ตอนที่ 115 เจ้าอยากมีงานทำไหม (2)
“อู๊ว!”
หมาป่าเห่ารับเหมือนจะบอกให้เฟิงหรูชิงรู้ว่ามันเข้าใจว่าต้องทำอะไร
“เงียบเดี๋ยวนี้!” เฟิงหรูชิงหันไปมองมัน “ถ้าเกิดเสียงเห่าของเจ้าทำให้พวกสัตว์วิเศษตกใจวิ่งหนี ข้าจะให้เจ้าอดเทียนหลิงกั่วสามวัน”
หมาป่าสีขาวตกใจจนต้องรีบหุบปาก สำหรับมันแล้วไม่มีอะไรจะสำคัญไปกว่าผลเทียนหลิงกั่ว
เป็นดังคาด เมื่อสัตว์วิเศษสองตัวนั้นเก็บพลังเอาไว้ ก็มีสัตว์วิเศษอีกตัวโฉบลงมาจากท้องฟ้า
คราวนี้เป็นนกอินทรีตัวหนึ่ง มันเป็นสัตว์วิเศษระดับสองเหมือนกับเสือดาว กรงเล็บอันแหลมคมของมันราวกับกระบี่ยาวพุ่งตรงมาหวังจะตะครุบเฟิงหรูชิง
พอมันเข้าใกล้เฟิงหรูชิง เสือดาวกับหมาป่าสีขาวก็พร้อมใจกันกระโจนเข้าใส่อย่างรวดเร็ว มันใช้ปากงับเท้าของนกอินทรีไว้แน่น
เจ็บ เจ็บโว้ย!
นกอินทรีเจ็บจนน้ำตาเล็ด มันพยายามสะบัดเท้าอย่างสุดแรงเกิด แต่ไม่อาจทำให้สัตว์วิเศษสองตัวนั้นกระเด็นออกไปได้ มันบินไปบนฟ้าอย่างไร้ทิศทาง
ใครบอกมันได้บ้าง มันก็แค่จะจับคนมากินเป็นของว่างเท่านั้น จู่ๆ ก็มีหมาป่ากับเสือดาวโผล่มาได้อย่างไร
เฟิงหรูชิงกวักมือส่งสัญญาณไปยังสัตว์วิเศษทั้งสอง มันงับเท้าของนกอินทรีไว้แน่น ไม่ยอมให้นกอินทรีบินไปไหนได้
นกอินทรีตกใจร้องไห้ มันมองดูหญิงสาวที่เดินเข้ามาหาน้ำตานอง
รอยยิ้มของหญิงสาวทำให้มันเสียวสันหลังวาบ รู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว
หญิงสาวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามัน นางยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้า…อยากมีงานทำไหม”
…
ดวงตะวันกำลังจะลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์สาดส่องทั่วท้องนภา
รอบนอกของป่าสัตว์วิเศษ มีหญิงสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ ด้านหลังของนางยืนล้อมด้วยบรรดาสัตว์วิเศษ
หมาป่าสีขาว เสือดาว นกอินทรี จิ้งจอกแดง แร้งหัวสิงโต หมาไม้ประกายม่วง
ขณะนั้น พื้นพสุธาก็สั่นสะเทือน เมื่อหญิงสาวแหงนหน้าขึ้นมอง ก็เห็นหมีตัวใหญ่ยักษ์กำลังวิ่งมา อาจเป็นเพราะตัวมันใหญ่โตแข็งแรงมาก เลยทำให้พื้นสะเทือนเลือนลั่นไปหมด
“หมีระดับสามแห่งพื้นปฐพี?”
เฟิงหรูชิงหยีตา รอบนอกแบบนี้มีสัตว์วิเศษระดับสามด้วยหรือ แบบนี้มัน…กำไรแบบไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย
หมีระดับสามแห่งพื้นปฐพีตัวนี้ คงเป็นเจ้าถิ่นของป่าสัตว์วิเศษรอบนอก
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงรอบนอกของป่าเท่านั้น ถ้าเข้าไปด้านในความสามารถของหมีแห่งพื้นปฐพีคงต้องชิดซ้าย
คราวนี้ ไม่ต้องรอให้เฟิงหรูชิงเอ่ยปาก หมาป่าสีขาวกับเสือดาวก็ลุยไปก่อน
เพราะเฟิงหรูชิงไม่เข้าใจภาษาของสัตว์ ฟังไม่รู้เรื่องว่าพวกมันคุยกับหมีแห่งพื้นปฐพีว่าอะไร แต่ก็พอเดาความหมายได้บ้าง
เจ้า…อยากมีงานทำไหม
ไม่นาน หมีแห่งพื้นปฐพีที่โอบอ้อมอารีก็หายหงุดหงิด มันเดินตามหมาป่าสีขาวมาหาเฟิงหรูชิงด้วยท่าทีเชื่องๆ
“ว่าแล้ว ถ้าจะหาสัตว์วิเศษไปทำงานให้ ก็ต้องมาที่ป่าสัตว์วิเศษด้วยตัวเอง แบบนี้ประหยัดเงินได้มากเชียวล่ะ”
เฟิงหรูชิงหน้าตายิ้มแย้ม เพราะสัตว์วิเศษระดับสามตัวหนึ่งถือเป็นของมีค่าที่สุดในโรงค้าสัตว์ เห็นได้ชัดว่ามันมีค่ามากแค่ไหน
หมาป่าสีขาวเอาหัวมาชนๆ ที่ขาเฟิงหรูชิง ราวกับกำลังบอกนางว่า อย่าลืมรางวัลของมันล่ะ
“เจ้าหมาป่า เห็นแก่ที่เจ้าพยายามช่วยงานข้าวันนี้ ข้าจะงดโทษให้เจ้า” เฟิงหรูชิงยิ้มและลูบหัวหมาป่าสีขาว
หมาป่าสีขาวอึ้ง แล้วรางวัลของมันล่ะ
มันอุตส่าห์โฆษณาอย่างเต็มที่ ไม่มีรางวัลให้เลยเหรือ
“แต่ถ้าเจ้าทำสัญญากับข้าล่ะก็…” เฟิงหรูชิงหยีตา “ข้าจะให้เจ้ากินผลเทียนหลิงกั่วมากกว่าแต่ก่อนทุกวันเลย”
หมาป่าสีขาวเห่าด้วยความดีใจ
ทำสัญญา ทำสัญญาตอนนี้เลย! เร็วๆ!
เฟิงหรูชิงมองเห็นหมาป่าสีขาวท่าทางดีใจ นางยิ้มใหญ่ “ไป พวกเรากลับกันเถอะ กลับถึงจวนแล้วข้าจะได้แบ่งงานให้พวกเจ้า”
……………………………..
ตอนที่ 116 สัตว์วิเศษบุกตีเมืองหลวง? (1)
องค์หญิงเฟิงหรูชิงหายตัวไป! ข่าวนี้แพร่สะพัดไปทั่วแคว้นหลิวอวิ๋นราวกับลมพายุ
หลังจากช่วงเช้าตรู่ที่องค์หญิงพาหมาป่าสีขาวออกจากจวนองค์หญิงไป ก็ไม่มีใครพบร่องรอย!
ทหารยามที่เฝ้าประตูเมืองเข้าใจว่าองค์หญิงคงจะออกไปเดินเล่นเลยไม่ได้ขวางไว้ ดังนั้นพวกเขาเลยคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงจะไล่พวกองครักษ์มืดไป แล้วหนีออกไปเพียงลำพัง
ตั้งแต่ออกไป ตลอดวันทั้งวัน จนบัดนี้อาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วก็ยังไม่กลับมา
เวลานี้ ตามท้องถนนที่ผู้คนคับคั่ง มีกองกำลังทหารรักษาเมืองเคลื่อนผ่านมาอย่างรวดเร็ว พวกพ่อค้าแม่ค้าตกใจหลบอยู่ตามหลืบ ตัวสั่น ไม่พูดไม่จา
พวกเขาคาดคะเนได้ว่าหากองค์หญิงหายตัวไปจริงๆ เมืองหลวงนี้…คงตกอยู่ในความวุ่นวาย
“องค์หญิงพาหมาป่าสีขาวระดับสามออกไปจริงๆ เหรอ”
ที่ริมถนน มู่ชิงเอ๋อร์มองดูกองกำลังทหารเคลื่อนผ่านไปอย่างอึ้งๆ นางรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน การหายตัวไปขององค์หญิงคงเป็นเรื่องดีสำหรับพวกนาง เพราะต่อไปไม่จำเป็นต้องระวังตัวเวลาออกจากบ้าน หากต้องเจอกับอันธพาลผู้นี้
แต่ว่า…
จากการพบกันเมื่อสองครั้งที่ผ่านมา นางก็เข้าใจว่าองค์หญิงไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป!
“องค์หญิงไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว นางไม่มีทางบุ่มบ่ามพาหมาป่าสีขาวออกไปโดยไม่คิดให้ดีก่อน”
เจาหยางถอนหายใจ แม้เขาจะปลอบใจตัวเองแบบเดียวกัน แต่ความจริงแล้วเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าการที่องค์หญิงอยู่กับหมาป่าสีขาวเพียงลำพัง จะรอดพ้นเขี้ยวเล็บของมันได้
แถมยังเป็นหมาป่าสีขาวระดับสามที่ยังไม่เคยถูกฝึกมาก่อนด้วย
ขณะที่มู่ชิงเอ๋อร์กำลังจะพูดต่อนั้น หลินเยว่อิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ รีบดึงชายแขนเสื้อของนาง ส่งสัญญาณให้นางหยุดพูด มู่ชิงเอ๋อร์งุนงง ระหว่างที่นางเงยหน้าขึ้น ก็พบกับใบหน้างดงามที่คุ้นเคย
หญิงสาวเดินนวยนาด เอวบางดูสะโอดสะอง ในมือของนางถือพัดขนนกเล่มหนึ่งป้องปากที่กำลังยิ้มเอาไว้
“พวกเจ้ารอท่านพี่ข้าอยู่หรือไม่” เฟิงหรูซวงยิ้มแต่เพราะใช้พัดบังเอาไว้จึงไม่มีคนเห็น “ท่านพี่นี่จริงๆ เลยนะ ข้าเตือนท่านพี่ตั้งนานแล้ว สัตว์วิเศษระดับสามนิสัยดุร้ายท่านพี่ไม่เชื่อจะเอามาเป็นเจ้าของให้ได้”
มู่ชิงเอ๋อร์เม้มปากไม่พูดไม่จา
คนอื่นๆ ต่างเงียบ และมองดูหญิงสาวเดินนวยนาดเข้ามา
“เดิมมียอดฝีมือจากวังหลวงคอยคุ้มกันอยู่ท่านพี่ต้องปลอดภัย ใครจะคิดว่าท่านพี่ข้ามั่นใจในตัวเองเกินไป ท่านพี่เคยบอกกับข้าว่า ท่านพี่กำราบหมาป่าสีขาวตัวนั้นได้ ก็เลยไล่พวกยอดฝีมือนั้นไป ดูท่าท่านพี่ข้า…คงกลับมาไม่ได้แล้วล่ะคราวนี้”
เฟิงหรูซวงน้ำเสียงเศร้าเสียใจ ทำตาปริบๆ น้ำตาเล็ดออกมา ใบหน้าอันงดงามของช่างดูน่าสงสาร
ถ้าครั้งนี้เหตุการณ์ไม่ร้ายแรงเกินไป บางทีคนที่อยู่ตรงนั้นอาจเชื่อไปแล้วว่าเฟิงหรูซวงเป็นห่วงเฟิงหรูชิงจริงๆ
“องค์หญิงรอง” เจาหยางก้มหน้า “ท่านรู้ไหมว่าคุณชายน่าหลานจิ้งแห่งจวนแม่ทัพจะคลุ้มคลั่งตายอยู่แล้ว ตอนนี้ในของจวนแม่ทัพทั้งหมดต่างออกตามหาองค์หญิงใหญ่”
เฟิงหรูซวงอึ้ง น้ำเสียงอ่อนโยนของมีความกังวลอยู่มากมาย
“การหายตัวไปของท่านพี่ข้า ข้าต้องร้อนใจเป็นธรรมดา แต่เมื่อก่อนข้าเคยเตือนท่านพี่หลายต่อหลายครั้งแล้ว ท่านพี่ไม่เชื่อข้า ข้าจะทำอะไรได้”
“ร้อนใจ?”
เจาหยางหัวเราะเหน็บแนม “หากองค์หญิงรองร้อนใจจริงๆ จะมาพูดจาไร้สาระอยู่ตรงนี้ทำไม ปกติท่านบอกว่าท่านสนิทกับองค์หญิงใหญ่เหลือเกิน แถมยังเป็นห่วงมาก ตอนนี้องค์หญิงใหญ่หายตัวไป ท่านควรจะรีบออกตามหาไม่ใช่หรือเอาเวลาจากไหนมาคุยกับพวกเรา”
……………………………………