บทที่ 229 – โอเวอร์ลอร์ด (9)
หลังจากที่ฉันได้ใช้โอเวอร์ลอร์ด ฉันได้ตรวจสอบร่างกายของฉันด้วยความทึ่ง ขนาดของฉันได้เพิ่มมา 5 เมตร มีเกราะมานาสีดำมาปกคลุมร่างของฉันและพลังจำนวนมากที่ไหล่ผ่านผิวหนังของฉันจนทำให้ฉันสั่น
แม้แต่ราชาลาวาก็ยังขำไม่ออกเมื่อเห็นร่างนี้ของฉัน
[พลังนี้มัน….!?]
“ฉันได้รับพลังนี้มาก็เพื่อที่จะอัดเจ้าพวกแบบแกไงล่ะ”
จริงๆแล้วฉันไม่ได้สนในสิ่งที่ราชาลาวาพูดอยู่แล้ว ฉันได้แทงหอกที่ยาวหลายสิบเมตรของฉันออกไปด้วยพลังที่ไหลอยู่ในร่างของฉันและตะโกนออกไป
“ฉันจะจัดการการในสามนาทีนี้แหละ”
[ก็ลองดูถ้าเจ้าทำได้]
ราชาลาวาได้เปิดปากออกมาและสร้างเพลิงขึ้นอีกครัง้ง ยังไงก็ตามฉันได้พุ่งตรงไปหาปากของมัน ก่อนที่ฉันจะได้ป้องกันลมหายใจเพลิงของมัน ล็อทเต้ก็ได้เอาตัวเข้ามาขวาง
[เจ้าจะไม่ได้ทำร้ายฮีโร่หรอก]
[หึ เพียงแค่ไวเวิร์นอย่างเจ้าคิดจะมาเทียบฉันกับข้าหรอ]
ฉันได้พุ่งผ่านล็อทเต้และตรงเข้าไปหาราชาเพลิง หอกโกลาหลที่ได้ยืดออกมาหลายเมตรได้ส่องประกายสายฟ้าสีดำออกมา
“กินนี่ไปซะ”
[คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ข้าชอบในความกล้าของเจ้านะฮีโร่]
บาเรียเพลิงขนาดใหญ่ได้ปรากฏขึ้นมาและหอกของฉันได้แทงเข้าไปปะทะกับบาเรียนั้นทำให้มันเกิดรอยร้าวจากสายฟ้าจำนวนมากที่น่าสะพรึง ฉันได้บิดเอวเพื่อที่จะเพิ่มแรงของหอกและดันมันไปข้างหน้าต่อ บาเรียเพลิงได้ถูกย้อมเป็นสีดำก่อนที่จะแตกออกอย่างง่ายดาย
[ติดคริติคอล]
จากนั้นหอกของฉันได้แทงเข้าไปที่คอของมัน เลือดจำนวณมากได้ไหลออกมาทางฉัน แต่ฉันได้รีบดึงหอกออกมาและเหวี่ยงหอกเบาๆเพื่อให้เลือดกระจายออกไป
[ก๊าซซซซซซซซซ]
“หุหุ นี้มันเป็นภาพที่สวยงามเลย”
เฮคาทีได้ส่งเสียงออกมา จากนั้นเธอก็ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและเหวี่ยงแส้ไปทั่ว จากนั้นอันเดททั้งหมดก็ได้คำรามออกมาและโจมตีราชาลาวาที่กำลังเจ็บปวดอยู่ ไอน่าก็ยังใช้โอกาสนี้ในการสร้างน้ำแข็งขนาดยักษ์ขึ้นและยิงมันใส่ราชาลาวา
“มันร้อน ฉันเกลียดแก”
“กรี๊ดฮ่าฮ่าฮ่า นายเท่มากเลยที่รัก”
“ดูก้าควบคุมตัวเองหน่อย”
เมื่อมันเปิดโอกาสออกมาร่างกายของราชาลาวาก็คือเป้ายิงที่ดีเลย ฉันได้บิดตัวของฉันกลางอากาศอีรกครั้งและแทงซ้ำลงไปที่ราชาลาวาซ้ำๆ ในนาทีต่อมาดูก้าก็ได้แว๊บเข้ามาในมุมสายตาของฉันและได้มีเลือดที่จุดหนึ่งกระฉูดออกมาจากคอของราชาลาวา ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงชอบปาดคอศัตรูนัก
[คั๊กๆ….คุฮ่าฮ่า มนุษย์ เจ้าน่าสนใจจริงๆ แต่ว่าถ้าเจ้าคิดว่านี่มันพอแล้ว….เจ้าก็คิดผิด เจ้าคิดผิดมากเลยล่ะ]
“กรี๊ดดด”
ดูก้าได้ร้องออกมาและกระโดดออกมาจากร่างของมันอย่างรวดเร็ว ใจกลางร่างของมันได้มีคลื่นความร้อนที่ทรงพลังกระจายออกมาใส่พวกเรา ฉันได้เอื้อมมือออกไปและกาง ‘อินิกม่า’ ออกมา จากนั้นขอบเขตของอินิกม่าก็ได้กันคลื่นความร้อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แม้แต่ฉันยังตกใจกับพลังของตัวเอง
[อย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้เลย ฮีโร่เจ้านี่มันน่าสนใจจริงๆ]
“ขอโทษนะ แต่ว่าฉันไม่เห็นอะไรที่น่าสนใจในตัวแกเลย ฮวาหยาภูเขาไฟกำลังจะปะทุแล้ว”
“เข้าใจล่ะ”
เหตุผลที่มันพูดก็เพื่อที่จะยื้อเวลาในการฟื้นตัวเอง ฉันได้กางอินิกม่าออกเป็นตาข่ายและหยุดการโจมตีของราชาลาวาได้อย่างสมบูรณ์จากนั้นฉันได้เล็งหอกยักษ์ของฉันที่เต็มไปด้วยออร่าฮีโรอิคไปทางมัน ราชาลาวาได้กระพือปีกอย่างรุนแรงและตะโกนออกมา
[ฮีโร่ที่ได้มาถึงขีดจำกัดของมนุษย์ มาดูกันว่าเจ้าจะสามารถเอาชนะราชาผู้นี้ได้ไหม]
“นั่นคือสิ่งที่ฉันจะทำอย่างแน่นอน”
ฉันได้แทงหอกออกไปข้างหน้า ราชาลาวาได้เผชิญหน้ากับหอกตรงๆด้วยลมหายใจเพลิง ยังไงก็ตามล็อทเต้ก็ได้ป้องกันเพลิงที่เข้ามาทางฉัน ร่างกายของเธอได้ถูกหุ้มด้วยแสงที่แสบตา
ในทางกลับกันภูเขาลาวาได้ส่งเสียงดังสนั่นออกมาอย่างผิดปกติ ฉันได้เห็นฮวาหยากระโดดเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าหนู เจ้าจะตายนะ”
“ถ้าทั้งหมดนี่มันฆ่าฉันได้ ฉันก็ควรจะตายไปนานแล้ว ชิน ฉันจะหยุดการฟื้นฟูของมันเอง นายฆ่ามันซะ”
“ฉันเชื่อเธอฮวาหยา”
ความจริงแล้วฉันยังกังวลในเรื่องความปลอดภัยของฮวาหยา แต่ว่าฉันได้พยายามอย่างมากที่จะไม่คิดอะไรกับมัน แม้แต่ความคิดที่หลุดไปนิดเดียวก็จะทำให้วิถีหอกไขว้เขวไปและทำให้พลังลดลง ในตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการตั้งสมาธิกับการทำลายราชาลาวา
ฮีโรอิค สไตรค์ในเวอร์ชั่นหอกยักได้ปะทะเข้ากับเพลิงสีชาดของราชาลาวาซึ่งแม้แต่ล็อทเต้ก็ไม่สามารถจะป้องกันไปและกระจายพลังออกไปข้างๆ ฉันได้เริ่มหมุนเวียนวงจรเพรูต้าอีกครั้งเพื่อที่จะดึงมานาในบรรยากาศเข้ามาในตัวของฉันและเปลื่ยนมันให้กลายเป็นวังวนที่ห่อหุ้มหอก
[คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่ ข้าลังเลเพราะว่ามันจะเผาเจ้าจนกลายเป็นเถ้า แต่ว่าตอนนี้ข้าจะไม่ลังเลอีกแล้ว]
“มาลองดูสิ”
ฝยจอยมี่หอกของฉันเข้าใกล้หน้าของราชาลาวา ดวงตาของมันได้ส่องประกายขึ้นและบอลเพลิงนับร้อยได้ปรากฏขึ้นมาพร้อมพุ่งใส่ฉัน ถ้าหากว่าฉันไม่ได้ใช้โอเวอร์ลอร์ดอยู่ ฉันก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลบมัน แต่ว่าด้วยตัวตนฉันในตอนนี้ฉันไม่จำเป็นต้องหลบมัน ฉันได้ใช้แรงแทงหอกออกไปในเพลิงเรื่อยๆ ล็อทเต้ได้เปล่งเพลิงออกมาและพุ่งมาหาฉัน
“ล็อทเต้ ฝากด้วยนะ”
[ข้าไม่สามารถกันมันทั้งหมดได้ฮีโร่]
“ส่วนที่เหลือฉันรับไหว”
วิธีการควบคุมมานาอินิกม่าให้มาปกคลุมร่างของฉันไม่ใช่วิธีอื่นใดนอกจากการหมุนวนของวงจรเพรูต้า การหมุนวนของวรจรเพรูต้าได้ดูดส่วนหนึ่งของมานาที่ไร้รูปร่างนี้ทำให้มันกลายมาเป็นเกราะของฉันและเปลื่ยนให้กลายเป็นวังวนที่มืดมิด เพลิงของราชาลาวาก็ยังถูกดูดเข้าไปในวังวนนี้ แน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรกับฉันเลยแม้แต่นิด แต่ยังไงก็ตามความเจ็บปวดมันก็มากเกินกว่าที่จะทนไหว
“สังเวย”
[อ๊ากกกกกกกกก]
[ติดคริติอล]
เลือดจำนวนมากได้พุ่งออกมาเหมือนกับฝนตกพร้อมๆกับเสียงร้อง แม้ว่าฉันจะได้รับอาการบาดเจ็บจากผลข้างเคียงของทักษะสังเวย แต่ว่าเพราะว่าฉันได้ใช้โอเวอร์ลอร์ดทำให้ความเจ็บปวดลดลงไปมาก เมื่อเห็นราชาลาวากำลังเจ็บปวดหนัก ฉันได้ยิ้นออกมา
“มันเจ็บงั้นหรอ ฉันก็เจ็บเหมือนกัน”
[ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าโกรธแล้ว อ๊ากกกก เพลิงนิรันดร์]
ปากปล่องภูเขาไฟได้สั่นขึ้นอีกครั้งหนึ่งตามมาด้วยการสั่นไหวของมานามัน ไม่นานนะก็ได้เกิดการประทุอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าในตอนที่มันจะมีเลือดไหลออกมาทั่วทุกทาง มันก็ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
[ข้าคือนิรันดร์ ตราบเท่าที่มีเศษเสี้ยงของเปลวเพลิงอยู่ ข้าจะไม่มีวันตาย]
“อย่างที่ฉันบอกไปไง….ฉันไม่ปล่อยให้มันเกิดชึ้นแน่”
ฉันได้ปาหอกเข้าไปใส่มัน หอกของฉันได้แหวกฝ่าอากาศออกไปและเจาะทะลวงปีกของราชาลาววา จากนั้นฉันได้ดึงกลับมาด้วยการควบคุมอินิกม่า ฉันรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่มหาศาลอยู่ที่แขนของฉัน ฉันได้ทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อดึงมันเข้ามาหาฉัน ในตอนนั้นเองไอน่าก็เข้ามาช่วยฉัน
“อย่ามาแกล้งพ่อนะ ฉันจะยิ่งเกลียดเจ้ามากขึ้น”
[คุ….คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เจ้า น้ำแข็งของเจ้านี่มันน่าแปลกใจจริงๆ…]
การโจมตีของไอน่าแบบสุดกำลังได้แช่แข็งร่างกายของมันในทันที ฉันได้ดึงตัวมันเข้ามาโดยที่ไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ เฮคาทีก็ยังได้พยายามอย่างดีที่สุดที่จะใช้โอกาศนี้ เธอได้รวบมือเข้าด้วยกันบนท้องฟ้าและตะโกนออกมา
“เลือดของเจ้าจงหลั่งไหลออกมาจากคอ”
เวทย์ของเฮคาทีได้กระพริบขึ้น เลือดได้ไหลออกมาจากคอของมันและไหม้ไปกลางอากาศเนื่องจากเวทย์ของเฮคาทีและเปลื่ยนมันให้กลายเป็นโซ่สีแดงเจาะเข้าไปในร่างกายของมัน จากนั้นด้วยความแข็งแรงที่เหลืออยู่น้องของราชาลาวามันทำให้ฉันดึงมันเข้ามาได้ง่ายขึ้น
ล็อทเต้ก็ยังพุ่งเข้าไปกระแทกมันเพื่อทำให้มันสูญเสียสมดุล แม้ว่าร่างกายของของล็อทเต้จะเล็กกว่าราชาลาวามาก แต่ว่าแรงกระแทกของเธอก็มากพอที่จะทำให้มันครางออกมาอย่างเจ็บปวดได้ ทุกๆครั้งที่ล็อทเต้ได้กระแทกมันก็ทำให้มันถูกดึงเข้ามาหาฉันได้เร็วขึ้น
ถึงแม้อย่างนั้นมันก็ยังไม่มีเวลาพอ ก่อนที่ฉันจะดึงมันออกมาจากระยะของปากปล่องภูเขาไฟได้อย่างสมบูรณ์ ลาวาก็ได้ประทุออกมา
[คุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่….ฮ่า?]
ทันใดนั้นเสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งของมันก็หยุดลง ลาวาที่ประทุออกมาจู่ๆได้หยุดลงราวกับว่าปากปล่องภูเขาไฟได้ถูกปิดลง มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นฝีมือของฮวาหยา ฉันได้รีบใช้โอกาสนี้ลากตัวราชาลาวามาทันที
[ก๊าซซซซซซซ]
“ดูก้า”
“ฉันจะช่วยเอง”
ร่างของดูก้าได้แยกออกมาเป็นสิบๆร่างในทันที พวกเธอทั้งหมดนี้ได้พุ่งเข้ามาโจมตีราชาลาวาด้วยการแทงมันด้วยมีดสั้นที่หุ้มด้วยออร่าสีดำ จากนั้นดูก้าก็ตะโกนออกมา
“จงรับรู้ถึงน้ำหน้าของมีดฉัน การระบำของคนเขลา”
[อ๊ากกกกก นังสารเลว]
ความจริงที่ว่าราชาลาวาได้หยุดที่จะหัวเราะมันได้แสดงให้เห็นว่าราชาลาวาได้ตกอยู่ในสถานการณ์อะไรแล้ว นอกไปจากนี้เมื่อมันตระหนักได้ว่ามันไม่สามารถจะฟื้นฟูตัวเองได้เหมือนก่อนหน้านี้มันจึงหยุดขำทันที
ในตอนที่ดูก้าถอยออกมาหลังจากโจมตีสัมเร็จ ฉันได้เอื้อมมือออกไปหยิบหอกที่กลับมาก่อนที่จะพุ่งเข้าไปใส่ราชาลาวาที่ยังคงร้องอย่างเจ็บปวดจากทักษะและพลังของดูก้าที่ฉันไม่รู้จัก มันจะเยี่ยมหากฉันใช้ราชันย์วายุพิโรธในตอนนี้ แต่ว่าาเนื่องจากว่าฉันพึ่งจะใช้มันไปเมื่อไม่นานมานี้ทำให้ฉันใช้มันไม่ได้
“ฮ่าาาาาห์ ตายซะเถอะ”
แม้อย่างนั้นฉันก็ยังพุ่งไปด้วยพลังที่มหาศาลพร้อมๆกับหอกโกลาหลที่เจาะเข้าไปในอกและทำให้มานาอินิกม่าระเบิดจากข้างในมัน
[อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก]
ฉันได้ควบคุมอินิกม่าด้วยวงจรเพรูต้าให้ดีที่สุดเท่าที่ฉันจะทำได้เพื่อให้มันบาดเจ็บมากที่สุด
[ติดคริติคอล]
แม้ว่ามันจะออกไปจากหอกของฉันและอยู่เหนือการควบคุม อินิกม่าก็ยังคงหมุนปั่นอย่างไร้จุดสิ้นสุดเพื่อทำลายร่างกายของราชาลาวา มันแทบจะเหมือนว่ามันสามารถจะฆ่าราชาลาวาได้โดยตรง
[มนุษย์เจ้ากล้าที่จะสร้างบาดแผลให้กับร่างกายของข้า]
เพลิงบนร่างของมันได้ระเบิดออกมา แม้ว่ามานามันจะลดลง แต่ว่ามันก็ยังคงเหลืออยู่อีกมหาศาล ด้วยมานาจำนวนมากนี้ทำให้เกิดพายุเพลิงที่เปลื่ยนอุณหภูมิให้ร้อนยิ่งขึ้นและพุ่งเข้ามาหาเราเหมือนกับคลื่นยักษ์ นี้มันไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือเพลิงที่อยู่ในจุดสูงสุด สัญชาตญาณของฉันมันได้บอกว่านี้คือระดับของ EX เพลิงที่เผาไหม้ไปถึงจิตวิญญาณ
“ทุกคนหลบ”
“ไม่จำเป็นต้องหลบ”
ในตอนที่ฉันได้บอกให้ทุกคนหลบ ฮวาหยาได้ตะโกนออกมา เธอได้ออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ดวงตาของเธอได้ฉายแสงแปลกๆออกมาและตัวเธอไม่มีร่องรอยร่างกายว่าธอจะหยุดการปะทุของภูเขาไฟได้เลย กลับกันมานาจำนวนมหาศาลของลาวาจำนวนมหาศาลกำลังหมุนวนอยู่รอบๆเธอราวกับว่ามันคุ้มกันเธอ
“ฮวาหยา เธอ….”
“ตอนนี้เธอได้รับมันแล้วหรอ?”
ฮวาหยาได้ยิ้มออกมาอย่างอายๆ จากนั้นเธอได้ชูนิ้วขึ้นมา
“ตอนนี้ฉันสามารถไปในบียอนได้แล้ว”
“นั่นมันคือสิ่งสำคัญในตอนนี้หรือไงห๊ะ”
ฮวาหยาก็ยังเมินฉันและตะโกนออกมา
“มาดูกันว่าเพลิงของใครจะชนะกัน พระอัคนี”
เพลิงขจองราชาลาวาได้ปะทะเข้ากับแม็กม่าของฮวาหยาที่ถูกยิ่งออกมา น่าทึ่งที่ว่ามันสูสีกำ พลังของเทพสามารถต่อต้านได้แม้แต่เพลิงระดับ EX ในตอนนี้ฉันได้ใช้โอกาศนี้ในการหยิบหอกและพุ่งเข้าไปหาราชาลาวา มานาอินิกม่าได้รวบตัวกันอยู่ที่หอกของฉันและหมุนวนอย่างทรงพลัง มันเหมือนกับว่าฉันกำลังใช้สว่าน
[อึก มนุษย์เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถชนะข้าได้ด้วยเพียงแค่พลังของพระเจ้าหรอ]
“นั่นคือสิ่งที่แกจะพูดสินะ มันไม่มีความอัปยศอะไรในการหมาหมู่กับสิงโตซะหน่อย”
ฉันได้ตอบกลับไปในขณะที่พุ่งเข้าไปหามันพร้อมๆกับหอก เพลิงของมันได้ถูกหยุดเอาไว้โดยฮวาหยาและทำให้มันไม่ส่งผลอะไรกับฉันเลยแม้แต่นิด ราชาลาวาดูเหมือนจะต้องการที่จะปะทะแรงทางกายภาพกับฉันเนื่องจากมันได้พุ่งเข้ามาด้วยร่างที่ใหญ่โต
[ทำไมเราไม่มาสู้กันล่ะ]
“เจ้ามั่นใจว่าสามารถจะเคลื่อนไหวได้รวดเร็วแม้ว่าจะตัวหนักขนาดนั้นเนี้ยนะ
ทุกๆครั้งที่มันได้กระพือปีกระยะทางของเราได้ยิ่งสั้นลง หางขนาดมหึมาของมันได้สายไปมาพร้อมกับรวบรวมเพลิงเอาไว้ เพื่อป้องกันมันไว้ฉันได้เลือกล็อทเต้
“ล็อทเต้”
[ทุกสิ่งของฉันเพื่อฮีโร่]
แม้ว่าเสียงปลุกใจของเธอจะทำให้ฉันกังวลนิดหน่อย แต่ว่าฉันไม่สนใจมันครู่หนึ่ง เธอได้บินมาอยู่หน้าฉันในทันที
[รับนี้ไปซะ]
[หยุดกวนข้าสักทีเจ้าไวเวิร์น]
ล็อทเต้ได้พุ่งตรงออกไปและราชาลาวาได้เหวี่ยงหางของมันออกมา น่าทึ่งมากที่จู่ๆในระหว่างที่บินกันอยู่ล็อทเต้ก็หายไปทำให้หางของราชาลาวาฟาดโดยเพียงอากาศ ล็อทเต้ได้มุดผ่านช่องท้องของมันไปและไปโผล่ด้านหลัก
เลือดจำนวนมากได้กระจายออกมาทั่วท้องฟ้า ฉันคิดว่าเธอคงจะพุ่งทะลวงร่างของมันตรงๆ
[อึก]
[ฮีโร่ตอนนี้แหละ]
“มันถึงเวลาแล้ว
ฉันได้แทงหอกออกไปพร้อมๆกับเสียงตะโกนของล็อทเต้พร้อมใช้ทักษะใช้งาน มานาจำนวนมหาศาลได้หมุนวนรอบๆตัวของฉัน
“เอ๊ะ”
ในเวลาต่อมา ฉันได้ถูกโยนมาอยู่ที่หน้าดวงตาของมัน ไม่สิ ไม่ใช่แบบนั้น
ร่างกายของฉันได้หดเล็กลง
[ข้ากำลังรอเวลานี้อยู่เลย]
ราชาลาวาได้เปิดปากของมันออกมา สิ่งที่ฉันได้เห็นคือความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สุดสุดและเพลิงนรก ฉันได้ยิ้มออกมา
จากนั้นมันได้กลืนฉันลงไป