ตอนที่ 513 ทำหม้อไฟ
“ไม่เพคะ หม่อมฉันชอบมาก ไทเฮาไม่ต้องทรงลำบากเพคะ” อวี้อาเหราปฏิเสธทันที เมื่ออยู่ในสายตาของทุกคน นางจำต้องชิมเนื้อปลา ก็ถือว่าไม่แย่นัก แต่รู้สึกว่าจืดไปหน่อย ไม่มีรสของพริกเลยแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะปรุงตามรสชาติที่ไทเฮาชื่นชอบ เนื่องจากคนมีอายุ คงไม่อาจทานอาหารที่มีรสเผ็ดได้ และอาหารของไทเฮาคงมีการปรุงรสพิเศษ เพื่อให้ดีต่อสุขภาพ
เพราะอย่างนั้น อาหารชนิดนี้จึงแทบไม่มีรสชาติเลย
จวินไหวโหรวเห็นท่าทีลังเลของนางแล้วก็พูดว่า “คุณหนูรองคงจะไม่คุ้นเคยกับอาหารรสชาติจืดชืดกระมัง?”
“อย่างนั้นหรือ เราจะสั่งให้คนปรุงอาหารที่เจ้าชอบก็แล้วกัน” ไทเฮาได้ยินดังนั้น ก็เคร่งเครียดขึ้นมาในทันที
อวี้อาเหรารีบส่ายหน้าทันที “ไทเฮาไม่ต้องวุ่นวายหรอกเพคะ แม้ว่าจะจืดชืดไปหน่อย แต่รสชาติดีมาก อาเหราชอบเพคะ แต่ไทเฮาทรงเสวยอาหารรสจืดเช่นนี้ทุกวันเลยหรือเพคะ”
“อืม ทำไมหรือ” ไทเฮาพยักหน้า แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัยอีกครั้ง
อวี้อาเหราจึงอธิบายว่า “รสจืดก็ดีเพคะ เสวยมากๆ จะดีต่อพระพลามัย แต่หากเสวยอาหารรสจืดทุกวันเช่นนี้จะไม่ค่อยมีแรง คงต้องเสวยพริกให้ได้รสชาติบ้าง แต่ไม่ทราบว่าไทเฮาจะทรงโปรดหรือไม่”
“รสเผ็ดหรือ?” ไทเฮากล่าวขึ้นมา จากนั้นก็กดเสียงให้ต่ำลง “เราก็อยากกิน แต่หมอหลวงบอกว่าไม่ควร…”
“ไม่ควรอย่างไรเพคะ ก่อนหน้านี้หม่อมฉันก็ยังเคยเห็นคนอายุเจ็ดสิบแปดสิบปีกินอยู่ทุกวัน ร่างกายก็แข็งแรงดี แน่นอนว่าพระวรกายของไทเฮานั้นย่อมมีคุณค่ากว่าพวกเขามาก แต่การเสวยอาหารรสเผ็ดนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายนะเพคะ” อวี้อาเหราอธิบายอย่างละเอียด
ไทเฮาพูดขึ้นอย่างสนใจ “เช่นนั้นก็ดี ให้ห้องเครื่องทำอาหารรสเผ็ดมาหน่อย”
“หากจะทำตอนนี้ก็เกรงว่าไทเฮาจะทรงหิวแย่ คงต้องใช้เวลานาน หากไทเฮาจะไม่ทรงว่าอะไร อาเหราก็พอจะมีวิธี ไทเฮาอาจจะยังไม่เคยเสวยมาก่อน และยังทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะสามารถต้มไปได้ในระหว่างที่เสวยเพคะ” อวี้อาเหราว่า แล้วก็อดไม่ได้ที่จะน้ำลายไหล
ไทเฮารู้สึกแปลกใจ “ต้มไปด้วยกินไปด้วยหรือ? น่าสนุกยิ่งนัก แม้แต่เราก็ยังไม่เคยทานมาก่อนเลย”
“สิ่งนี้เรียกว่าหม้อไฟเพคะ ไทเฮาทรงเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่เพคะ” อวี้อาเหรากล่าว
“หม้อไฟหรือ” สีหน้าของไทเฮาแสดงให้เห็นถึงความใคร่รู้
ไม่เพียงแค่ไทเฮาเท่านั้น แต่ทุกคนที่อยู่ที่นั่นไม่เคยมีใครได้ยินชื่อหม้อไฟมาก่อนเลย
แม้แต่จวินฉางอวิ๋นเองก็ยังรู้สึกสนใจ จึงทอดสายตามองนาง
อวี้อาเหรามองไปยังใบหน้าของทุกคน แล้วก็รีบถอนสายตาออก ก่อนพยักหน้าไปทางไทเฮา “ใช่เพคะ คือหม้อไฟ หากไทเฮาทรงเชื่อในตัวอาเหรา ก็ให้หม่อมฉันทำถวายให้ลองชิมเถิดเพคะ ใช้เวลเท่ากับการต้มชาให้ร้อนสักกาก็ใช้ได้แล้ว”
ไทเฮาลังเล นางรู้สึกสนใจในคำว่าหม้อไฟที่ออกมาจากปากของอวี้อาเหรา
อีกอย่าง ใช้เวลาเพียงชั่วต้มน้ำชาเดือดเท่านั้นเองหรือ? จะเป็นไปได้ได้อย่างไรกัน
ทว่าจวินเสวียนจีชะงัก “ไทเฮา คิดว่าคงไม่เหมาะเท่าใดนัก ก่อนหน้านี้คุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องยังต้องร่ำเรียนศิลปะสำหรับสตรีอีก เวลาคงไม่พอ แล้วอีกอย่าง ใช้เวลาเพียงชั่วต้มน้ำชาเดือด จะทำอาหารได้อย่างไร นอกจากผัดผักเท่านั้นที่น่าจะพอไหว”
“ไม่ใช่ผัดผักแน่นอน” อวี้อาเหราโต้กลับ แล้วเอ่ยกับไทเฮา “ไทเฮาอยากเสวยอะไร อาเหราก็จะทำถวาย อย่างมากก็ใช้เวลาเพียงเท่ากับการต้มชาจนสุกเท่านั้นเพคะ”
“อยากกินอะไรก็จะทำให้หรือ” ไทเฮาแปลกพระทัย แม้แต่พ่อครัวที่ดีที่สุดในโลกก็ยังไม่กล้าที่จะพูดว่าจะทำอาหารออกมาได้เพียงในระยะเวลาสั้นๆ เท่านี้ เพราะต้องรักษารสชาติเอาไว้ จะเป็นไปได้อย่างไร?
ตอนที่ 514 ลงโทษอย่างไร
อวี้อาเหรามั่นใจเต็มเปี่ยม “ใช่แล้วเพคะไทเฮา ขอเพียงพระองค์อยากเสวยสิ่งใด ก็ให้นางกำนัลเขียนมาแล้วนำมาให้อาเหรา ก็ทำได้แล้ว หากภายในชั่วต้มชาเดือดยังทำไม่เสร็จ ก็ขอให้ไทเฮาลงโทษเสียเถิดเพคะ”
ไทเฮายังคงลังเล จะเป็นไปได้อย่างไร ที่คนจะทำอาหารเสร็จภายในช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป ช่างน่าหัวเราะนักเชียว
อวี้อาเหราเห็นว่านางยังคงไม่เชื่อ ดังนั้นจึงหันไปทางที่ทุกคนยืนอยู่ “ไทเฮา องค์รัชทายาท องค์หญิงเสวียนจี และองค์หญิงไหวโหรว ขอเชิญพระองค์เขียนในสิ่งที่อยากเสวยให้หม่อมฉันดูหน่อย หม่อมฉันบอกว่าทำได้ อย่างไรก็ต้องทำได้เพคะ”
“ได้ เจ้าพูดเองนะ” จวินฉางอวิ๋นรับคำ เขาเองก็อยากเห็นว่าอวี้อาเหรานั้นกำลังจะเล่นอะไรอยู่กันแน่ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้ยินว่านางทำอาหารเป็น นางเอาแต่รักสบายและใช้ให้คนใช้ทำโน่นทำนี่ให้ จะทำอาหารเสร็จภายในช่วงระยะเวลาต้มน้ำชาเพียงหนึ่งกาได้อย่างไรกัน
หากทำไม่ได้ จะได้ใช้โอกาสนี้สั่งสอนนางเสีย เพื่อให้นางชดใช้ตอนที่รังแกเขาเรื่องไข่มุก
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็จดรายชื่อสิ่งที่อยากกินลงไปอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
จวินเสวียนจีเห็นว่าจวินฉางอวิ๋นรับปาก จึงเขียนรายชื่ออาหารที่ตัวเองอยากทานออกไป
เมื่อไทเฮาเห็นว่าอวี้อาเหราเชื่อมั่นในตัวเองถึงเพียงนั้น ในใจก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา แล้วให้คนใช้เขียนรายชื่อออกมา
หลังจากเขียนเสร็จแล้วก็มอบให้อวี้อาเหรา นางมองกระดาษของไทเฮาก่อน จากนั้นก็พูดออกมาดังๆ “ไทเฮาทรงต้องการเสวยผักกวางตุ้ง และเนื้อปลาสองอย่าง…”
ไทเอาพยักหน้า เห็นได้ชัดว่ากลัวนางจะทำออกมาไม่ได้
“ไทเฮาโปรดวางพระทัย อาเหราจะต้องทำได้อย่างแน่นอน” อวี้อาเหราเปิดกระดาษแผ่นที่สอง เป็นของรัชทายาท นางอ่านเนื้อความที่อยู่ด้านในออกมาดังๆ “รัชทายาททรงต้องการเสวยเนื้อแพะ เนื้อหมู เนื้อวัว ผักชี มะเขือม่วง กุ้งมังกร…”
รวมแล้วมีอาหารอยู่หลายอย่าง แน่นอนว่าต้องตั้งใจที่จะทำให้นางลำบากแน่
ในสายตาของพวกเขา มีอาหารที่คนทุกคนอยากกิน แต่ใช้เวลาเพียงชั่วก้านธูปเท่านั้น เป็นเรื่องที่ไม่อาจทำขึ้นได้ด้วยมือ เพราะฉะนั้นเรื่องที่บอกว่าจะทำอาหารออกมาให้ได้ภายในชั่วระยะเวลาต้มชาเดือดนั้นเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะ นอกจากนางจะเป็นเทพเซียนมาเกิด ที่สามารถเสกทุกอย่างได้ทันใจเท่านั้น
จวินเสวียนจีและจวินเสวียนจีเขียนอาหารที่ตัวเองอยากกินมาคนละสองอย่าง ต่อหน้าไทเฮา พวกนางไม่กล้ากลั่นแกล้งอวี้อาเหรา
เพราะฉะนั้นจึงเป็นจวินฉางอวิ๋นที่อยากกินอาหารมากที่สุด ไทเฮาได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วอยากกังวลใจ เหตุใดนางจะไม่รู้ว่ารัชทายาทนั้นต้องการที่จะสร้างความลำบากให้นางแน่ๆ แต่ในเมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน นางก็ไม่อยากที่จะหักหน้าเขา ได้แต่มองอวี้อาเหราด้วยความกังวล “หากเจ้าทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องทำแล้ว เราไม่โทษเจ้าหรอก”
อวี้อาเหรายังไม่ทันที่จะตอบ จวินฉางอวิ๋นก็หัวเราะด้วยความเย้ยหยัน “ทำไม่ได้อะไรกัน ในเมื่อคุณหนูรองพูดออกมากับปาก แน่นอนว่าจะต้องรักษาคำพูดใช่หรือไม่?”
“เพคะ ที่รัชทายาทตรัสมาก็สมเหตุผล แน่นอนว่าจะต้องทำอยู่แล้ว หากทำไม่ได้ ก็เชิญรัชทายาทลงโทษได้ตามใจชอบ ดีหรือไม่?” อวี้อาเหรามีท่าทีเชื่อมั่น เมื่อได้ยินคำปรามาสจากรัชทายาท นางก็โกรธเสียจนต้องวูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขายังนึกว่าจะเอาชนะนางได้อยู่จริงๆ
“เช่นนั้นก็ดี เจ้ารีบไปเถิด หากเวลาไม่พอ เราก็รอได้ เจ้าไม่ต้องรีบร้อน” ไทเฮาโบกพระหัตถ์
ดังนั้นอวี้อาเหราจึงเดินนำเจาเอ๋อร์เข้ามาในห้องเครื่อง เมี่ยวอวี้เองก็อยู่ในห้องเครื่องพอดี จึงสามารถให้นางช่วยเตรียมวัตถุดิบได้ แต่เจาเอ๋อร์ที่อยู่ด้านหลังกลับมีสีหน้าเป็นทุกข์ เมื่อออกมาจากตำหนักของไทเฮาแล้วจึงกล้าพูดกับอวี้อาเหราตรงๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความวิตกกังวลเข้มข้น