แต่ถึงอย่างนั้นฉินเฉิงก็ยังไม่ตัดใจที่จะฆ่าเซี่ยเจียง
เนื่องจากเขาไปตกลงกับหยูเหม่ยเหรินเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจะต้องทำให้ได้
“อาจารย์ ท่านไม่รู้จริงๆเหรอว่าสายตาที่ผู้หญิงพวกนั้นมองมาที่ผมนั้นมันไม่ปกติ ราวกับว่าเป็นรักแรกพบอย่างไงอย่างงั้น!” ในระหว่างเดินทางกลับฉูเป่ยชวนก็พูดออกมาไม่หยุด
ฉินเฉิงนั่งพิงเบาะรถโดยไม่พูดอะไร ราวกับว่าเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่ฉูเป่ยชวนพูดออกมา
หลังจากที่กลับมาถึงโรงแรม ฉินเฉิงก็เข้านอน
วันรุ่งขึ้น เป็นวันของการจัดงานเทศกาลโคมไฟ
แม่น้ำฉางเซิงไม่ได้อยู่ใกล้ที่พักมากนัก ดังนั้นในตอนเย็นฉินเฉิงจึงนั่งรถไปที่บริเวณแม่น้ำฉางเซิง
เจียงตูเป็นแห่งพื้นน้ำ และแม่น้ำฉางเซิงเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในมณฑลเจียงตูทั้งหมด
ในขณะนี้ท้องถนนและสถานที่เต็มไปด้วยโคมไฟ ชายหญิงมากมายสวมชุดเทศกาลกำลังออกมาถ่ายรูปอยู่บนท้องถนน
“นี่เป็นเมืองโบราณโดยแท้จริง” ฉินเฉิงส่ายหน้าและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
“เจียงตูไม่ได้มีสถานที่โบราณแค่ที่เดียว”
ทิวทัศน์ที่สวยงามควบคู่ไปกับเครื่องนุ่งห่มของผู้คน ราวกับว่าตอนนี้กำลังกลับไปอยู่ในโบราณกาลอีกครั้ง
ฉินเฉิงกับฉูเป่ยชวนกลายเป็นคนแปลกไปเลย
เมืองโบราณแห่งนี้กว้างใหญ่มาก มากจนถึงที่คุณสามารถทำอะไรก็ได้ไม่ว่าจะตะโกน ถ่ายรูป ก็ยังไม่ไปรบกวนผู้อื่น
ฉินเฉิงเริ่มปล่อยญาณแห่งการหยั่งรู้ของเขาไปรอบๆ แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่พบพวกจอมยุทธ์
แบบนี้ก็ดี เขาจะได้สบายใจ ขอแค่ไม่มีพวกจอมยุทธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เขามั่นใจได้ว่าเขาจะต้องสามารถฆ่าเซี่ยเจียงได้แน่
คนที่มาร่วมเทศกาลโคมไฟในครั้งนี้ไม่ค่อยมีคนแข็งแกร่งสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ก็เพื่อที่จะกินดื่ม สังสรรค์ ร้องเพลง และถ่ายรูป
ฉินเฉิงเดินไปรอบๆงานแต่ก็ไม่พบหรือเจอสิ่งที่เขาสนใจ เขาจึงกลับมาอยู่ที่เวทีประลองของแม่น้ำฉางเซิง
ที่ตรงนี้ก็เป็นสถานที่เก่าแก่เช่นกัน วัสดุทั้งหมดทำมาจากไม้ และมีสาวๆหลายคนกำลังยืนถ่ายรูปกันอยู่
“รออยู่ที่นี่แหละ” ฉินเฉิงหาที่นั่งแถวนั้นเพื่อนั่งรอ
ฉูเป่ยชวนเป็นคนที่กระสับกระส่าย เขามองไปที่หญิงสาวจำนวนมากบนเวที หัวใจของเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชุ่มชื่นขึ้น
“เฮ้ คนสวย ขอเบอร์หน่อยได้ไหม?” หลังจากที่เห็นสาวน้อยคนหนึ่งลงมาจากเวที ฉูเป่ยชวนก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
เขาทำท่าทางมั่นใจ ยื่นโทรศัพท์ออกไปและรอคำตอบ
สาวน้อยคนนั้นหันมามองฉูเป่ยชวน กลอกตาและพูดว่า “วันนี้เป็นเทศกาลโคมไฟ แต่นายแต่งตัวแบบนี้มา? แล้วยังจะกล้ามาขอเบอร์ฉันอีก? ฝันไปเถอะ!”
“เอ๋? ชุดผมมันทำไม…” ฉูเป่ยชวนคิดแล้วคิดอีก จากนั้นก็พับแขนเสื้อของตนเองขึ้น ยิ้มและพูดออกมาว่า “เป็นไง? แบบนี้พอได้ไหม?”
จู่ๆหญิงสาวคนนั้นก็หัวเราะออกมา เธอพูดออกมาด้วยว่า “นายนี่มันน่าสนใจดีนะ ฉันมีเพื่อนอีกสองสามคน พวกเราไปสนุกด้วยกันไหม?”
“ได้เลย!” ฉูเป่ยชวนตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล!
ด้วยการที่เขาเป็นคนอารมณ์ขัน เขาทำให้ผู้หญิงหลายคนหัวเราะชอบใจ และบรรยากาศก็กลมกลืนกันมาก
ฉินเฉิงนั่งอยู่ข้างถนน สำรวจบริเวณโดยรอบเพราะกลัวว่าจะพลาด
หลังจากเทศกาลโคมไฟเริ่มต้นขึ้น ดอกไม้ไฟก็ถูกจุดขึ้น แสงสลัวไปเกือบทั่วทั้งเมือง และบรรยากาศก็ถึงจุดไคลแม็กซ์ในทันที
ไม่ไกลจากเขาก็มีคนร้องรำทำเพลง นั่งดื่มกันชิวๆ
ส่วนบนเทวีก็มีคนพบปะกันมากมาย
“อาจารย์” ในตอนนั้นฉูเป่ยชวนก็พาผ็หญิงสองสามคนเดินเข้ามา
ผู้หญิงเหล่านั้นมองมาที่ฉินเฉิง จากนั้นก็พูดออกมาว่า “พี่ชายคนนี้หน้าตาดีไม่เบา อยากจะลองสวมชุดเทศกาลดูหน่อยไหม?”
ฉินเฉิงส่ายหน้า “ฉันไม่สนใจ พวกเธอไปเที่ยวให้สนุกกันเถอะ”
“อาจารย์ของฉันเขาเป็นคนไม่น่าสนใจ พวกเราไปทางโน้นกันเถอะ” ฉูเป่ยชวนพูดออกมา
ผู้หญิงเหล่านั้นพูดออกมาด้วยความผิดหวัง “เห้อ น่าก็น่าเสียดายมากเลย พูดจริงพวกนายก็อายุต่างกันไม่มากเท่าไหร่ นายจะไปเรียกเขาว่าอาจารย์ทำไม?”
“ใช่ ท่านนี้คืออาจารย์ของฉัน เขาเป็นยอดฝีมือ”
“เก่งกว่าเซี่ยเจียงไหม?”
“เซี่ยเจียงนะเหรอ กระจอก!”
“นายอย่ามาดูถูกไอดอลของฉัน!
“….”
เสียงของพวกเขาค่อยๆเบาลงไป และในตอนนั้นเอง จู่ๆก็มีเสียงคลื่นใหม่ดังขึ้นมา
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เซี่ยเจียง เซี่ยเจียงมาแล้ว!”
เด็กผู้หญิงกลุ่มใหญ่วิ่งไปที่ประตูราวกับคนบ้า
ส่วนพวกผู้หญิงที่อยู่กับฉูเป่ยชวนก็วิ่งหนีฉูเป่ยชวนไปและวิ่งเข้าไปหาเซี่ยเจียงด้วยความหมกมุ่น
ในตอนนั้น ฉินเฉิงค่อยๆยืนขึ้นอย่างช้าๆ
สายตาของเขามองผ่านทุกคนไปตกอยู่ที่เซี่ยเจียง
ต้องบอกเลยว่าเซี่ยเจียงคนนี้รูปร่างหน้าตาหล่อเหล่ามากจริงๆ แถมชุดที่เขาสวมมาก็ดูเข้ากันสุดๆ ทำให้คนที่ได้มองแอบคิดไม่ได้เลยว่า เขาคือเทพบุตรที่ลงมาจากสวรรค์
“พี่เซี่ยเจียง ขอลายเซ็นหน่อยได้ไหมคะ?” ผู้หญิงคนหนึ่งรวบรวมความกล้าและพูดออกมา
เซี่ยเจียงยิ้มและพูดออกมา “ได้สิ เซ็นตรงไหนหละ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! เซี่ยเจียงยอมเซ็นให้ฉันแล้ว งั้นเซ็นบนเสื้อผ้าของฉันเลย!” ผู้หญิงคนนั้นพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ฉินเฉิงมองตรงไปที่เซี่ยเจียง จิตสังหารในตัวของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นมา
เซี่ยเจียงคนนี้คงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแน่
กลิ่นอายแห่งความอ่อนโยนที่เผยออกมาจากร่างกายของเขามีเสน่ห์มากจนยากที่จะปฏิเสธ
“คนคนนี้อาจจะฝึกวิชาลับบางอย่าง” ฉินเฉิงพูดออกมาเสียงต่ำๆ “วิธีการฝึกของเขา น่าจะเป็นปัญหา”
เซี่ยเจียงกำลังเซ็นลายเซ็นของตัวเองให้กับเหล่าหญิงสาว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า
ผู้หญิงหลายคนขอทางติดต่อกับเซี่ยเจียง ขอแค่พวกเธอมีใบหน้าที่สวยงาม เซี่ยเจียงก็ยินดีที่จะมอบให้
ส่วนผู้หญิงที่หน้าตาไม่ดีก็จะถูกปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี
ถึงกระนั้น มันก็ยังไม่สามารถหยุดความหมกมุ่นของพวกเธอ
“มีอะไรดีหนักหนา” ฉูเป่ยชวนบ่นออกมา “ไม่เห็นจะมีอะไรดีเลย ทำไมผู้หญิงถึงไปชอบคนอย่างนั้นได้”
ฉินเฉิงเงียบไม่พูดอะไร เขาหรี่ตาลงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“ไม่แปลกเลยว่าทำไมเซี่ยเจียงคนนี้ถึงพัฒนาเร็ว สิ่งเหล่านี้ช่วยในการพัฒนาของเขา จึงทำให้เขาก้าวมาถึงทุกวันนี้ได้” ฉินเฉิงลูบศีรษะของตัวเอง
การฝึกฝนของเซี่ยเจียงนั้นเป็นการฝึกฝนที่ชั่วร้าย โดยอาศัยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของเขา
และตัวช่วยของเขาก็คือ รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขานั่นเอง
การที่มีการเสริมกันแบบนี้จะทำให้สามารถพัฒนาได้เร็วมาก
หลังจากที่เซี่ยเจียงพบปะกับผู้หญิงเหล่านั้นแล้ว เขาก็เดินไปรอบๆเพื่อทักทายผู้คน
และทุกที่ที่เขาผ่านไปนั้นต่างมีแต่คนให้ความสนใจเขา
ฉินเฉิงนั่งอยู่กับที่และยังไม่ได้ขยับไปไหน
“อาจารย์ เมื่อไหร่พวกเราถึงจะไป?” ฉูเป่ยชวนถามพร้อมกับถูมือของเขา
“อีกเดี๋ยว” ฉินเฉิงพูดออกมาว่า “นายจะไปเที่ยวเล่นก่อนก็ได้”
“ครับ” จากนั้นฉูเป่ยชวนก็รีบวิ่งออกไปทันที
“เฮ้…!” ฉูเป่ยชวนวิ่งเข้าไปหากลุ่มผู้หญิงและตะโกนทักทายออกไป
ผู้หญิงเหล่านั้นเหลือบตามามองฉูเป่ยชวนและพูดออกมาว่า “ไม่เห็นหรือไงว่าพี่เซี่ยเจียงกำลังประพันธ์บทกลอนอยู่? นายจะมารบกวนสมาธิเขาทำไม?”
“ชิ มีอะไรดีกันนักกันหนา ฉันเองก็เขียนได้!” ฉูเป่ยชวนบ่นออกมา