บทที่ 27 – ฉันได้ยินเสียงของคุณ (4)
(ขอแก้ฉายาพระเอกจากมงกุฏราชกุมารเป็นรัชทายาท,เจ้าชาย, อะไรทำนองนี้แทนนะครับ)
เธอไม่ได้ร้องไห้ แม้ว่าเมื่อประเทศของเธอจะพังพินาศ แม้ว่าเมื่อทวีปของเธอพังทลาย แม้ว่าเมื่อน้องสาวของเธอถูกลากไปโดยเดม่อนลอร์ด แม้ว่าเมื่อจักพรรดิและจักพรรดินีจะฆ่าตัวตายไปก็ตาม
ในฐานะรัชทายาทคนสุดท้ายและสมาชิกคนสุดท้ายของอาณาจักรที่เหลือรอดอยู่ เธอได้ยืนหยัดไปจนถึงจุดจบ
[ฉันจะกลับมาทวงสิ่งที่เป็นของฉันคืน]
[เจ้าหญิงที่น่ารักของฉัน ความอับอายที่เธอได้หนีไปจากฉัน ฉันจะรอวันที่จะได้เห็นเธออีกครั้ง]
เดม่อนลอร์ดได้กระซิบกับหญิงสาวคนหนึ่งในอ้อมกอดของฉันด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็หันมามองฉันละพูดออกมา
[ฮีโร่ผู้กอบกู้ สำหรับเหตุผลที่นายมาที่โลกใบนี้เพราะอะไร?]
[อา แกนี้ดูท่าจะมีอาการบ้านะ ฉันมาอยู่ที่นี่เพื่อที่จะช่วยเพื่อนของฉัน]
[…เหตุผลที่ฉันไม่ฆ่านายในตอนนี้คือ-]
[เพราะแกไม่สามารถจะทำมันได้ไง งี่เง่า ฉันกำลังจะไปแล้ว ครั้งต่อไปที่ฉันเห็นแก สิ่งแรกที่ฉันจะทำก็คือการต่อยไปที่หน้าของแก กลับ!]
[ยโสอะไรอย่างนี้เจ้ามนุษย์]
เมื่อฉันตะโกน สภาพแวดล้อมโดยรอบของฉันก็ส่องแสงและประตูก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ฉันได้เปิดประตูและชูนิ้วกลางให้กับเจ้าเดม่อนลอร์ดผู้ที่กำลังพยายามมองดูอยู่
[ถ้าแกไม่ชอบมัน ทำไมแกไม่มาหาฉันที่โลกหละ?]
****
“…อีกแล้ว”
มันเป็นเช้าที่ไม่น่าพึงประสงค์ มันเป็นเพราะว่าฉันไม่สามารถจะขยับอะไรได้เลย
ร่างกายของฉันรู้สึกแปลกๆ และฉันก็ปวดหัวราวกับมันจะแตกออก ฉันจึงนั่งลงไขว้ขาบนเตียงและเริ่มโคจรวงจรเพรูต้า เมื่อใดก็ตามที่ฉันรู้สึกว่าร่างกายไม่สมดุล เพรูต้ามักจะบอกให้ฉันใช้วงจรเพรูต้าเพื่อปรับสมดุล
มานะซึ่งได้ไหลเวียนอยู่กับร่างกายของฉันมันเป็นศูนย์กลางที่มีความรุนแรงมาก แต่ในเวลาเดียวกันมันก็มีความบริสุทธิ์และมีชีวิตชีวาในการเคลื่อนไหว เมื่อฉันได้เริ่มหมุนเวียนพกมัน พวกมันก็ขยับตามฉัน
การหมุนเวียนมานาในตัวและรับมานาจากภายนอก ฉันจะสามารถคายสิ่งสกปรกที่สะสมไว้ภายในตัวฉันได้
[กรี๊ดดด เจ้าชายเท่ที่สุด]
[มานานั่นมันสว่างมาก ฉันได้ถูกดูดเข้าไป ~]
[ใครก็ได้จับเธอไว้]
ฉันได้สะบัดหัวและลุกขึ้นยืดตัว วันนี้มันเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ดังนั้นฉันจึงมุ่งหน้ามายังดันเจี้ยนหลังจากอาหารเช้า มันเป็นวันที่ฉันจะท้าทายเจ้ามนุษย์หนูทมิฬด้วยคนเพียงสองคน ซึ่งคู่หูของฉันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชินะ
“เธอแน่ใจนะ? เธอทิ้งสมาชิกปาตี้เอาไว้มันจะดีหรอ? นอกจากนี้มันยังอันตรายอีกนะ”
“มันไม่เป็นไร พวกเรากำลังทำอะไรกันเล็กๆบนชั้นที่ 17 บวกกับในตอนนี้สมาชิกทุกคนในปาตึ้ยุ่งๆอยู่”
ชินะได้ตอบออกมาราวกับว่าเธอได้เตรียมไว้ก่อนแล้ว บนมือของเธอข้างหนึ่งถือโล่กลมและอีกข้างถือดาบยาวเอาไว้ ตามที่คาดอุปกรณ์ของเธอนั่นดูดีตามฉบับหัวหน้าปาตี้
วันนี้เธอจะเป็นแท้งให้ฉัน เธอมีเสถียรภาพและมีเซนส์ในการหลบทักษะของมนุษย์หนูทมิฬ เธอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคู่หู
“ตามตรงนะฉันกังวลเล็กน้อย แต่ฉันรู้ว่ามันจะไม่เป็นอะไรถ้าฉันอยู่กับคุณพี่ชาย”
“ใช่แล้ว อย่างที่ฉันพูดเธอจะต้องห่างจากมนุษย์หนูอยู่เล็กน้อยเสมอนะ”
“เข้าใจแล้ว ฉันจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี”
การส่งข้อความกันของพวกเรามีมาหลายครั้งจนพวกเราใกล้ชิดกันพอที่จะเรียกฉันว่าพี่ชาย เธอก็ปกติแล้วจะดูเป็นผู้ใหญ๋ แต่เธอก็รู้วิธีในการปฏิบัติตัวอย่างไรและทำให้สนิทสนมกันได้อย่างไร เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมา แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นมันก็แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คู่แข่งของยุยของฉันเลย
ด้วยการต่อสู้กับบอสข้างหน้าเขา เธอได้สวมเสื้อคลุมกันสายฟ้า ฉันก็ได้สวมใส่เซ็ตของราชินีวิญญาณเช่นกัน
ถึงแม้ว่าทักษะวอคลายมันจะเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่ถ้าหากว่าฉันเพิกเฉยในการโจมตีของมนุษย์หนูทมิฬการโจมเพียงแค่ครั้งเดียวของมันก็ฆ่าฉันได้เลย ดังนั้นทักษะนี้มันจึงไม่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการต่อสู้กับมนุษย์หนูทมิฬ
เสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาทมันจะทำให้เกิดความสับสนและความหวาดกลัวแก่ศัตรูรอบๆดังนั้น ฉันจะสามารถจะจัดการกับลูกน้องของมันได้ในตอนที่มนุษย์หนูทมิฬกำลังตกอยู่ในผลของทักษะ
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ฉันจะสู้กับมนุษย์หนูทมิฬฉันจะถอดเซ็ตของออร์คลอร์ดออกและเปลื่ยนมาใส่เซ็ตของราชินีวิญญาณ แม้ว่าฉันจะรู้สึกอึดอัดใจแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ฉันก็ยังอดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวต่อความสว่างของชุดเซ็ตนี้
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าชินะจะมองชุดเซ็ตนี้คนละแบบกันฉัน
“ว้าว คุณดูเท่มากเลยพี่ชาย”
“อะ อืมม?”
“ฮุฮุ มันไปได้ดีเลยกับใบหน้าที่หล่อเหลาของพี่ชาย มันเหมือนกับเชื้อพระวงศ์เลย”
“ชะ เชื้อพระวงศ์…เธอนี้มันชมฉันมากไปแล้วนะ”
ด้วยการที่ฉันถูกเรียกว่าองค์รัชทายาทมันได้ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีถ้าฉันสับสนในตัวเองเกี่ยวกับเชื้อพระวงศ์ ด้วยรอยยิ้มอันขมขืนฉันได้กอดง้าวของออร์คลอร์ดเอาไว้
“เอาหละ เธอสามารถจะชมฉันได้หลังจากต่อสู้แล้ว”
“เข้าใจแล้ว! ไปกันเถอะ”
พวกเราได้ยืนเคียงกันและเตะประตูให้เปิดออก ภายในนั้นมีมนุษย์หนู 40 ตัวและมนุษย์หนูทมิฬอีกหนึ่งตัวตามที่เคยเข้ามาปกติ
ฉันได้ตะโกนออกมาในทันที
“มาสู้กับฉัน!!!”
[คุณได้ใช้ทักษะ ‘กระตุ้น’ คุณได้รับความสนใจจากศัตรูใกล้ๆ]
“ฆ่ามัน”
“ฆ่ามนุษย์นั่น”
พวกมันดูเหมือนจะได้รับความรู้สึกไม่พอใจอย่างมากพวกมนุษย์หนูมันได้วิ่งกรูกันมาในขณะที่ฉันได้ถือหอกแน่นและเตรียมพร้อมที่จะใช้ฮีโรอิค สไตรค์ ฉันได้ตะโกนบอกกับชินะ
“ดึงมนุษย์หนูทมิฬไว้ที”
“โอเค”
มนุษย์หนูทมิฬมันได้วิ่งตามพวกมนุษย์หนูมาทางฉันเช่นกัน และชินะก็ได้วิ่งเข้าไปหามันเพื่อดึงความสนใจเอาไว้ แน่นอนว่านั่นก็เพียงพอที่จะทำให้มันเปลื่ยนเป้าหมายได้
ด้วยเหตุผลบางอย่างนั่นมนุษย์หนูจะมีพลังป้องกันที่ต่ำเมื่อนำไปเทียบกับพลังโจมตีของมัน การป้องกันทางจิตใจของมันก็เช่นกัน มันเห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกกระตุ้นได้ง่ายๆด้วยระดับทักษะกระตุ้นที่อยู่ในระดับที่ต่ำ ฉันได้เปลื่ยนวิธีจับหอกและเล็งไปในจุดที่พวกมันรวมกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และโจมตีออกไป
“ฮีโรอิค สไตรค์”
ด้วยแสงสีขาวหอกของฉันได้พุ่งไปข้างหน้าและฆ่าพวกมนุษย์หนูไปนับสิบกว่าตัวในเส้นทาง จากนั้นฉันก็บรรจุมานาลงไปในหอกและเริ่มแทงไปที่คอของตัวอื่นๆที่ยังไม่ตาย
“ฮึบบบ”
ในขณะที่ต่อสู้ฉันก็จะใช้ทักษะกระตุ้นไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครไปหาชินะ ด้วยการแทงไปที่คอของพวกมันทีละตัวมันทำให้ฉันแน่ใจว่าพวกมันตายแล้ว
“กรี๊ด มันใช่ทักษะแล้ว!”
“เสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาท”
[กรี๊ดดดดดดดดดดดดด]
แม้ว่าฉันจะต้องการที่จะเก็บมันเอาไว้เพราะว่าใช้ได้เพียงวันละครั้ง แต่ชินะก็โดนโจมตีด้วยสายฟ้า เธอสามารถจะหลบมันออกมาได้หากเธอหลบออกมาตั้งแต่แรก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตายถ้าเธอถูกมัน เว้นเสียแต่ว่าฉันจะใช้ทักษะเสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาท
[คุณได้ใช้ทักษะเสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาท! ศัตรูทั้งหมดตกอยู่ในความสับสน! ศัตรูทั้งหมดตกอยู่ในความหวาดกลัว]
“กี้ๆ มนุษย์มันมีมากเกินไป!”
“กลัว ความมืดมันน่ากลัว!”
รอบๆตัวฉันได้กลายเป็นวุ่นวาย บางส่วนของพวกมนุษย์หนูมันได้เริ่มต่อสูกันเอง ในขณะที่บางตัวก็ล้มลงไปและสั่นด้วยความกลัว มนุษย์หนูทมิฬก็ได้ยกเลิกทักษะไปและกำลังจะต่อสู้กับพวกมนุษย์หนูที่อยู่ใกล้ๆด้วยดวงตาสีแดง
“พวกเราไม่มีเวลามากนัก รีบทำดาเมจให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้”
ฉันได้ตะโกนออกไปในขณะที่จัดการกับพวกมนุษย์หนูด้วยเท็มเพรส ชินะก็ดูเหมือนจะหายจากอากาศอัมพาตนี่คงจะต้องขอบคุณในชุดคลุมกันสายฟ้าของเธอ ขณะเดียวกันเธอก็หายใจและรวบรวมมานาลงมาบนดาบ มานาของเธอนั่นมันมีสีเดียวเหมือนกับตาของเธอ
“เอานี้ไปซะ! การทะลวงของแตน”
“เคี๊ยกกก!”
ในขณะที่ชินิกำลังโจมตีมนุษย์หนูทมิฬที่กำลังสับสน ฉันก็ยังคงจัดการกับพวกลูกร้องของมัน ด้ว้ยการที่พวกมันต่อสู้กันและสั่นด้วยความกลัว พวกมันนั้นไร้ซึ่งการป้องกันโดยสมบูรณ์ เมื่อฉันฆ่ามนุษย์หนูตัวสุดท้าย ผลของทักษะของฉันก็หมดลงและมนุษย์หนูทมิฬก็กลับมาใช้ทักษะอีกครั้ง
“กี้ๆๆ ฉันจะเผาพวกแกจนกว่าพวกแกจะเกรียม”
“ฉันคิดว่านั่นหมายถึงแกนั่นแหละที่จะถูกเผา ไอโง่”
[มนุษย์หนูทมิฬได้ใช้ทักษะระเบิดสายฟ้าทมิฬ]
มันมาแล้ว ในขณะที่สายฟ้าสีดำได้ระเบิดออกมาจากร่างของมัน ชินะกับฉันก็ได้กระโดดถอยกลับ แน่นอนว่าพวกเราหลบมันได้
“คู้ก๊าก๊าก๊า!”
มนุษย์หนูทมิฬมันก็ยังคงปล่อยสายฟ้าออกมาอย่างต่อเนื่องด้วยความบ้าคลั่ง แน่นอนว่าพวกเราไม่สามารถจะทำอะไรได้อีกนอกจากมองดูอยู่ห่างๆ ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นลงไปและเตรียมใช้ทักษะฮีโรอิค สไตรค์ในขณะที่ชินะก็ดื่มมานาโพชั่นลงไป
“ฟู่ นี่มันเป็นเรื่องยาก พี่ชายสู้แบบนี้เป็นประจำหรอ?”
“ใช่แล้ว เอาหละ…มันกำลังจะมา”
“คู๊ก๊าก๊า มนุษย์!”
“กินนี่ไปซะ”
เมื่อฉันเห็นว่ามันกำลังพวกเขามาหาพวกเราในตอนที่ทักษะหมดลง ฉันก็ได้โยนหอกออกไป เมื่อฉันรู้สึกถึงพลังงานที่อยู่บนหอก ฉันก็รู้สึกพอใจมากๆ ในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกว่าหอกของฉันจะต้องโดนมันถูกจุดอ่อนแน่นอน
[ติดคริติคอล]
“คู๊ก๊าก๊า”
ง้าวของออร์คลอร์ดได้เจาะเข้าที่อกของมันและทะลุออกมาจากด้านหลังดอกมันเอาไว้ติดกับกำแพง เลือดของมันได้ไหลออกมาจากหน้าอกในขณะที่ค่อยๆไหลลงพื้น เขาจะต้องตายหรือไม่ก็กำลังจะตายแล้ว
“สะ สุดยอด เพื่อที่จะทะลุการป้องกันบอสของชั้น อา…”
“ชินะ! เร็วเข้า!”
“อา! ค่ะ”
“ชินะและฉันได้เข้าไปหามนุษย์หนูทมิฬ แม้ว่าตัวมันเองจะยังไม่เต็มใจที่จะตายก็ตาม ฉันและชินะก็ได้โจมตีมันไปอย่างง่ายๆเพื่อฆ่ามัน
“ฮึบบบ! ตาย!”
“อี้!”
“กะ กี้!”
เสียงร้องสุดท้ายของมันได้ดังออกมาก่อนที่จะตาย พวกเราได้ทำสำเร็จแล้ว
[คุณได้กินคริสตัลสายฟ้า ความต้านทานสายฟ้าของคุณเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ความสัมพันธ์ของสายฟ้าของคุณเพิ่มขึ้น พลังเวทย์ของคุณเพิ่มขึ้น 5 และดูเหมือนว่าการกินมากกว่านี้ก็จะไม่ส่งผลใดๆ]
“โอ้”
ฉันได้เสร็จสิ้นการกินคริสตัลสายฟ้าจนถึงขีดจำกัดได้เร็วกว่าที่ฉันได้คาดเอาไว้ มันไม่น่าแปลกใจเลยที่มันจะเพิ่มพลังเวทย์ของฉันขึ้น 5 ขณะที่ฉันกำลังจะตรวจสอบสเตตัสด้วยความพอใจ ชินะผู้ที่ซึ่งได้รับรองเท้าหนังของมนุษย์หนูทมิฬมาได้มองมาที่ฉันด้วยท่าทางเชิงขอโทษ
“มันจะโอเคจริงๆหรอพี่ชาย? ฉันได้ยินว่ามารองเท้าหนังมันเป็นชิ้นส่วนที่หาได้ยาก”
“ฉันมีมันแล้ว ฉันต้องการอีกแค่สองชิ้นเท่านั้นถึงจะครบเซ็ต”
“สะ สุดยอด!”
หนึ่งในนั้นมันก็มาจากการล่ามนุษย์หนูทมิฬเพียงลำพัง ดังนั้นจริงๆแล้วฉันจึงขาดอีกแค่ชิ้นเดียวเท่านั้น เมื่อฉันได้รับอีกชิ้นนี้..ฉันก็จะโซโลกับมนุษย์หนูทมิฬ ฉันยังไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่ว่าฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่น
“โชคดีนะคะพี่ชาย! แม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจว่าพี่กำลังทำอะไร ฉันก็รู้ว่าพี่สามารถจะทำมันได้ทุกสิ่ง”
“ฮ่าๆ เธอกำลังจะพยายามให้กำลังใจฉันงั้นหรอ? ขอบใจมากนะ”
“โทรหาฉันนะถ้าพี่ต้องการฉันอีก ฉันนั้นพร้อมเสมอ”
“เอาหละ ไว้เจอกันคราวหลังนะ”
ฉันได้บอกลากับชินที่กำลังทำท่าทางน่ารัก
‘เอาล่ะ ฉันจะต้องได้รับชิ้นส่วนสุดท้ายของเซ็ตมนุษย์หนูทมิฬในตอนท้ายของวันนี้ ถ้างั้นฉันจะมาต่อสู้แบบเดี่ยวๆกับมันในวันพรุ่งนี้’
ฉันได้บ่นออกมาเพื่อที่จะบรรเทาความตรึงเครียดของตัวเอง