งสี่คน ฉินเฉิงจะไปทำอะไรได้
ซูวานไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น เธอยืนขึ้นและสวมเสื้อผ้า “ไปกันเถอะ”
“ไม่ต้องเก็บของเหรอ?” ฉินเฉิงถาม
ซูวานเหลือบมองที่บ้านอันทรุดโทรมหลังนี้และพูดออกมาว่า “ไม่เป็นไร”
“งั้นคุณรอผมสักครู่” ฉินเฉิงกลับที่ห้องของตัวเอง นำกล่องที่พ่อของเขามอบให้ติดตัว จากนั้นก็พาซูวาน ชายที่มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและฉูเป่ยชวนออกเดินทางทันที