ฉินจุนกวาดสายตาไป ค่อยๆมองไป ดวงตาของเขาฉายแววแห่งความเยือกเย็น และดวงตานั้นราวกับว่าจะทำให้อุณหภูมิรอบๆลดไปหลายองศา
“ฉันต้องพูดอย่างไงกับนายนะ กล้ามาก่อเรื่องวุ่นวายในที่ของฉัน นายจะเอายังไง?”
ฉินจุนยิ้มและพูดออกมา “งั้นไหนนายลองบอกมาสิว่านายจะเอายังไง??”
เลี่ยงเกอยิ้มและถามออกมาว่า “นายกล้าถามฉัน? ไม่รู้ว่านายรู้จักกับเหมาเกอหรือไม่ ฉันกับเหมาเกอรู้จักกัน ไม่เชื่อนายจะลองดูอีกทีก็ได้!”
เหมาเกอ?
ฉินจุนทำหน้าเหมือนไม่ได้ยินในสิ่งที่พูดออกมา
ฉินจุนยิ้มและพูดออกมาว่า “ได้ ฉันให้เวลานายสองสามนาทีในการโทรไปเรียกคนมา เมื่อเรียกเสร็จแล้วฉันค่อยจัดการนาย”
ฉินจุนคิดแล้วคิดอีกจึงโทรไปหาต้วนเป่าตง
ตอนแรกเขาก็คิดที่จะลงมือเอง แต่วันนี้เป็นวันที่เขาเพิ่งจะได้เจอกับญาญ่าครั้งแรก ขืนลงมือไปแบบนั้นมันอาจจะรุนแรงเกินไป ให้คนอื่นลงมือจะดีกว่า
ไม่นาน ต้วนเป่าตงกับหลงอี้ฮุยก็มาถึง นำรถมาทั้งหมด 6 คัน คนทั้งหมดมีประมาณ 50-60 คน และล้อมรอบสะพานเอาไว้
ต้วนเป่าตงรู้ว่าคนพวกนี้ก็เป็นแค่พวกขอทาน เขาจึงไม่ได้ไปเอาอะไรกับพวกเขามาก แค่ทำอาชีพนี้ก็ทำให้คนอื่นรำคาญไม่น้อยแล้ว ต้วนเป่าตงเองจึงไม่อยากที่จะมาเอาเรื่องเอาราวกับพวกเขา
และคนพวกนี้ฆ่าตายไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร ดังนั้นจึงไว้ชีวิตพวกเขาไว้
แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าคนพวกนี้มันจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว พวกเขากล้ามาทำให้คุณฉินขุ่นเคือง แน่นอนว่าไม่มีใครที่จะช่วยพวกเขาได้
เมื่อเห็นว่ามีคนมามากมายขนาดนี้ เหล่าขอทานก็ตื่นตระหนกทันที
“เลี่ยงเกอ เอาอย่างไงดี?”
เลี่ยงเกอตะโกนออกไป “จะกลัวบ้าอะไร! พวกเราเองก็มีไม่น้อย ถ้าจะต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆแล้วจะทำไม! รีบโทรหาเหมาเกอเร็ว ให้เขามาที่นี่เดี๋ยวนี้!”
ต้วนเป่าตงเดินลงมาที่ใต้สะพาน “คุณฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
ฉินจุนพยักหน้า “ไม่เป็นอะไร แต่น้องสาวของฉันถูกทำให้ตกใจจนกลัว”
เมื่อเห็นสาวน้อยที่อยู่ข้างกายของฉินจุน ต้วนเป่าตงก็หันหน้ากลับมาและจ้องมองไปที่เลี่ยงเกอด้วยสายตาของความโกรธ
“พวกแกมีตาหามีแววไม่ กล้ามาทำให้คุณฉินไม่พอใจอย่างนั้นเหรอ?”
เลี่ยงเกอที่เป็นหัวหน้าของขอทานกลุ่มนี้ ดังนั้นเขาจึงมีความกล้ามากกว่าคนอื่นๆ
เขาตวาดออกมาและชี้ไปที่หน้าของต้วนเป่าตง
“อย่ามาคุยเลย แกคิดว่าแกเป็นใคร ฉันรู้จักกับเหมาเกอนะ อีกเดี๋ยวเหมาเกอก็จะมาถึงแล้ว เชื่อไหมว่าแกจะถูกเหมาเกอฆ่าตายอย่างง่ายดาย?!”
มุมปากของต้วนเป่าตงกระตุก เขาหัวเราะออกมาทันที
“ดี! ฉันแหละอยากรู้จริงๆว่าต้วนเป่าตงของนายจะฆ่าฉันยังไง!”
ต้วนเป่าตงเองก็มีอารมณ์ขึ้นมาแล้วเช่นกัน ตอนแรกเขาไม่เห็นขอทานพวกนี้อยู่ในสายตา คิดไม่ถึงเลยว่าขอทานพวกนี้จะโอหังกันมากขนาดนี้
ผ่านไปสองนาทีก็มีรถอีกหลายคันขับมาจอดที่ใต้สะพาน
รถที่มานั้นมีราคามากกว่าของต้วนเป่าตงมาก ทำให้รถของต้วนเป่าตงดูเด็กไปเลย
รถที่เพิ่งจะขับมาจอดล้วนเป็นรถที่มีราคาประมาณ 8-9 แสนหยวน
ต้วนเป่าตงเบะปาก ขอทานพวกนี้มันรวยจริงๆ
ชายร่างสูงผมสีเหลืองเดินลงมาจากรถ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นสุรา เดินโซซัดโซเซ
“ใครกันวะที่กล้ามาอวดดีในถิ่นของฉัน?”
สีหน้าของต้วนเป่าตงจริงจังขึ้นมาทันที เขาพูดออกไปอย่างเยือกเย็น
“เจ้าหมาน้อย ตอนนี้เก่งกล้าขึ้นมากเลยนะ?”
เมื่อได้ยินคำเรียกว่าเข้าหมาน้อย คิ้วของเหมาเกอก็ขมวดขึ้นมาทันที
ในตอนที่เขาเพิ่งจะเริ่มมีอิทธิพล คนอื่นๆก็มันจะเรียกเขาว่าหมาน้อย แต่นี่มันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ตอนนี้ใครๆก็เรียกเขาว่าเหมาเกอไม่ใช่เหรอ?
ใครที่กล้ามาเรียกเขาว่าหมาน้อยมันจะต้องตาย
“มึงเป็นใครกล้ามาเรียกฉันว่า……”
หลังจากที่เหมาเกอหันมาเห็น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที!
เขาตื่นจากความมึนเมา เหมือนกับเขาเพิ่งจะไปลุยฝนมา ทั้งตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“พี่ตง!”
เหมาเกอคิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นต้วนเป่าตง!
ในตอนที่ต้วนเป่าตงเริ่มจะมีอำนาจ เขาก็เป็นแค่เด็กตัวน้อยๆ หลายครั้งที่ต้วนเป่าตงช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเขาคงจะตายไปตั้งนานแล้ว
ต่อมาต้วนเป่าตงกลายไปเป็นคนใหญ่คนโต เขาไม่อยากจะไปติดตามใคร เขาจึงสร้างดินแดนเล็กๆของเขาขึ้นมาด้วยตนเอง และทำธุรกิจเกี่ยวกับขอทานโดยเฉพาะ ทำให้เขามีเงินทองและอำนาจเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะมามีเรื่องกับต้วนเป่าตง!
ต้วนเป่าตงยกมือขึ้นและตบไปที่หน้าของเหมาเกออย่างเต็มแรง ใบหน้าของเหมาเกอดูไม่ได้ หลังจากที่ถูกตบเขาก็ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตัว ไม่กล้าพูดอะไร ทำแค่ยืนนิ่งๆอยู่กับที่
“พี่ตง พี่ลงโทษได้เลย!”
ถึงแม้ว่าลูกหมาตัวนี้มันจะสุดยอก แต่มันก็แค่กับขอทานพวกนี้เท่านั้น เมื่อต้องเจอกับความลำบาก ไม่ว่าจะเป็นต้วนเป่าตงหรือเพ่ยเหลียง พวกเขาก็ไม่สามารถมีผลลัพธ์อื่นนอกจากความตาย
ต้วนเป่าตงหันหน้าไปหาฉินจุนและพูดออกมาว่า
“คุณฉิน คุณจะลงโทษเขาอย่างไร?”
ฉินจุนยิ้มและพูดออกมาว่า “เหมือนว่าคนพวกนี้จะชอบตัดขาของคนอื่น คิดว่าแบบนั้นจะได้เงินเยอะกว่าใช่ไหม? ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดเป็นแบบนั้นปะ!”
ต้วนเป่าตงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เจ้าหมาน้อย ได้ยินชัดแล้วใช่ไหม?”
สีหน้าของเหมาเกอกังวลขึ้นมาทันที “พราตง ถ้าคนพวกนี้ต้องถูกตัดขาไป แล้วพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไงหละ!”
คนพวกนี้ล้วนแต่เป็นลูกน้องเขา ถ้าหากมีวิธีที่สามารถช่วยพวกเขาได้ เขาก็หวังว่ามีคงจะดี
ต้วนเป่าตงยิ้มและพูดออกมาอย่างเยือกเย็น
“เอ๋? ในเมื่อไม่อยากให้เป็นแบบนั้น งั้นก็หักขาของนายละกัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของต้วนเป่าตง ร่างกายของเหมาเกอก็สั่นเทา และรีบตอบกลับไปทันที
“ได้ได้ได้ ฉันจะลงมือเดี๋ยวนี้! มานี่เร็ว จับเขากดเอาไว้ที!”
ลูกน้องหลายคนของเขาเดินเข้ามาและจับเลี่ยงเกอกดเอาไว้
เหมาเกอหยิบไม้ขึ้นมา ไม้นั้นเป็นไม้ที่เขาเพิ่งจะหยิบขึ้นมาเพื่อที่จะตัดขาฉินญาญ่า เขาทุบมันไปที่หัวเข่าของเลี่ยงเกออย่างรุนแรง
เรี่ยวแรงของเหมาเกอนั้นดีไม่ใช่น้อย ทุบลงไปเพียงไม่กี่ทีกระดูกหัวเข่าของเลี่ยงเกอก็แหลกละเอียด
เลี่ยงเกอนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น อีกนิดเดียวดวงตาของเขาก็จะหลุดออกมาอยู่แล้ว
เมื่อฉินจุนเห็นแบบนั้น เขายกเท้าขึ้นและเหยียบไปที่เท้าข้างหนึ่งของเลี่ยงเกอ
“แกร๊ก!”
เลี่ยงเกอร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เป็นลมไปทันที
ด้วยฝีมือของเหมาเกอ ที่เขาทุบตีเลี่ยงเกอไป ในอนาคตยังสามารถเอาเขากลับมาใช้งานได้ แต่ด้วยฝีมือของฉินจุนแล้ว แน่นอนเลี่ยงเกอจะกลายเป็นคนไร้ค่าไปทันที
เขาไม่ได้ชอบการเป็นขอทานหรอกเหรอ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็ให้เขากลายไปเป็นขอทานทั้งชั่วชีวิตเลยไง
ฉินญาญ่ารู้สึกกลัวขึ้นมา เธอจึงดึงแขนของฉินจุนและพูดออกมาว่า
“พาฉันกลับได้ไหม?”
ฉินจุนพยักหน้า “ได้ งั้นพวกเราไปกันเถอะ”
พูดจบฉินจุนก็หันมาพูดกับต้วนเป่าตงว่า “นายห้ามปล่อยให้ใครรอดไปได้เด็ดขาด ทุกคนที่อยู่ที่นี่จะต้องถูกตัดขา เข้าใจไหม”
“ครับ คุณฉิน”
ฉินจุนไม่ได้ลงมือด้วยตัวเอง เขาได้ให้ชีวิตกับคนพวกนี้ไปแล้ว ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะฉินญาญ่า เกรงว่าคนพวกนี้คงได้ตายไปหมดแล้ว